บทที่86 ผู้ชายที่ราวกับเทพเจ้า
บทที่86 ผู้ชายที่ราวกับเทพเจ้า
ท่ามกลางความมืด เขายืนอยู่ในวงล้อมของพวก อันธพาล นัยน์ตาเย็นของเขาสะบัดผ่านตัวเด็ก สาวของเขา และท่ามกลางนัยน์ตาที่เหมือนป่า อาถรรพ์ยังแฝงไว้ด้วยแวววิตกกังวลที่คนอื่นดู ออกยากด้วย
พอแวววิตกกังวลเกิดขึ้นในพริบตาเดียวผ่านไป แล้ว ก็กลับสู่ความสงบอีกครั้งหนาวเย็นจนเหมือน ภูเขาน้ำแข็ง
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พวกผู้ชายที่ถือมีด สิบกว่าคนก็ถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวไปสองก้าว ไม่มี คนไหนที่ไม่โดนกลิ่นอายใน ตัวเขาทำให้ตกใจกลัวเลย!
หนาวเหน็บ เย็นเยียบ ทำให้คนหวาดหวั่นและ หวาดกลัว ! สายตาแบบนี้ แววตาแบบนี้ กลิ่นอายแบบนี้ เปรียบเสมือนอสุราที่ขึ้นมาจากนรก!
“มู่ คุณชายใหญ่……” มีคนขยับปาก พูดคำพูดที่ ทำให้คนหวาดกลัวขึ้นมา
คุณชายใหญ่มู่ เป็นคุณชายใหญ่มู่จริง ๆ ด้วย! เรื่องนี้ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับคุณชายใหญ่มู่ไปได้?
พวกเขาแค่รับเงินมาแล้วทำงาน ใครจะ ไปคาดคิดว่า คุณชายใหญ่มู่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วย?
ในเมืองเป่ยหลิง ยินยอมขัดใจเทวดา ก็ไม่อยาก ขัดใจคุณชายใหญ่มู่! เขาน่ากลัวกว่าเทวดาซะอีก!
เขาน่ากลัวอย่างกับภูตผีปีศาจ!
“พี่ใหญ่ เขา เขาแค่ตัวคนเดียว……” มีคนพูดขึ้น
ข้างหูพี่ใหญ่
พี่ใหญ่จ้องมองมู่บ้านเป่ย สายตาที่กลัวจนสั่นแต่ แรก กว่าจะสงบลงได้อย่างยากลำบาก
ใช่ คุณชายใหญ่มู่ในคืนนี้ เขามาแค่ตัว คนเดียวเอง
ถึงแม้เขาจะมีอำนาจจนพลิกแผ่นดินได้ ถึงแม้ เขาจะน่ากลัวจริง ๆ แต่ว่า ไม่ว่ายังไงก็ได้ขัดใจ เขาไปแล้ว!
ถึงจะจากไปตอนนี้ คุณชายใหญ่มู่ก็คงจะไม่ ปล่อยพวกเขาไว้แน่
ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว งั้นก็……หนึ่งอย่าทำ สอง
อย่าหยุด!
“บุกเข้าไปบุกเข้าไปให้หมด! อยากจะมีชีวิตอยู่ ต่อ ก็จัดการเขาซะ!”
มีแต่จัดการเขาได้เท่านั้น ทุกคนถึงจะมีโอกาส รอดชีวิต!
ไม่อย่างงั้น ถ้าหากคุณชายใหญ่มู่ไปจากที่นี่ อย่างมีชีวิตแล้วละก็ พวกเขาก็ต้องตายหมดแน่! คนยี่สิบกว่าคนมองกันไปมองกันมา ในที่สุดก็ ตัดสินใจ กำมีดในมือแน่น แล้วพุ่งเข้าใส่มู่บ้านเป่ย พร้อม ๆ กัน
กู้อานหยานตกใจจนใจสั่นวูบ อยากจะเข้าไป ช่วย แต่กลับถูกมู่เทียนโยวดึงตัวกลับมา
เทียนโยวกระชากเธอทีหนึ่ง แล้วดึงเธอไปอยู่
ข้าง ๆ หยางอี
เขาเก็บมีดที่กู้อานหยานทำตกไว้ที่พื้น แล้วใช้ เท้าเตะอีกเล่มที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วยื่นไปทางมู่จ้านเป่ย
มู่จ้านเป่ยมองเขาเรียบ ๆ ทีหนึ่ง แล้วก็รับมีดมา และฟันไปที่ผู้ชายที่พุ่งเข้ามาข้างหน้าหนึ่งที
“อ่า….”เสียงผู้ชายร้องโหยหวน แขนครึ่งท่อน แขนห้อยโตงเตงอยู่ข้างลำตัวทันที
เขาตาขาวค้าง เสียงตุ้มทีหนึ่งเจ็บจนเป็นลมล้ม พับไปกองกับพื้น เลือดสด ๆ ไหลอาบไปทั่ว คุณชายใหญ่มู่ลงมือเอง ก็ต้องเร็ว ตรงเป้าหมาย และโหด! ถึงจะไม่ถึงชีวิต แต่น่ากลัวยิ่งกว่าถึง ชีวิตซะอีก!
คนยี่สิบกว่าคน ก็อดไม่ได้ค่อย ๆ ถอยหลังไป ครึ่งก้าว พอมองผู้ชายที่เปรียบเสมือนอสุราตรง หน้านี้ ความกลัวก็พุ่งขึ้นมาถึงขีดสุด!
“ลุย! ลุยเข้าไป! ถ้าเขาไม่ตาย พวกเราก็จะตาย กันหมด!”
พี่ใหญ่ได้แต่ร้องตะโกน แม้แต่ครึ่งก้าวยังไม่ กล้าขยับเข้าไปเลย
แต่ว่า ที่พี่ใหญ่พูดมันก็เป็นความจริง
วันนี้ขัดใจคุณชายใหญ่มู่ไปแล้ว ถ้าคุณชายใหญ่ มู่ไม่ตาย แล้ววันหลังเขาเอาเรื่องขึ้นมา พวกเขาก็ ไม่มีโอกาสมีชีวิตรอดแล้ว!
“ลุย! ” ในที่สุด คนยี่สิบกว่าคนก็ยกมืดขึ้นอีกครั้ง
แล้วบุกเข้าไป มู่เทียนโยวกับมู่บ้านเป่ย คนหนึ่งอยู่หน้าคนหนึ่ง
อยู่หลัง คอยคุ้มกันคนทั้งสามที่นั่งอยู่บนพื้นขึ้นมา
ก็แค่คนสองคนเท่านั้น พวกยี่สิบกว่าคนนั้นกลับ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับพวกเขาแล้วจริง ๆ
อยากจะพุ่งทะลุเส้นป้องกันทั้งสองเส้นนี้ ยากยิ่ง
กว่าขึ้นสวรรค์ซะอีก!
ทุกครั้งที่มีดของพวกเขากระทบกัน กู้อานหยาน กับหยางอีก็ดูจนใจสั่นเนื้อเต้น
โดยเฉพาะกู้อานหยานที่นั่งอยู่ข้างหลังมู่บ้าน เป่ยไม่ไกลนัก พอเห็นคนสิบกว่าคนยกมีดขึ้นฟันมู่ จ้านเป่ยพร้อมกันแล้ว หัวใจของเธอก็เหมือนกับ โดนบีบจนขึ้นมาอยู่ถึงคอหอย
แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นเพียงเล็กน้อยใจดวงนี้ คงจะเต้นออกมาโดยตรง แล้วใส่กลับไปอีกไม่ได้
แน่!
ชายหนุ่มมั่นคงเหมือนอย่างภูเขาสูงใหญ่ พอยืน อยู่หน้าพวกเขา ก็สามารถกันคนที่พุ่งเข้ามาชุด แล้วชุดเล่าให้กลับออกไปได้
นิ่งสงบอย่างนี้ ยืนนิ่งดั่งเทพเจ้า ถึงแม้ สถานการณ์ตอนนี้จะหน้าสิ่วหน้าขวาน แต่ว่าเพียง แค่แผ่นหลังหนึ่ง ก็ทำให้คนอุ่นใจได้อย่าง ประหลาด
“หล่อจังเลย …. ไม่รู้ว่าซูเสี่ยวหมี่ตื่นขึ้นมา
ตั้งแต่เมื่อไหร่
พอเห็นเงาร่างของมู่บ้านเป่ยและมู่เทียนโยว์ที่ มั่นคงดั่งภูเขาไท่ ตื่นมาอย่างแรกไม่ใช่ว่าจะกลัว เลือดสด ๆ ที่ไหลนองเต็มพื้น แต่กลับหลงเสน่ห์ จนตาลาย!
หล่อมากจริง ๆ เลย!
ผู้ชายสองคนนี้ เป็นคนเย็นชาเหมือนกัน แผ่น หลังก็เท่มากเช่นกัน!
วินาทีนั้น อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าขอแค่มีพวกเขาอยู่ อะไร ก็ไม่กลัวแล้วทั้งนั้น มู่เทียนโยวก็คิดไม่ถึงว่า ตัวเขากับมู่บ้าน เป่ยจะร่วมมือกันได้ดีขนาดนี้
สองคนเฝ้ารอบสี่ทิศ พวกเขากลับมีความเข้าขา กันได้อย่างเต็มเปี่ยม ป้องกันได้อย่างไม่มีขาดตก บกพร่อง
“แย่แล้ว มีคนมาแล้ว!” ผู้ชายคนหนึ่งร้องอย่าง ตกใจขึ้น
“เป็น เป็นคนของคุณชายใหญ่..
แค่ “คนของคุณชายใหญ่มู่”คำเดียว ก็ทำให้คน ยี่สิบคนนี้ตกใจจนหน้าเป็นสีเหมือนดินแล้ว
วินาทีนั้น คนที่ยังวิ่งได้ก็รีบทิ้งมีดแล้วหมุนตัววิ่ง หนีไป
แค่คุณชายใหญ่มู่คนเดียว ก็บีบพวกเขาจนไม่มี ทางต่อสู้คืนได้แล้ว
ตอนนี้ คนของเขามาแล้ว ศึกตานี้ ผลแพ้ชนะยัง จะมีอะไรให้พูดอีก? ถ้าตอนนี้ไม่หนี แค่ าอีกสองวินาที ก็หนีไม่รอด
แน่!
สําหรับพวกที่กองอยู่บนพื้น แม้แต่จะคลานยัง คลานไม่ไหว ได้แต่สิ้นหวังอย่างหมดสิ้นแล้ว
คุณชายใหญ่” หลีเย่รีบร้อนวิ่งมา เห็นมู่บ้านเป็ ยกับกู้อานหยานไม่เป็นอะไร ถึงกล้ายกมือขึ้นมา ปาดเหงื่อบนหน้าผากทีหนึ่ง
ตอนนั้นเขาจากไปแล้ว แต่ไม่รู้เพราะอะไรทำไม อยู่ ๆ คุณชายใหญ่ก็บอกให้เขากลับรถกลับมา
ผลปรากฏว่าพอจอดรถปุ๊บ คุณชายใหญ่ก็รีบวิ่ง มาทางนี้เลย
หลีเย่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย แต่เห็นสีหน้า คุณชายใหญ่ดูเข้มงวด เขาคิดก็ไม่ได้คิด ก็รีบโทร หาฉินอี้ทันที
ความเร็วของคุณชายใหญ่เร็วมากจริง ๆ เขา โทรศัพท์ไปด้วยวิ่งตามไปด้วย กลับยังตามไม่ทัน เลย
พอสุดท้าย แม้แต่เงาคุณชายใหญ่ก็ตามจนหาย
ไปแล้ว!
คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่จะรีบมาช่วยคุณผู้หญิง แล้วเขารู้ว่าคุณผู้หญิงเกิดเรื่องขึ้นได้ยังไงกัน?
หรือว่า เป็นเพราะโทรจิตที่เขาว่ากัน?
ด้านหลัง ผู้ชายฝีมือแข็งแกร่งคนหนึ่ง เตะชาย ตัวใหญ่ที่ขวางทางอยู่ที่เดียวกระเด็นออกไป
ขายาวของเขาก้าวเดินไปอยู่ตรงหน้ามู่บ้านเป่ย แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ดูจากสายตาหนีไปทั้งหมด สิบแปดคนครับ”
มู่บ้านเป่ยมองเงาพวกที่วิ่งหนีอย่างรีบร้อนตรง ข้างหน้าตาหรี่ลงพูดว่า “อย่าให้หนีไปได้แม้แต่ คนเดียว”
“ครับ!” ในฐานะที่เป็นบอดี้การ์ดเงานั้นฉินอี้กลับ ตามคุณชายใหญ่จนคลาดสายตา เขารู้สึกผิดจะ ตายอยู่แล้ว
คนพวกนั้น จะต้องไม่ปล่อยให้หลุดไปแม้แต่คน เดียวอยู่แล้ว ไม่งั้น เขาจะเอาผลงานมาไถ่โทษ ความผิดของตัวเองได้ยังไง?
ฉินอี้พาคนไม่กี่คนตามออกไป
หลีเย่พูดขึ้น “คุณชายใหญ่ครับ มีคนแจ้งความ แล้ว เดี๋ยวเรื่องที่เหลือผมจัดการเอง คุณชาย ใหญ่พาคุณผู้หญิงกลับไปพักผ่อนเถอะครับ
ดูจากเลือดที่ไหลนองเต็มพื้นแล้ว ศึก เมื่อกี้ความเข้มข้นของการต่อสู้น่าจะนึกภาพได้ ไม่ยาก
คุณผู้หญิงยังเป็นเด็กสาวที่เพิ่งอายุครบสิบแปด ไม่ตกใจแย่ก็แปลกแล้ว!
มู่บ้านเป่ยหันหัวกลับไป เดินไปข้างหน้ากู้อ่านห ยานที่นั่งอยู่บนพื้น แล้วยื่นมือไปให้ กู้อานหยานรีบลุกขึ้นมา พูดอย่างร้อนใจว่า “ฉัน
ยังไม่สามารถ…….
เขาจับข้อมือเธอไว้ พูดอย่างไม่เปิดโอกาสให้ว่า “กลับบ้านกับฉัน
ยัยเด็กนี่ ยังอยากจะทำอะไรอีก?
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตอนนี้ ไม่ใช่ควรจะตกใจจน หลบอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายแล้วร้องไห้งอแง เหรอ?
แต่กลับยังมีรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน!
“เทียนโยวได้รับบาดเจ็บแล้ว ฉันยังไปไม่ได้” กู้ อานหยานขัดขืนเบา ๆ
คิดไม่ถึงชายหนุ่มจะจับแน่นขนาดนี้ ขัดขืนไม่ ออกสักนิด
เธอพูดอย่างร้อนใจว่า “ฉันจะส่งเทียนโยวไปโรง
พยาบาลก่อน เมื่อกี้เพื่อช่วยเธอเทียนโยวถึงได้รับบาดเจ็บ ถ้า หากมีดนี้เทียนโยวไม่ได้ช่วยเธอ บังไว้ ตอนนี้คนที่นอนเลือดไหลอาบอยู่บนพื้น
คงจะเป็นตัวเธอแน่
เวลาแบบนี้ เธอจะทิ้งเทียนโยวไว้ แล้วกลับบ้าน กับคุณชายใหญ่มู่ได้ยังไง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ