ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่336 คืนนี้ พาคนรักมา



บทที่336 คืนนี้ พาคนรักมา

บทที่336 คืนนี้ พาคนรักมา

งั้นก็แต่งงานกับฉันเถอะ

น้ำเสียงของคุณชายรองเจียง ราวกับกำลังคุยว่าคืนนี้จะกิน

อะไรดี

นิ่งและธรรมดามาก ไม่มีอารมณ์ใดๆเลยแม้แต่น้อย

แต่มือของเขาที่กำลังกอดเอวของกู้อานหยานกระชับแน่นขึ้น ด้วยแรงขนาดนั้น ทำให้กู้อานหยานขมวดคิ้วแน่น

และทำให้เธอรู้ว่า ที่จริง คุณชายรองเจียงก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

แต่งงานกับเขาได้จริงๆใช่ไหม?

เธอสับสนเล็กน้อย “ฉัน……………………..

“หมั้นไว้ก่อนก็ได้

“ทําไมถึง…รีบขนาดนี้?”ถึงแม้เขาจะพูดและคิดจริง แต่ก็ สามารถศึกษาดูใจกันก่อนได้ไม่ใช่เหรอ?

อย่างน้อย ก็ควรให้โอกาสที่จะเรียนรู้และเข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้าเกิดว่าวันข้างหน้าไปด้วยกันไม่ได้……..

“ฉันเป็นคนตัดสินใจเด็ดขาด เมื่อชอบเธอแล้ว เธอก็จะไม่ใช่ คนอื่นอีกต่อไป”

หน้าผากของคุณชายรองเจียงมีเหงื่อไหลเล็กน้อย “ถ้าเธอไม่ อยากกลับไปอยู่กับพี่ใหญ่ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตัดใจจาก เขาไม่ใช่เหรอ?” เขายอมรับว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเกินไป ทว่า เมื่อประสบเรื่องแบบนี้ ใครๆก็ต้องเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว ใช่ไหม ล่ะ?

“นายกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่?”ท้ายที่สุดแล้วกู้อานหยานก็ ยังคงดูออกว่า คุณชายรองเจียงนั้นแปลกไปจากปกติ

เจียงนานเม้มปาก ฝ่ามือใหญ่ของเขากอดไว้ที่เอวเธอ และ

นวดเบาๆ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เขาถึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียง ต่ำว่า “ที่จริงแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตื่นเต้นอะไรอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะ เธอยังคงแคร์..…. ”

สัญชาตญาณของเขาบอกว่านี่ไม่ใช่บทสนทนาที่ดี เขาจึง ถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “ในเมื่อ ฉันตัดสินใจแล้วก็จะ ไม่มีวันเปลี่ยนใจ นอกเสียจาก เธอจะไม่เอาฉัน

“นายเป็นคุณชายรองของตระกูลเจียง ใครจะกล้าปฏิเสธ นาย? “เธอมองตา
แผนขายรองของตระกูลเฉียงเอง ไม่โทพเจ้ายหน่อย ใครจะไปรู้…….

ทันใดนั้น ตาของเฉียงนานก็สดใสขึ้น แล้วตั้งเธอเข้ามากอด แน่น เลยหมายความว่า เธอ……….นยอม?

กู้อ่านหยามกัดริมฝีปากของตัวเอง ที่จริงเธอเองก็กลัวๆอยู่ เหมือนกัน ไม่ค่อยสบายใจเลย

ถ้าอยู่กับเจียงนาน ก็สามารถตัดความสัมพันธ์กับมู่บ้านเป่ย ได้ และจะไม่กลับไปเจ็บปวดเป็นครั้งที่สองอีก

ถ้าเช่นนั้น นี่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือเปล่า?

ไม่เกี่ยวกับความรัก เพียงแค่ เจียงนานเหมาะสมกับเธอ และ เธอก็สามารถทําให้เขามีความสุขได้

กู้อานหยานกำมือแน่น เหมือนกำลังจะพูดอะไร ทว่าทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ของเจียงนานก็ดังขึ้น

คิ้วของผู้ชายขมวดแน่น เขาไม่อยากจะรับสายนี้เลยจริงๆ

ทว่า เบอร์ส่วนตัวของเขา คนทั่วไปไม่รู้ ส่วนคนที่รู้ ถ้าไม่มี เรื่องอะไรก็จะไม่โทรมา

แต่ยัยบ๊องคนนี้ยังไม่ได้ตอบ
หลังจากที่กู้อานหยานได้ยินเสียงเรียกเข้า ก็ถอนหายใจออก

มา

จากนั้นเธอก็รีบเอาโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วยัดเข้าไป ในมือของเขา “มีสายเข้า รีบรับ!

ยัยบ๊อง ! แค่ตอบคำถามข้อเดียว มันลำบากขนาดนั้นเลยเห

รอ?

เจียงนานเอาโทรศัพท์มาดู สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปไปแว๊บ หนึ่ง

ความตื่นเต้นในเมื่อสักครู่ก็สงบลง

เขากดรับสาย “เจ้าสาม มีอะไรเหรอ?”

หลังจากนั้นสิบกว่าวินาที เจียงนานก็กดวางสาย แล้วมองไป ยังกู้อานหยาน เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด ออกไป

กู้อานหยานขมวดคิ้วแน่น “เป็นอะไรไป? มีธุระต้องออกไปเห

รอ?”

เจียงนานพยักหน้า กู้อานหยานรีบลงไปจากตักของเขา “รีบ ไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน เดี๋ยวฉันจะเข้านอนก่อน”
เจียงนานมีความลังเลเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นก็ดึงเธอกลับมา

“เธอ………กล้าเจอเขาไหม?”

“หืม?”กู้อานหยานอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจในทันทีว่า เขา ที่เจียงนานหมายถึงคือใคร

ร่างกายที่บอบบางของเธอก็แข็งทื่อและไร้ความรู้สึกไป หลายนาที

เจียงนานคลายมือที่อยู่บนเอวของเธอออก แล้วยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ในเมื่อยังไม่กล้าเผชิญหน้า งั้นค่อยว่ากันทีหลัง”

“ไม่! “กู้อานหยานจับมือของเขาแน่น ราวกับจะตัดสินใจอะไร

สักอย่าง

เธอสูบหายใจเข้าไปลึกๆ ถึงแม้ลมหายใจจะติดขัด แต่เธอก็ พูดไปอย่างไม่ลังเลว่า “ฉันกล้า!”

เธอเข้าใจความหมายของเขา ถ้าตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน จริงๆ งั้นคนบางคนหรือเรื่องบางเรื่อง เราก็ต้องไปเผชิญหน้า โดยตรง

นั่นคือเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขของเขา เธอไม่อยากให้เขาเสีย เพื่อนที่สำคัญที่สุดของเขาไป เพียงเพราะเรื่องของเธอ
“ฉันจะไปกับนาย”น้ำเสียงของเธอนิ่งและหนักแน่นมาก

เจียงนานดึงเธอเข้ามากอด จากนั้นก็กดจูบลงไปบนหน้าผาก ของเธอ

“เหมือนกับที่พวกซูเสี่ยวหมี่ให้ฉันเลี้ยงอาหาร ถ้าได้เจอคนที่ ฟ้าลิขิต พวกเราก็จะพากลับไป”

คำพูดของเจียงนาน ทำให้ในใจของกู้อานหยานมัวหมอง ราวกับมีควันจางๆปกคลุมอยู่

ที่แท้ไม่เพียงแต่ระหว่างเพื่อนผู้หญิงเท่านั้นที่มีกฎดังกล่าว แม้แต่ระหว่างเพื่อนผู้ชายด้วยกันก็มีเช่นกัน

ทว่า มู่บ้านเป่ยไม่เคยพาเธอไปเจอเพื่อนของเขามาก่อน เธอ แทบจะไม่รู้เลยว่าเขามีเพื่อนที่ดีขนาดนี้

แต่เจียงนานนั้น ยินดีที่จะแบ่งปันกับเธอทุกอย่าง

เธอพยักหน้าเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไรต่อ

เจียงนานหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดโทร ออกไปยังเบอร์ที่โทรมาเมื่อสักครู่………………นเลี้ยงเอง”
เพราะพี่รองจะพา “คนรัก”ไปด้วย หนานกงอี้ก็เลยให้ พนักงานนำพวกเครื่องดื่มรสละมุนมาเสิร์ฟ และยังมีพวกไวน์ ผลไม้อีกด้วย

“ไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งเดือนกว่า พี่รองก็จะพาคนรักมาแล้ว ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ!”

หนานกงอี้ยังไม่รู้ว่า คนรักของพี่รองเป็นใคร

เขามองไปยังมู่จ้านเป่ย แล้วหัวเราะคิกคัก “พี่ใหญ่ พี่ล่ะ? เมื่อ ไหร่จะพาแฟนของพี่มา? พามาตอนนี้ ก็ไม่ต้องกลัวไม่มีคู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ?”

พี่ใหญ่แคร์และใส่ใจผู้หญิงของเขา ทุกคนต่างก็รู้ดี ทว่า เขาแคร์และใส่ใจถึงระดับไหน ไม่มีใครเคยไปคิดเรื่องนี้

แต่ยังไม่ยอมที่จะพามาเปิดตัว คงจะเป็นเพราะยังสำคัญไม่ พอ ไม่เช่นนั้น คงจะพามาและเลี้ยงข้าวเหมือนเจียงนานตั้ง

นานแล้ว!

มู่จ้านเป่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา ลมหายใจและบรรยากาศ รอบตัวของเขานั้นเยือกเย็นมาก

‘กึก’ เสียงหักของก้านของแก้วไวน์ที่อยู่ในมือของเขาดังขึ้น เหตุการณ์นี้ ทำให้หนานกงอี้ตกใจจนเงียบลง
คุฉินเปลี่ยนแก้วใบใหม่ให้เขา หลังจากที่รินไวน์ลงไปในแก้ว จนเต็ม ก็ไม่กล้าที่จะแตะแก้วของเขาอีก ทำเพียงจับแก้วไวน์ ของตัวเองไว้ แล้วลิ้มรสไวน์คนเดียว

หนานกง ไม่เข้าใจ ว่าสองคนนี้หมายความว่าไง?

“เจ้าสี่ หลังจากที่นายไปอาลีข่านกับพี่ใหญ่ กลับมารอบนี้ ทำไมถึงไม่ชอบพูดแล้วล่ะ?”

หนานกงอี้ไม่กล้าแตะต้องหรือพูดกับมู่บ้านเป่ย ทำเพียง เข้าไปใกล้ลู่ฉิน แล้วถามขึ้นด้วยเสียงที่ต่ำว่า “ตอนที่อยู่อา ข่าน เกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นใช่ไหม?”

ลู่ฉินกระแอมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่พูด

หนานกงอี้แค่รู้สึกเบื่อหน่าย โดยปกติสองคนนี้ก็เป็นคนที่พูด น้อยอยู่แล้ว หลังจากที่ได้ข่าวว่าเจียงนานจะพา “คนรักมา เหมือนมันจะหนักกว่าเดิม

ไม่ใช่สิ หลังจากที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้ ก็ไม่พูดอะไรออกมา

อีกเลย

ตั้งแต่ต้นจนจบ มีแค่หนานกงอี้คนเดียวที่พูดคุยอยู่กับตัวเอง

จริงๆเลย ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นคุณชายสามของตระกูล หนานกง ที่ไม่ว่าจะไปไหนทุกคนต่างก็เข้าหาและเอาใจ
แต่พออยู่ตรงนี้ กลับกลายเป็นเหมือนคนไร้ค่าที่ไม่มีใคร

สนใจ

หัวใจที่ปราะราวกับแก้ว เหมือนตกลงบนพื้นแล้วแตกเป็น

เสี่ยงๆ

เขาก็อยากจะแสดงความสุขุมและสูงศักดิ์บ้าง ในเมื่อพวก เขาไม่พูดคุยกัน เขาก็จะไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน

โอเค เขาตัดสินใจทําแบบนี้อย่างมีความสุข!

ทว่า หลังจากนั้นสองนาที คุณชายสามแห่งตระกูลหนานกงที่ ทนความเหงาไม่ได้ก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ เจ้าสี่ พวกนาย รู้ไหมว่าคนรักของ รองเป็นใคร? เคยเห็นไหม?”

ยังคงไม่มีใครสนใจเขา และในวินาทีนั้น บรรยากาศรอบๆ ห้องที่เย็นอยู่แล้วเหมือนยิ่งลดลงไปอีกหลายองศา

มองดูร่างกายและการแผ่รังสีที่เยือกเย็นของมู่จ้านเป่ย ทำให้ หนานกงอ็อดไม่ได้ที่จะหดคอลงเล็กน้อย “เป็นอะไรไป? ทำ เหมือนพี่รองแย่งผู้หญิงของพี่ไปยังไงอย่างงั้นแหละ! ”

ความเย็นชาขนาดนี้ แม้แต่เขายังรับมือไม่ไหว อีกเดี๋ยวถ้าพี่ รองพาผู้หญิงของตัวเองมา คงจะไม่โดนพี่ใหญ่ทำให้ตกใจจน กลัวไปหรอกนะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ