ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 69 เขาน่ากลัวกว่าในตำนานที่เล่ามาเลย



บทที่ 69 เขาน่ากลัวกว่าในตำนานที่เล่ามาเลย

“เขียนเขียน…..” ฟางเฟยรู้สึกไม่สบายใจ

มู่เซียนเซียนโกหกแบบนี้ เหมือนยิ่งพูดยิ่งเกินไป

รอยแดงเท้าข้างบนของเธอมีจริง แต่ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกู้อานหยานเลย

“พี่ฟางเฟย ฉันรู้ว่าเธอใจดี ไม่ยอมลงโทษคนอื่น แต่ว่า ยัยขี้เหร่นี้ทำกับ เธอเกินไปแล้ว ?

ถึงแม้ตัวเองพูดแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็รังเกียจมาก แต่ว่า อานหยานมีแค่ คนเดียวปากเดียว เธอมีหลักฐานอะไร ?

ที่สําคัญที่สุดคือ พวกเธอนามสกุลมหมด ส่วนยัยขี้เหร่นี้ คือคนนอก

“พี่ชายใหญ่…..

“ของซื้อเสร็จแล้วหรอ?” มู่บ้านเป่ยมองไปยังกระเป๋าที่กู้อานหยานถือ

คำพูดนี้ ทำไมรู้สึกแปลกๆ ? ไม่เหมือนที่ต้องการไว้เลย กับภาพตะก็ไม่ เหมือนกันเลย ?

มู่เซียนเซียนตะลึงไปแปบ ฟางเฟยใจกระตุกขึ้นมา ความรู้สึกไม่ดียิ่งแรง

ขึ้นมา เธอเดินไป หายใจไม่คล่อง : “พี่ชายใหญ่ เธอ

“เธอเรียนเขาว่าพี่ชายใหญ่ งั้นเธอก็เป็นคุณหนูตระกูลมู่?”

กู้อานหยานเหมือนพึ่งรู้จักเธอ ทันใดนั้นก็ควงแขกบ้านเป่ย ยิ้มให้ฟาง เฟย : “สวัสดี ฉันคือพี่สะใภ้ในอนาคตเธอ

“เธอ….เธอ…..”

ฟางเฟยเริ่มลุกลี้ลุกลน เซียนเซียนกลับตะลึงจนพูดไม่ออกเลย

“ยังมีเธอ “อานหยานมองไปอีกครั้งที่เขียนเซียน ยิ้มมุมปาก “ตอนนี้ ดู ชัดเจนยัง เขาคือคนแก่ที่ตาบอดในปากของเธอ

“ไม่ ไม่ไป ไม่ใช่แบบนั้น ไม่…..ฉันไม่ใช่…ความหมายแบบนั้น…….

มู่เซียนเซียนถอยหลังไปหลายก้าว ทันใดนั้นขาอ่อนไปหมด เสียงตงนั่งลง บนพื้นแล้ว

แต่ว่าเธอรีบลุกขึ้นมา เดินไปตรงหน้าบ้านเป่ย ตื่นเต้นจนน้ำตาจะไหลลง

มากแล้ว

พี่ชายใหญ่ ฉัน…ฉันไม่ใช่…ฉันไม่รู้………ขี้เหร่นี้ เธอ…ไม่…ไม่ใช่

พระเจ้า ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? ผู้ชายข้างหลังของอ่านหยาน ทำไมถึง เป็นคุณชายใหญ่ ผู้ชายที่เก่งที่สุดในเมืองเป่ยหลัง ? ทำไมเป็นแบบนี้? พี่ชายใหญ่ทำไมถึงชอบผู้หญิงแบบนี้?

ไม่ เป็นไปไม่ได้ !

“ฉันเป็นยัยขี้เหร่ไหม อันนี้ไม่รู้ แต่ว่า คู่หมั้นฉันไม่ใช่คนแก่จริงๆ ไม่เชื่อ เธอดูดีดี

กู้อานหยานอยากหัวเราจริงๆ มีคนขุดหลุมให้ขุดจนเป็นแบบนี้ ตัวเองยัง

อยากจะกระโดดลงไป

นี้คือไม้ไหน เปิดสายตาคนเขาจริงๆ

“แล้วก็ ฉันไม่ได้เตะเธอ” ครั้งนี้ เธอมองไปฟางเฟยอีก

ผู้หญิงปลอมแบบนี้ น่ารังเกียจกว่า มู่เซียนเซียนอีก

มู่เซียนเขียนบอกเธอทำร้ายขาของมู่ฟางเฟย เธอไม่ควรบอกสักคำว่าไม่ใช่?

ไม่พูดสักคำ ที่จริงก็คือยอมรับ

ตัวเองไม่กล้าทำผิด กลับอยากเอาเปรียบคนอื่นเขา เอาเซียนเซียนมา เป็นไม้กันหมา

ผู้หญิงแบบนี้ เทียบกับมู่เซียนเขียนที่ไม่มีสมองแล้ว น่ารังเกียจกว่าเยอะ

“ฉันทำร้ายเท้าเธอหรอ? ฉันเตะเธอเมื่อไหร่? ขอแค่เธอพูดสักคำว่ามี ฉัน รับให้คนไปเอากล้องวงจอปิดออกมา “ไม่งั้น ฉันคิดโทษใส่ร้ายป้ายสีแบบนี้ เธอน่าจะหนีไม่พ้นแน่”

“ไม่ เธอไม่ได้เตะฉัน ฉันเองไม่ทันระวัง โดนที่เท้าเอง “ฟางเฟย รับ พูดเบาๆไป

เธอไม่ได้พูดอะไรน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเธอ ?

แต่ว่า ฟางเฟยคิดไม่ถึงคือ อ่านหยานยังจะเอาเรื่องต่อ ปล่อยมู่บ้าน เปียแล้ว เดินเข้ามาใกล้เธอ

“เธอ…..เธอจะทําอะไร ?” ฟางเฟยรีบถอยหลังอย่างตกใจ

“ในเมื่อไม่มี ตะกี้ยัยนี้บอกฉันทำร้ายเธอ ทำไมเธอไม่ปฏิเสธ “เขียนเซียนเป็นคนพูดเอง ฉันไม่ได้พูดสักคำ ฉัน……….

แต่ว่าเธอไม่ได้ปฏิเสธ นี้ไม่ใช่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ให้คนเข้าใจว่าฉัน ทําร้ายเธอหรอ?”

อานหยานยิ้มเย็นชา “ใช่ เธอไม่ได้พูด ดังนั้น เธอไม่ต้องรับผิดชอบ นี้คือสิ่งที่เธอเก่งกว่าคนอื่น

แต่ว่า มีบางคนที่โง่มากจริงๆ โดนเธอหลอกใช้ตั้งนาน เป็นไม้กันหมา “ ยังรู้สึกว่าได้เปรียบอะไร

เธอหันไปมองมู่เขียนเขียน สายตาเย็นชา ไม่สงสาร และไม่โกรธเกลียด

“ได้ยินแล้วไหม? เขาบอกว่า ทั้งหมดเธอพูด ความผิดของเธอทั้งหมด” “ไม่ ไม่ใช่ ฉัน…” เขียนเขียนกลัวจนหน้า ด ติดอยากจะแอบดูบ้าน เบี้ยแวบเดียว แต่ก็ไม่กล้า “เล่นพอหรือยัง? * มู่บ้านเป่ยพูดด้วยเสียงเย็นชา ถึงแม้ไม่ได้โกรธ แต่ก็รู้สึกได้ ลำคานต่อการทะเลาะกันของผู้หญิง

อานหยานยักไหล่ กลับไปควงแขนเขาอีกครั้ง

“เล่นที่ไหน? คู่หมั้นคุณถูกใส่ร้าย ฉันตอบโต้สองคำไม่ได้ ? ”

ถ้าเป็นใส่ร้าย ทำไมต้องตอบโต้?” เขามองหลีเป

หลีเปรีบเข้ามา ถามอย่างเคารพว่า “คุณชายใหญ่ มีอะไรจะสั่ง?

“คุณผู้หญิงนายโดนคนใส่ร้าย” ทิ้งไว้คำนี้ ขายาวของมู่บ้านเปียก้าวออก เดินไปยังรถ

กู้อานหยานอยู่ข้างหลังเขา เล่นพอแล้ว ก็ต้องเร่งเวลา สายอีกไม่ได้แล้ว เข้าใจแล้ว คุณชายใหญ่ * หลีเปรีบเอาโทรศัพท์ออกมา โทรไปหา

หมายเลขบางคน

“กล้องวงจอปิดของข้างนอกห้างเซ็นชื่อ คลิปทั้งหมดเอาออกมา และก็ ร้านHARMADSข้างในข้างนอกของกล้อง ทั้งหมดที่เกี่ยวกับคุณผู้หญิงที่โดย

ใส่ร้าย ก่อนคืนนี้เอามาให้ฉัน

“ไม่ ฉันตะ ตะกี้ฉันล้อเล่นเอง ฉัน………

“ใช่แล้ว รถคุณชายใหญ่สตาร์ทรถอยู่ตลอด ในรถมีเครื่องบันทึกการขับ

อยู่ ตะกี้เธอคุยกับคุณชายใหญ่ข้างๆน่าจะบันทึกได้อย่างชัดเจน” “คุณหลี ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่…แค่ล้อเล่นจริงๆ คุณห

“ไปคุยกันที่สถานีตำรวจดีกว่า” หลีเปไม่มีเวลาสนใจเขา รีบไปถึงก่อนหน้า มู่บ้านเปียกับอานหยานไปเปิดประตูรถ

จากนั้น รถต้นหรูที่ไม่ธรรมดา ก็หายไปจากสายตาพวกเธออย่างช้าๆ

มู่ฟางเฟยตกใจทั้งตัวเย็นไปหมด เกือบยืนไม่ไหว

มู่เขียนเขียนกลัวจนขาอ่อนไปหมด นั่งลงที่พื้นเลย

วงการธุรกิจเปียหลังมีตำนานเล่าว่า คุณชายใหญ่ทำทุกอย่างรวดเร็ว

ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ

ที่แท้ เป็นเรื่องจริง

แค่พูดกู้อานหยานไม่ดีไปไม่กี่คำ โกหกไปหน่อย ถึงกับต้องไปถึงสถานี

ตำรวจ

แล้วก็ ไม่ใช่การล้อเล่นแน่นอน !

เธอก็นามสกุล แต่ว่า คุณชายใหญ่ไม่เห็นแก่ความเป็นญาติเลย เขา

เลือดเย็นจริงๆ

เพราะเธอ ฉันต้องซวยไปด้วยกับเธอ ! เซียน โกรธมาก เธอวิ่งไปแตะที่ร่างกายเธอ “ทันใดนั้นฟูฟางเฟยก็ชี้ไปยังมู่เซียน

ฉันทำให้พี่ชายใหญ่โกรธแล้ว ทำไงดี ? ทำไมเธอต้องโกหกด้วย? ฉันโดน ” เธอพาซวยจริงๆ”

ไม่มีใคร ทำให้คุณชายใหญ่โกรธแล้ว ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้ที่เมืองเบีย หลง ?

“ฉันก็แค่อยากช่วยเธอจัดการเท่านั้น !”

มู่เซียนเซียนตอนนี้หมดความหวังแล้ว ใครจะไปสนว่าจะทำให้ผู้หญิงตรง หน้านี้โกรธไหม?

คุณชายใหญ่มู่ก็ล่วงเกินไปแล้ว ผู้หญิงข้างหน้านี้ไม่นับอะไร?

“เธอเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรอ? ถ้าเธอบริสุทธิ์จริงๆ ตะกี้ฉันช่วย เธอออกหน้า ทําไมเธอไม่ห้ามฉันละ?

“มู่เซียนเซียน เธอกล้าพูดแบบนี้กับฉันหรอ! ยัยบ้าน อยากกบฏหรอ?

ทำไมฉันถึงไม่กล้า ? เธอคิดว่าเธอคือใคร ? ถ้าไม่เห็นว่าเธอเป็นหลานสาว

ของคุณอา ใครจะมาสนใจเธอ?

มู่เซียนเซียนลุกขึ้นจากพื้น ตอนนี้พึ่งพิมอะไร ฟางเฟยไม่ได้แล้ว ยังมีศาล รอเธออยู่ มีเวลา ที่ไหนมาสนใจคุณหนูมู่บ้านอยู่?

นึกไม่ถึงคุณชายใหญ่น่ากลัวกว่าตำนานเล่าอีก เพื่อผู้หญิงขี้เหร่คนหนึ่ง ญาติตัวเองก็ทำได้ลง,,

ตอนนี้ ควรทำยังไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ