ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่81 เสื้อผ้า ฉันเป็นคนฉีกขาดเอง



บทที่81 เสื้อผ้า ฉันเป็นคนฉีกขาดเอง

บทที่81 เสื้อผ้า ฉันเป็นคนฉีกขาดเอง

มีสายตาเย็นเฉียบคู่หนึ่งฉุดเธอให้ตื่นกลับมาจากฝันโดยตรง

ขนตายาวของอานหยานเริ่มขยับแล้ว ตอนที่เธอลืมตาขึ้น มา ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติของมู่บ้านเปียก็ปรากฏในสายตา

เธอ

เธอกะพริบตาปริบ ๆ เหมือนสติยังกลับมาไม่ครบถ้วน

ทั้งคืนที่ผ่านมา ในฝันเต็มไปด้วยผู้ชายคนนี้ ใบหน้าแบบนี้

จนถึงตอนนี้ยังอยู่ในฝันอีกเหรอ?

เธอลองยื่นมือออกไป อยากจะสัมผัสใบหน้าของเขาดู

แต่คิดไม่ถึงว่า ปลายนิ้วมือของเธอยังไม่ทันได้แตะปลาย

จมูกของเขา มือของเธอก็โดนคนจับไว้ซะก่อน แล้วโดนกดลง

มาบนหัวข้างหนึ่งของเธอ

“คุณชายใหญ่..
“ใครอนุญาตให้เธอมานอนบนเตียงฉัน?” มู่บ้านเป่ยหรี่ตาลง

ทุกครั้งตอนที่เขาหรี่ตามอง แววตาแบบนั้นเป็นแววตาที่ดู อันตรายเป็นพิเศษ และทำให้คนไม่กล้าสบตาตรง ๆ ด้วย

แค่ชั่วข้ามคืน คิดไม่ถึงว่าเขาจะเปลี่ยนไปเย็นชาได้มากกว่า

ตั้งแต่เริ่มแรกซะอีก!

สายตาในฝันคู่นั้นที่ทำให้คนอบอุ่น ในที่สุดก็เย็นชาลงไปต่อ

หน้าต่อตาเธอ

กู้อานหยานเม้มปาก แล้วผลักเขาออกเบา ๆ ที่หนึ่ง “คุณชาย

ใหญ่มู่ เมื่อคืนคุณไม่สบาย ฉันก็แค่อยากจะดูแลคุณ

“จําเป็นต้องดูแลกันถึงบนเตียงเลยเหรอ?” มู่บ้านเป่ยก้มหัว

ลง สายตาเคลื่อนผ่านตัวเธอไป

กู้อานหยานเพิ่งรู้สึกตัวว่า บนตัวเธอเหมือนจะโล่ง ๆ ยังไงก็

ไม่รู้

พอก้มหัวลงมอง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าตัวเองยุ่งเหยิงไม่เรียบร้อย!
กระโปรงโดนฉีกขาดหลายที่ หลุดลุ่ยห้อยอยู่บนตัว เกือบจะ

ไม่สามารถปิดบังอะไรได้เลย

เธอตกใจจนรีบเอามือมาปิดหน้าอกของตัวเองไว้ แต่กลับบัง

อะไรได้ไม่มากเท่าไหร่

“ไม่ใช่ค่ะ..

“เธออยากจะบอกฉันว่า ฉันเป็นคนฉีกเสื้อผ้าเธอเหรอ?” สายตาเย็นชาของเขากระดกขึ้น

อาบหยาบอยากจะเอาหมอนฟาดไปที่หัวเขาแรง ๆ จริง ๆ พอสว่างเมาแล้วก็จำอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วก็จะสามารถผลัก ความรับผิดชอบออกไปได้อย่างหมดสิ้นเหรอ?

“ไม่ใช่ฉันเป็นคนนึกเองค่ะ” เธอขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเขา แล้วเธอก็ลองขัดขืนดูสักหน่อย

“คุณชายใหญ่ เคียงของคุณสูงส่งเกินไป ฉันนอนไม่ไหว หรอกค่ะ ช่วยปล่อยฉันให้ฉันลุกขึ้นดีไหมคะ?”

ปีนขึ้นเตียงของฉันจานเบียแล้ว ก็คิดจะหนีไปแบบนี้เห รอ?” สีหน้าของเขาขรึมลง คิ้วขมวดคับแน่นขึ้น
เธอมีความรู้สึกเหมือนอยากจะถามสวรรค์แต่ไร้คำพูด

อยากจะทำอะไรกันแน่?

อยู่ต่อก็หาว่าเธอปืนขึ้นเตียงมายั่วยวนเขา พอจะจากไปก็ หาว่าเธอไม่มีความรับผิดชอบ นี่มันคือจังหวะที่จะบีบคั้นคนให้

ตายเหรอ!

“คุณชายใหญ่ ฉันไม่ได้จะคิดประสงค์ร้ายกับคุณจริง ๆ ถ้า ไม่เชื่อคุณถามเย่หานกับหลีเย่ได้เลยค่ะ เมื่อคืนคุณไม่สบาย พวกเขาทั้งสองคนต่างก็อยู่ด้วย

พอดีหลีเย่ที่เดินมาถึงประตูรีบหมุนตัว แล้วก็หนีไปอย่างไม่

คิดชีวิต

กู้อานหยานเพิ่งเห็นเงาร่าง ๆ ของเขาที่วิ่งหนีไป ตอนนี้ได้แต่ จ้องมองประตูที่ว่างเปล่าอย่างตาค้าง

เจ้าชั่วนี่ เป็นพยานให้เธอหน่อยจะตายหรือยังไง?

ในช่วงที่กำลังต้องการเขาแบบนี้ เขาก็มาหนีไปดื้อ ๆ แบบนี้ เลยเหรอ?

“เธอต้องการผู้ชายขนาดนี้เลยเหรอ?” คำพูดของมู่บ้านเป่ย วันนี้ฟังคลอนช่างน่าเกลียด
หลังจากกู้อานหยานคิดทบทวนดี ๆ แล้ว ก็คิดไม่ตกว่าทำไม เขาถึงต้องปฏิบัติต่อเธออย่างนี้

เมื่อก่อนถึงแม้จะไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ไม่คิด

ร้ายแบบนี้นะ?

แต่วันนี้ทำไมความคิดชั่วร้าย ๆ กลับเต็มไปหมด

มือข้างหนึ่งของเธอยังจับเสื้อผ้าไว้ กระโปรงโดนเขาฉีกขาด ขนาดนี้ ถ้าไม่จับไว้แน่น ๆ ก็จะหลุดออกได้ทุกเมื่อ

“คุณชายใหญ่มู่ คุณมีเหตุผลหน่อยได้ไหม? เมื่อคืนคุณมา ขนาดนั้น แถมยังเป็นไข้อีก

“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ?” เป็นไข้ เรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้น บนตัวเขาได้ยังไง?

กู้อานหยานจะกระอักเลือดออกมาจริง ๆ แล้ว ! พอนอนตื่น มา อะไรก็ไม่ยอมรับสักอย่างแล้วเหรอ?

“คุณ………เป็นไข้จริง ๆ นะ! อ๋อใช่แล้ว ฉันยังฉีดยาให้คุณ ด้วย ฉีดตรงกันด้วย……อืม!”
เธอกัดริมฝีปากไว้แน่น ตกใจกับการที่อยู่ ๆ เขาก็ใกล้ขึ้นมา

จนคือยังไม่กล้าหือออกมาสักคำ

เหมือนจะเข้าใจหน่อยแล้ว เขาไม่ใช่ไม่เชื่อคำอธิบายของ

เธอ แต่ว่า ไม่อยากฟังด้วยซ้ำ!

ในเมื่อเขาไม่อยากฟัง ต่อให้เธอพูดอะไรไปก็คือผิด!

“คุณชายใหญ่มู่ ฉันผิดไปแล้ว ในเมื่อคุณก็ไม่ได้เสียหาย อะไร งั้นก็ปล่อยให้ฉันลุกขึ้นก่อนได้ไหม?”

ตอนที่พูดเหตุผลไม่ได้นั้น ต้องทำตัวอ่อนแอถึงจะถูก ในเมื่อ

เขาก็ไม่ได้อยากจะข้องแวะกับตัวเธออยู่แล้ว

ในที่สุดหลังจากที่มู่บ้านเป่ยมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น แล้ว ก็ปล่อยมือเธอออก แล้วลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

บนตัวเขาสวมชุดคลุมนอนหลวม ๆ ไว้ แต่ว่าเขาใส่ชุดคลุมได้

ยังไงนั้น เขากลับจำไม่ได้สักนิด

พอหันกลับไป ก็เห็นหญิงสาวบนเตียงกำลังวุ่นวายดึงกระชับ กระโปรงของตัวเองให้เรียบร้อยอยู่ แล้วก็ลงจากเตียงไป
ชุดเดรสกระโปรงบนตัวเธอถูกฉีกขาดไปหลายที่ และทุกที่

ล้วนถูกฉีกไปเป็นแผ่นใหญ่

ที่ใส่อยู่บนตัวตอนนี้ ถือได้ว่าแค่พอปิดบังได้บ้างเท่านั้น มี หลายที่ก็ยังเปิดเผยอยู่ดี

เธอพูดว่า เธอเป็นคนฉีกเอง แต่ว่าถ้าเป็นเพราะว่าจะยั่วยวน

เขา ทําไมเธอไม่ถอดออกเลยล่ะ?

แอ๊ะ? แล้วแขนเล็กมือเล็กแบบเธอนี้ จะมีแรงเยอะขนาดนี้

เลยเหรอ?

กู้อานหยานไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ กว่าเธอจะดึงชุดที่ ฉีกขาดเข้ามาอยู่ด้วยกันได้อย่างยากลำบาก แล้วเธอก็พูดว่า

“อีกสักพักเย่หานน่าจะมาแล้ว งั้นฉันกลับห้องก่อนนะ”

ถ้าจำไม่ผิด ชั้นบนมีอยู่ห้องหนึ่งน่าจะเป็นห้องของเธอ

ชาติที่แล้วมู่ล้านเป่ยไม่เคยร่วมห้องกับเธอมาก่อน ห้องที่เธอ อยู่คนเดียวนั้น ฉินหมิงได้เตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอหมดแล้ว

เธอหมุนตัวแล้วก็จะออกจากห้องเลยมู่บ้านเปียกลับมีสีหน้าขรึมลง พูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอกะว่า จะออกไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอ?”

“ไม่งั้นล่ะ?” นี่มันห้องชั้นหนึ่ง มีเสื้อผ้าเธอซะที่ไหน?

เขาคุณชายใหญ่มู่ก็เกลียดเธอซะขนาดนี้ เธอก็ไม่อยากอยู่ ต่อให้คนอื่นรำคาญตาหรอก

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ” มู่บ้านเป่ยที่นั่งอยู่ขอบเตียง เปิดปากพูดขึ้น เหมือนกับเป็นกษัตริย์

แล้วก็หยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียงมาต่อสายภายใน เขา พูดขึ้นว่า “เอาเสื้อผ้ามาให้คุณผู้หญิงหนึ่งชุด

พอวางโทรศัพท์ลง สายตาของเขาก็มาอยู่บนตัวกู้อานหยาน

อีกครั้ง

กู้อานหยานค่อย ๆ ก้มหัวงอตัวลง พยายามลดการมีตัวตน

ของตัวเองลงให้มากที่สุด

ตอนนี้ เธอแค่อยากจะจากไปให้เร็วที่สุด ไม่อยากจะพูดอะไร มากไปกว่านี้แล้วสายตาที่เย็นเฉียบของมู่บ้านเป่ย ทำให้คนรู้สึกไม่ดีจริง ๆ

“เธอกับเฟิงจิ่นรู้จักกันเหรอ?” อยู่ ๆ เขาก็ถามขึ้น

กู้อานหยานนิ่งอึ้งแล้วมองไปที่เขา

เรื่องอื่นจำไม่ได้ ทำไมถึงจำเรื่องที่เธอกับมู่เฟิงจิ่นอยู่ที่นอก ศาลาได้เรื่องเดียว?

“ฉันเคยบอกแล้วไง ก็แค่รู้สึกคันมาก แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้ว

ว่า ฉันจำคนผิด”

มู่ล้านเป่ยไม่พูดอะไร กู้อานหยานก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่ออีก

ผ่านไปไม่นาน สาวใช้ก็นำชุดกระโปรงมาให้

กู้อานหยานหลบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำด้วยความเร็ว สูงสุด แล้วก็ออกมารีบเดินไปที่ประตู เปิดประตูออก

วินาทีที่เดินออกไปนั้น ก็มีเสียงต่ำของชายหนุ่มในห้องลอย มา “กู้อานหยาน เธอเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมจริง ๆ

เท้าของเธอสะดุดลง แล้วหันกลับไปมองเขา
ริมฝีปากบางของมู่บ้านเป่ยถูกเม้มเข้าหากัน สาวตาหนาว เหน็บ “ถ้าให้ฉันพบว่า เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมเหล่านั้นของเธอบน ตัวเฟิงจิ่นแล้วละก็ ฉันจะถลกหนังเธอให้ดู

เสียงดัง ปัง เธอใช้แรงเหวี่ยงประตูปิดลง แล้วก็รีบเดินขึ้นชั้น

บนไป

มีอะไรวิเศษวิโสกัน! จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังเชื่อว่าเธอเป็นผู้ หญิงชั่วที่ชอบใช้เล่ห์เหลี่ยมอยู่อีก!

ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วทำไมยังจะคอยแอบช่วยเหลือเธอต่อ กรกับเย่ฟางฟางด้วย?

ผู้ชายคนนั้น หยิ่ง จองหอง ยโสโอหังอย่ายิ่ง และยังไม่ เข้าใจเหตุผลอีก!

มีสิทธิ์อะไรมาหาว่าที่เธอเข้าใกล้คุณท่านหญิงและมู่เฟิงจิ่น เพราะว่ามีจุดประสงค์อื่น?

มีสิทธิ์อะไร ทั้ง ๆ ที่เธอช่วยเขาไว้ แต่พอถึงเวลากลับกลาย เป็นว่าเธอปีนขึ้นเตียงเขา และเป็นผู้หญิงชั่วที่คิดจะยั่วยวน เขา?

ผู้ชายแบบนี้ เธอทนมามากพอแล้วจริง ๆ !
“คุณชายใหญ่ครับ.. .. หลังจากกู้อานหยานจากไปแล้ว หลี เย่ก็เข้าประตูมาเป็นเพื่อนเย่หาน

เย่หานวางกระเป๋ายาลงบนโต๊ะ แล้วหยิบที่วัดอุณหภูมิออก มา แล้วมองเขา “คุณชายใหญ่ครับ ผมจะวัดอุณหภูมิให้นะ

สีหน้ามู่จ้างเป่ยไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ แต่ทั้งตัวกลับมีพลังของ ความต่อต้าน

เย่หานเลยอธิบายว่า “เมื่อคืนคุณเป็นไข้สูงถึงสี่สิบองศา ถึงแม้ว่าตอนนี้ดูแล้วจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ว่า ทางที่ดีก็วัด อุณหภูมิสักหน่อยจะดีกว่าครับ”

มู่ล้านเป่ยหัวคิ้วย่นเข้าหากันเบา ๆ เมื่อคืนเขาเป็นไข้จริง ๆ

เหรอ?

หลีเย่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อกี้พอได้ยินมาบ้างแล้ว

เพียงแต่เขาไม่กล้าเข้ามาเป็นพยานเท่านั้น

เพราะว่า ความกล้าของเขาไม่มากพอ

แต่ว่าในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขารู้สึกว่า ตัวเองไม่ควรให้ผู้หญิง

ตัวเล็ก ๆ มาเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ตัวคนเดียว
ในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “คือว่า เมื่อคืน คุณผู้หญิงคอยอยู่ดูแลคุณทั้งคืน และเสื้อผ้าบนตัวเธอ ก็คือ คุณชายใหญ่เป็นคนฉีกขาดเองครับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ