ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่44 หึ ไปอยู่กับเขาสองต่อสองอีกแล้ว



บทที่44 หึ ไปอยู่กับเขาสองต่อสองอีกแล้ว

บทที่44 หี ไปอยู่กับเขาสองต่อสองอีกแล้ว

คุณชายมู่ที่สองนี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ ?

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูดีมีเสน่ห์เท่ากับคุณชายมู่ แต่ทว่า เขา ก็ยังคนเป็นคนที่ผู้หญิงหมายปองในเมืองเป่ยหลิงอยู่ดี

คุณชายมู่ที่สองอยากจะไปส่งพวกเธอกลับบ้าน ใครล่ะจะไม่

ชอบ ?

กู้เวยจือยังคงมองมู่บ้านเป่ยที่หมางเมินตนเองตาปริบๆ ก่อน ที่เขาจะเดินขึ้นรถไปกับผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวสะสวยพวก

นั้น

รถยนต์ได้ขับเคลื่อนออก ก่อนจะลับสายตาไปตรงมุมถนน

แต่เธอนั้น กลับถูกทิ้งเอาไว้แบบนี้ !

กู้หมิงห้าวคิดว่าเธอกับปูเจ๋อหนานนั้นคบกัน จึงได้กลับไป

ก่อนแล้ว

แขกในโรงแรมต่างทยอยพากันกลับหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เธอที่อยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว บนถนนเส้นใหญ่ในเวลา รุ่งสางแบบนี้

ทำไมกันนะ ทำไมคนที่ดีกับเธอและปกป้องเธอมาตลอดอย่า งมู่เจ๋อหนาน ถึงมาทิ้งเธอไปเพียงเพราะผู้หญิงพวกนั้นกัน

นะ ?

แต่สิ่งที่น่าโกรธเคืองมากที่สุดก็คือ ทำไมกู้อานหยานถึง กลับมาได้นะ ? แล้วทำไมถึงกลับมาพร้อมกับมู่บ้านเป่ยกัน นะ ?

ยัยผู้หญิงโง่คนนั้นทำอะไรกันแน่นะ ยังให้พวกเขามีโอกาส ได้หมั้นกันอีก !

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี กู้เวยจือดูหน้าจอโทรศัพท์

ในเวลานี้ เย่ฟางฟางโทรมาหาเธอ เธอไม่รู้เลยว่าควรจะฟัง

ดีไหม

สุดท้ายเธอก็ปิดเสียงโทรศัพท์ ก่อนจะเก็บกลับเข้าไปใน

กระเป๋าตามเดิม

ถึงยังไงกู้อานหยานกับมู่บ้านเป่ยก็กลับมาพร้อมกัน จึง ยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ มู่บ้านเป่ยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย
เธอไม่สามารถจะตัดความสัมพันธ์กับเยฟางฟางได้ ถ้าไม่ อย่างนั้น ตัวเธอเองจะต้องลำบากแน่นอน!

ที่พยายามจะล่มงานหมั้นมาทั้งหมดนั้น ตอนนี้ไม่ใช่แค่ต้อง มาเห็นกู้อานหยานกับคุณชายใหญ่มู่หมั้นกัน แต่ยังถูกมู่เจ๋อ หนานทิ้งเอาไว้กลางทางอีก นี่มันน่าโมโหจริงๆ !

เธอเดินอยู่คนเดียวกลางถนนใหญ่ รอบๆตัวเธอไม่มีใครเลย ด้วยความที่เธอโมโห ในตอนนี้เวยคือดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

แต่คาดไม่ถึงเลย ว่าจะมีรถหรูสีพื้นขับมาจากด้านหลังของ เธอ เสียงเครื่องยนต์นั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

“สตรีหมายเลขหนึ่งของเมืองเป่ยหลิง ก็โมโหเป็นเห รอ ? “กระจกรถถูกลดลงมา จนเธอเห็นใบหน้านั้น”คุณกู้ มา คุยกันหน่อยไหม ?

กู้เวยจือมองคนที่นั่งอยู่บนรถ ก่อนที่แววตาจะประส่อง ประกายขึ้น : “. ………..เธอนี่เอง ? ”

กู้อานหยานยังคงอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของมู่บ้านเป่ย
วันนี้กว่างานหมั้นจะจบนั้นก็ปาไปถึงตอนเช้าแล้ว เพื่อที่จะไม่ เป็นการรบกวนเวลาพักผ่อนของภรรยา พ่อของคุณชายจึง ตัดสินใจงดการจัดงานเลี้ยงภายในบ้านไปก่อน

รออีกสักพัก ให้ภรรยาสุขภาพดีขึ้นก่อน ทุกคนค่อยกลับมา จัดงานเลี้ยง และยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้หลานสะใภ้อย่า งอานหยานได้กลับมาเจอทุกๆคนด้วย จะได้สนิทกันมากขึ้น

เมื่อกลับจากโรงแรมมาถึงบ้านพักตากอากาศ ระหว่างทาง กู้อานหยานไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเลย

มู่บ้านเป่ยเองก็หลับตาพักผ่อนพลางพิงอยู่ที่พนักพิงเก้าอี้ โดยที่ไม่ได้อ้าปากพูดอะไรเช่นกัน

ถึงแม้ว่ากู้อานหยานจะรู้สึกเหนื่อย แต่เมื่อนั่งอยู่เบาะหลังกับ คุณชายมู่สองต่อสอง ถึงแม้ว่าข้างหน้าหลีเย่จะกำลังขับรถ อยู่ แต่กลับรู้สึกราวกับอยู่คนเดียวอย่างไรอย่างนั้น

เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

ที่เธอจูบเขาอย่างดูดดื่ม แต่คุณชายคู่กลับไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ สักคํา เรื่องนี้กลับตาลปัตรไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรจะให้พูดเลย

จริงๆเหรอ ?
แต่ว่า การที่เขาปกป้องเธอวันนี้ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้น ภายในจิตใจ แต่ทว่าหัวใจของเธอยังคงเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ

เธอพยายามแอบมองเขาอยู่บ้าง ใบหน้าด้านของของเขานั้น หล่อเหลาเกินคนธรรมดา ใครก็หาจุดด่างพร้อยไม่เจอ ยิ่งมอง หัวใจก็ยิ่งเต้นเร็ว

ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งปกป้องถึงเพียงนี้ จะไม่ให้ ใจสั่นได้อย่างไร ?

ทำไมคุณชายมู่ในชาตินี้ ถึงเต็มใจที่จะมอบความรักความ อบอุ่นให้เธอมากถึงเพียงนี้กันนะ ?

หรือว่าการกลับมามีชีวิตอีกครั้งนั้น แถมอารมณ์ความรู้สึกนั้น

ก็ดูจะไม่เหมือนชาติก่อนด้วย ?

ใบหน้านั้นร้อนขึ้นเป็นอย่างมาก อานหยานลูบใบหน้าของ ตนเองเบาๆ อุณหภูมิที่มือเธอสัมผัสได้นั้นสูงจนน่าตกใจ

เธอมองมู่บ้านเป่ยอีกครั้ง เขาก็ยังคงอยู่ในท่าเดิมเหมือนใน ตอนแรก ดูเหมือนเขาจะหลับไปแล้ว

คุณชายมู่ในตอนนี้ สามารถทำให้สาวน้อยสาวใหญ่นั้นใจฟูขึ้นมาได้เลยทีเดียว……

ในที่สุด รถก็มาจอดอยู่หน้าประตูของบ้านพักตากอากาศ

หลังจากที่กู้อานหยานลงจากรถแล้ว จึงเดินตามหลังมู่บ้าน เป่ย ขึ้นไปชั้นสอง

วันนี้เป็นวันหมั้นของพวกเขาทั้งสอง ถ้าคุณชายมู่ดื้อดึงจะ นอนกับเธอให้ได้ จะต้องทำยังไงกันนะ ?

“ได้ยินมาว่าเธอโดดเรียนมาอาทิตย์นึงแล้วเพิ่งจะเดินขึ้นมา ถึงชั้นสอง มู่ล้านเป่ยก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

กู้อานหยานตกตะลึง ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าประตูของห้องเขา พลางเงยหน้าขึ้นมองเขา

สีหน้าของมู่บ้านเป่ยเหมือนดังเดิม ยังคงดูเย็นชาไร้ อารมณ์ : “วันนี้พักสักครึ่งวันก็แล้วกัน ตอนเที่ยงจะมีคนมาพา เธอไปเรียนนะ”

เขาเดินผ่านเธอไป ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง โดยที่เหลือไว้ เพียงแค่คำพูดที่ไร้ความรักความห่วงใย
“ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ความสัมพันธ์ตามสัญญา แต่ว่ามอง ผิวเผินก็ยังคงเป็นคู่หมั้นอยู่ ฉันก็ไม่อยากให้มีข่าวลืออะไร เล็ดลอดออกไปว่าคู่หมั้นของจานเบี้ยนั้น ต้องมาสอบซ่อม ทั้งๆที่เรียนมหาลัยแล้ว

จากนั้น ประตูที่เธอมองอยู่ ก็ถูกปิดอย่างไร้เยื่อใย

หวังว่าคู่หมั้นของมู่บ้านเป่ย จะไม่ต้องมาสอบซ่อมทั้งๆที่เรียน มหาลัยแล้ว…….

อาบหยานใช้เวลาสามวินาทีเต็มๆในการลบคำพูดของเขา ออก !

ความอบอุ่น ความหวานชื่น และยังอยากจะนอนกับเธออะไร ต่างๆนา

ขณะที่กู้อาบหยาบกำลังรู้สึกสับสน จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีคนยื่น มือมา เพื่อตบหน้าของเธอเข้าอย่างหลายครั้ง

เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่คู่สมรสตามสัญญาที่ตั้งเอาไว้ เท่านั้น !

สนธิสัญญา ! เธอลืมไปแล้วเหรอ ? เมื่อคืนเพิ่งจะเป็นกันไป

เองแท้ๆ
งานหมั้นนั้นก็เป็นเพียงแค่การแสดงละครตบตา อีกสองปีก็ คงไม่ได้แต่งงานกับเธอหรอก ที่ทั้งสองมาคบกันก็เพื่อตบตา คุณยายเท่านั้นเอง

หลังจากหมั้นกันแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ จะไม่ก้าวก่ายเรื่อง ของกันและกัน !

กู้อานหยานรู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นโง่เง่าขนาดไหน เขาพูดออก มาชัดเจนขนาดนั้นแล้ว เธอกลับยังจินตนาการอะไรไปเรื่อย เปื่อยอยู่อีก !

“ใครจะไปสอบซ่อมกันยะ ! คะแนนของฉันดีจนไม่รู้จะดียังไง แล้ว ! อย่ามาดูถูกกันแบบนี้นะ ! ”

เธอพูดผ่านประตูที่ปิดอยู่นั้นด้วยความโมโห : “ถ้าฉันต้อง สอบซ่อมนะ ฉันจะยอมเป็นทำงานให้คุณชายอย่างหนักราวกับ เป็นวัวเป็นควาย และทำตามคำสั่งทุกอย่างเลยเชียวล่ะ ! ”

ทำเป็นหัวสูง กู้อานหยานเนี่ยนะจะต้องไปสอบซ่อม ? ถุย !

“สัญญาต้องเป็นสัญญา ภายในห้องนั้น มีเสียงเย็นชาได้ อารมณ์ของคุณชายมู่ดังออกมา
งานหมั้นนั้นก็เป็นเพียงแค่การแสดงละครตบตา อีกสองปีก็ คงไม่ได้แต่งงานกับเธอหรอก ที่ทั้งสองมาคบกันก็เพื่อตบตา คุณยายเท่านั้นเอง

หลังจากหมั้นกันแล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ จะไม่ก้าวก่ายเรื่อง ของกันและกัน !

กู้อานหยานรู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นโง่เง่าขนาดไหน เขาพูดออก มาชัดเจนขนาดนั้นแล้ว เธอกลับยังจินตนาการอะไรไปเรื่อย เปื่อยอยู่อีก !

“ใครจะไปสอบซ่อมกันยะ ! คะแนนของฉันดีจนไม่รู้จะดียังไง แล้ว ! อย่ามาดูถูกกันแบบนี้นะ ! ”

เธอพูดผ่านประตูที่ปิดอยู่นั้นด้วยความโมโห : “ถ้าฉันต้อง สอบซ่อมนะ ฉันจะยอมเป็นทำงานให้คุณชายอย่างหนักราวกับ เป็นวัวเป็นควาย และทำตามคำสั่งทุกอย่างเลยเชียวล่ะ ! ”

ทำเป็นหัวสูง กู้อานหยานเนี่ยนะจะต้องไปสอบซ่อม ? ถุย !

“สัญญาต้องเป็นสัญญา ภายในห้องนั้น มีเสียงเย็นชาได้ อารมณ์ของคุณชายมู่ดังออกมา
กู้อานหยานกลัวจนตัวสั่น เธอจึงรีบอุ้มกระเป๋าเอาไว้แน่น ก่อนจะกลับเข้าห้องของเธอไป

อีตามู่บ้านเป่ย กล้ามาขู่เธอแบบนี้ มันจะมากเกินไปแล้วนะ !

เรื่องของเมื่อคืนวานรวมกับวันนี้ เธอถูกเขาทำให้รู้สึก ซาบซึ้งใจไม่น้อยเลยทีเดียว

เธอนี่มีสมองหรือเปล่าเนี่ย ? เขาช่วยเธอก็เพราะไม่อยากจะ ยกเลิกงานหมั้น และก็เพื่อทำตามความต้องการของคุณนายก็ เท่านั้นเอง

ถึงแม้ว่าคู่หมั้นจะเป็นคนอื่น เขาก็ต้องลงไปช่วยอยู่ดีมันไม่ เกี่ยวกับความเป็นเธอเลยแม้แต่น้อย

ซึ้งใจ ? ซึ้งใจบ้าบออะไรกัน!

เมื่อเธอกลับไปถึงห้อง กู้อานหยานก็วางกระเป๋านักเรียนของ เธอลงบนเก้าอี้ ก่อนจะอาบน้ำด้วยความไวแสง จากนั้นจึงแผ่ ตัวลงบนเตียงในทันใด

อย่างวัวอย่างควายเหรอ…..อืม เป็นไปได้ไหมที่เขาจะมองว่า

สิ่งที่เธอพูดนั้น เป็นแค่มุขตลก แล้วอีกไม่นานก็จะปล่อยผ่านไป ?

วิชาคณิตศาสตร์ ชีวะ ภาษาต่างประเทศ……อ๊ากกก ! เธอ เกลียดวิชานี้ที่สุดเลย……..

เธอสะลึมสะลือ ขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหลับ ไปตั้งแต่เมื่อไหร่

เธอตื่นขึ้นมา เพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“ฮัลโหล”กู้อานหยานรับโทรศัพท์ โดยที่เสียงของเธอนั้นยัง คงงัวเงียอยู่

ปลายสายนั้น มีเสียงของซูเสี่ยวหมี่ที่พูดออกมาด้วยความ กลัว : “อานหยาน ฉันกลัวมากเลย ! ”

“กลัวอะไร ? ”

เฟางฟาง…..เฟางฟางเธอฆ่าตัวตายแล้ว ! ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ