ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 385 คุณจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขามั้ย?



บทที่ 385 คุณจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขามั้ย?

บทที่ 385 คุณจะกลับไปอยู่เคียงข้างเขามั้ย?

หลังจากพูดประโยคหนึ่ง “ฉันเหนื่อยแล้ว” ออกมา มู่ล้านเป่ ยกพิงอยู่บนโซฟาแล้วหลับตาลงอีกครั้ง

หัวใจของกู้อานหยานกลับสั่นอยู่ตลอดเวลา

เธอไม่ได้เห็นมู่บ้านเป่ยแสดงออกถึงด้านที่อ่อนแอเช่นนี้ต่อ หน้าเธอมานานมากๆๆๆแล้ว

เขาเป็นเหมือนกับเทพเจ้า โดยเฉพาะในสองเดือนกว่าๆนี้ เขา เป็นเหมือนกับเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสนามรบ

ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขา เขาเองก็ไม่อนุญาตให้ใคร

ก็ตามเข้าใกล้ตัวเอง

เย็นชา หยิ่งยโส อยู่ในที่ที่สูงส่ง ไกลเกินกว่าที่จะคว้าได้

แต่เขาในตอนนี้กลับพูดเบาๆกับเธอว่า เขาเหนื่อยแล้ว

เขาใช้วิธีการสารพัดเพื่อทำให้เธออยู่เคียงข้าง หลังจากผ่าน การทรมานมามากมาย

ประโยคเดียว “ฉันเหนื่อยแล้ว” กลับสามารถทำให้เธอรู้สึก ปวดใจได้ถึงขนาดนี้!
มือที่จับประตูอยู่ ไม่รู้ว่าดึงมาเก็บตั้งแต่เมื่อไร

แต่หลังจากที่ความสงสัยนี้แล้ว เธอผลักประตูห้องอีกครั้ง แล้วเดินออกไป

ทันทีที่ประตูถูกปิด มู่จ้านเป่ยจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ดวงตาสีดำคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง เต็มไปด้วย ความโดดเดี่ยว

หัวใจของเธอยังคงอยู่ที่เจียงนาน

นอกจากการใช้วิธีการที่รุนแรงที่สุด เย็นชาที่สุดแล้ว เขาก็ ไม่มีวิธีอื่นที่จะดึงตัวเธอไว้เคียงข้างเขา

ถ้าให้อิสระกับเธอ เธอจะทํายังไง?

เธอจะรีบกลับไปอยู่เคียงข้างเจียงนานเหมือนกับคืนนี้อย่าง

ไม่ลังเลใจสินะ

หึ!” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่รู้ว่านั่งอยู่บนโซฟานานเท่า ไหร่ ในที่สุดเขาก็ยกแก้วไวน์ที่กู้อานหยานวางไว้บนโต๊ะขึ้นมา

ในกระเพาะเต็มไปด้วยแอลกอฮอล์ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อย จริงๆ
แต่สําหรับเขาในตอนนี้ นอกจากไวน์แล้ว ข้างกายก็ไม่มีใคร อยู่เป็นเพื่อน

ในจังหวะที่มู่บ้านเปียกำลังจะดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วเข้าไป อยู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเบาๆดังมาจากด้านนอก

ประตูห้องถูกผลักออก เงาร่างที่ผอมบางเดินเข้ามา

ในมือของเธอยกชาร้อนแก้วหนึ่งเข้ามา เธอไม่พูดอะไรแล้ว เดินมาอยู่ตรงหน้าของมู่บ้านเปีย

เขาจ้องมองชาร้อนที่อยู่ในมือของเธอ นิ้วมือของมู่จ้านเป่ยที่ จับแก้วไวน์อยู่ค่อยๆจับแน่นมากขึ้น

เมื่อตะกี้เธอไม่ได้ทิ้งเขาแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองงั้น หรอ?

“คืนนี้ดีมไปเยอะเลยไม่ใช่หรอ?”

กู้อานหยานแย่งแก้วไวน์ออกมาจากมือของเขาแล้ววางไว้อีก ฝัง จากนั้นยื่นชาร้อนไปให้เขา

“ดื่มชาหน่อยเถอะ จะได้สบายท้อง จะได้ไม่รู้สึกแย่เช่นนั้น”

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้รับความใส่ใจจากใครเช่นนี้
เขาจ้องมองชาร้อนที่มีไอพุ่งออกมาที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาไม่ ได้เอื้อมมือไปรับทันที

เขาจ้องมองเงียบๆ รู้สึกปวดใจเล็กน้อย

บางที กู้อานหยานสามารถเข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไร

เมื่อตะกี้ก่อนที่เธอจะเดินออกไป คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึก ปวดใจอย่างที่พูดไม่ออก

เขาคิดว่าทุกคนที่เข้าใกล้เขาล้วนแต่เอาใจเขาเพื่อต้องการ อำนาจและผลประโยชน์ทุกอย่างเมื่ออยู่ลับหลังเขา ไม่ใช่ หรอ?

แม้แต่คนในครอบครัวของเขา คนใกล้ตัวทั้งหมด เพื่อน?

คนเหล่านั้น เมื่ออยู่ลับหลังเขา ล้วนแต่สมรู้ร่วมคิดกันว่าจะ จัดการกับเขายังไง?

รับช่วงสืบทอดบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปมาสองเดือนกว่าๆ เขาต้อง ทนรับแรงกดดันมหาศาล ต้องเผชิญรับมือกับแผนการชั่วๆ มากมาย

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำดีกับคุณ”

กู้อานหยานจับมือของเขา จากนั้นเอาแก้วน้ำชายัดเข้าไปในมือของเขา

เขายังคงไม่ยอมดื่มชา ในจังหวะที่เธอกำลังจะดึงมือออก เขา กุมมือของเธอเบาๆแล้วพูด “ป้อนฉันที”

กู้อานหยานถอนหายใจเงียบๆ

เธอรับแก้วน้ากลับมา จากนั้นยกไปที่ริมฝีปากของเขา เธอ ค่อยๆป้อนชาให้กับเขา

น้ำชาอุ่นมาก ในความขมของชากลับแฝงไปด้วยความหวาน รสชาติหวานละมุน

มู่จ้านเป่ยหรี่เปลือกตาลงครึ่งหนึ่ง ดูแล้วเขากำลังเพลิดเพลิน กับความรู้สึกอุ่นและสบายท้อง

ผู้ชายคนนี้ เย็นชามาเป็นเวลานาน

ไม่เพียงแค่เย็นชาต่อผู้อื่น ยังเย็นชาต่อตัวเองอีกด้วย

ชาร้อนแก้วหนึ่งไหลเข้าไปอยู่ในท้อง อยู่ๆเขาก็ลุกขึ้นมายืน จากนั้นเดินไปที่เตียงใหญ่ในห้อง

ทันใดนั้น กู้อานหยานจึงรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

เขาพูดไปแล้วว่าคืนนี้จะไม่เอากับเธอ
“ดูแล้ว ในเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ ฉันไม่ค่อยสร้างความประทับ ใจที่มีต่อคุณมากนัก”

มู่บ้านเป่ยนั่งอยู่ที่ขอบเตียง จากนั้นล้มตัวลงนอน อยู่ๆเขาก็ พลิกตัวแล้วหมอบอยู่บนเตียง

“มานี่สิ มานอนกับฉัน”

กู้อานหยานยังคงไม่รู้ว่าเขานั้นคิดจะทำอะไร การป้องกันตัว มันต้องมีอยู่ตลอด

เธอเดินไปนั่งอยู่ที่ขอบเตียงแล้วจ้องมองไปที่เขา

มู่บ้านเปียกลับเบือนหน้าหนีแล้วหมอบไปอีกฝั่ง เขาไม่มอง หน้าเธอ

มีคนบอกว่า ผู้ชายที่ชอบนอนหมอบเป็นคนที่ระมัดระวังตัว

มาก

แต่ในตอนนั้นเอง เธอกลับรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ระแวด ระวังอะไรต่อเธอเลย

อยู่ๆเธอก็เข้าใจ คำพูดนั้นของมู่บ้านเป่ย “นอนกับฉัน” มัน หมายความว่าอะไร

แค่นอนกับเขาแค่นั้นจริงๆ
แต่เธอไม่ได้นอนลง เธอแค่นั่งอยู่ข้างๆเขา

อยู่ๆมู่บ้านเปียก็พลิกตัวมา คราวนี้ เขายกหัวขึ้นมา จากนั้น หนุนนอนไปที่ตักของเธอ

ในช่วงเวลาที่ตัวเองหนุนนอนอยู่บนตักนุ่มๆ ไม่เพียงแค่มู่บ้าน เป่ย แม้แต่กู้อานหยานก็รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที

มันคือความรู้สึกที่เหมือนกลับมาถึงบ้านแล้วนอนอยู่บนตัก

นุ่มๆของภรรยา

ผ่อนคลาย สบายใจ ด้วยท่าทางที่สบายที่สุด

“คุณต้องให้ฉันนั่งอยู่ที่หัวเตียง ไม่มีพนักพิงหลัง มันไม่ค่อย สบายน่ะ”

กู้อานหยานจ้องมองใบหน้าหันข้างที่สมบูรณ์แบบของผู้ชาย แล้วพูดอย่างแผ่วเบา

แต่เขาไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น

ผู้ชายคนนี้ เมื่อดื้อดึงขึ้นมาก็จะไม่สนใจใครทั้งนั้น

เพราะเขารู้ดีว่าเธอจะมีวิธีจัดการเอง

เธอถอนหายใจออกมา จากนั้นเธอค่อยๆประคองหัวของเขาแล้วปรับเปลี่ยนอิริยาบถของตัวเอง

สุดท้าย เธอขยับตัวไปพิงอยู่ที่หัวเตียงแล้วให้เขามาหนุนที่ ตักของตัวเอง

เตียงใหญ่สามเมตร คุณชายใหญ่มู่นอนตะแคงอยู่บนเตียง ความกว้างขวางของเตียงนอนยังคงเพียงพอต่อเขา

ในจังหวะที่ขยับเขยื้อนตัวเขา เขาไม่ส่งเสียงอะไรออกมา อีก

ทั้งไม่โต้ตอบอะไรทั้งสิ้น มีท่าทีที่เรียบร้อยและเชื่อฟัง

เชื่อฟัง คำคำนี้ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่เคยรู้สึก

หัวใจของกู้อานหยานรู้สึกร้อน อีกทั้งยังรู้สึกปวดใจอีกด้วย

นิ้วที่เรียวยาววางอยู่บนขมับของเขา จากนั้นค่อยๆนวดเบาๆ

คำพูดเหล่านี้ เธอไม่ควรจะพูด แต่ไม่รู้ทำไมเธอรู้สึกอดไม่ ได้ที่จะพูดออกมา

“จริงๆแล้ว บนโลกนี้มีคนมากมายที่ใส่ใจต่อคุณจริงๆ เพียง แต่คุณยืนอยู่ในที่ที่สูงเกินเอื้อม พวกเขาเอื้อมไม่ถึง

ไม่ใช่แค่อยู่ในจุดที่สูงเกินเอื้อม แต่มันสูงจนไม่มีใครที่จะอยู่ ด้วยได้
ถ้าเขาสามารถวางตัวเองให้ต่ำลงได้แล้วหันหลังกลับมามอง บางทีอาจจะสามารถมองเห็นวิวที่ไม่เหมือนเดิมก็ได้

มู่บ้านเป่ยไม่พูดอะไร ลมหายใจที่เดิมทีมีจังหวะที่สม่ำเสมอ กลับค่อยๆไม่เป็นจังหวะมากขึ้น

แต่มันไม่เป็นจังหวะแค่ชั่วครู่เท่านั้น เมื่อผ่านไปสักพักเขา ค่อยๆกลับมามีลมหายใจที่สม่ำเสมอเหมือนเดิมอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้ ชอบเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ในใจมาตลอด ทําให้คนอื่นไม่สามารถหาเขาเจอ อีกทั้งเข้าไม่ถึงตัวเขา

บางทีเธออาจจะเคยมีโอกาสที่จะสามารถเปิดหัวใจของเขา

ได้

แต่สิ่งเหล่านั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เคยเป็นเท่านั้น

หากคุณชายใหญ่มู่ได้ปิดกั้นหัวใจของตัวเอง ถ้าต้องการจะ เปิดหัวใจอีกครั้ง มันคือเรื่องที่ยากเกินกว่าจะทำได้

อีกอย่างในมือของเธอก็ไม่มีกุญแจอีกด้วย

ต่อให้ในอนาคต เขาได้เปิดใจอีกครั้ง คนคนนั้นที่ถือกุญแจ เปิดหัวใจก็ไม่ใช่เธออยู่ดี

กู้อานหยานเก็บความคิดเอาไว้ นิ้วมือของเธอยังคงวางไว้บนขมับของเขา เธอค่อยๆนวด ค่อยๆนวด

ลมหายใจของเขาค่อยๆกลับมานิ่งสงบเหมือนเดิม

ตอนที่เขาหลับตาลงทำให้ขนตาที่ยาวและหนาของเขาทอด ลงมาเป็นเงารูปพัด ช่างสวยงามและน่าทึ่งเหลือเกิน

เป็นขนตาที่ผู้หญิงยังต้องรู้สึกอิจฉา

ไม่ง่ายเลยที่เธอจะละสายตาจากภาพนั้น

ในจังหวะที่เธอกำลังจะเอาผ้าห่มมาห่มตัวเขา อยู่ๆเธอก็ได้ ยินน้ำเสียงอันทุ่มต่ำพูดออกมาช้าๆ “ยังเหลือเวลาอีกหนึ่ง เดือนกว่าๆ

หนึ่งเดือนกว่าๆ?

ทันใดนั้น เธอยังตอบสนองสิ่งที่เขาพูดไม่ทัน

มู่บ้านเป่ยพูด “หลังจากที่สิ้นสุดแล้ว คุณ….จะกลับไปอยู่ เคียงข้างเขามั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ