ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่87 คุณผู้หญิงลำเอียงเกินไปแล้ว



บทที่87 คุณผู้หญิงลำเอียงเกินไปแล้ว

บทที่87 คุณผู้หญิงลำเอียงเกินไปแล้ว

“ฉันไม่เป็นไร เธอกลับไปกับเขาก่อนเถอะ” มู่ เทียนโยวดึงเธอขึ้นมา แล้วก็รีบปล่อยมือออก

สถานการณ์ตอนนี้ สำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แล้ว มันดูน่ากลัวจนทำให้คนหวาดกลัวจริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ต่อไป คงจะมีเรื่องยุ่งยากอีกมากมายรอพวกเขาอยู่อีก

แน่

กลับไปกับคุณชายใหญ่มู่ อย่างน้อยก็ หลบหลีกเรื่องบางอย่างได้

“พาเสี่ยวหมี่ไปด้วย” เขามองมู่บ้านเป่ย “เดี๋ยว เรื่องพวกนี้ฉันกับหยางอีมาจัดการเอง”

เรื่องเรื่องนี้ ตอนแรกก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาอยู่แล้ว ถึงแม้คนฉลาดจะดูออกกันทั้งนั้นว่า คนพวกนี้มา เพราะอานหยาน แต่ว่า เขาไม่อยากให้สองสาว ต้องมาเผชิญหน้ากับปัญญาเหล่านี้

มู่บ้านเป่ยกลับทำเสียงหือเย็น ๆ ใบหน้าได้ ปฏิกิริยาแล้วพูดว่า “แค่เด็กสองคน จะไปจัดการ อะไรได้?”

หยางอีรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “ผมอายุสิบเก้าแล้ว และเทียนโยวก็อายุยี่สิบแล้วด้วย!”

แต่ว่า พอโดนมู่บ้านเป่ยมองเรียบ ๆ ทีหนึ่งแล้ว ความมั่นอกมั่นใจเต็มที่ของเขา ก็หายไปในพริบ

ตา

ได้แต่ก้มหน้าไว้ พูดเสียงเบาว่า “ พวกเรา ไม่ใช่ เด็กซะหน่อย..…

มู่บ้านเป่ยไม่อยากจะมองเขา สายตาเหล่มองไป ที่แผลบนแขนของมู่เทียนโยว์ “ไสหัวไปโรง พยาบาลซะ!” แน่นอนว่าเทียนโยวต้องไม่พอใจอยู่แล้ว แผล แค่นี้ สำหรับเขาแล้วไม่ถือว่าเป็น อะไร

และที่สำคัญ ท่าทางของชายหนุ่มคนนี้ช่างหยิ่ง ยโส! และช่างไม่มีมารยาท!

แต่ว่า ถ้าเขาไม่ไป ก็กลัวว่าอานหยานคงจะไม่ ยอมกลับไปกับมู่บ้านเป่ยแน่ ๆ

“หยางอี ไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันหน่อย” มู่ เทียนโยว่หมุนตัวแล้วก็ไปเลย

หยางอีมองกู้อานหยานที่หนึ่ง และก็ไม่กล้ามอง คุณชายใหญ่มู่ตรง ๆ ไม่แต่ตอบรับคำหนึ่งแล้วก็ เดินตามหลังของเขาไป

ซูเสี่ยวหมี่มองหน้ากู้อานหยาน แล้วแอบลอบมอ งมู่บ้านเป่ยที่ใบหน้าเย็นเป็นน้ำ แข็งทีหนึ่ง

สุดท้าย ก็พูดเสียงเบาว่า “อานหยาน ฉัน…ฉัน ไปดูเทียนโยวก่อนนะ”

เธอก็หมุนตัววิ่งจากไป ตามหลังมู่เทียนโยวกับ หยางอีไปติด ๆ

ถึงแม้ถ้าตามคุณชายใหญ่มู่กลับไป จะสามารถ หลบเลี่ยงปัญหาทุกอย่างได้ แต่ว่าเธอก็วางใจ เทียนโยวไม่ลง

มู่จ้านเป่ยไม่พูดอะไร ลากกู้อานหยานแล้วเดิน ไปทางลานจอดรถเลย

กู้อานหยานกลับใช้แรงสะบัด ครั้งนี้ ในระหว่างที่ มู่จ้านเป่ยไม่ทันระวังตัว ถือว่า พอสะบัดมือใหญ่ของเขาออกไปได้

“เขาบาดเจ็บเพราะว่าช่วยฉันไว้ ถ้าฉันทิ้งเขาไป ตอนนี้ ฉันจะยังถือว่าเป็นเพื่อนประสาอะไร?”

เธอรู้ว่า คำพูดของตัวเองจะต้องทำให้มู่บ้านเป่ย ไม่พอใจแน่ ๆ เขาเคยชินกับการอยู่ในที่สูงส่ง เคยชินกับการที่ ทุกคนล้วนทำตามคำสั่งของเขา

แต่ว่าเธอไม่ใช่ลูกน้องของเขา และที่สำคัญ ตอนนี้เธอกําลังรู้สึกผิดและซาบซึ้งมู่เทียนโยวอยู่ เต็มอก

ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่ามู่เทียนโยว่ ปลอดภัยดี เธอก็ไม่วางใจ

“คุณชายใหญ่มู่ ขอบคุณที่คืนนี้คุณมาช่วยฉันไว้ แต่ฉันทิ้งเพื่อนของฉันไปไม่ได้”

กู้อานหยานทิ้งคำพูดพวกนี้ไว้ แล้วหมุนตัวก้าว เดินอย่างรวดเร็วไปทางพวกมู่เทียนโยว่

ตกลงแผลบนแขนมู่เทียนโยวเป็นยังไงบ้าง เธอ ไม่รู้เลย แต่บนแขนเสื้อหรือแม้แต่บนเสื้อล้วนเต็ม ไปด้วยคราบเลือด

แค่เห็นเลือดที่ไหลออกมา ก็ทำให้คนตกใจกลัว

แล้ว ถ้าไม่เห็นเขาไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะให้วางใจได้ยังไง?

เธอไปแล้ว จากไปพร้อมกับเด็กหนุ่มคนนั้น

เธอบอกว่า ไม่สามารถทิ้งเพื่อนของเธอได้ แต่ ว่า เธอกลับสามารถทิ้งเขาไว้ได้

มู่จ้านเป่ยหรี่นัยน์ตาเย็นลง จ้องมองแผ่นหลังที่ จากไปของเธอ ข้อนิ้วกำเข้าหากันแน่น

คุณชายใหญ่ครับ คุณ…. คุณได้รับบาดเจ็บเห รอครับ!” ตอนที่หลีเย่หันหน้ามานั้น สายตาก็มอง เห็นคราบเลือดที่แขนเสื้อของมู่จ้านเป่ย

จากข้างในไหลสู่ข้างนอก เห็นได้ชัดว่าเป็นเลือด ที่ไหลออกมาจากตัวเขา

“คุณชายใหญ่

อยู่ ๆ มู่บ้านเป่ยที่ใบหน้าไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ก็เดิน ไปทางถนนใหญ่ หลีเย่รีบร้อนตามไป “คุณชาย ใหญ่ แผลของคุณต้องได้รับการรักษานะครับ” ดูออกว่า บาดแผลไม่ได้หนักมาก ไม่อย่างงั้นคง

ไม่อาจจะมีคราบเลือดเพียงแค่เท่านี้

แต่ว่า บาดแผลยังไงก็คือบาดแผล ขอแค่มีรอย บาดแผลจากมีด ก็ควรหาหมอทำการรักษา

มู่จ้านเป่ยก็ยังคงไม่พูดอะไร แค่เพียง อยู่ ๆ ก็ เพิ่มความเร็วของฝีเท้า…….

กู้อานหยานตามพวกเทียนโยวทัน แต่มู่เทียนโย ว่กลับหน้านิ่วคิ้วขมวด “เธอควรจะตามเขากลับ ไป”

“ฉันจะไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเธอก่อน รอให้ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันค่อยกลับ

เธอเห็นเสื้อของมู่เทียนโยว่ยังมีเลือดซึมออกมา อีก ก็ร้อนใจขึ้น “ใกล้ ๆ นี้มีโรงพยาบาลอยู่ ไป รักษาบาดแผลก่อนดีกว่า”

มีดพวกนั้นคมกริบซะขนาดนั้น ก็ไม่รู้ว่าโดนถึง กระดูกถึงเส้นเอ็นไหม แล้วถ้าบาดแผลลึกเกินไป ก็ไม่รู้ว่าจะเหลือผลก ระทบอะไรในภายหลังไว้ไหม

พวกเขาเดินไปถึงถนนใหญ่แล้ว แต่ว่าคนขับ แท็กซี่ข้างทางหลายคันพอเห็นรอยเลือดบนตัวมู่ เทียนโยว่แล้ว แต่ละคนก็ขับรถหนีไป ไม่มีคันไหน ยอมจอดให้

ที่จริงเทียนโยวกับหยางอีมีรถเก่า ๆ คันหนึ่ง แต่ ว่าวันนี้ไม่ได้ขับมาด้วย

ถ้ากลับไปเอาตอนนี้อีก ระยะทางตั้งไกล เทียน โยวคงจะเลือดไหลหมดตัวซะก่อนแน่

อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแตรรถดัง รถหรูคันหนึ่งมา จอดลงตรงหน้าพวกเขา

กระจกรถถูกลดลง ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในตำแหน่ง คนขับสีหน้าเย็นเป็นน้ำแข็ง “ขึ้นรถ!”

เขาไม่พอใจ เขาอารมณ์ไม่ดี ใครก็ดูออก! ใบหน้านี้มักจะหล่อเหลาอยู่เสมอ แต่หนาวเหน็บ อย่างกับป่าอาถรรพ์จนคนไม่กล้ามองตรง ๆ

แต่ว่า กู้อานหยานรู้ ถ้าเวลานี้ไม่นั่งรถของคุณ ชายใหญ่มู่ ก็อาจจะโบกรถไม่ได้แน่

“ขึ้นรถเร็ว!” เธอกับเสี่ยวหมี่พยุงมู่เทียนโยวไว้ คนละข้าง แล้วเปิดประตูข้างหลังรถ

หยางอึมองเห็น ข้างหลังคนนั่งกันเต็มแล้ว เขา ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่อ้อมไปอีกฝั่งของรถ แล้ว เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับออก

แต่คนยังไม่ทันได้เข้าไปนั่ง ก็โดนสายตาเย็นชา จนทำให้น้ำแข็งแข็งตัวมองมา เขาตกใจจนรีบหด ขาที่ก้าวออกไปแล้วกลับมาด่วน

“อานหยาน เธอ……เธอมานั่งข้างหน้าดีกว่า!”

หยาง รีบเดินไปข้างหลัง แล้วเปิดประตูรถออก ใช้สายตาวิงวอนจ้องมองกู้อานหยาน

กู้อานหยานมองไปข้างหน้าที่หนึ่ง คุณชายใหญ่ มู่หน้าเหมือนดั่งน้ำแข็ง ทั้งตัวแผ่ไอเย็นออกมา

เธอรู้สึกเบื่อหน่าย เพื่อไม่อยากให้เสียเวลาใน การรักษาเทียนโยว ก็เลยรีบลงมา แล้วสละที่นั่ง ให้หยางอี

แล้วตัวเองก็เดินมาข้างหน้า นั่งลงที่นั่งข้างคน ขับ แล้วรัดเข็มขัดนิรภัยทันที

แถวใกล้ ๆ นี้มีโรงพยาบาลอยู่ค่ะคุณชายใหญ่ เดี๋ยวฉันบอกทางคุณว่าไปยังไง”

บาดแผลที่แขนของมู่เทียนโยว์ บาดเจ็บไม่ถือว่า หนักมาก แต่ก็ไม่น้อยเหมือนกัน

หมอช่วยเย็บบาดแผลให้เขา พอรักษาบาดแผล เสร็จ ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว

“ช่วงนี้ ก็พยายามอย่าแตะต้องเหล้ากับบุหรี่ อย่า กินของแสลงที่จะทำให้แผลอักเสบง่าย ของมัน ของทอด พวกไก่เป็ดห่าน และก็พวกอาหาร ทะเล…….

กู้อานหยานกับซูเสี่ยวหมี่ฟังอยู่ข้าง ๆ อย่าง ตั้งใจ กู้อานหยานกำชับซูเสี่ยวหมี่บางอย่าง ซู เสี่ยวหมี่ยังเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วจดอย่างรีบ ร้อนขึ้นมา

ที่ทางเดินข้างนอก มู่บ้านเป่ยมองกู้อานห ยานที่อยู่ข้างกายมู่เทียนโยว์ด้วยสายตาเย็นชา ริมฝีปากบางก็ยิ่งเม้มเข้าหากันแน่นขึ้น

หลีเย่ที่รีบตามมาถึงทีหลังคอยเตือนเขาอย่าง ระมัดระวังว่า “คุณชายใหญ่ ในเมื่อก็มาถึงโรง พยาบาลแล้ว หรือว่า……..หรือว่าให้หมอช่วยคุณ ทําแผลสักหน่อยไหมครับ

ถึงแม้จะแค่บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ว่าบาดเจ็บเล็ก น้อยก็ยังถือว่าบาดเจ็บอยู่

ยังมีอีก คุณผู้หญิงก็จริง ๆ เลย คู่หมั้นตัวเองยัง บาดเจ็บอยู่ แต่ความใส่ใจของเธอกลับไปอยู่บน ตัวเด็กหนุ่มที่ชื่อมู่เทียนโยวคนนั้นซะหมด แต่กับคุณชายใหญ่ แม้แต่เขาได้รับบาดเจ็บก็ยัง ไม่รู้เรื่องเลย

ในใจหลีเย่รู้สึกน้อยใจ แน่นอนว่าน้อยใจ แทนคุณชายใหญ่ของบ้านเขา

แต่ว่า คุณชายใหญ่ไม่อนุญาตให้เขาพูด เขาก็ แม้แต่ครึ่งตัวอักษรก็ไม่กล้าเอ่ยถึง

ก็แค่ว่ารู้สึกจริง ๆ เลยว่า คุณผู้หญิงลำเอียงเกิน ไปแล้ว ไม่ยุติธรรมต่อคุณชายใหญ่เลยสักนิด

ทําไมเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นได้ขนาดนี้ ก็แค่มา เป็นห่วงเป็นใยคุณชายใหญ่บ้างไม่ได้เหรอ?

“คุณชายใหญ่ครับ ผมไปบอกให้หมอ……

“หุบปาก!”

พวกเขาออกมากันแล้ว ใบหน้ามู่บ้านเป่ยยิ่ง เคร่งขรึมเข้าไปอีก

เขาส่งสายตาเย็นชาไป หลีเย่ก็รีบหุบปากทันที แต่สายตาที่มองกู้อานหยาน ยังคงเต็มไปด้วย ความเคืองโกรธ

พอเห็นพวกเขาถือยาเดินออกมา มู่บ้านเป่ยก็พูด เสียงเย็นขึ้นว่า “ตอนนี้ กลับได้หรือยัง?
193374621_621381295923159_1764385010721703552_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ