ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่403 ผู้ชายคนนี้ น่าหัวเราะเยาะไหมนะ?



บทที่403 ผู้ชายคนนี้ น่าหัวเราะเยาะไหมนะ?

บทที่403 ผู้ชายคนนี้ น่าหัวเราะเยาะไหมนะ?

“ไม่ใช่ ฉันจะไปคิดว่าพี่จิ้งหย่วนไม่มีคุณสมบัติเพียงพอได้ อย่างไรกัน? ”

กู้อานหยานรับอธิบาย

ว่ากันตามฐานะคุณสมบัติของกู้จิ้งหย่วน การที่ตัวเองได้มา คบหากับเขา ก็คือว่าสูงส่งมากพอแล้ว

แต่ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือ เธอกับกู้ จิ้งหย่วนนั้นไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันเลยแม้แต่น้อย

เรื่องเมื่อครู่นั้น มีคนจงใจใส่ร้ายชัดๆ เลย

เธอคิดถึงคนอื่นไม่ได้เลย นอกจากกู้เวยจือคนเดียว!

แต่ทว่า กู้จิ้งหย่วนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่ถูกวางยาขึ้นมาต่อ หน้าคนมากมายขนาดนี้ เพราะเรื่องนี้มันจะทำให้ครอบครัวยุ่ง วุ่นวายกันเข้าไปใหญ่

ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ มันควรจะแก้ไขอย่างไรกันนะ?

“คุณสมบัติอย่างคุณชายใหญ่กู้ กับคนธรรมดาอย่างเธอ ก็ คือว่ามาไกลมากแล้วนะ”
จู่ๆ เสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นมา

ทุกคนมองไปทางต้นเสียงเป็นตาเดียวกัน คิดไม่ถึงเลยว่า คน ที่พูดคือมู่บ้านเป่ยที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด

คุณชายใหญ่มู่เองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้เหรอ?

กู้เวยจือตกใจอยู่ชั่วครู่ เพราะเธอคิดไม่ถึงเลย เลยได้แต่รู้สึก ตกอกตกใจเซอร์ไพรส์ยกใหญ่!

กู้อานหยานมองเขา จิตใจที่กำลังรู้สึกร้อนรนนั้น ก็กลับรู้สึก เย็นลง ภายใต้แววตาที่ไม่ยินดียินร้ายของเขา

“คุณชายใหญ่มู่เองก็คิดว่าฉันควรจะหมั้นกับพี่จิ้งหย่วนเห

รอ? ”

“เรื่องนี้ ต้องถามความรู้สึกของเธอสองคนมากกว่า จะมาถาม

ฉันทำไมกัน? ”

มู่จ้านเป่ยยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะหยิบแก้วขึ้นมา พลางจิบชาหอม

ไปพลาง

ถึงจะมองเธออีกครั้ง ริมฝีปากก็ยังคงมีรอยยิ้มซ่อนอยู่ดังเดิม

“แต่ว่า คุณชายใหญ่กู้เป็นที่ลงหลักปักฐานที่มั่นคงเสียจริงถ้าเกิดว่าเธอปีนขึ้นมาได้ มันก็ถือเป็นโชคดีของเธอเองนะ

กู้อานหยานกำมือแน่นด้วยสัญชาตญาณ เล็บอันแหลมคม ของเธอ แทบจะจิกลงไปในฝ่ามือของตัวเองเสียแล้ว

แต่ว่าใบหน้าของเธอ กลับดูเย็นยะเยือกมากกว่าเดิม

เธอผลุบสายตาลง ก่อนจะหันไปมองกู้จิ้งหย่วนที่นั่งอยู่ข้างๆ

กู้จิ้งหย่วนยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพูดว่า “พวกคุณอย่าไปบังคับห ยานหยานเลย เรื่องนี้ ฉันจะกลับไปปรึกษากับหยานหายาน…….

“ทําไมต้องกลับไปปรึกษากันด้วยล่ะ? ตอนนี้เลย ตอนที่ทุก

คนยังอยู่นี่แหละ จะได้พูดเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยไม่ดีกว่าเห

รอ? ·

นายท่านใหญ่พูดโพล่งออกมาในตอนนี้ ดูออกอย่างชัดเจน เลยว่ากู้อานหยานไม่ได้เต็มใจขนาดนั้น

แต่ภายในใจของเขา ก็เพียงแต่อยากจะให้กู้อานหยานอยู่ ข้างกายเขา

พูดอีกอย่าง แววตาของหญิงสาวที่มองคุณชายใหญ่มู่นั้น ยัง ดูมีความแปลกประหลาดซ่อนอยู่จริงๆ
แต่ว่าตอนนี้ คุณชายใหญ่มู่ทำดีกับเวยจืออย่างเห็นได้ชัด เธอเป็นน้องสาวของเวยจือ ก็ไม่สามารถชอบชายคนเดียวกัน กับพี่สาวได้หรอก

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป หยานหยานจะต้องเจ็บปวด

“ตาเชื่อในตัวพี่จิ้งหย่วนของเธอนะ ต่อจากนี้จะทำดีกับเธอ อย่างแน่นอน อย่าลังเลหรือกลัวไปเลย”

กู้จิ้งหย่วนไม่ได้พูดอะไรออกไป เขามองแต่กู้อานหยาน พลางยิ้มด้วยความอ่อนโยน

กู้อานหยานมองสายตาของปู้จิ้งหย่วน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เป็นการประชดหรืออะไร ในที่สุดเธอก็จับมือของเขา

กู้จิ้งหย่วนจับมือน้อยๆ ของเธอเอาไว้แน่น

เขายิ้มพลางพูดว่า “ตาอยากจะให้ผมพูดเรื่องนี้ต่อหน้าทุก คนเลยใช่ไหม? พรุ่งนี้ผมจะไปหาที่ห้องหนังสือแล้วค่อยคุย กันได้ไหม?

“แต่ว่า….” นายท่านใหญ่ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ จะให้ดี คืนนี้ ต้องตกลงเรื่องวันหมั้นให้รู้เรื่องไปเลย

ถึงจะเป็นไปตามที่วางเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ
รีบหมั้นแบบนี้ หยานหยานก็จะหนีไปไหนไม่ได้แล้ว!

กู้ชิงเหอพูดเบาๆ ว่า : “พ่อ นี่มันก็ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไร ค่อยพูดพรุ่งนี้เถอะ ให้พวกเด็กๆ ไปพักกันก่อนเถอะ”

“จริงด้วย คุณตา ดึกขนาดนี้แล้ว ยังมาทำอะไรอยู่อีก? เด็กๆ ต้องพักผ่อนนะ? ”

พ่อบ้านติงเองก็พยายามส่งซิกให้เขา

ไม่เห็นเหรอว่ากู้อานหยานอารมณ์ไม่ดีขนาดไหน? ทำไม ท่านถึงไม่สงสารเด็กสาวคนนี้หน่อยนะ?

ไม่ใช่ว่านายท่านใหญ่ไม่รักและเอ็นดู เขาเพียงแต่กลัวว่าจะ พลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไป

แต่ว่า ตอนนี้ทุกคนพูดออกมาแบบนี้แล้ว ถ้าเกิดว่าเขายังดื้อ ดึงต่อไปแบบนี้ เป็นไปได้ว่าจะทำให้หยานหยานลําบากเข้า จริงๆ

“ก็ได้ จิ้งหย่วน พรุ่งนี้แกมาที่ห้องของฉัน ฉันจะคุยเรื่องนี้กับ แกให้รู้เรื่อง ตอนนี้”

เขามองกู้อานหยาน แล้วก็จ้องไปทางกู้จิ้งหย่วน ก่อนจะ พยายามกะพริบตาอย่างสุดกำลัง
“ง้อและดูแลหยานหยานให้ดีๆ นะ อย่าปล่อยให้ผู้หญิงที่ดี ขนาดนี้หนีไปล่ะ”

“เข้าใจแล้ว” กู้จิ้งหย่วนพยักหน้า ก่อนจะลุกขึ้นยืน

แต่ตอนนี้ที่เขาเห็น กลับเป็นเวยจ่อ : “เวยจ่อ ครั้งก่อนเธอ อยากได้ข้อมูลของการบริหารของบริษัทน่ะ ฉันเตรียมเอาไว้ ให้แล้ว ตามฉันมา เดี๋ยวจะได้เอาให้”

“เวยจ่ออยากได้ข้อมูลด้านการบริหาร? ” คำพูดนี้ ไม่เพียง แต่ทำให้นายท่านใหญ่ตกใจ แม้แต่กู้ชิงเหอเองก็ตะลึงไป ตามๆ กัน

กู้จิ้งหย่วนกลับยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพูดว่า “จะช้าหรือเร็ว บริษัทกู้ชื่อกรุ๊ปก็ต้องเป็นของหญิงสาวคนนี้ ให้เธอได้รู้เรื่อง ของบริษัทเอาไว้ก่อน เมื่อไหร่ที่ได้เข้ามาบริหารธุรกิจ จะได้ ไม่ยุ่งจนมือเป็นระวิง”

ถึงแม้ว่าสิ่งที่กู้จิ้งหย่วนพูดจะดูไม่เลวเลย แต่ว่า ตอนนี้ที่นาย ท่านใหญ่มองเขา ก็ดูมีความรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย

เด็กอย่างจิ้งหย่วน เป็นเด็กดีจริงๆ เลย

ตลอดเวลาหลายปีที่อยู่กับเขามา เขาทำทุกอย่างเพื่อบริษัท กู้ซื่อกรุ๊ปอย่างไม่บ่นสักคำ ให้เขาทำอะไร เขาก็ทำตามทุก อย่าง
หลายปีมานี้ ปู้จิ้งหย่วนไม่เคยขออะไรสักอย่างเลย ไม่มีเลย แม้แต่อย่างเดียวจริงๆ

นายท่านใหญ่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า : “ถ้างั้น……. พวกเธอสองคนคุยกันดีๆ ก็แล้วกัน”

“ตา ฉันเริ่มง่วงแล้ว ฉันกลับไปนอนก่อนนะ”

กู้อานหยานเองก็ลุกขึ้นมา หลังจากนายท่านใหญ่พยักหน้า ตอบตกลงแล้ว เธอบอกลากับทุกๆ คน ก่อนจะเดินตรงไปที่ บันไดวน

เธอไม่ได้ชายตามองมู่บ้านเป่ยเลยแม้แต่น้อย

เพราะว่าผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มีค่ามากพอให้เธออาลัยอาวรณ์ ด้วยแล้ว

ไม่คุ้มค่าเลย แม้แต่นิดเดียว

กู้อานหยานเดินไปด้วยก้าวที่มั่นคง ก่อนจะกลับเข้าห้อง สำหรับแขกของตัวเองไป

อันที่จริงก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไม ถึง อยากจะอาบน้ำอีกสักรอบ

บางทีอาจจะรู้สึกว่า เรือนร่างของตัวเองนั้นสกปรกมาก มากเสียจนอธิบายไม่ได้เลยล่ะ

เรือนร่างที่ถูกคุณชายใหญ่มู่แตะต้องมาแล้วนั้น มันจะไม่ สกปรกได้จริงๆ เหรอ?

ถึงจะอาบน้ำจนสะอาดแล้ว ก็ยังสกปรกอยู่ดี

เธอ สกปรกมากเสียจริง

เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ กลับไม่ได้เปิดน้ำอุ่น

เกือบจะข้ามปีแล้ว น้ำเย็นเฉียบจนเข้าไปถึงกระดูก เย็นเสีย จนเธอตัวสั่น จนแทบจะเป็นลมล้มไป

แต่ความเจ็บปวดของใจที่ถูกทิ่มแทงนั้น กลับทำให้เธอยังคง รู้สึกตัวได้ดีอยู่

แต่ความเจ็บปวด มันมีประโยชน์อย่างไรกันแน่นะ?

ของที่ไม่ใช่ของเธอเอง ถึงอย่างไรก็ต้องจากกันอยู่ดี

จะต้องมาเจ็บปวดอะไรอีก?

หลังจากนั้นราวๆ ครึ่งชั่วโมง กู้อานหยานก็ห่มผ้าเช็ดตัว เดิน ออกจากห้องอาบน้ำ
ก้าวของเธอออกจะลอยล่องนิดหน่อย โดยที่ตัวของเธอเอง นั้น ก็ยังคงหนาวจนสั่นไปทั้งตัว!

แต่ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึงเลยนะ เพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นว่าใน ห้องมีเงาร่างสูงเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองเธอด้วยความเย็นชา

กู้อานหยานมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา ก่อนจะรีบกลับเข้าไปในห้อง อาบน้ำ แล้วปิดประตูของห้องอาบน้ำซะ

ความเร็วของชายคนนั้นเร็วกว่าที่เอคิดเอาไว้มากนัก เธอ เพียงแค่ถอยไปได้สองก้าว เขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

เมื่อแขนถูกจับเอาไว้อย่างเต็มแรง กู้อานหยานก็ถูกเขาดึงไป จนทั้งตัวล้มเข้าสู่อ้อมกอดของเขา

เรือนร่างของหญิงที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นหนาวเย็นจับใจ เหมือน กับก้อนน้ำแข็งอะไรแบบนั้น

มู่จ้านเป่ยสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที ด้วยความโกรธเคือง: “เธออาบนํ้าเย็นเหรอ? บ้าไปแล้วหรือไง? ”

กู้อานหยานกลับรู้สึกน่าขำยิ่งนัก

คำพูดของคุณชายใหญ่มู่ มันเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เขาก้าลังเป็นห่วงเธองั้นเหรอ?

หรือว่า มันไม่น่านําหรืออย่างไร?

โดยเฉพาะ ตอนที่เขาดึงเธอเข้าไป ก่อนจะให้นอนลงบนเตียง พลางดึงผ้าห่ม เพื่อห่มให้เธออย่างแน่นหนา

เพราะกลัวว่าเธอจะไม่สบายงั้นเหรอ?

หึ ผู้ชายคนนี้เมื่อกี้เพิ่งจะพยายามผลักให้เธอไปอยู่ในอ้อม กอดของชายอื่น พอตอนนี้ กลับมาทำเป็นห่วงซะอย่างนั้น

ท่าทีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ มาคิดๆ ดูแล้วมันก็เป็นเพียง แค่การแสดงเท่านั้นล่ะ

แสดงกลับไปกลับมาแบบนี้ ไม่เหนื่อยหรือไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ