ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 58 กลัวฉันเกิดเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ?



บทที่ 58 กลัวฉันเกิดเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ?

บทที่ 58 กลัวฉันเกิดเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ?

เสียงกรี๊ดร้องดังขึ้นไม่ขาดสาย

ซูเสี่ยวหมี่ที่ล้มตัวนั่งลงบนระเบียงนิ่งอึ้งไปเลย มองดูกู้อานห ยานตกลงไป โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเลย

ท่ามกลางฝูงชน เงาร่างที่สูงใหญ่ร่างนึงรวดเร็วดั่งลม

ไม่มีใครมองชัดว่าเขาผ่านไปได้ยังไง ความเร็วนั้นเกินความ คาดหมายของที่ทุกคนจะคาดคิดได้

แค่กระพริบตา เขาก็ไปถึงขอบระเบียง แล้วกระโดดลงไป

คนที่มุงดู ตกใจจนแม้แต่แรงที่จะร้องกรี๊ดก็ไม่มีแล้ว

สองคน ! มีคนทั้งสองคน กลิ้งตกลงไปพร้อมกัน!

กู้อานหยานนึกว่าครั้งนี้ตัวเองต้องตายแน่

เธอกลับมาโลกนี้ยังไม่ทันครบเดือน ทำไมมักจะรู้สึกว่าตัว

เองอายุไม่ยืน?
คราวที่แล้วเกือบจมน้ำตาย คราวนี้ ก็จะตกลงไปตายเลย

ไหม?

ในเมื่ออายุไม่ยืน จะคืนโอกาสให้เธอมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ทำไม?

ร่างกายกำลังร่วงล่น ความกลัวความตาย ท่วมท้นทั่วตัวเธอ

ช่วงกำลังขุ่นมัว เธอเหมือนจะเห็นมู่บ้านเป่ยกำลังพุ่งมาที่ตัว เธอ เพียงแต่มันรวดเร็วมาก เธอก็เลยดูไม่ค่อยชัด

เหมือนว่าทุกครั้งที่กำลังจะตาย คนที่เธอเห็น และคนที่เธอ นึกถึง มักจะเป็นเขา……..

“อ้!” ข้อมืออยู่ ๆ ก็เจ็บจี๊ดขึ้นมา เหมือนโดนคนจับไว้แน่น ๆ !

กู้อานหยาน เจ็บจนร้องคราง เงยหน้าขึ้นดู แสงแดดแยงตา ทำให้เธอดูไม่ชัดว่าคนที่ดึงเธอไว้คือใคร

แต่ว่าลมหายใจของเขา พลังอำนาจของเขา มันช่างชัดเจน อย่างนี้
“มู่บ้านเป่ย……

มู่บ้านเป่ยไม่ได้พูดอะไร มือนึงจับขอบระเบียงไว้ อีกมือนึงจับ

ข้อมือของกู้อานหยานไว้แน่น

“ช่วยด้วย! รีบมาช่วยคนเร็ว!” ด้านบน ซูเสี่ยวหมี่ตั้งตัวได้แล้ว ก็รีบร้องขอให้คนมาช่วย

คนอื่นก็เหมือนกับเพิ่งได้สติกลับมา เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยหลายคนรีบวิ่งมา ด้านหลัง มีเงาคนทะยานออกมา ด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุดพุ่งไปที่ขอบระเบียง

มองเห็นกู้อานหยานห้อยอยู่กลางอากาศ มู่เทียนโย่วก็โล่ง ไปเปาะนึง หัวใจก็เริ่มกลับมาเต้นอีกครั้ง

“ส่งเธอขึ้นมาก่อน!” เขาจ้องมองมู่บ้านเป่ย แล้วหันไปมอง พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “มาช่วยดึงเขาไว้หน่อย!”

มู่บ้านเป่ยหน้าตาไร้ปฏิกริยาใด ๆ ไม่รอพวกเจ้าหน้าที่รักษา ความปลอดภัยมา เขาก็เริ่มค่อย ๆ ดึงกู้อานหยาน แล้วส่งเธอ

ขึ้นมา

นี่ต้องใช้กำลังแขนขนาดไหนกัน!
พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยต่างมองอึ้ง

กันไปเลยทีเดียว!

ถามหน่อยใครทําได้บ้าง ด้วยมือข้างเดียว จะสามารถดึง หญิงสาวคนนึงขึ้นมา แม้กระทั่ง ยกสูงขึ้นด้วย

มู่เทียนโย่วไม่มีเวลามาชื่นชมแรงมหาศาลนี้ของคุณชาย ใหญ่มู่

รอจนถึงตอนมู่บ้านเป่ยยกกู้อานหยานขึ้นมาแล้ว เขาก็รีบคว้า แขนของกู้อานหยานไว้ แล้วร่วมมือพร้อมกันกับมู่บ้านเป่ย ดึง เธอขึ้นมาบนระเบียงได้อย่างง่ายดาย

ช่วยเขา ช่วยเขา……” ห้อยอยู่กลางอากาศไปช่วงนึง ทำให้ สมองของกู้อานหยานมึนงง

แต่พอขึ้นมาได้แล้ว เธอก็รีบร้องขึ้นมาว่า “ช่วยเขา………

เป่ย จ้านเป่ย!”

“กลัวฉันเกิดเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ?” สองมือของชายหนุ่ม จับขอบระเบียงไว้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากพวก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยซ้ำ แค่ใช้แรงส่งตัวเบา ๆ ก็ สามารถกลับขึ้นมาบนระเบียงได้อย่างมั่นคงแล้ว
กู้อานหยานร้อนรนลุกขึ้นมา แล้วพุ่งตัวไปหาเขา “จ้านเป่ย!”

เขาไม่เป็นอะไร เขาไม่เป็นอะไรแล้ว !

เมื่อกี้ตอนที่ตัวเองถูกช่วยขึ้นมา เธอกลัวจริง ๆ กลัวเขาจะมี แรงไม่พอแล้วตกลงไป

เธอไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่ขู่จะมีพละกำลังที่น่าทึ่งขนาดนี้ ชาติที่ แล้ว เธอไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็น

แต่ว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจเองนะ! แค่นักธุรกิจคนนึง ทำไมดู แข็งแกร่งกว่าคนที่ออกจากหน่วยฝึกพิเศษอีก?

วินาทีนี้ อยู่ในอ้อมกอดของเขาฟังเสียงหัวใจของเขาเต้น สัมผัสถึงลมหายใจของเขา ใจดวงนี้ที่ตื่นเต้นจนแทบจะระเบิด ถึงค่อย ๆ ผ่อยคลายลงมา

พอผ่อนคลายลงเท่านั้น เหมือนแข้งขาก็อ่อนแรงไปด้วย

มู่ล้านเปียกอดเธอไว้ในอ้อมกอด แล้วมองซูเสี่ยวหมี่ที่นั่งอยู่

ข้าง ๆ อย่างเฉยเมย
“ถ้าเธอเป็นอะไรไป เขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ ถ้าเธอไม่ อยากให้เขาเสียใจ ก็อย่าทำเรื่องโง่ ๆ อีก

ทิ้งคำพูดนี้ไว้ เขาก็อุ้มกู้อานหยานขึ้นมา ก้าวขายาว ๆ แล้ว เดินออกจากนอกฝูงชนไป

ทุกคนถอยเปิดทางให้เขาโดยพร้อมเพียง ให้เขาเดินลง บันไดดาดฟ้าไป

“คนคนนั้น เหมือน……..เหมือนจะใช่คุณชายใหญ่มู่”

“โอ้สวรรค์! ที่แท้คือคุณชายใหญ่มู่! เขาทำไมถึงหล่อขนาด

“เท่สุด ๆ ไปเลย!

หยางอึดึงซูเสี่ยวหมี่ลุกขึ้นมา พูดเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวหมี่ไม่ ต้องกลัวนะ พวกเรากลับกันก่อนนะ เทียนโย่ว……

มู่เทียนโย่วกลับจ้องอยู่ที่บันไดของดาดฟ้า สายตาที่จดจ่อ นั้น มีแววเสียใจแอบแฝงอยู่

“เทียนโย่ว เราต้องพาเสี่ยวหมี่กลับไปก่อน” หยางอีพูดเตือน

มู่เทียนโย่วเหมือนเพิ่งจะรู้ตัว หันหน้ามามองพวกเขา “มีคน แจ้งตำรวจแล้ว อีกสักพักคงจะมีเรื่องให้จัดการอีก”

“ฉันไม่เป็นไร” ซูเสี่ยวหมี่ริมฝีปากสั่นระริก พูดเสียงเบา แต่ แน่วแน่ “ฉันจะไม่ทำเรื่อง โง่ ๆ อีกแล้ว จะไม่ทำให้อานหยาน เสียใจอีกแล้ว”

มู่บ้านเป่ยไม่ได้กลับตระกูลมู่โดยตรง แต่กลับพากู้อานห ยานกลับไปที่คฤหาสน์ก่อน

ตลอดทาง ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ไม่มีการสนทนาใด ๆ เกิดขึ้น

เหมือนมีภาวะอารมณ์บางอย่างระหว่างพวกเขาสองคนที่ ค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น แต่กลับไม่มีใครเปิดปากพูดทำลายความ เงียบนี้ก่อน

ตอนที่รถจอดหน้าโถงทางเข้าคฤหาสน์ ในที่สุดกู้อานหยาน

ก็มองหน้าชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ
“วันนี้….ขอบคุณมากๆนะ

“ไม่มีคำพูดอย่างอื่นจะพูดแล้วเหรอ” เขาดับเครื่องรถยนต์ แต่ไม่ได้รีบร้อนเปิดประตูรถ

“ฉัน……. กู้อานหยานมองเขา

ใบหน้าภูเขาน้ำแข็งของคุณชายใหญ่มู่ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง เธอก็มองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ คำพูดอย่างอื่น….. ยังมีคำพูดอย่างอื่นอีกเหรอ?

หรือว่า เขาจะหมายถึงเรื่องที่ทะเลาะกันเมื่อคืน?

ไม่รู้หลีเย่โผล่ออกมาจากไหน เปิดประตูรถอย่างนอบน้อมให้ มู่บ้านเป่ย

คุณชายใหญ่มู่ลงจากรถไป เวลาที่ให้เธอก็แค่ไม่กี่วินาที เจ้า

หมอนี่ไม่มีความอดทนเลยจริง ๆ

กู้อานหยานถอนหายใจ แล้วเปิดประตูลงจากรถเอง

เงยหน้ามองไป คุณชายใหญ่มู่เดินเข้าไปในโถงใหญ่แล้วทิ้งไว้เพียงเงาเย็น ๆ ให้เธอข้างหลัง

เธอมีความรู้สึกสับสน เพิ่งผ่านความเป็นความตายมา เธอยัง สงบสติอารมณ์ได้ไม่หมด

แต่ว่า คุณชายใหญ่มู่กลับเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

“คุณผู้หญิง พวกคุณไปไหนมาครับ?”

คุณชายใหญ่ไม่อนุญาติให้เขาตามไป หลีเย่ไม่กล้าไปสืบว่า

ทั้งสองคนไปทำอะไรมา

กู้อานหยานพูดช้า ๆ ว่า “ไปเยี่ยมเพื่อนคนนึงที่โรงพยาบาล

มา

“คืนนี้ยังจะกลับไปตระกูลมู่ไหมครับ คุณหญิงใหญ่น่าจะยัง

ไม่รู้ว่าพวกคุณออกมาแล้ว

“เรื่องนี้……องให้คุณชายใหญ่มู่เป็นคนตัดสินใจ” มู่ล้านเป่ย เย็นอย่างกับน้ำแข็ง ถึงแม้จะมีอะไรจะพูด อยู่ ๆ ก็คงพูดไม่ออกแล้ว

“คุณผู้หญิง….” หลีเย่เดินตามเธอเข้ามาถึงโถงใหญ่ มีเรื่อง อยากพูดแต่ไม่กล้าพูด “เอ่อคือ คุณชายใหญ่เขา…….

“มีอะไร ก็ว่ามาตรง ๆ เลย” กู้อานหยานหยุดเดิน แล้วมอง

เขา

“คุณผู้หญิงยังโกรธคุณชายใหญ่อยู่เหรอครับ? เรื่องนั้นมัน

เห็นเธอไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ หลีเยถึงพูดต่อว่า “คุณชายใหญ่ ไม่รู้เรื่องมาก่อนจริง ๆ เขาก็ไม่ได้วางแผนทำอะไรคุณผู้หญิง

ด้วย”

“คุณชายใหญ่เป็นคนที่ไม่ชอบอธิบาย และเรื่องบางเรื่อง เขา ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วย

หลีเย่จ้องมองเธอ พูดอย่างจริงจัง “ผมแค่อยากจะบอกคุณผู้ หญิงว่า คุณชายใหญ่ไม่เคยคิดจะทำร้ายเพื่อน ๆ ของคุณ ยิ่ง ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายคุณด้วย

ที่จริง กู้อานหยานรู้สึกได้ มู่บ้านเป่ยไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับพวก เพื่อน ๆ ของเธอสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะซูเสี่ยวหมี่
เขาสามารถให้หลีเยส่งเทียบเชิญไปให้ซูเสี่ยวหมี่ ก็แสดงว่า เขายอมรับเพื่อนเธอคนนี้แล้ว

เมื่อคืนเพราะว่าตกตะลึงมาก และเขาก็ไม่ยอมพูดอะไร ใน ใจก็เลยเกิดปมที่คลายไม่ออก ก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะหยาบคาย ตอนนี้ สงบสติลงมาแล้ว

“ คุณผู้หญิง” สาวใช้หอบกุหลาบช่อนึงออกมาจากห้องข้าง ๆ ทักทายกับกู้อานหยานแล้วถึงจะมองหลีเย่

“คุณหลี กุหลาบช่อนี้ต้องทิ้งจริง ๆ เหรอ มันสวยมากเลย น่า

เสียดายออก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ