ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่405 เธอ เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ของคุณ



บทที่405 เธอ เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ของคุณ

บทที่405 เธอ เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ของคุณ

กู้จิ้งหย่วนไปที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า

แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงเลย ว่าเพิ่งจะเอาของส่งไปตรวจ ก็ได้เจอ กับคนที่คุ้นเคยที่หน้าห้องตรวจนั้น

กู้เวยจือ

“พี่ชาย ทำไมถึงมาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้าขนาดนี้ล่ะ มีเรื่อง อะไรหรือเปล่า?

กู้เวยจ่อยิ้มด้วยความอ่อนโยน

กู้จิ้งหย่วนกลับหรี่ตาลง เพราะอ่านความคิดของเธอในตอนนี้

ไม่ออก

“ฉันไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ เลยมาตรวจสักหน่อย” เขาพูด เบาๆ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าที่เคยมี กลับไม่เหลืออยู่เลย

กู้เวยจือยังคงยิ้มอย่างสง่างามอยู่ : “พี่ ที่จะตรวจน่ะ คง ไม่ใช่ร่างกายตัวเองใช่ไหมล่ะ?”

“เวยจือ อยากจะพูดอะไรกันแน่น่ะ? ” เวลาของทุกคนนั้นมี ค่ามาก ดังนั้น เลยไม่จำเป็นจะต้องเดาแบบนี้อีกต่อไป
เขาเพียงแต่คิดไม่ถึง ที่ตัวเองจะถูกกู้เวยจือตามติดมา เขาก็

ไม่รู้

“พี่ชาย ไม่ต้องสงสัยในความหวาดระแวงของตัวเองหรอก ฉันไม่ได้ตามพี่มาที่นี่

กู้เวยจ่อมองเพียงแวบเดียวก็อ่านใจของเขาออก: “ฉันแค่ คิดเฉยๆ ว่าพี่จะมาที่นี่”

“อยากจะพูดอะไรกันแน่? ” กู้จิ้งหย่วนไม่เหลือความอดทน อีกต่อไปแล้ว

“พี่ชาย พี่ไม่ได้เป็นห่วงและรักฉันมาตลอด และอ่อนโยนกับ ฉันมากที่สุดเหรอ? ทำไมพอกู้อานหยานมาเท่านั้น พี่ก็รุนแรง และไม่มีความอดทนกับฉันแบบนี้? ”

กู้เวยจือกลับไม่ได้รู้สึกร้อนรนอะไรเลย ถึงอย่างไร เขาก็ต้อง รอผลที่นี่อยู่แล้ว อันที่จริง เขาร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

“ผลการตรวจดีเอ็นเอของพี่ เกรงว่าจะต้องรอถึงสี่ชั่วโมงผล ถึงจะออกมา”

ผลตรวจดีเอ็นเอที่เธอพูดออกมาจากปาก เรื่องนี้ คงไม่มีอะไร

ต้องปกปิดกันแล้ว

กู้จิ้งหย่วนมีสีหน้าหนักใจมากขึ้น
กู้เวยจือกลับยิ้มเยาะอย่างมีความสุข: “พี่ชาย ข้างล่างมี

ร้านกาแฟอยู่ เราลงไปคุยพลางรอผลกันดีกว่าไหม? ”

“ฉันต้องอยู่ที่นี่” เพื่อป้องกันเอาไว้ เพราะหากบางทีอาจจะมี คนของเธอมาทำอะไรได้

“หึ พี่ชาย ความหวาดระแวงของพี่มันมากจริงๆ เลยนะ แล้ว ต่อไปพวกเราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร?”

กู้เวยจือทัดผมข้างหูขึ้น รอยยิ้มนั้น มันเต็มไปด้วยอารมณ์ และเสน่ห์หลากหลายเหลือเกิน

“ถ้าเกิดว่าฉันจะลงมือทำอะไรจริงๆ ครั้งหน้าพี่ก็หลบๆ หน่อย เปลี่ยนที่ตรวจไป แล้วฉันจะกันได้อีกนานแค่ไหนล่ะ? ”

เมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่รู้สึกอะไร รอยยิ้มที่มุมปากของเธอก็ จางหายไป ก่อนจะจ้องมองเขาเบาๆ : “กู้อานหยานบอกพี่ ว่า ฉันไม่ใช่ลูกสาวของซางชิงใช่ไหม? ”

“แต่ว่ากู้อานหยานไม่ได้บอกว่าเธอเองที่เป็นลูกสาวใช่ไหม ล่ะ? ”

นี่เป็นเรื่องที่ กู้เวยจือมองไม่ออก มาตลอดทั้งคืน

ถึงเขาจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกู้อานหยานกับซางชิง แต่ทำไมเมื่ออยู่ต่อหน้านายท่านใหญ่ ถึงได้ยอมรับเรื่องที่กู้อานหยานกับเขาอยู่ด้วยกันบนเตียง ได้อย่างง่ายดายขนาด นี้ แถมยังทำให้คนอื่นคล้อยตามไปด้วยได้อย่างแยบยลกัน นะ?

ยังมีเรื่องบางเรื่องที่เขา ยังไม่รู้ความจริงอีกใช่ไหม?

“อยากจะพูดอะไร ก็พูดออกมาให้ชัดเจนไปเลย ไม่ดีกว่าเห

รอ”

เธอพูดไม่มีผิดเลย ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะขัดขวางเขา แต่หลังจาก นี้ เพียงแค่เธอคนนั้นยังอยู่ในบ้าน เขาก็จะมีโอกาสอีกมาก ที่ จะให้เธอกับนายท่านใหญ่มาตรวจดีเอ็นเอ

ถ้าเกิดว่าเธอไม่ใช่หลานของคุณตา ความลับนี้ ถ้าเกิดเขา สงสัยขึ้นมา เธอก็คงจะเก็บซ่อนความลับนี้ต่อไปไม่ไหว

นอกเสียจาก ฆ่าปิดปากเขาซะ

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ กู้จิ้งหย่วนกลับรู้สึกโล่งใจและปลด ปล่อยเลยอย่างนั้น

“ที่นี่คือหลิงโจว เธอคิดว่า เธอจะทําอะไรฉันได้งั้นเหรอ? ”

“แน่นอนว่าฉันทำอะไรไม่ได้ พี่เป็นคุณชายใหญ่กู้ หลิงโจว เป็นเหมือนถิ่นของพี่ ฉันเป็นแค่หญิงอ่อนแอ พี่คงไม่กลัวหรอก ใช่ไหมล่ะ? ”
“อยากจะไปคุยกันตรงไหน? ” เธอสามารถมาหาตัวเองได้ นั่นก็หมายความว่าได้เตรียมตัวเอาไว้แล้ว

ถ้ามีเรื่องที่อยากจะคุยด้วย ก็คุยให้มันชัดเจนไปเลยเสียจะดี กว่า จะได้ไม่เสียเวลาของทุกคนด้วย

“ถ้าเกิดว่าไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน ขึ้นรถฉันไปดีกว่า”

…รถของกูเวยจือ เหมือนกับรถของกู้จิ้งหย่วน ทั้งสองคัน จอดอยู่ในลานจอดรถด้านล่างของโรงพยาบาล

เธอไม่ได้พาบอดี้การ์ดมาด้วย ตอนที่กู้จิ้งหย่วนขึ้นรถไป ก็ได้แอบมองดูบริเวณรอบๆ แล้ว

ไม่ได้มีกลิ่นอะไรแปลกๆ และก็ไม่ได้มีความอันตรายอะไร ใดๆ ด้วย

“หึ , พี่ชาย พระแวงมากขนาดนี้ ฉันอยู่กับพี่ลำบากนะ!”

“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว” วันนี้กู้เวยจือตามมาหาเขาที่นี่ได้ มันก็ ชัดเจนแล้ว ว่าเธอไม่ใช่หลานสาวแท้ๆ ของคุณตาจริงๆ

เขาไม่ได้มีความอดทนอะไรมากมาย กับคนหลอกลวงแบบนี้ เสน่ห์ของเธอนั้นมันหมดไปแล้ว เมื่อเขามอง ก็เห็นแต่ความหลอกลวงจอมปลอม มันทำให้รู้สึกขยะแขยงได้เลยทีเดียว

“พี่ชาย พี่มีอคติ ใจของพี่เอนเอียงไปทางกู้อานหยานหมด แล้ว”

กู้เวยฉือยังไม่ทันจะพูดจบ มือของปู้จิ้งหย่วนก็จับไปที่ที่จับ ของประตูรถ

ถ้ายังพูดอะไรที่ไร้สาระต่อไป ทำไมเขาต้องเสียเวลาไป

ด้วย?

“กู้จิ้งหย่วน ฉันไม่ใช่หลานของนายท่านใหญ่”

กู้เวยจือมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา พลางจ้องใบหน้าด้านข้างที่เต็ม ไปด้วยความเย็นชา

“พี่เชื่อกู้อานหยานไปแล้ว ถ้าอย่างนั้น ฉันก็ไม่มีอะไรที่จะไม่

ยอมรับแล้ว”

นิ้วของกู้จิ้งหย่วนแข็งทื่อ เขาหันกลับไปมองเธอ ก่อนจะหรี่ ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา

“ในที่สุดเธอก็ยอมรับแล้วเหรอ?”

“พี่เอาเส้นผมของฉันกับของท่านไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว ถึง แม้ว่าฉันจะไม่อยากยอมรับ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
เวยจ่อบ่นพึมนําด้วยความเย็นชา

ทำไมผู้ชายทุกคน จะต้องเทใจไปให้ผู้หญิงหมดด้วยนะ?

กู้อานหยานมีอะไรดีกันแน่นะ? ถึงมีคุณค่าเพียงพอที่จะ ทําให้พวกเขาทุกคนเชื่อ?

ยังดี ที่คุณชายใหญ่มู่ตอนนี้ ยอมรับเธอไปแล้ว เพราะว่าเธอ อยู่ในฐานะหลานของตระกูลกู้

กู้เวยจือยังไม่ได้หลับหูหลับตามั่นใจขนาดนั้น

ตอนนี้มู่จ้านเป่ยดีกับเธอ เธอเชื่อ ว่าจะต้องมีครึ่งหนึ่งของ เหตุผล นั่นก็เพราะว่าเขาเบื่อกู้อานหยานแล้ว

ส่วนอีกครึ่ง เป็นเพราะว่าฐานะของเธอในตอนนี้ รวมถึงเบื้อง

ลึกเบื้องหลังของตัวตนเธอ ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยสนใจเธอเลย ไม่ เคยชายตามองเลยด้วยซ้ำ

แต่ว่าตอนนี้ กลับเต็มใจให้เธอเข้าใกล้?

แต่ว่า เธอไม่ได้รู้สึกแย่เลย

คนฉลาดหลักแหลมและมีเหตุผลอย่างคุณชายใหญ่มู่ มาชอบคนฐานะอย่างเธอ หรือมาชอบตัวเธอเองนั้น สำหรับเธอก็ ถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกัน

ถึงอย่างไร แค่ชอบเธอก็พอแล้ว

“กู้จิ้งหย่วน ฉันไม่ใช่หลานแท้ๆ ของคุณตาคุณก็จริง แต่ว่า ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงได้โง่ขนาดนี้ เมื่อคืน ทำไมถึงได้ ยอมรับเรื่องของกู้อานหยาน ต่อหน้าทุกคนแบบนี้?”

ผู้ชายคนนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่

นะ?

หรือว่าเขาไม่รู้เลย ว่ากู้อานหยานเป็นหลานสาวแท้ๆ ของ นายท่านใหญ่ ถ้าอย่างนั้นพวกเขา ก็ต้องเป็นพี่น้องแท้ๆ กันน่ะ

ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้ถูกเปิดโปง คนแก่แบบท่านนั้นจะไม่โกรธ ตายก็คงจะแปลก

“หมายความว่าอะไรกันแน่? ” กู้จิ้งหย่วนแอบคิดว่า เรื่องนี้มัน ไม่ง่ายเหมือนที่ตัวเองคิดเลย

กู้อานหยานบอกแล้ว ว่าเธอเคยตรวจดีเอ็นเอแล้ว ว่าตัวเอง ไม่ใช่หลานสาวของคุณตา

ถ้าอย่างนั้น เขาแต่งงานกับหญิงสาวคนอื่นมันจะเป็นอย่างไร ต่อไป?
ตอนนี้คุณตายังคงร้อนใจเป็นอย่างมาก รอให้เรื่องมันซาลง ค่อยบอกว่าตัวเองเลิกกับกู้อานหยานไปแล้ว เขาก็จะไม่ทุกข์ ใจขนาดนั้น

แต่ว่า แววตาของกูเวยจือในวันนี้ กลับทำให้เขารู้สึกไม่ สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

มีเรื่องอะไร ที่กู้อานหยานเองก็เข้าใจผิดไปหรือเปล่า?

กู้เวยจ่อยิ้ม ก่อนจะหันมามองเขา พลางบอกคําตอบนั้น ให้ เขาฟัง

“พี่กับน้องสาวของพี่อยู่บนเตียงด้วยกัน แถมตระกูลกู้ทุกคน ยังเห็นอีก ที่แท้ ก็คิดว่า เรื่องแบบนี้ มันไม่หนักหนาอะไรเลย เหรอ? ”

หึ ผู้ชายคนนี้ โง่หรือเปล่าเนี่ย?

“เธอพูดอะไรน่ะ? ” กู้จิ้งหย่วนกำมือแน่น

“ในตอนแรกที่ตรวจดีเอ็นเอกับนายท่านใหญ่ หรือว่า ไม่ใช่ ว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันกับนายท่าน ใหญ่ไม่ใช่เหรอ?

เธอหัวเราะแทบบ้า : “เลือดตัวอย่างที่ส่งไปตรวจพร้อมกับ นายท่านใหญ่ เป็นของกู้อานหยาน นั่นก็หมายความว่ากู้อานห ยาน เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ไงล่ะ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ