ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่339 ครั้งนี้เขาจริงจัง



บทที่339 ครั้งนี้เขาจริงจัง

บทที่339 ครั้งนี้เขาจริงจัง

เจียงนานคิดว่า ถ้าอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน ถึงแม้พี่ใหญ่จะ รับไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อย ก็จะไม่โมโหขนาดนั้นแล้ว

ถึงแม้ว่าความหมายของกู้อานหยานคือ ไม่อยากกลับไปหามู่

จ้านเป่ย

ที่จริงเขาเข้าใจความกังวลของกู้อานหยาน เธอไม่อยากให้ เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำ เรื่องที่ชีวิตของมู่จ้านเป่ยเสี่ยงอยู่ใน อันตรายตลอดเวลาเพื่อเธอ

เขามองไปยังมู่บ้านเป่ย แล้วพูดขึ้นอย่างจริงใจว่า “ที่จริงแล้ว คนที่เธอชอบมาโดยตลอดก็คือพี่ ถึงแม้จะตอบตกลงที่จะอยู่ กับผม แต่คนที่อยู่ในใจของเธอนั้น ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”

“พี่ใหญ่ เธอพูดกับตัวเองตลอดว่า เธอนั้นไม่เหมาะสมและ คู่ควรที่จะยืนอยู่เคียงข้างพี่ พี่ทำเพื่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า จน เกือบเอาชีวิตไปทิ้ง ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอจะกล้า กลับไปอยู่เคียงข้างพี่ได้อย่างไร?”

“เรื่องเดียวที่เธอทําได้คือ การอยู่ห่างจากพี่ นอกจากนี้ เธอก็ ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว ที่จะทำให้พี่อยู่ห่างจากอันตรายได้”
มู่บ้านเป่ยสูบบุหรี่อยู่ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ มองดูแววตาของ เขา ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเพราะคำพูดของเขาเลย

เจียงนานดูไม่ออกเลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เขาไม่ใช่พี่ใหญ่คนก่อนแล้ว เขาเยือกเย็นและสุขุมกว่าเมื่อ ก่อน และเข้าหายากกว่าเดิม!

“พูดจบหรือยัง?”มู่บ้านเป่ยสะบัดเถ้าบุหรี่ จากนั้นก็เผยรอย ยิ้มที่คาดเดาไม่ได้ออกมา ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกไม่สบายใจ

“พี่…….ไม่เชื่อ?”สีหน้าของเจียงนานหมองลง จากนั้นก็รู้สึก โกรธขึ้นมา! “ถ้าพี่ไม่เชื่อ ก็ไปตรวจประวัติที่โรงพยาบาล ได้! ว่าเธอตั้งใจเอาเด็กออก หรือแท้งเพราะอุบัติเหตุ ที่โรง พยาบาลมีประวัติบันทึกไว้อย่างชัดเจนเลย

สายตาของลู่ฉินและหนานกงอี้มองไปยังมู่บ้านเป่ย ถ้าเรื่องนี้ เป็นเพียงแค่การเข้าใจ……….

ทว่า พี่รองเป็นอะไรไปอีก? ท่าทางในตอนนี้ การแสดง อารมณ์โมโหเพื่อผู้หญิงนั้นไม่ใช่นิสัยของเขา!

เขามีความรู้สึกที่ดีต่อกู้อานหยานมันลึกซึ้งถึงเพียงนี้เลย!
ยิ่งเขาก้มหัวให้เธอมากเท่าไหร่ ลู่ฉินและหนานกงอี้ยิ่งไม่

สบายใจ

ผู้หญิงคนหนึ่งกับผู้ชายสองคน รักสามเศร้าแบบนี้ ไม่ว่าจะ

จบแบบไหน ก็ไม่มีทางสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่หรือพี่รอง ก็ไม่เคยชอบหรือสนใจใคร

ง่ายๆ

แต่ถ้าชอบแล้ว อยากจะเอาความรู้สึกนั้นกลับมา มันยากมาก

มู่จ้านเป่ยนำก้นบุหรี่ไปเขี่ยทิ้ง จากนั้นก็ยกแล้วขึ้นมาดื่มไวน์

เขาไม่ได้มองเจียงนาน แววตาเฉยเมยและเย็นยิ่งกว่าสายน้ำ ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น

“ด้วยความสามารถของคุณชายรองเจียงอย่างนายแล้ว แค่ แก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาล มันจะยากแค่ไหนเชียว?”

“พี่ใหญ่!”เจียงนานโมโหขึ้นมาทันที มู่บ้านเป่ยไม่เชื่อกู้อานห ยาน และไม่เชื่อเขา!

มู่บ้านเป่ยไม่อยากจะมองเขาไปมากกว่านี้ เขย่ามือที่ถือแก้ว ไวน์ไว้เล็กน้อย จากนั้น เขาก็ยกขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นมาจากโซฟา จากนั้นก็เดินออกไปทาง

ประตู

“พี่ใหญ่ ไป…แบบนี้เลยเหรอ?”หนานกงอี้ก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน เขายังไม่ค่อยเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

เป็นเพื่อนกันมาหลายปี ทะเลาะกันถึงเพียงนี้เพราะผู้หญิงคน

เดียว

ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นฆ่าแกงกันก็ตาม แม้ว่าตอนนี้พี่ใหญ่จะโกรธ มาก แต่ว่าหากเกิดเรื่องกับพี่รอง พี่ใหญ่ก็ยังคงเข้ามาช่วย อยู่ดี

แต่ช่องว่างระหว่างมิตรภาพของพวกเขานั้น เมื่อเทียบกันแล้ว ก็จะไม่มีความสุขและสบายใจเท่าเมื่อก่อนแล้ว

“ไปล่ะ”มู่จ้านเป่ยจุดบุหรี่ม้วนสุดท้ายให้ตัวเอง เมื่อเดินไปถึง ประตู ก็หันกลับมามองเจียงนาน

ทันใดนั้นเขาก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ถ้านายรับได้ที่ผู้หญิง ของตัวเองได้ไปนอนกับชายอื่นบ่อยๆ งั้นนายก็คบกับเธอต่อ เถอะ”

“มู่จ้านเป่ย!

เจียงนานใช้แรงผลักลู่ฉินออก ทว่า ลู่ฉินยังคงมาขวางอยู่ตรง หน้าเขา ไม่มีโอกาสให้เขาทำอะไร มู่จ้านเป่ยได้
เจียงนานกำหมัดแน่น แล้วพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “อย่า มากเกินไป!”

“มากเกินไปอะไร?”มู่จ้านเป่ยหัวเราะออกมา รู้สึกได้ถึงความ เยือกเย็นที่เย็นเข้าไปถึงกระดูก “ฉันแค่ ยังเล่นไม่เบื่อเท่านั้น เอง”

ประตูห้องถูกเปิดออก หลังจากที่แผ่นหลังที่เย็นชานั้นเดิน ออกไป ภายในห้อง ก็ตกอยู่ในความสิ้นหวัง

เจียงนานมองไปยังลู่ฉิน แววตาที่เยือกเย็นของลู่ฉินนั้นก็หาย

ไป

“อย่าไปมีเรื่องกับพี่ใหญ่เลย ครั้งนี้…เขาจริงจัง”

เรื่องของความรู้สึกนั้น ลู่ฉินไม่เข้าใจ แต่ดูจากการกระทำ ของพี่ใหญ่ในตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้เขา เข้าใจเหตุผลหนึ่ง

นั่นก็คือ การที่ให้พี่ใหญ่ยอมแพ้และปล่อยกู้อานหยานไป นั่น ก็เท่ากับว่าให้พี่ใหญ่ยอมแพ้และทิ้งชีวิตของตัวเอง

ไม่ว่าจะรัก หรือเกลียด ก็เพื่อผู้หญิงคนนั้น

ให้ปล่อยมือ จะเป็นไปได้ไง?
“หลบไป”เจียงนานไม่อยากลงมือ ทว่า คำพูดของมู่บ้านเปีย ในเมื่อสักครู่ ทำให้เขาหวาดกลัวขึ้นมาทันที

เขาพูดว่า เขายังเล่นไม่เบื่อ

ลู่ฉินก็เหมือนคิดอะไรออก ท้ายที่สุด ก็หลบทางให้เขา

ร่างสูงโปร่งของเจียงนาน หายไปจากประตูห้องทันที

ภายในห้อง เหลือเพียงหนานกงอี้กับลู่ฉินสองคน

แม้แต่คนที่ชอบพูดอย่างหนานกงอี้ ในเวลานี้ ใบหน้าของเขา ก็มืดมนลงเช่นกัน

“จะดื่มต่อ หรือแยกทางใครทางมัน?”เขาถามขึ้น และไม่รู้ว่า กำลังถามลู่ฉิน หรือถามตัวเอง

ลู่ฉินกลับไปนั่งลงที่โซฟา แล้วหยิบขวดไวน์ที่ตัวเองยังดื่มไม่ หมด กระดกเข้าไปต่อ

เมื่อก่อนนั้น ทั้งสี่คนอยู่ด้วยกัน แม้จะไม่พูดคุยกัน แต่ บรรยากาศก็ยังเป็นไปอย่างคึกคัก

ตอนนี้ ทุกคนพูดคุยกันแล้ว ทว่า ทุกคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่ กําลังทําร้ายอีกคน
มิตรภาพที่ผ่านมา ยังสามารถกลับไปเป็นดั่งเดิมในสักวัน

ไหม?

กู้อานหยานรู้สึกว่าตัวเองนั้นสิ้นหวังแล้วจริงๆ

เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอหนีเขาไม่ได้สักครั้งเลย!

ครั้งนี้ไม่ใช่ฉินอี้ เธอเปลี่ยนไปเป็นคนที่เก่งกว่า ทว่า คนเก่ง ยังไงก็คือคนเก่ง

ยังไม่ทันเดินออกจากKTV ก็ถูกคนพาออกไปทางประตูหลัง แล้วพาขึ้นไปในรถ

ในรถของมู่บ้านเป่ย ในนี้มีกลิ่นยาสูบที่เขาชอบ

และในไม่นาน ประตูรถก็ถูกเปิดออก ร่างสูงที่น่ากลัวนั้น ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

“นายคิดจะทำอะไรกันแน่? ปล่อยฉันนะ!”

ไม่ต่างอะไรมากมายจากครั้งที่แล้วเลย มือของเธอถูกมัดไว้

เหนือศีรษะ

การออกแบบที่หรูหราของรถคันนี้ เหมือนกับกรงลวดสีทองที่ถูกสร้างขึ้น ประณีต หรูหรา แต่เย็นจนน่ากลัว

“ฉันเคยบอกแล้ว ว่าฉันยังเล่นไม่เบื่อ ทำไมต้องปล่อยล่ะ?”

มู่จ้านเป่ยปิดประตูรถแล้วเข้ามานั่งข้างๆตัวเธอ

เหตุการณ์แต่ละฉากที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ค่อยๆกลับเข้ามาใน สมองอีกครั้ง

กู้อานหยานตกใจจนตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ในตอนที่นิ้วยาว ของเขาจับไปยังกระโปรงของเธอ เธอทั้งกังวลและโมโห จาก นั้นก็พูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “ฉันกำลังจะหมั้นกับเจียงนาน แล้ว! ถ้านายไม่รังเกียจร่างกายที่คนอื่นเคยสัมผัส! ”

“หึ ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันกินไม่เลือกแล้ว เธอไม่รู้เหรอ?”

มู่จ้านเป่ยก้มหน้าลง ในดวงตาสีดำนั้น มีแสงที่ทำให้เธอรู้สึก ถึงความมันเวาแปลกๆ

แสงแบบนั้น ราวกับหมาป่าที่ซุ่มซ่อนอยู่ในยามค่ำคืน!

ตัวของเธอสั่นขึ้นมาอย่างไม่สามารถหยุดได้ ดวงตาก็มองดู เขาที่กำลังปลดกระดุมของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้

“ทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้?”กู้อานหยานสำลักอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองหลั่งน้ำตาต่อหน้าเขาแม้แต่หยดเดียว

มู่จ้านเป่ยไม่ได้ตอบคำถามของเธอ ราวกับว่า คำพูดของเธอ นั้นไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขา

ลมหายใจเย็นๆกระทบกับตัวของเธอ ทำให้ร่างเพรียวบาง ของเธอนั้นสั่นมากยิ่งขึ้น

แววตาที่ราวกับเหยี่ยวของมู่บ้านเป่ยจ้องไปยังตัวของเธอ มือ เรียวยาวเลื่อนลงไปจับเข็มขัดของตัวเองแล้วปลดออก…….……….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ