ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่26 ถ้าไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องมากินของแพง



บทที่26 ถ้าไม่มีเงิน ก็ไม่ต้องมากินของแพง

“ตะก้เธอว่าไงนะ ? “หยางอีกับซูเสี่ยวหมี่ก้าวเท้าเข้าประชิด เพื่อที่จะขวาง ทางกู้อานหยานเอาไว้

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเงินในกระเป๋าของเขากับระดับของโรงแรมนี้จะดู ไม่เหมาะกันสักเท่าไหร่ แต่ว่า มันก็ไม่ได้หมายความว่าเปฟางฟางจะมา เยอะเย้ยกู้อานหยานแบบนี้ได้ !

มู่เทียนโปวกำหมัดเอาไว้แน่น นิ้วมือทั้งห้าของเธอนั้นกำไว้จนแน่น

เมื่อตอนบ่ายเปฟางฟางเพิ่งจะได้เห็นกับตาว่าชายคนนั้นไปอยู่กับคนของ เธอเอง ยิ่งเดี๋ยวนี้ เวลาเห็นเขา เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมาไม่มากก็น้อย

แต่เมื่อนึกถึงชายที่อยู่ข้างกายเธอนั้น ความกล้าของเธอก็มากขึ้นในทันที เธอจึงยึดตัวตรงในทันใด

“เป็นยังไงล่ะ ? ทำอะไรไม่ได้ล่ะสิ ? กู้อานหยาน ทำไมเธอถึงมัวแต่อยู่กับ คนพรรค์นี้ ? ไม่แปลกเลยที่พี่เวยจือพูดว่าเธอเนี่ยมันเกินเยียวยาแล้ว ! ”

เฟย์ฟางฟางเป็นหลานสาวของสุ่ยชิง และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับกู้เวยจือ อีกต่างหาก โดยที่เธอเชื่อฟังกู้เวยจีอเป็นอย่างมาก

“ตักเธอว่าใครเป็นคนพรรค์นั้นน่ะ ! พูดอีกทีสิ ! “ซูเสี่ยวหมี่โกรธจนหน้า

แดง “แล้วเธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรือไงกัน ? “เปฟางฟางมองไปทางผู้จัดการ”นี่ผู้ จัดการเชิญคนพวกนี้กลับมาทำงานจริงๆเหรอ ?”

“ไม่ใช่ ผู้หญิงคนนี้นะ พวกเขาไม่ใช่คนของโรงแรมเรา”

ผู้จัดการมองผู้ชายที่อยู่กับเปฟางฟางเพียงแวบเดียว ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตัว เองไม่ควรไปยั่วโมโหเขา

เขาก้มหน้าลงต่ำ ก่อนจะมองไปทางกู้อานหยานแล้วพูดว่า : “ยังไงพวก คุณก็ไม่ได้มาใช้บริการอะไรหรอก ถ้างั้น ขอเชิญพวกคุณออกไปด้วยนะ”

เย่ฟางฟางยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนจะมองพวกเขา “ตอนแรกจะมากินข้าวเห รอ ? แต่ก็ไม่เป็นไร พวกเขามีเงินก็ให้พวกเขากินไป แต่ว่า ฉันว่าพวกเขามี ปัญญากินได้แค่อาหารโรงทานเท่านั้นแหละ เหอะ ! ”

ผู้จัดการอยากจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมา กู้อานหยานกลับ โพล่งขึ้นมาว่า : “พวกเรามาใช้บริการนะว่าแต่โรงแรมนี้มีกฎใช่ไหม ว่า ต้องจ่ายเงินก่อนถึงจะสั่งอาหารได้ ?”

“เอ่อ….”ผู้จัดการของโรงแรมอึ้ง จนไม่รู้จะพูดอะไร

กู้อานหยานจูงมีอซูเสี่ยวหมี่ และเดินตรงไปทางลิฟต์

ผู้จัดการนั้นอยากจะเข้าไปขวาง แต่เขากลับคิดเหตุผลดีๆในการเข้าไป ขัดขวางไม่ออกเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูเหมือนไม่มีเงินพอที่จะจ่าย แต่ว่า เขายังไม่ได้สั่ง อาหารอะไรเลย ถ้าจะให้ไล่ลูกค้าออกไปตอนนี้ ก็คงไม่มีเหตุผลมากพอที่ จะทำแบบนั้น

เมื่อพวกกู้อานหยานเดินเข้าไปในลิฟต์ เย่ฟางฟางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะ เมือกว่า : “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพวกเขาจะสั่งกินอะไรได้ แค่อาหาร เรียกน้ำย่อยจานเดียวก็ไม่มีปัญญาจะสั่งกินแล้วมั้ง ! ”

เธอเกาะแขนของชายที่อยู่ข้างกาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูอ่อน โยน : “ไปเราไปกินข้าวกันเถอะ”

ชายคนนั้นยื่นนามบัตรให้กับผู้จัดการ ก่อนที่ผู้จัดการจะพูดขึ้นว่า : “ที่แท้ ก็เป็นคุณขายของตระกูลมู่นั่นเอง เชิญขึ้นไปที่ชั้นสองได้เลยครับ เดี๋ยวจะ จัดเตรียมที่นั่งที่ดีที่สุดให้ครับ”

“ไม่ต้อง ขอเป็นที่นั่งใกล้ๆกับพวกคนเมื่อสักครู่ก็พอ”

เปฟางฟางอยากจะรู้นัก ว่าพวกกู้อานหยานจะสั่งอาหารเรียกน้ำย่อยจาน หนึ่งมาแบ่งกันสี่คนเปล่า !

เธอเขย่ามือของมู่หยู่เซวียนเบาๆ ก่อนจะพูดอ้อนว่า : “เป็นเพราะกู้อานห ยานมาทำร้ายลูกพี่ลูกน้องฉันก่อน ฉันถึงได้เกลียดเธอขนาดนี้ เธออย่างได้ ใส่ใจเลยนะ”

“เธอหมายถึง ผู้หญิงคนนั้นทำร้ายกู้เวยจือเหรอ ? “มู่หยู่เซวียนรักกู้เวยจือ เป็นอย่างมาก แต่หว่า ได้ยินมาว่าคุณชายสามกำลังตามจีบกู้เวยจืออยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะ เป็นคุณชายมู แต่กลับเป็นลูกของคุณชายที่สอง ซึ่งถือว่าเป็นเพียงสาย เลือดรองลงมา

เวลาอยู่ข้างนอกเขาดูเป็นคนที่สูงส่งเกินเอื้อม แต่อันที่จริง เมื่ออยู่ต่อหน้า ตระกูลมู่เขาก็เป็นแค่คนที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรมากนัก

ดังนั้นเขาจึงถอยออกมาเพื่อเลือกคบกับตัวเลือกรองลงมา ก็คือเปฟางฟาง ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของกู้เวยจือ

แต่ถึงยังไงเปฟางฟางก็สวยสดงดงามดี

เมื่อทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบนแล้ว ผู้จัดการเป็นคนจัดที่นั่งให้ด้วยตนเอง ถึง แม้ว่าจะเป็นแค่สายเลือดรองลงมาของตระกูลมู่ แต่ในเมืองเป่ยหลิงก็นับว่า เป็นคนใหญ่คนโตอยู่ดี !

แน่นอนว่าผู้จัดการเองไม่ได้อยากจัดที่นั่งให้ติดกันมาก โดยเฉพาะที่นั่ง ติดกับกู้อานหยานและอีกสามคนนั้น จึงนั่งอยู่ติดริมหน้าต่าง

เปฟางฟางนั่งลง พลางมองไปที่มีหยู่เขวียน : “หยู่เซวียน เธออยากจะกิน อะไรเหรอ ?”

“เธอสั่งได้เลย”เย่ฟางฟางเป็นคนรักของมู่หยู่เซวียน เขาเป็นคนใจกว้าง ต่อผู้หญิงมาก

“งั้นฉันเลือกเองเลยนะ”อาหารที่เยฟางฟางเลือกนั้น ล้วนเป็นของที่แพง ที่สุดทั้งสิ้น เสียงที่เธอพูดก็ไม่ใช่เบาๆ คนแถวๆนั้นได้ยินกันหมด ซูเสี่ยวหมีไม่ได้ระวังอะไร กำลังถือเมนูอาหารอยู่พอดีจึงเห็นอาหารที่เย่ ฟางฟางสั่ง ก็เกือบตกใจจนหน้าซีดเผือด

อาหารอย่างเดียวราคาเป็นหมื่น บ้าไปแล้วรึเปล่า ! ต้องแพงขนาดนั้นเลน เหรอ ?

“เป็นยังไงบ้าง ? อยากกินอะไรล่ะ ? “กู้อานหยานหยิบเมนูอาหารไปวาง ตรงหน้าเขา แต่ทว่า ไม่มีใครกล้าสั่งเลย

แค่อาหารเรียกน้ำย่อยยังราคาหลักพันเลย นี่มันบ้าเกินไปแล้ว !

อาหารเรียกน้ำย่อยเพียงจานเดียวสามารถซื้อข้าวกินไปได้อีกหลายมื้อ เลยทีเดียว ถ้าสั่งอาหารมาสักจาน คงจะต้องถอดกางเกงไปจำนำก่อนถึงจะ จ่ายไหวใช่ไหมเนี่ย ?

มู่เทียนโย่วมองกู้อานหยาน ถึงแม้เสียงจะไม่ดัง แต่ทว่า ได้ยินอย่าง ชัดเจนว่า : “พวกเธออยากกินอะไรก็สั่งนะ ฉัน…”

“ไม่ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง อยากจะกินอะไร ก็สั่งกันได้ตามสบายเลยนะ”กู้อาน หยานพูดพลางยิ้มออกมา

แต่ทว่า ทุกคนกลับไม่กล้าสั่งอะไร

“เป็นยังไงบ้าง ? เพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกใช่ไหม ? ให้ฉันช่วยแนะนำอาหาร ที่นี่ให้เอาไหม ?” ไม่รู้ว่าเปฟางฟางเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ ผลิ : ได้ยินมาว่าสปาเก็ตตี้กุ้งมังกรของที่นี่ก็ไม่เลวเลยนะ เป็นกุ้งที่ส่งตรง จากทะเลน้ำลึกวันต่อวันเลยนะ”

สปาเก็ตตี้กุ้งมังกรจากทะเลน้ำลึก….ซูเสี่ยวหมี่อ่านเมนู จนเบิกตาโผลง

เก้าพันแปด ! นี่มันกุ้งมังกรอะไรเนี่ย ? เลี้ยงด้วยทองคำเหรอ ?

“โอเค งั้นเอาสปาเก็ตตี้กุ้งมังกรที่หนึ่ง”

“อานหยาน…”ซูเสี่ยวหมี่ห้ามเอาไว้ไม่ทัน กู้อานหยานสั่งอาหารไป

เรียบร้อย

สีหน้าของเย่ฟางฟางก็เปลี่ยนไปในทันตา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็น ชา : “กู้อานหยาน ถ้าอยากจะมากินอะไรแบบนี้ ก็ต้องดูด้วยนะว่าตัวเองมี ปัญญาจ่ายไหวรึเปล่า !

“จริงเหรอ ? ฉันผอมขนาดนี้ ทำไมจะต้องกินอะไรแบบนี้ให้ตัวเองอ้วนด้วย ล่ะ ? ถ้าจะพูดให้ถูก ฉันไม่อยากอ้วนหรอกนะ หรือว่าจะให้ฉันขาใหญ่ เหมือนเธอถึงจะพอใจ ?”

คำพูดของกู้อานหยาน ทำให้เยฟางฟางโกรธจนหน้าแดงขึ้นมาทันที

จริงๆแล้วหุ่นของเธอก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่ว่า สิ่งที่ดูไม่ดีที่สุดก็คือขาทั้งสอง ข้างของเธอ ไขมันที่ต้นขานั้นไม่ว่าจะลดอย่างไรก็ลดไม่ลง ! เธอไม่สามารถใส่กระโปรงสั้นๆได้เลยด้วยซ้ำ ก็เพราะเธอนั้นขาใหญ่เกิน

ไป !

“ฉันเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้เลยว่ามาอาหารแนะนำอะไรบ้าง

กู้อานหยานมองบริกร พลางยิ้มอ่อนๆ : “งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน พวกเขาสั่ง อะไร คุณก็จัดมาให้พวกเราแบบนั้น”

เธอชี้ไปทางเยฟ้างฟาง เมื่อคิดๆดูแล้วจึงพูดต่อว่า : “ไม่สิ พวกเขามากัน แค่สองคน พวกเรามากันสี่คน…ถ้าอย่างนั้น เอาแบบพวกเขาสองชุดก็แล้ว

กัน

“สอง ….ชุด ? “ซูเสี่ยวหมี่และหยางอีเบิกตาโผลง พวกเธอตกใจเป็นอย่าง มาก จนหัวใจแทบจะหยุดเต้น

บริกรเองก็ทำหน้าเหมือนจะไม่เชื่อ : “พวกเขา ….สั่งแต่อาหารขึ้นชื่อทั้ง นั้นเลย….*

“ทำไมเหรอ ? หรือว่า เธอไม่เชื่อมั่นในอาหารของตัวเองเหรอ ?”

“ไม่ใช่แบบนั้น….”

“ถ้าอย่างนั้นก็สั่งเลย อย่าเสียเวลาของพวกเรา”กู้อานหยานมองไปที่แก้ว น้ำ ก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า : “จริงสิ เอาSENDEVISIONของปีเจ็ดแปดมา ให้ด้วยนะ” “SENDEVISIONปีเจ็ดแปดอะไรกัน ? กู้อานหยาน เธอไม่รู้เรื่องเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ก็อย่าพูดมั่ว ไม่กลัวอายคนอื่นเขาหรอ ?”

เปฟางฟางโกรธจนทนไม่ไหว ยัยอ้วนนี่ พอใจแล้วใช่ไหม ?

กู้อานหยานคนนี้ ถึงกับกล้ากินแบบเดียวกับที่พวกนั้นกิน ! แถมยังสั่งมา ถึงสองเซ็ตเลยเนี่ยนะ ! เธอเอความกล้านี้มาจากไหนกัน ?

“ทำไมเหรอ ? ที่บ้านของพวกเธอไม่มีแม้แต่SENDEVISIONเหรอ ?”

กู้อานหยานไม่แม้แต่จะชายตามองเปฟางฟาง เธอมองแต่บริกร : “งั้นเอา แบบนี้ก็แล้วกัน ถ้าไม่มี ก็เอาCONSAICEของปีแปดสอ

มา”

บริกรเองก็ได้แต่ยืนอึ้ง กู้อานหยานจึงพูดต่อว่า : “งั้นไม่เป็นไร เอาสไปร์ หมาสี่ขวด น่าจะมีใช่ไหม ?”

เยฟางฟางอยากจะตอกกลับเต็มทน จึงยิ้มอยากเยือกเย็นพลางพูด ว่า : “เหอะ ! กู้อานหยาน เหล้าพวกนั้นไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่รู้ ก็ อย่า…”

อีกฝั่งหนึ่งมู่หยู่เซวียนกลับพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า : “ฟางฟาง กลับมานั่ง

ที่”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ