ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 27 ทำเพื่อเขา มันคุ้มเหรอ ?



บทที่ 27 ทำเพื่อเขา มันคุ้ม เหรอ ?

“หยู่เซวียน คนรู้จักฉันเพิ่งเคยมาครั้งแรก ฉันแค่อยากดูว่ามีอะไรที่ฉันจะ ช่วยเขาได้ไหม”

โอกาสในการหักหน้ากู้อานหยานนั้นไม่ได้หาได้ง่ายๆ เปฟางฟางจะปล่อย โอกาสนี้ไปง่ายๆได้อย่างไร ?

เธอยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า : “พวกเขาอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องเหล้าเรื่องไวน์สัก เท่าไหร่ SENDEVISรIONหรือCONSAICEอะไรก็แล้วแต่ ในฐานะที่รู้จักกัน ฉันไม่สามารถมองพวกเขาอับอายขายขี้หน้าแบบนี้ไม่ได้หรอก ใช่ไหม ล่ะ ?”

คิดไม่ถึงเลยว่ามูหยู่เขียนจะรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิม น้ำเสียงที่พูดออก มานั้นฟังแล้วดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก : “ฉันบอกว่าให้กลับมาไง !

“หยู่เชวียน..”

“คุณผู้หญิง SENDEVISIONปีเจ็ดแปด กับCONSAICEปีแปดสองนั้น ทาง โรงแรมของเรามี เพียงแต่ว่ามีเพียงอย่างละสองขวดเท่านั้น”

บริกรพยักหน้า ด้วยความที่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพเป็นอย่างดี เขาจึงได้ แต่แอบยิ้มเบาๆ นอกจากรอยยิ้มก็ไม่มีอารมณ์อื่นอีกเลย

เมื่อหันกลับมามองกู้อานหยาน บริกรดูจะบริการดีกว่าเมื่อครู่เยอะเลย เขาพูด : “ขอโทษด้วยนะครับ คุณผู้หญิงครับ ไวน์แดงสี่ขวดนี้เป็นของ ล้ำค่าของโรงแรมเราเอง มันเป็น….เป็นไวน์ที่เตรียมเอาไว้ให้กับบ้านตระกู ลมู่ ก็เลย….”

ของตระกูลมู่ ! ทั้งเมืองเป่ยหลิงนี้ กล้าเรียกว่า “คุณชายใหญ่มู่”เหรอ นอก จากปู่จ้านเปีย ยังมีใครอีก ?

ที่เมืองเป่ยหลิง ถือว่าเป็นคนตระกูลมู่ ถ้าว่าเป็นคุณชายในตระกูลพอดี แต่ว่า อยู่ข้างนอก ก็ไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าคุณชายตระกูลมู่หรอก !

กู้อานหยานยิ้มอ่อนๆ : “ยังไงคุณชายก็เป็นคนที่ดี ฉันจะไม่เอาของรัก ของคนอื่นมากินก็แล้วกัน เอาสไปร์ทมาสี่ขวดก็แล้วกัน

บริกรพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะจดรายการอาหาร

เฟย์ฟางฟางรู้สึกได้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวนั้นเย็นไปหมด ไม่รู้เลยว่าบนโลกนี้จะมี เหล้าสองชนิดนี้อยู่ด้วย แต่เหล้านี้ ก็ถือว่าเป็นของคุณชายมุ !

ตอนนี้ไม่ต้องสนใจแล้วว่าเหล้านั้นมันดีหรือไม่ดี แต่ถึงยังไงก็เป็นของชอบ ของตระกูลมู่อยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นของชั้นดีมากๆแน่นอน !

เมื่อกี้เธอเพิ่งจะขำที่กู้อานหยานไม่รู้จักเหล้าเป็นอย่างดี แถมยังพูดเสียง ดังมากว่าเหล้าสองชนิดนี้ไม่มีอยู่จริงบนโลก ในตอนนี้..

“เห้อ….” ไม่ห่างจากนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่

โต๊ะรับประทานอาหารโต๊ะอื่นๆ ก็ค่อยๆมีเสียงหัวเราะดังตามมา และ แน่นอนว่า ทุกคนกำลังขำที่เธอไม่รู้อะไรแถม ยังไปหัวเราะเยาะคนอื่น อีก

เปฟางฟางทั้งโกรธทั้งอับอาย ปลายนิ้วทั้งหมดของเธอสั่นไปหมด เธออยากจะพูดอะไร ก็พูดไม่ออกสักคำ

แท้จริงแล้วเมื่อครู่ที่มู่หยู่เซวียนเรียกเธอกลับไปนั่งด้วยอารมณ์ที่ไม่ พอใจขนาดนั้น ก็เป็นเพราะมองออกว่าเธอไม่มีความรู้ด้านนี้นี่เอง!

ขายขี้หน้าจริงๆ ! ขายขี้หน้าจนเธออยากจะร้องไห้ออกมา !

เย่ฟางฟางกับฟันกรอด ก่อนจะกลับไปนั่งที่ของตัวเองตามเดิม

ต้องเป็นเพราะกู้อานหยานได้ยินชื่อเหล้าพวกนี้จากคนตระกูลมู่ ก็ เลยทำเป็นรู้จักเหล้าเป็นอย่างดีแน่เลย !

พวกเขาสั่งอาหารไปแล้วไม่ใช่เหรอ ? เธอกำลังรอดูอยู่ว่าตอนที่ พวกคนจนพวกนี้ไม่มีเงินจ่ายจนต้องไปล้างจานจะทำยังไงต่อไป !

อาหารราคาแพงขนาดนั้น ล้างจานให้ตายก็ชดใช้ไม่หมด ! เธอก็ ยินดีที่จะช่วยแจ้งความให้ !

ราคาหลายแสนบาทนี้ เพียงพอที่พวกเขาจะกินได้แค่คิดเดียว สีหน้าของปูอยู่เซวียนนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก เปฟางฟางรีบกุมมือเขาเอาไว้ ก่อนจะทำเสียงอ้อนอีกครั้ง

“หยู่เซวียน เธอรู้อะไรไหม ที่บ้านฉันเข้มงวดมากเลย คุณพ่อไม่ให้ ดื่มของพวกนี้เลย ฉันไม่ชอบเลยจริงๆ จะไปเหมือนกับคนพวกนั้นได้ ยังไงล่ะ ที่วันๆจะเอาแต่กินเหล้าน่ะ”

เธอเขย่าๆมือของมู่หยู่เซวียน ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ออดอ้อนกว่า เดิม : “หยู่เซวียน หรือว่าเธอชอบผู้หญิงที่วันๆมั่วสุมอยู่แต่ในผับใน บาร์ แล้วก็เปลี่ยนผู้ชายมากหน้าหลายตาเหรอ ?”

ซูเสี่ยวหมี่หนไม่ไหวจนเกือบลุกขึ้นด่ากลับ ใครเขาเอาแต่มั่วสุมใน ผับแล้วเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ กัน ?

นั่งผู้หญิงเลว ควรจะหุบปากได้แล้ว !

กู้อานหยานพยายามจะตอกกลับ ยิ้มอ่อนพลางพูดว่า : “ที่นี่เป็นที่ สาธารณะนะ พวกเราเงียบหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะไปรบกวนคนอื่นเอาได้ เสียมารยาทเอาได้”

เธอพูดเสียงไม่ดังมาก แต่ว่าทุกคนรอบๆนั้นได้ยินกันหมด !

“นังเลว ! เธอกำลังว่าใครเสียงดัง ! “เย่ฟางฟางนี่เป็นคนยังไงกันนะ สงสัยจะถูกบ้านสกุลliเลี้ยงมาแบบไข่ในหินสินะ เลยรับแรงอะไร แบบนี้ไม่ไหวเลยสักนิด ?

กู้อานหยานไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย แต่ว่า แต่ว่าสายตารอบๆนั้นจับ จ้องมา ที่เธอ

เปฟางฟางโกรธมากจนอยากจะเดินตรงเข้าไปหากู้อานหยาน แต่มู่ห ยู่เซวียนกลับพูดขึ้นมาว่า : “ถ้าไม่อยากกินข้าวแล้ว เราก็ออกจากที่นี่ กันเถอะ”

เขารู้สึกขายหน้ามากเต็มทนแล้ว !

ตอนแรกเห็นว่าหญิงคนนี้สวยมาก แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับกู้เวยจึ ออีก เป็นเพราะเขาชอบกู้เวยจืออยู่แล้วด้วย ก็เลยหลงรักเย่ฟางฟาง ไปโดยปริยาย

ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเธอจะมีความงี่เง่าอยู่บ้าง แต่ทว่า มู่หยู่เซวียนกลับ คิดว่าดูน่ารักดี จึงง้องอนไปตามเธอ

แต่มาวันนี้ หญิงที่มาอยู่ต่อหน้ากู้อานหยานนั้น เขากลับรู้สึกว่าเย่ฟาง ฟางนั้นเป็นคนน่ารังเกียจคนหนึ่ง !

ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของกู้อานหยานจะดูไม่ได้เลย แต่ท่าทาง การพูดการจาของเธอนั้นดูสูงส่ง ราวกับดอกไม้งามอย่างไรอย่าง นั้น !

เมื่อต้องมาอยู่ในสถานการณ์นี้ คนธรรมดาไม่น่าจะมีอากัปกริยาแบบ นี้ได้ ต้องเป็นคนสูงอย่างแน่นอน

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากู้เวยจือสวยกว่าเธอถึงร้อยเท่า เขารู้สึกว่ากริยา ของกู้อานหยานนั้น กู้ก็ยังเทียบไม่ติด ! เมื่อเห็นหญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า ทำให้หมดความอยากอาหารลงไปใน

ทันตา !

เปฟางฟางรู้ว่าเขาโกรธมากแล้ว จึงทำให้รู้สึกน้อยใจมากกว่าเดิม แต่ ก็ไม่กล้าจะทำอะไรไปมากกว่านี้

อาหารมาเสิร์ฟพอดี ถึงแม้ว่าเยฟางฟางจะไม่งี่เง่า แต่ก็ไม่กินอะไร

เลย !

เธอน้อยใจ ! เธอนั้นรู้สึกไม่ดี ! เธอถูกกลั่นแกล้ง ! มู่หยู่เซวียนไม่ได้ ปลอบ แถมยังโทษเธออีก !

เธอไม่กินอะไรเลย ! แม้ว่าจะเป็นกุ้งจากทะเลน้ำลึก คิงแครปนึ่ง นอกจากนี้ยังมีหอยเป๋าซื้ออีก แต่ละจานนั้นดูแล้วน้ำลายแทบจะไหล ออกจากปาก

แต่ทว่ามู่หยู่เซวียนเองก็ไม่ปลอบใจเธอ เธอเองก็ไม่ยอมกิน !

โต๊ะที่นั่งอยู่ตรงข้ามนั้น ซูเสี่ยวหมีกับหยางอีรู้สึกควบคุมตัวเองไม่อยู่ อยู่เพียงชั่วครู่ เมื่อมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะนั้น ก็ทนไม่ไหว จนแทบ อยากจะรีบกินอย่างเอร็ดอร่อย

เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว อาหารก็มาครบแล้ว ถึงจะจ่ายไม่ไหวก็ต้อง จ่าย !

มาถึงขนาดนี้แล้ว กินอย่างเอร็ดอร่อยดีกว่า กินหมดแล้วค่อยคิดว่า จะทำอย่างไรดี

อย่างมาก ก็เอาของในบ้านไปจำนำก็ได้แล้ว ! กินแล้วค่อยศิตก็แล้วกัน !

“อร่อยมาก ! เนื้อของปูตัวนี้ทั้งนุ่งทั้งสื่น เกิดมาไม่เคยกินปูที่ตัวใหญ่ ขนาดนี้มาก่อนเลย ! “ซูเสี่ยวหมี่มีความสุขมากจนน้ำตาแทบไหลออก

มา

หยางอีเองก็กินจนไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเองแล้ว : “อร่อย อร่อยมากจริงๆ !!

แม้กระทั่งมู่เทียนโย่วที่ดูจะสุขุมมากที่สุดก็ยังกัมหน้าก้มตากิน ส่วน แววตานั้นเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม

โรงแรมหรูขนาดนี้ ของดูสมเหตุสมผลกับราคา ถึงแม้ว่าจะแพงหูฉี แต่ทว่า เมื่อได้กินอาหารจานนี้เข้าไป ถือว่าเป็นความสุขคำโตในชีวิต เลยทีเดียว !

ไม่เพียงแค่วัตถุดิบที่สดใหม่ แต่กรรมวิธีการทำก็เป็นที่ยอมรับใน สากลอีกด้วย !

อร่อยมาก ! กินจนลืมชื่อลืมนามสกุลกันเลยทีเดียว

กู้อานหยานไม่ได้กินจนมีความสุขขนาดนี้มานานมากแล้ว

ถึงแม้ว่าหลังจากที่บรรพบุรุษแต่งงานกับมู่จ้านเป่ย ไม่ว่าจะเป็น อาหารที่หากินยากขนาดไหนเธอก็เคยกินมาหมดแล้ว แต่ว่า การกิน คนเดียว กับกินหลายๆคน มันไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย เมื่อครั้งที่มู่จ้านเป่ยมากินข้าวร่วมโต๊ะกับเธอ ราคาอาหารบนโต๊ะนั้น แพงราวกับทองคำ

เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าตอนนั้นเธอกำลังไล่ตามอะไรอยู่ เธอทำเพื่อ ผู้ชายที่ไม่ได้รักเธอเลยแม้แต่น้อย และยอมทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้าง หลัง

ทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมา สุดท้าย เธอกลับไม่เหลืออะไรเลย มัน

คุ้มกับซะที่ไหน ?

คำตอบ มันชัดเจนอยู่

“พวกอดอยาก ! “เปฟางฟางที่นั่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลกำลังมองบน ใส่เธอ

แต่ทว่า จนถึงตอนนี้ม่หยู่เซวียนก็ยังไม่ได้ปลอบเธอเลยแม้แต่น้อย เธอจะหิวตายอยู่แล้ว ! ผู้ชายคนนี้นี่ทำอะไรอยู่นะ ?

มันไม่ง่ายเลย ที่จะรอดูกู้อานหยานกินจนจานสะอาดหมดแล้ว เธอ ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปหาเขา

“กินอิ่มรึยัง ? เราเช็คบิลเลยดีไหม ?”

ใบหน้ายิ้มแย้มนั้น ดูๆแล้วสวยหยดย้อยเป็นอย่างมาก แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ดูจะเย็นชาเหลือเกิน

“กินไปเยอะขนาดนี้ ราคาหารก็ไม่ใช่ถูกๆ อานหยานเธอมีเงินจ่ายเห รอ ? ให้ฉันช่วยเธอจ่ายไหม ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ