ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่43 อันที่จริง คนที่ร้ายที่สุดก็คือเธอ



บทที่43 อันที่จริง คนที่ร้ายที่สุดก็คือเธอ

บทที่43 อันที่จริง คนที่ร้ายที่สุดก็คือเธอ

ตอน………..คุมเอาไว้ไม่อยู่……

เมื่อเห็นทุกคนเงียบลงดังนั้น กู้อานหยานเองก็ยืนแข็งทื่อ เธอเข้าใจส่งที่มู่บ้านเป่ยพยายามจะสื่อในทันที

ใบหน้าเล็กๆของเธอนั้นร้อนขึ้นอย่างฉับพลัน เธออายจน อยากจะหาที่มุดลงดินไปเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ

คุณชายมู่ทำแบบนี้ก็เพื่อจะช่วยให้เธอพ้นจากความผิดนี้ ? แต่ทว่า ทำไมไม่หาข้ออ้างแบบคนปกติกันนะ ?

เธออยากจะหนีออกจากที่นี่ แต่มู่บ้านเปียกลับกำลังโอบเธอ เอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอหลีกหนีออกไปเลยแม้แต่น้อย

ความเหนียมอายที่เธอแสดงออกมานั้น ยิ่งทำให้คำพูดของ คุณชายมู่นั้นดูน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเหล่านั้นจะอายุมากแล้ว แต่กลับให้หลาน ของตัวเองทำให้หญิงสาวหัวใจแทบจะระเบิดออกมา
เมื่อครู่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กลับฉีกยิ้ม ขึ้นมาแล้ว

เมื่อเห็นหลานกับภรรยาในอนาคตของหลานรักกันแบบนี้ เมื่ออารมณ์ดีขึ้นแล้ว สีหน้าก็ดูดีขึ้นมาก

ในตอนแรกสีหน้าของคุณท่านปูเองก็ดูจะไม่ดีนัก แต่เมื่อได้ เห็นสีหน้าของภรรยาตัวเองดังนั้น เขาเองก็เลือกที่จะไม่ติดใจ กับเรื่องนี้แล้ว

เขามองมู่บ้านเป่ยอยู่ชั่วครู่ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความ อยากจะตำหนิติเตียน

ถึงยังไงนี่ก็เป็นที่สาธารณะ พูดจาอะไรแบบนี้ออกมา ไม่กลัว จะอับอายขายขี้หน้าบ้างเลยเหรอไง

แต่ทว่า หลานคนโตมีความเผด็จการมากถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะ พูดอะไร ถึงแม้จะเป็นคำพูดที่ไม่รู้จักกาลเทศะ ก็ยังดูสูงส่งเกิน เอื้อมอยู่ดี

ท่าทางแบบนี้ ขนาดเขาเองที่เป็นรุ่นใหญ่กว่า ยังอดไม่ได้ที่ จะรู้สึกนับถือเลย

พิธีกรตกตะลึงอยู่เพียงแวบเดียว ก็ฉีกยิ้มก่อนจะพูดกับทุกคนว่า : “คุณชายกับภรรยารักกันดีจริงๆ !

เขากลับมามีสีหน้าปกติก่อนจะยิ้มขึ้นพลางพูดว่า “ทุกคน รอมานาน ก็เพื่อเวลานี้ ตอนนี้ ให้คุณชายที่น่าเคารพของ พวกเรา ได้กล่าวอะไรเล็กน้อย…

บรรยากาศบนเวทีนั้น จะเป็นยะเยือกเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นคุณท่านปูหรือคุณชาย ต่างก็ไม่ใช่ชายที่ชอบ พูดมากนัก

แต่ทว่า ทั้งงานนี้ กลับมีชีวิตชีวามากขึ้น

ตอนที่นิ้วเรียวยาวถูกสวมด้วยแหวนหมั้นนั้น อ่านหยาบ ล็กแปลกๆเกินบรรยาย

เวลานี้ราวกับย้อนไปเมื่อชาติที่แล้ว ในวันที่พวกเขาทั้งสอง ได้แต่งงานกัน

มู่ล้านเป่ยเองก็เอาแหวนสวมให้กับเธอเช่นเดียวกัน แต่ แหวนนั้นกลับมีแต่ความเยือกเย็น ไม่มีความอบอุ่นในอยู่เลย แม้แต่น้อย
วันนี้ นิ้วที่ไม่เหมือนเดิม และแหวนที่แต่งต่างออกไป ได้ถูก เขาสวมให้อีกครั้งแล้ว

แต่เธอกลับมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เพราะวันนี้มู่บ้านเป่ยอยู่ เคียงข้างเธอ หรือเป็นเพราะเขาปกป้องเธอกันแน่นะ ?

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ตั้งแต่ที่เสี่ยวหมี่มีชีวิตรอดมาได้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกแย่ที่จะต้องหมั้นกับมู่บ้านเป่ย เส้นทางชีวิตของ เธอนั้น กำลังบอกกับเธออีกครั้งแล้วว่า ชีวิตในครั้งนี้ จะแตก ต่างจากชาติก่อนโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว

ครั้งนี้เป็นช่วงเวลาใหม่ๆ และยังเป็นชีวิตใหม่อีกด้วย

ทันใดนั้นเอวของเธอก็ถูกจับอย่างแน่นขึ้นอีกครั้ง เรือนร่าง ของเธอถูกมู่บ้านเป่ยอุ้มขึ้น

กู้อานหยานตกใจเป็นอย่างมาก จนเธอรั้งเสื้อของเขาเอา

ไว้ : “คุณชาย..

“ขอโทษด้วยนะครับ วันนี้ผู้หญิงของผมคงจะเหนื่อยมากแล้ว ผมขออนุญาตพาเธอกลับบ้านก่อน เชิญทุกท่านตามสบายได้ เลย

เมื่อพูดจบ เขาก็อุ้มเธอลงจากเวที จากนั้นก็เดินออกจากโรงแรมด้วยฝีเท้าที่หนักมาก โดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองเลย แม้แต่น้อย

คุณท่านเองก็พาภรรยาเดินลงจากเวที ก่อนจะตามออกไป

ติดๆ

ถึงแม้ว่าในงานจะยังมีคนของตระกูลมู่อยู่ไม่น้อย แต่ทว่า ใน เวลานี้ ทุกคนต่างอยากกลับบ้านไปพักผ่อนกันมากเต็มทน แล้ว

หลังจากที่เจ้าของงานเดินออกไป แขกต่างก็ทยอยพากัน เดินออกไปเช่นกัน

แต่มีเพียงคนเดียวที่ยังคนยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนมากมาย กำลังมองดูมู่จ้านเป่ยที่อุ้มกู้อานหยานออกไปจากงาน พลาง

กำมือเอาไว้แน่น แต่ไม่รู้ว่าในใจนั้นเธอคิดอะไรอยู่

“นี่มันหญิงอันดับหนึ่งของเมืองเป่ยหลิง คุณนายที่สองของ ตระกูลกู้ไม่ใช่เหรอ ? “เสียงหัวเพราะดังมาจากด้านหลัง

เวยจ่อซ่อนแววตาแห่งความเกลียดชังเอาไว้ ก่อนจะหัน กลับไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มตามเดิม : “สวัสดีค่ะ”

“ได้ยินมาว่าเธอชอบคุณชายมู่มากเลยหนิ”หญิงอีกคนมองมาที่เธอโดยที่สายตานั้นเต็มไปด้วยความดูถูก” แถมยังได้ยิน มาว่าน้องสาวของเธอให้คนมาทำร้ายเธอเพราะ น้องสาวเองก็ ขอบคุณชายมู่เหมือนกันด้วยหน

“ก็ไม่ใช่แบบนั้นสักทีเดียวหรอก อานหยานแต่เป็นเด็กที่หัว รับเท่านั้นเอง..…

น้องสาวของเธอเป็นคนหัวรั้น หรือว่าเธอกันแน่ที่ปั้นเรื่องขึ้น มาเพื่อใส่ร้ายคนอื่น ?

ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าดูถูก : “เมื่อตะกี้ใครๆเขาก็เห็น กันว่าคุณชายเขาชอบน้องสาวของเธอมากขนาดไหน ! ”

ไม่ต้องพูดถึงคำที่คุณชายมู่เคยพูดเอาไว้”คุมอารมณ์เอาไว้ ไม่อยู่”นี่มันเรื่องจริงหรือเนี่ย อย่างน้อยที่สุด ความรักที่เขามี ให้กับกู้อานหยานบนเวทีนั้น ทุกคนล้วนเห็นกันเต็มสองตา

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะเขาไม่อยากให้หญิงของเขาเหนื่อย เลย อุ้มกลับไปด้วยความรักอันหวานชื่นอีก

การปรนนิบัติแบบนี้ เคยมีผู้หญิงที่ไหนได้รับมาก่อน ? สิ่งที่ ยิ่งไม่ต้องเป็นกังวลก็คือ ข้างกายของคุณชายมู่นั้น ไม่เคยมี หญิงอื่นเลย
“นอกจากนี้ เธอเป็นถึงคู่หมั้นของน้องสาวเธอ เธอเทเหล้า ให้ด้วยตัวเองมันหมายความว่าอะไรกัน ? อยากจะขโมยความ รักมาหรือไง ?

ผู้หญิงอีกคนนึงเดินผ่านมาพอดี สายตาของเธอนั้นเย็นยะ เยือก พลางมองกู้เวยจือที่แต่งหน้าอย่างสวยสดงดงามด้วย ความโกรธเคือง

“ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมวันนี้เอนเตอร์เทนต่างๆของเมืองเป่ยหลิ งมันเยอะแยะขนาดนี้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเกี่ยวกับเรื่อง ที่กู้อานหยานได้ขึ้นเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของเมืองเป่ยหลิง”

ทำไมล่ะ ? ”

“มีคนอยากจะกดคนอื่นลงเพื่อดันตัวเองขึ้นมายังไงล่ะ แค่นี้ เธอดูไม่ออกหรือไง ? ”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอว ใจของผู้หญิงคนนี้นี่มันร้ายจริงๆ ตัว เองไปชอบคู่หมั้นของน้องสาว เลยพยายามจะใส่ร้ายป้ายสี น้องสาว เพื่อจะเอาคุณชายมู่มาครอบครองงั้นเหรอ ? ”

“หน้าตาเธอทั้งสองเหมือนกันขนาดนั้น แต่ทำไมเธอร้ายกาจ

ได้ขนาดนี้กันนะ ? ”
มีหญิงหลายคนเดินเข้ามาใกล้ขึ้น จนทำให้กู้เวยจือเองต้อง ถอยไปถึงสองก้าว

“ฉันเปล่านะ พวกเธอเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ฉันไม่รู้เลย ด้วยซ้ำว่าข่าวที่ว่อนอยู่บนอินเตอร์เน็ตมันคืออะไร”

ผู้หญิงเหล่านั้น เวลารวมตัวกันขึ้นมา ก็ดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย !

กู้เวยจือถอยหลัง พลางอธิบายไปด้วย : “ฉันเป็นพี่สาวขอ งอานหยานนะ จะไปทำร้ายน้องแบบนั้นได้อย่างไรกัน ? ความ สัมพันธ์ของเราสองพี่น้องดีจะตายไป พวกเธอเข้าใจผิดกัน หมดแล้ว”

“งั้นเหรอ ? ถ้างั้นเมื่อกี้ที่เธอชนแก้วกับคุณชายมัน หมายความว่าอะไร ? “มีคนถามกดดันเธออีก

“ฉันเพียงแค่….…..

“แค่อยากจะครอบครองคุณชายมู่ และแย่งคู่หมั้นของน้อง สาวมาละสิ ! ฮ่าๆ…….เลวจริงๆ !

เมื่อเถียงกันไปกันมา จนกู้เวยจือไม่มีปัญญาจะเถียงกลับ

อะไรเลย
พวกเธอใส่ร้ายฉัน ! ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ ! “ในที่สุด เธอก็หันหลังไปก่อนจะรีบเดินออกจากโรงแรมไป

เธอไม่ได้ระวัง จนเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้า

มา

“ขอโทษค่ะ….. “กู้เวยจือเงยหน้าขึ้น โดยที่เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าคนที่เธอเดินชนนั้นคือ เจ๋อหนาน

เธอรีบดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้ : “เจ๋อหนาน ผู้หญิงพวก นั้น…..หญิงพวกนั้นน่ากลัวมากเลย !

เธอต้องการให้ผู้ชายมาปกป้อง ! พวกผู้หญิงน่ารังเกียจพวก นั้น เห็นว่าเธอหน้าตาสะสวย เลยตั้งใจจะรวมกลุ่มกันเพื่อ รังแกเธอ !

“เจ๋อหนาน พวกเธอมารังแกฉัน…เมื่อเห็นผู้หญิงพวกนั้น เดินออกมา กู้เวยจ๋อก็รีบดึงมุมที่บอบบางที่สุดของตัวเองออก มาให้เขาเห็น

มู่เจ๋อหนานมองผู้หญิงที่กำลังเดินออกมา

ผู้หญิงพวกนั้นเป็นคนใหญ่คนโต ฐานะทางสังคมก็ถือว่าดีกัน

ทุกคน แถมยังสวยอีกด้วย
คุณชายมู่ที่สอง”พวกเธอยิ้มให้กับมู่เจ๋อหนาน ความน่ากลัว เมื่อครู่ แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้ม

คุณชายมู่ที่สองงานก็จบลงแล้ว ทำไมถึงยังไม่กลับล่ะ ? “ผู้ หญิงคนหนึ่งในนั้นเดินออกมา พลางกระพริบตาปริบๆส่งซิกให้ เจ๋อหนาน

มู่เจ๋อหนานไม่มองกู้เวยจ๋อเลยสักนิด เขามองเพียงผู้หญิงคน นั้น มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มมากขึ้น ก่อนจะพูดว่า : “ก็จะมา งพวกเธอกลับบ้านยังไงล่ะ ฉันเลยยังไม่กลับบ้านน่ะ

“เจ๋อหนาน…..”เวยจอหน้าแตก เขาไม่ได้ยินที่เธอพูดเลย เหรอ ? คนน่ารังเกียจพวกนี้มารังแกเธออยู่นะ !

“คุณหญิงกู้ที่สองเองก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ ? “มู่เจ๋อหนานทำ เหมือนกับว่าเพิ่งจะเห็นเธออย่างไรอย่างนั้น พลางยิ้มเล็ก น้อยก่อนจะพูดว่า : “ขอโทษด้วยนะ พอดีว่าฉันต้องไปส่งพวก เธอกลับบ้าน ถ้าเกิดว่าเธอไม่ได้ขับรถมา ก็เรียกรถเอาละกัน

เขามองผู้หญิงเหล่านั้นอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า : “สาวๆทั้ง หลาย รถจอดอยู่ข้างนอกนะ อยากจะให้ฉันเป็นคนขับรถสักวัน หนึ่งไหม ? ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ