ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 36 ทำไม ถึงมีความรู้สึกว่าถูกทั้งอีกครั้ง?



บทที่ 36 ทำไม ถึงมีความรู้สึกว่าถูกทั้งอีกครั้ง?

บทที่ 36 ทำไม ถึงมีความรู้สึกที่ถูกทิ้งอีกครั้ง?

หลีเย่เฝ้าอยู่ที่ด้านนอก เห็นกู้อานหยานออกมา ก็รีบเดิน

เข้าไปหา “คุณผู้หญิง เอ่อ…ไม่ว่ายังไง วันนี้คืองานหมั้น

ของพวกคุณ หวังว่าคุณผู้หญิงจะมีสติ เอ่อ…”

เขาดูลังเลนิดหน่อย ข้อตกลงนี้เขาเป็นคนทำขึ้นมาเอง ก็รู้

เนื้อหาอย่างชัดเจน

ผู้หญิงคนนี้ ก็รู้แล้วในงานหมั้น เธอกับคู่หมั้นก็แค่แสดง ให้ผู้ใหญ่ดูเท่านั้น

ก็คือ ในอนาคตไม่มีทางมีความรู้สึกอะไรต่อกันแน่ เรื่อง แบบนี้ สำหรับผู้หญิงแล้ว ก็มีผลกระทบไม่น้อย

เขารู้สึกเป็นห่วง คุณผู้หญิงจะรับผลกระทบแบบนี้ไม่ไหว กู้อานหยานก็มองเขา อย่างไม่เข้าใจ: “ฉันก็ยังมีสติดีนะ ทำไมหรอ?”

“คุณผู้หญิง….หลีเย่กำลังพิจารณาท่าทางของเธออยู่ แววตาสว่างไสว มุมปากโค้งขึ้นนิดๆ เหมือนว่า….ไม่ได้ฝืน ยิ้ม?
“คุณ…”

“หลีเย่นายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? มีอะไรก็รับพูด!”

ตอนนี้7โมง เหลือเวลาอีก1ชั่วโมง งานหมั้นก็จะเริ่มขึ้น

แล้ว

เธอก็แค่หมั้น ไม่ได้แต่งงานก็คงไม่ได้จริงจังขนาดนั้น เดี๋ยวก็แค่ทำตามพิธี ผ่านการประกาศจากคุณท่านและพิธี กรแล้วก็แลกเปลี่ยนแหวนกับคุณชายใหญ่ของตระกูลมู่ก็ ได้แล้ว

ตอนนี้ยังเหลืออีก1ชั่วโมง เธอยังกินของอร่อยที่ข้างล่าง ยังไม่พอ! หลีเย่พูดติดๆขัดๆจริงๆแล้ว ก็แค่อยากจะพูด ปลอบเธอแค่นั้นเอง

แต่ว่า ทำไมสีหน้าของคุณผู้หญิงถึงดูสดใส ไม่ต้องการ คำปลอบโยนของเขาเลย?

“ช่างเถอะ มีอะไรก็ส่งข้อความมาให้ฉัน” กู้อานหยาน ตัดสินใจไม่รอเขา หันหลังเดินจากไปเลย
ดูเวลาที่แสดงตรงหน้าจอโทรศัพท์ 19:05นาที วันนี้ก็มา

ถึงเร็วมาก

แค่ผ่านคืนนี้ไป เรื่องราวที่เศร้าต่างๆของเสี่ยวหมี่ก็จะไม่ เกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้ ห่างจะเที่ยงคืนยังมีอีกสี่ชั่วโมง เพียงแค่เสี่ยวหมี่ไม่ออกไปจากโรงเรียน ทุกอย่างก็ต้อ งดีแน่นอน

ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมง เสี่ยวหมี่ยังส่งข้อความให้เธอ ว่า กินมาม่าอยู่ในหอ รอถึงเวลา ต้องเลี้ยงของดีๆกับเธอ เพื่อเป็นการตอบแทน กู้อานหยานเกินเข้าไปที่ลิฟต์อย่าง กระตือรือร้น แต่หลีเย่กลับมองว่าไม่น่าเชื่อ

พอเดินไปถึงหน้าห้องพักก็ดูเข้าไป คุณชายใหญ่นั่งอยู่ บนเก้าอี้ กำลังสูบบุหรีอยู่

ทั้งๆที่ในสัญญาก็มีชื่อของคุณผู้หญิงแล้ว แต่ทำไมคุณ ผู้หญิงดูรู้สึกตื่นเต้น แต่กลับกันที่คุณชายใหญ่ที่ต้องดีใจ

เหมือนว่าจะลังเล?

“คุณชายใหญ่”หลีเย่เดินเข้าไป เก็บสัญญาๆ ลงชื่อเสร็จ แล้วจริงๆ เซ็นต์สัญญานี้ก็ หมายความว่าผู้ชายใหญ่จะไม่ ถูกคุณผู้หญิงมายุ่งวุ่นวายด้วย นี้ไม่ใช่เรื่องดีหรอ?

“คุณผู้หญิงเธอ….” หลีเย่หยุดพูด แล้วก็เริ่มพูดต่อ: “เธอ เหมือนจะไม่เศร้า คุณชายใหญ่ ผมว่า คุณผู้หญิงคงจะไม่ ยุ่งวุ่นวายกับคุณชายใหญ่”

“หมายความว่า เสน่ห์ของฉันมันน้อยลงถึงขนาดนี้แล้ว หรอ เธอไม่รู้สึกสนใจฉันสักนิดเลยหรอ?”

สีหน้าของมู่จ้านเป่ยนิ่ง หลีเย่ก็รู้สึกถึงความเย็น

นี่ๆๆห่ยความว่าอะไร? ทำไมคุณชายใหญ่ ถึง…เหมือนท่าทางว่าถูกทิ้ง?

หลีเย่สะบัดหัว สงสัยว่าตัวเองจะดูผิด ดูอีกครั้ง คุณชาย ใหญ่ก็เปิดโน้ตบุค ยุ่งต่อ ความรู้สึกที่ไม่พอใจของเมื่อสัก ครู่ เหมือนว่าไม่มีอยู่

น่าจะเป็น หรือ เหมือนอาจจะ…ดูผิดไปจริงๆ?

คุณชายใหญ่ไม่ชอบให้ผู้หญิงมายุ่งวุ่นวายด้วยที่สุด ตอน นี้คุณผู้หญิงแสดงท่าทีที่จะไปยุ่งกับเขา น่าจะต้องดีใจสิ
ต้องเป็นเพราะเขาดูผิดแน่ๆเลย!

หลีเย่ก็โล่งใจลง เปลี่ยนสีหน้า: “คุณชายใหญ่..”ตลก มากหรอ?” เขาหันมามอง

“เอ่อ” ทันใดนั้นหลีเย่ก็รู้สึกชาขึ้นมา : “ไม่ ไม่ตลก.”

“สัญญาฉบับนี้ ไปจด100รอบ ให้เสร็จพรุ่งนี้เช้า” มู่จ้าน เบี้ยปิดโน้ตบุคลง ลุกขึ้น ใช้มือเขียน”

“คุณ คุณขายใหญ่ ทำไม เพราะอะไร?” หลีเย่ขาอ่อน เกือบจะคุกเข่าลงให้เขา “สัญ สัญญามี…ปัญหาอะไร หรอ?”

มู่จ้านเป่ยมองเขาอย่างนิ่งๆ แววตา นี้ เหมือนว่าจะฉีกเขา! หลีเย่ถูกสายตาที่เย็นชานั้นจ้องจนถอยหลัง “ผมเขียน ผม เขียน เสร็จพรุ่งนี้เช้าแน่นอน!”

คุณชายใหญ่ให้เขาเขียนเขาก็เขียนสิ ยังกล้าถามว่า เพราะอะไร นี่ไม่ใช่หาที่ตายหรอ?

ต้องเป็นเพราะตัวหนังสือเขาต้องน่าเกลียดเกินไป ทำให้ คุณชายใหญ่ไม่พอใจ แต่ว่า สัญญามันเป็นแบบ
ปริ้นออกมา….100รอบ หือๆๆ เขาไปยุ่งกับใครเนี่ย?

มู่จ้านเป่ยมีความหงุดหงิดนิดหน่อย ดูบรรยากาศข้างนอก เปิดไฟแช็ค แล้วก็จุดบุหรี่1แท่ง ผู้หญิงคนนั้นเซ็นสัญญา แล้ว ยังดีใจขนาดนั้น? ไม่ให้เธอยุ่งกับเขา ทำไมไม่มีความ เสียใจหรือสีหน้าที่เสียใจเลยสักนิด?

เธอกำลังฝืนยิ้มอยู่? แต่ว่า เขากลับไม่เห็นความปลอม ของรอยยิ้มของเธอเลย! เธอดีใจจริงๆ!

เป็นเพราะหุ้น หรือเป็นเพราะเขาพูด หลังจากหมั้นแล้วอยู่ ใครอยู่มัน ไม่มีผลกระทบต่อกัน? สิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิด ที่สุด ก็เป็นเขาเอง!

ได้จุดจบที่ต้องการ แต่กลับมีความรู้สึกที่ถูกทั้ง ถูก ทั้งมันดูแปลกเกินไปแล้ว!

กู้อานหยานเพิ่งตักเค้กมา ยังไม่ได้หาที่นั่งนั่งลง ทันใด นั้น ประตูของโรงแรม ก็มีเสียงส่งมา

สายตาของผู้ชายก็หันไปหมด เห็นผู้หญิงที่เดินเข้ามาอย่างน้อยก็มีผู้ชายครึ่งนึงที่ตาลุกวาว กู้เวยจือมาแล้ว

เธอรู้ดีว่าพี่สาวของเธอคนนี้สวยขนาดไหน ไม่อย่างนั้น ก็ คงไม่ได้ชื่อว่าเป็นสาวงามที่1ของเมืองเป่ยหลิง

แต่ว่า เกี่ยวอะไรกับเธอ? กู้อานหยานจับเค้กไว้ หาที่นั่ง ตรงมุมๆ สนใจแต่กินเท่านั้น

“แข่งกับพี่สาวเธอ เธอก็เป็นแค่โคลนที่อยู่ตรงพื้น” ทันใด

นั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ

กู้อานหยานเงยหน้าขึ้น สายตาจ้องกันกับสายตาที่ดู รังเกลียดของมู่เจ๋อหนาน เธอไม่ได้โมโห แต่กลับยิ้ม : “คุณชายรอง แผลที่ท้องคุณหายรึยัง?” แผลที่ท้อง!

“เธอ!” สีหน้าของมู่เจ๋อหนานนิ่งลง เกือบจะทนไม่ไหวที่ จะโมโหออกมา! นี่คือความอัปยศในชีวิตของเขา! มู่จ้านเป่ ยกลับชกเขา! ต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้

เขาหายใจแรงขึ้น กำหมัดแน่น อยากจะชกผู้หญิงที่ หน้าตาน่าเกลียดต่อหน้าเขาให้ฟันหัก! แต่เขาทั้งๆที่รู้ว่าผู้ หญิงคนนี้น่าเกลียดมาก แต่ตอนที่เห็นด้านหลังของเธอ ก็ ทนไม่ได้ที่จะเดินเข้ามาหา
ก็ไม่รู้ว่าเส้นประสาทเส้นไหนของสมองเขาไม่ปกติ มักจะ ถูกหน้าหลังของเธอดึงดูดไว้

แต่ว่า ทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ ก็รู้สึกตัวแล้ว

“ผู้หญิงน่าเกลียดสร้างปัญหา อย่าคิดว่าแต่งงานเข้ามา อยู่ในตระกูลมู่แล้วจะได้อยู่อย่างเป็นสุข ฉันไม่ให้เธออยู่ เป็นสุขแน่!” เขาพูด

กู้อานหยานกลับมองด้วยสายตาที่น่าสงสาร จ้องเขาไว้ “น่าแปลกจัง!”

“แปลกอะไร?” ไอ้ผู้หญิงคนนี้ ทำไมดวงตาคู่นี้ถึงสวย

ขนาดนี้

ไม่! หน้าใบนี้น่าเกลียดจนทำให้กินข้าวไม่ลง! มู่เจ๋อหนาน

รีบเรียกตัวเองตื่น

กู้อานหยานยิ้ม: “คนที่หมั้นกับฉันคือคุณชายใหญ่ ไม่ใช่ คุณชายรองคุณ เพราะฉะนั้น ฉันจะอยู่เป็นสุขหรือไม่สุข ก็ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณชายรอง?”

ในแววตาของเธอเป็นรอยยิ้มที่ใสซื่อ ทั้งๆที่ดูแล้วเหมือนจะโง่ แต่แววตานั้น ทำไมถึงดูฉลาด?

ไม่รอให้มู่เจ๋อหนานดึงสติกลับมา กู้อานหยานก็ยิ้มแล้ว พูดขั้น: “นายพูดว่าไม่ให้ฉันอยู่อย่างสุขสบาย นี่ไม่ใช่ว่า แปลกหรอ? หรือว่า นายอยากจะหมั้นกับฉันแทนพี่ชาย ของนาย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ