ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 59 ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน



บทที่ 59 ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน

บทที่ 59 ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน

“ดอกไม้ ….. กู้อานหยานมองดูช่อดอกกุหลาบที่สาวใช้อุ้ม ไว้ ไม่รู้ทำไม จังหวะการเต้นของหัวใจเต้นช้าลง

ในคฤหาสน์ของมู่จ้านเป่ย ทำไมถึงมีของแบบนี้…… …ของที่

แสดงถึงความรักของหนุ่มสาว

หลีเย่รีบพูด “นี่คือดอกกุหลาบที่คุณชายใหญ่เลือกเมื่อคืน เช้านี้เครื่องบินเพิ่งลำเลียงมาถึง

“เขาเป็นคนเลือกเหรอ?” กู้อานหยานอึ้งน้อย ๆ เป็นเรื่องที่ไม่

น่าเชื่อจริง ๆ !

แค่นึกภาพว่ามู่บ้านเป่ยถือโทรศัพท์ แล้วจ้องหน้าจอเลือก กุหลาบ ท่าทางจริงจังในการเลือก…..อุ๊บ! นึกภาพไม่ออกจริง

คุณชายใหญ่มู่จะมาทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้ยังไง?

หลีเย่รีบพูดขึ้น “เมื่อวานคุณชายใหญ่กับคุณผู้หญิงเอ่อ คือ…..เหมือนจะเรื่องขุ่นเคืองกัน ตอนที่คุณชายใหญ่กลับไป……..เพราะว่าโกรธ แต่ว่า เขาก็เย็นลงอย่างรวดเร็วแล้ว

เรื่องเมื่อคืน ไม่ว่าจะว่ายังไง ก็ถือเป็นความผิดของคุณชาย ใหญ่จริง ๆ

และนี่คือคุณชายใหญ่เลือกและซื้อเองกับมือ แต่ว่า ตอนที่ เขามาส่งเมื่อเช้า พวกคุณสองคน…เหมือนจะขุ่นเคืองกันอีก แล้ว คุณชายใหญ่โกรธ ก็เลยให้ผมเอาไปทิ้งครับ

กลัวเธอเข้าใจผิด หลีเย่รีบอธิบายเพิ่ม “คุณชายใหญ่ก็คงจะ โกรธคุณผู้หญิง ก็เลยสั่งให้ผมโยนทิ้ง ผมรีบร้อนออกไป ก็ เลยวางไว้ห้องข้าง ๆ ยังไม่มีเวลาจัดการครับ

กู้อานหยานบอกไม่ถูกว่า ในใจตอนนี้มีความรู้สึกยังไง

จากชาติที่แล้ว จนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยเห็นมู่บ้านเป่ยส่งดอก ไม้ให้ผู้หญิงคนไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเลือกเองกับมือ

ที่แท้ หลังจากสงครามเย็นเมื่อคืนแล้ว เขาก็ยังคิดจะคืนดีกับ

เธอ

ที่เขาให้เธอดื่มนมเมื่อเช้า มาคิด ๆ ดูแล้วก็ไม่ได้ทำเกินไป

อีกมุมกลับกัน ดื่มแล้วก็เป็นผลดีต่อเธอซะอีก
“งั้น คุณหลี ดอกไม้ช่อนี้..

“อย่าทิ้ง!” กู้อานหยานรีบแย้งช่อดอกไม้มาจากมือสาวใช้มา อุ้มไว้

มองดูกุหลาบสีสันสดใสในอ้อมกอก ในใจนั้นปลื้มปริ่ม ไม่ เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลยจริง ๆ

เธอได้รับดอกไม้ที่คุณชายใหญ่มู่ส่งให้จริงเหรอ เจ้าคนเย็น

ชา ผู้ชายที่ตลอดชีวิตยังไม่รู้จักความรัก จะยอมส่งดอกไม้ให้ เธอจริง ๆ เหรอ

ความช้ำใจของชาติที่แล้ว และสิ่งที่คาดไม่ถึงต่าง ๆ ของชาติ นี้ ทำให้เธอขอบตาเริ่มร้อน น้ำตาเกือบจะไหลลงมา

มองดูดอกไม้ในอ้อมกอดตัวเอง ทั้งตัวเหมือนอย่างกับฝัน

สาวใช้อยากจะพูดอะไร หลีเยรีบสะบัดมือ สาวใช้ทำได้แค่

ถอยออกไป

“คุณชายใหญ่อยู่ข้างบน” หลีเย่พูดเตือน

รอตอนที่กู้อานหยานตื่นจากภวังค์ ในห้องโถงก็เหลือตัวเธอคนเดียว ไม่มีใครอื่นแล้ว

มู่บ้านเป่ย…..อยู่ข้างบนเหรอ

สองเท้าของเธอเหมือนไม่ฟังคำสั่ง เดินตรงไปทางขึ้นชั้นบน

มู่บ้านเป่ยอยู่ในห้อนนอน กำลังทำงานอยู่

ตอนที่กู้อานหยานเดินเข้าห้อง สิบนิ้วของเขายังวางอยู่บน แป้นพิมพ์ ไม่รู้กำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่

ประตูเปิดกว้างไว้อยู่แล้ว กู้อานหยานก็เลยเดินเข้าไปเลย

คิดไม่ถึงเพิ่งเข้าไป ก็ได้ยินเสียงเฉยเมยของมู่บ้านเป่ยดังขึ้น “ไม่มีใครเคยสอนเธอ ว่าก่อนเข้าห้องต้องเคาะประตูเหรอ?”

กู้อานหยานยืนอึ้ง จ้องด้านข้างใบหน้าเย็นชาของเขาเขม็ง

เจ้าหมอนี่ หยิ่งยโสน้อยลงหน่อยจะตายหรือไง?

เธอถอนหายใจ แล้วถอยออกไปนอกประตู ยกมือขึ้นแล้วเคาะประตู

มู่จํานเป่ยถึงหันมามองเธอเฉยเมยทีนึง แต่คิดไม่ถึง ว่าจะ

เห็นเธอหอบกุหลาบช่อโตไว้

ทันใดนั้นใบหน้าหล่อเหลาที่เหมือนถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็ง หมื่นปี ก็จะมีรอยร้าวเกิดขึ้น

เรื่องมอบดอกไม้แบบนี้ ยังเป็นเรื่องที่เขาซึ่งมีชีวิตมายี่สิบเจ็ด

ปี ยังไม่เคยทํามาก่อน!

เขาหันหน้ากลับมา แล้วทำตัวเหมือนมองไม่เห็นอะไร แต่น้ำ สียงก็ยังเฉยเมยเช่นเดิม “มาหาฉันมีเรื่องอะไร”

“ไม่มีเรื่องก็มาหานายไม่ได้เหรอ?”

เธอเดินเข้ามา แล้ววางบ่อกุหลาบไว้อีกข้าง แล้วค่อยนั่งลง บนเก้าอี้ จ้องมองแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของเขา

มู่บ้านเป่ยไม่พูดอะไร คล้ายเหมือนไม่ค่อยอยากสนใจเธอ

กู้อานหยานเงียบไปครู่นึง อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้น เดินไปข้างหลังของ

เขา
“ความลับทางธุรกิจของบริษัทซื่อจี้กรุ๊ป ถ้าแพร่งพรายออก ไป อย่างน้อยก็ต้องติดคุกเป็นสิบปี” เขาพูดเสียงเย็น

กู้อานหยานคิ้วขมวด รีบเก็บแววตาที่สงสัยคืนมา ค้อนใส่ ใบหน้าด้านข้างของเขาทีนึง “ไม่เห็นตัวหนังสือแม้แต่ตัว

เดียว!”

จริง ๆ เลย ตอนแรกจะมาคืนดีด้วยแท้ ๆ แต่เขาช่างเย็นชา ขนาดนี้ จนเธอรู้สึกไม่ค่อยกล้าแล้ว

แต่ว่า ถ้ายกธงขาวเร็วขนาดนี้ เหมือนจะไม่ใช้ทางเธอนะ

ที่จริงคิดดูดี ๆ แล้ว นอกจากคุณชายใหญ่มู่จะปกป้องคนที่อยู่ เบื้องหลังแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีต่อเธอเลย

แม้กระทั่ง เขาช่วยเธอโดยที่ไม่ห่วงตัวเองเลย ดูแค่นี้ ก็น่าจะ พอทำให้คนซาบซึ้งจนจะเป็นจะตายอยู่แล้ว

วีรบุรุษช่วยสาวงาม ถ้าเปลี่ยนเป็นสมัยโบราณนี่ต้องใช้ตัว ตอบแทนพระคุณกันเลยนะ

นึกถึงภาพบางอย่างแล้ว ใบหน้าของกู้อานหยานก็เริ่มแดง

ขึ้นมา
เธอรีบรวบรวมสติ แล้วพูดเสียงเบาว่า “เอ่อคือ ฉัน…..อยาก จะบอกนายว่า ขอบคุณนะ

“หือ?” เมื่อกี้ตอนอยู่ในรถก็พูดไปแล้วไม่ใช่?

เธอรู้ คุณชายใหญ่มู่ไม่ชอบคำว่า “ขอบคุณ” สองคำนี้เลย แม้แต่น้อย

เธอกัดริมฝีปาก ลังเลครู่นึง แล้วเปิดปากพูด น้ำเสียงเหมือน จะเบายิ่งกว่าเดิมอีก “ ขอ……โทษ”

“พูดว่าอะไรนะ? ฉันไม่ได้ยิน” นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มยัง วางอยู่ที่แป้นพิมพ์ เป็นภาพที่สวยงามอย่างบอกไม่ถูก

แต่ ท่าทีนี้ดูแล้วช่างเย็นชามาก

กว่ากู้อานหยานจะรวบรวมความกล้าได้อย่างยากลำบาก แล้วมาติด ๆ ขัด ๆ ที่เขา เธอก็เริ่มท้อใจ

เธอถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ฉันพูดว่า…ขอโทษ”

อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย เหมือนเธอกำลังพูดกับอากาศ

ธาตุ
หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที…บกว่าวินาทีผ่านไปเต็ม ๆ เขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เช่นเดิม

จิตใจที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็ไม่อาจต่อต้านความเย็นชาจาก

เขาได้

เธอกัดริมฝีปาก “ไม่มีอะไร ฉันกลับก่อนนะ”

หมุนตัวเสร็จ ก็จะเดินจากไป

แต่ตอนที่เธอกำลังก้าวเดินนั้น อยู่ ๆ ข้อมือก็รู้สึกว่าโดนจับ

แน่น ตัวก็โดนแรงดึงกลับไป

หญิงสาวเกือบตกใจแย่เพราะเขา แค่ชั่วพริบตา เขาก็นำเธอ มาชิดไว้หน้าชั้นหนังสือแล้ว

ทำไมต้องพูดขอโทษ?” เขาก้มหัวลงมา ลมหายใจที่ต่าง จากคนทั่วไปของเขารดลงบนใบหน้าของอานหยาน

ร้อนนิดหน่อย และคัน ๆ ด้วย พูดไม่ออกว่าเป็นความรู้สึกยัง

ไง

กู้อานหยานรู้แค่ว่าเพราะความใกล้ชิดของทั้งสองคนทำให้จิตใจดวงน้อย ๆ ของเธอ เต้นจนจะทะลุออกมาอยู่แล้ว ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ จังหวะเหมือนจะขาดการควบคุม

“หืม?” เสียงของชายหนุ่มเหมือนจะดังอยู่ข้างหู เสียงปีศาจที่ ทำจิตใจมนุษย์มัวเมา ทำให้ทั้งตัวเธอไร้เรี่ยวแรง

“นายพูดว่า ก็ลืมแล้ว …อะไรนะ?” เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไร? แค่ชั่วพริบตา

อยู่ ๆ มู่บ้านเป่ยก็ก้มหัวลงมา กู้อานหยานตกใจรีบหันหน้าหนี

ทำไมเขาเหมือนจะจูบเธอเหรอ? แต่ว่าเมื่อกี้ ยังไม่ยอมสนใจ เธอเลยไม่ใช่เหรอ?

การเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ ทำให้เธอตกใจเกือบตาย

“ฉัน เมื่อคืนฉันไม่ควรทะเลาะกับนาย ที่จริง….. ที่จริงฉันแค่

รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย…….

ไม่ว่าจะพูดยังไง ที่เอาตัวเข้าแลกกับการช่วยชีวิตเธอไว้ทั้ง

สองครั้งก็คือเรื่องจริง
แค่เธอไม่ใช่คนโง่ ก็น่าจะเข้าใจ คุณชายใหญ่ปูไม่ได้คิดร้าย ต่อเธอแม้แต่น้อย แต่กลับ หวังดีกับเธออย่างเหลือล้น

แต่เป็นเพราะความผิดหวังในใจเธอเอง ก็เลยคิดว่าเขาก็มี ส่วนร่วมในการวางแผนทำร้ายเธอด้วย

ในตอนที่เขาเป็นฝ่ายอยากเข้ามาคุยกันเธอก่อนเมื่อคืน เธอ ก็ยังโกรธจนพูดทำร้ายจิตใจเขาไปด้วย

ถ้าเขาเป็นคนวางแผนจริง ๆ หล่ะก็ ทำไมต้องออกไปตามหา คนเป็นเพื่อนเธอด้วย? ทั้ง ๆ ที่ต้องเสี่ยงว่างานหมั้นอาจถูก

ยกเลิกได้ตลอดเวลา

งานหมั้นของตระกูลมู่ ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ในเมืองเป่ยหลิง

ไม่ใช่ว่าจะยกเลิกได้ตามใจชอบ

ถ้างานหมั้นนึงจะจัดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าซ้ำ ๆ งั้นชื่อเสียงขอ งบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปที่สั่งสมมานานหลายปี ก็เสียหายได้อย่าง

ง่ายดาย

เขาเป็นถึงตระกูลมู่คุณชายใหญ่ ไม่คิดถึงจุดนี้คงจะไม่ได้

หรอก

ไม่ว่ายัง มู่บ้านเป่ยก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก
คนทุกล้วนมีความลับที่เปิดเผยไม่ได้ทั้งนั้น เขาจะปกป้องคน คนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะคิดไม่ดีต่อเธอ

“ฉัน……

“ฉันก็มีส่วนผิด” คุณชายใหญ่มู่พูดเสียงเรียบ แต่ว่าไม่เคยมี

ครั้งไหนที่จะอ่อนโยนเหมือนวินาทีนี้

“มีเรื่องบางเรื่องที่ฉันพูดไม่ได้ แต่ว่า ฉันรับรองได้ว่า ฉันไม่

เคยคิดจะทําร้ายเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ