ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 384 ฉันเหนื่อยแล้ว



บทที่ 384 ฉันเหนื่อยแล้ว

บทที่ 384 ฉันเหนื่อยแล้ว

กู้อานหยานก้าวฝีเท้าอันหนักอึ้งเพื่อเดินเข้าไปในห้องพักว่าง เจียงเก๋อ

เธอสาวเท้าเดินไปทีละก้าว เดินมุ่งตรงไปยังห้องโถง

ในจังหวะที่เดินเข้ามาทางประตู อยู่ๆก็รับรู้ได้ถึงรังสีแห่ง ความเย็นยะเยือกที่ถูกส่งมาจากบนโซฟา

เธอรู้สึกตกใจมาก จากนั้นกำมือไว้แน่นทันที

เธอคิดว่าคืนนี้เขาจะกลับมาตึกมากๆ แต่นึกไม่ถึงทันทีที่เข็ม นาฬิกาชี้ไปที่เวลาสามทุ่ม เขาจะนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถง ใหญ่

บนโต๊ะไม่มีโน้ตบุ๊ค มีเพียงชาร้อนหนึ่งแก้ว

โทรศัพท์มือถือของเขาก็วางอยู่ ราวกับว่าเมื่อตะกี้ไม่ได้เล่น โทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด

มีเพียงก้นบุหรี่หลายอันที่วางอยู่ในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะ

ตกลงเขานั่งรออยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว?
“คุณชายใหญ่มู่” กู้อานหยานสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายาม สงบสติตัวเองให้ใจเย็น จากนั้นเดินเข้าไปหาเขา

“ออกไปเที่ยวกับเพื่อน?” บนร่างกายของมู่บ้านเปียมีกลิ่นของ แอลกอฮอล์ กลิ่นไม่แรงแต่เป็นความรู้สึกที่หอมกลมกล่อม อย่างหนึ่ง

เขาดื่มแอลกอฮอล์อีกแล้ว

ช่วงนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าสังคมบ่อยมาก กลับมากี่ครั้งบน ร่างกายก็จะมีกลิ่นของแอลกอฮอล์

พึ่งจะรับช่วงดูแลบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปยังไม่ถึงสามเดือน ตอนนี้น่า จะเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุด

“ใช่ ออกไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ”

กู้อานหยานเดินมาอยู่หน้าโซฟาแล้วยืนอยู่กับที่

บทสนทนาได้หยุดลง บรรยากาศโดยรอบของห้องโถงอยู่ๆก็ เงียบกริบทันที

กู้อานหยานไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

มู่บ้านเปียก็แค่นั่งจิบชาอย่างสงบ
ไม่รู้ว่ายืนอยู่นานเท่าไหร่ กู้อ่านหยานจึงพูดด้วยน้ำเสียงอัน ทุ้มตา “คุณชายใหญ่ ฉันกลับ..…….

“ใครเป็นคนส่งคุณกลับมา?” อยู่ๆเขาก็ถามขึ้นมา

กู้อานหยานค่อยๆ มือแน่น เธอเคยคิดหาคำแก้ตัว จะบอก ว่าตัวเองนั่งรถแท็กซี่กลับมา

แต่เมื่อต้องพูดคำนี้ออกมา เธอกลับต้องพยายามฝืนกลั้นคำ พูดนี้เอาไว้

ผลลัพธ์จากการโกหกคุณชายใหญ่มู่คือสิ่งที่ตัวเธอไม่อาจจะ ยอมรับไหว

ในที่สุด เธอจึงพูด “เจียงนานส่งฉันกลับมา เขาส่งตรงหน้า ประตู”

มู่จ้านเป่ยไม่พูดอะไร เขาจุดบุหรี่ จากนั้นค่อยๆสูบอย่างช้าๆ

สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก เต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่รู้ว่าเขา กำลังโกรธหรือไม่

แต่ต่อให้เขากำลังโกรธ เขาก็ไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา

ดังนั้น กู้อานหยานรู้สึกไม่ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม
บ้านเปียยังนั่งสบบุหรี่เหมือนเดิม เป็นเวลาถึงสองนาที เขาไม่พูดอะไรเลย

สีหน้ายังคงไว้ซึ่งความรู้สึกใดใด แต่กลับทำให้เธอรู้สึก กดดันถึงขีดสุด

ไม่รู้ว่าต้องยืนอีกนานเท่าไหร่ ในที่สุดกู้อานหยานจึงรู้สึกทน ไม่ไหว เธอพูด “ฉันขึ้นไปก่อนนะ”

“อืม”

ในคืนนี้ คุณชายใหญ่มู่น่าจะรู้สึกโกรธ

เจียงนานส่งเธอกลับมา เขามีเหตุผลอะไรที่จะไม่รู้สึกโกรธ?

กู้อานหยานเตรียมใจที่จะรับบทลงโทษไว้แล้ว หลังจากอาบ น้ำเสร็จ เธอไปรอเขาอยู่ในห้อง

ครึ่งชั่วโมงต่อมามู่บ้านเป่ยเดินเข้ามาในห้อง ทันทีที่เดินเข้า มาในห้องเขาก็หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

หัวใจของกู้อานหยานเต้นไปตามเสียงน้ำที่หยดออกมาจาก ฝักบัว มันเต้นรัวมากขึ้นเรื่อยๆ

สิบนาทีผ่านไป มู่จ้านเป่ยเดินออกมาในสภาพที่ผมเปียกชุ่ม
เขาโยนผ้าขนหนูที่เช็ดผมออกไป แล้วจ้องมองมาที่เธอ

กู้อานหยานบีบฝ่ามือแน่น เธอหันหลังแล้วหมอบอยู่บนเตียง

ตลอดที่ผ่านมาถ้าเขาอารมณ์ไม่ดี เขาจะลงโทษเธอเช่นนี้

ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆที่อยู่ด้วยกัน เธอชินแล้วกับ วิธีการของเขา

มู่จ้านเป่ยเดินมาอยู่ด้านหลังของเธอ เขาจ้องมองหญิงสาวที่ หมอบอยู่บนเตียงจากด้านบน

กู้อานหยานจิกผ้าปูที่นอนแน่น เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัว

คงไม่ง่ายที่จะผ่านพ้นช่วงเวลาในคืนนี้ซะแล้ว

อยู่ๆก็มีเสียงตบตีดังเพี้ยะหนึ่งที เขาเอามือตบไปที่บริเวณก้น ของเธอ

“อา!” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ ไม่ได้เป็นเพราะเจ็บแต่ อย่างใด เป็นเพราะความตกใจล้วนๆ

“คุณชายใหญ่…” สีหน้าของกู้อานหยานเต็มไปด้วยความ สงสัย เธอหันหลังมามองเขา
“คุณชอบท่านี้มาก ไง?” ในแววตาของมู่จ้านเปียแฝงไปด้วย รอยยิ้ม

เขากำลังยิ้ม?

กู้อานหยานตอบสนองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทันเล็กน้อย

ตั้งแต่ที่มีการตกลงเกิดขึ้นแล้วโดนบังคับให้มาอยู่กับเขา ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆเธอไม่เคยเห็นเขายิ้มออกมา จากใจสักครั้ง

เมื่อตะกี้ที่ดูราวกับไม่ได้ยิ้ม มันเกิดขึ้นจริงๆใช่มั้ย?

แต่คืนนี้เธออยู่กับเจียงนาน เขาไม่โกรธงั้นหรอ?

“ทําไม? กระดกตัวขึ้นมาแบบนี้ อดไม่ไหวขนาดนี้เลยหรอ?” มู่ล้านเป่ยจ้องมองร่างกายของเธอ

กู้อานหยานตกใจทันที เธอรีบลุกขึ้นมานั่งแล้วเงยหน้ามองดู

เขา

ใบหน้าเล็กๆของเธอแดงก่ำ เธอพูดอธิบาย “ฉันไม่ใช่ ฉัน….ไม่ได้”

“ถ้าไม่ใช่เพราะอดใจไม่ไหว งั้นกระดกตัวขึ้นมาแบบนี้ทำไมล่ะ?”
มู่ล้านเป่ยดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขาจ้องมองใบหน้าที่แดง

คําของเธอ

กู้อานหยานรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าของตัวเอง ราวกับว่าตัวเธอ กําลังไหม้อย่างไรอย่างนั้น

เขาตั้งใจบิดเบือนเจตนารมณ์ของเธออย่างชัดเจน เธอแค่นึก ว่า……นึกว่าเขา…..

แต่ทว่า ฉากนั้นในเมื่อสักครู่ที่ตัวเองหมอบอยู่บนเตียงแล้ว ผู้ชายยืนอยู่ด้านหลัง อีกทั้งจ้องมองดูเธอด้วยความเย้ยห

ยิ่งคิด ใบหน้ายิ่งแดงก่ำ

ฉากนั้นแค่นึกเฉยๆก็รู้สึกอับอายจนถึงขีดสุด

“คืนนี้ไม่อยากทำ ไม่ต้องมายั่วฉัน”

มู่บ้านเป่ยเดินไปนั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่อีกฝั่ง “รินไวน์ให้ฉันแก้ว หนึ่ง”

“ยังจะดื่มอีกหรอ?” พอถามประโยคนี้ออกไป กู้อานหยานจึง รู้สึกตัวว่าตัวเองได้พูดล่วงเกินมากไปแล้ว

ไม่ว่าจะพูดยังไง สามเดือนมานี้ ถึงจะอยู่เคียงข้างคุณชายใหญ่มู่ แต่เธอกลับไม่มีฐานะอะไรทั้งนั้น

ไม่ใช่ว่าเธอยอมรับชาตะชีวิต เธอแค่ตระหนักว่าไม่มีความ หมายอะไรที่จะถกเถียงสิ่งนี้

ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าๆ ใช้ชีวิตให้ผ่านช่วงเวลานี้ไป เดี๋ยวทุกอย่างก็จบลงแล้ว

เธอเดินไปอยู่หน้าตู้วางเหล้า เธอเริ่มคุ้นเคยกับวิธีการเปิด ขวดไวน์แดงแล้ว เธอสามารถดึงจุกไม้ที่ปากขวดออกอย่าง ง่ายดาย

จากนั้นรินไวน์แดงออกมาหนึ่งแก้ว เธอเดินมาอยู่ตรงหน้า

ของเขา จากนั้นยื่นสองมือที่จับแก้วไปให้เขา “คุณชายใหญ่มู่ ไวน์ของคุณ”

“คุณบอกไม่ใช่หรอว่าดื่มแอลกอฮอล์มันไม่ดีน่ะ? ฉันเชื่อ

คุณ”

มู่จ้านเป่ยค่อยๆดันแก้วออกไป เขาพิงอยู่บนโซฟาแล้ว

หลับตาลง

กู้อานหยานรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย หมอนี่ตั้งใจจะแกล้งเธอ

ไง?

ถ้าไม่อยากดื่มแล้ว เมื่อตะกี้ตอนที่เห็นว่าเธอไปเปิดขวด ทําไมไม่ห้ามเอาไว้?
ไวน์แดงขวดหนึ่งถูกเปิดออกแบบนี้ ถ้าเขาไม่ดื่ม พรุ่งนี้ รสชาติก็จะเสีย ช่างฟุ่มเฟือยจริงๆ

ขวดนี้น่าจะราคาหลายหมื่นสินะ?

พฤติกรรมของคนรวย บางครั้งมันก็ทำให้เธอรู้สึกเศร้าใจ

เธอเอาแก้วไวน์วางไว้ข้างๆเขา จากนั้นจ้องมองเขาที่กำลัง หลับตาลง เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร

ราวกับว่า ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเช่นนี้กับเขามานานมาก แล้ว

ทุกครั้งที่เขากลับมา เมื่อกลับเข้ามาอยู่ในห้อง ถ้าไม่ได้เอา กับเธอ ก็อยู่ระหว่างที่เขากำลังจะเอากับเธอ

คืนนี้เขาบอกว่าไม่อยากเอาแล้ว ใช่หรอ?

“คุณชายใหญ่ …..ฉันกลับห้องก่อนนะ” ถ้าเขาเลือกจะไม่ เอา งั้นมันก็หมายความว่าเธอโดนปล่อยตัวแล้วไม่ใช่หรอ?

มู่จ้านเป่ยยังคงไม่พูดอะไรออกมา เขาหลับตาพักผ่อน ไม่ ตอบสนองอะไรทั้งนั้น

ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ มองดูแล้วราวกับว่าเขากำลังนอนหลับ

ไม่รอให้เขาตอบอะไร กู้อานหยานถอนหายใจแล้วหันหลัง ค่อยๆเดินย่องไปที่ประตู

ในจังหวะที่มือกำลังจะแตะกลอนประตู อยู่ๆด้านหลังก็มีเสียง ทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความแหบของผู้ชายดังขึ้นมา “กลับมา”

กู้อานหยานหยุดชะงักทันที เธอตกใจจนมือเท้าอ่อนจนเกือบ ทรุดนั่งอยู่บนพื้น

ไม่ใช่บอกว่าคืนนี้ไม่อยากจะเอาเธอรึไง?

แค่คําพูด “กลับมา” มันราวกับเป็นฝันร้าย อยู่ๆเธอก็รู้สึกเย็น ยะเยือกทันที

“คุณก็เป็นเหมือนกับคนเหล่านั้น ที่เข้ามาอยู่ใกล้ฉันก็เพราะ ว่ามีจุดประสงค์อยู่ ขอแค่ฉันนอนหลับ เมื่ออยู่ลับหลังฉัน พวก คุณก็คิดวางแผนชั่วที่จะต่อกรกับฉันสินะ?”

คำพูดนี้ของเขาทำให้กู้อานหยานรู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างบอก ไม่ถูก

“ฉันไม่ใช่นะ” กู้อานหยานเดินไปอยู่ตรงหน้าเขา เธอต้องการ จะอธิบายอะไร
ทันใดนั้น มู่บ้านเปียก็ลืมตาขึ้นมา จากนั้นจ้องมองใบหน้าที่ดู

เป็นกังวลของเธอ ……..เหนื่อยแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ