ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่288 ทําไมดีกับฉันขนาดนี้



บทที่288 ทําไมดีกับฉันขนาดนี้

บทที่288 ทำไมดีกับฉันขนาดนี้

จู่ๆกู้อานหยานก็อยาก

เขาจงใจเหรอ ? เธอเป็นคนที่ชอบเปรียบเทียบกับคน

อื่น ?

“จริงจังป่ะเนี่ย ? “เธอเลิกคิ้ว !

“จริงสิ”เจียงนานหันไปมอง สองมือถือโต๊ะพับที่เตรียมมา ตั้งแต่เช้าย้ายเข้ามา

โต๊ะเตรียมเสร็จ คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ออกไป

เจียงนานเอาบะหมี่สองสามถ้วยที่เพิ่งซื้อกลับมาวางไปที่ โต๊ะ “เจ้าแมวตะกละ มากินข้าว”

“หอมมาก”กู้อานหยานมองชามใหญ่สามใบที่ถูกดันมาที่ ตัวเอง ถูกกลิ่นหอมตรงนั้นจนทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
“ไม่รู้ว่าคุณชอบรสไหน เลยซื้อมาเยอะ คุณชิมดูก่อน”

เจียงนานเอาตะเกียบยัดใส่มือเธอ แล้วเปิดอีกถุงหนึ่ง แล้วก็ถือชามสามใบออกมา

“เยอะขนาดนี้ พวกเราสองคนจะกินอย่างไร ? “หกชาม พระเจ้า เวอร์เกินไปแล้ว

“ให้คุณชิมรสชาติ เจียงนานเอาอีกสามชามเสิร์ฟตรงหน้า

เธอ

กู้อานหยานรู้สึกว่าสิ้นเปลืองเกินไป แต่บะหมี่มากมาย ขนาดนี้มาวางตรงหน้า ความรู้สึกอยากอาหารก็ขึ้นมาทันที

เธอรีบถือตะเกียบไว้ ชิมชามแรก

“เป็นบะหมี่กระดูกหมู ! “อร่อยมากจริงๆ แต่ทำไมมองไม่ เห็นกระดูกหมูลยล่ะ ? “เนื้อล่ะ ? ”

“หมอบอกว่าวันนี้กินเนื้อไม่ได้ กลัวมัน กลัวจะทิ้งรอย แผลเป็น ผมเลยให้พวกเขาเอาออก
ถ้าไม่เอาออกมาก่อน ให้เธอดูแต่กินไม่ได้ จะยิ่งลำบาก มากขึ้น

กู้อานหยานหมดหนทาง ได้แต่กินบะหมี่ต่อไป

กินไปสองสามคำ ก็ทนไม่ไหวเอาชามข้างๆมา แล้วชิม “อร่อย ! ”

ตรงหน้าเธอเป็นประกาย แต่ พูดไม่ออกว่าเป็นใส่อะไรไป แต่สรุปว่า สดและหวานมาก !

“ไม่กินบะหมี่กระดูกหมูแล้วเหรอ ? “เจียงนานเหลือบมอง ไปที่ใบหน้าที่พึงพอใจของเธอ

“ฉัน…..ฉันอยากกินอันนี้”บะหมี่กระดูกหมูหอมมาก แต่ ไม่หอมเท่าชามนี้ !

“งั้นคุณก็กินสิ”เจียงนานยังไม่รู้เหรอ ? ยัยนี่รักการกินมาก

รู้จักกันมานาน ถึงเพิ่งจะเห็นว่า ตอนที่เธอใจเย็นก็ใจเย็น มากจริงๆ แต่ ส่วนมาก ก็แค่เด็กคนหนึ่ง
บางที อาจจะแค่อายุสิบแปด จะเป็นผู้ใหญ่ไปได้ถึง

ไหน ?

กู้อานหยานไม่สนว่าเขากำลังคิดอะไร หยิบตะเกียบเริ่ม

กิน

“อร่อย อร่อยมากจริงๆ คุณลองชิมไหมล่ะ

เธอใช้เวลามองเจียงนานแวบหนึ่ง จึงพบว่า คุณชายรอง เจียงถือตะเกียบ กำลังกินบะหมี่เช่นกัน

แต่ว่า ที่เขากิน……..ชามนี้ฉันกินไปแล้วนะ !”

“ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินแล้วเหรอ ? “เจียงนานขมวดคิ้ว

ของที่ตัวเองไม่เอา ยังไม่ให้คนอื่นกินเลย ? เผด็จการ แบบนี้เชียวเหรอ ?

“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนี้ ! “มองท่าทางเขาที่ไม่ พอใจ กู้อานหยานรู้ เขาเข้าใจผิดแล้ว

“ฉันหมายความว่า ฉัน……..นไปแล้ว ทำไมคุณ …..ยังกินลงได้ ? ”

“คุณมีพิษหรือโรคติดต่อหรือไง ? “เขาไม่แคร์สักนิด ชั่ว พริบตาเดียว บะหมี่หนึ่งชามก็ถูกเขากินหมดไปครึ่ง

กู้อานหยานกะพริบตา เธอไม่มีพิษ ไม่มีโรคติดต่อ แต่ เขาเป็นถึงคุณชายรองของตระกูล !

คุณชายรองเจียง กินของที่คนอื่นกินไป เขา……ไม่กลัว สกปรกเหรอ ?

“นี่ยังมีอีกหลายชาม คุณกินอันอื่นได้”พูดอย่างเซ็งๆ

เจียงนานกลับไม่เงยหน้า คณชิมไปแล้ว อันไหนไม่ชอบ ก็ให้ผม

กู้อานหยานหยิบตะเกียบ ในใจกลับรู้สึกแสบซ่า

มองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าตัวเอง ที่กำลังกินบะหมี่ ทันใดนั้น ก็มีความรู้สึกมึนงง

พวกเขารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ? แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มดีต่อตัวเอง ?

เห็นๆอยู่ว่าเป็นคนที่อยู่กันคนละโลก แต่ ไม่ทันไร ก็กลาย เป็นเพื่อนอย่างไม่รู้ตัว ละยังเอาแต่เฝ้าอยู่ข้างเธอ

เธอยังไม่รู้เลยว่า พวกเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่

ในที่สุดเจียงนานก็พบว่า ยัยนี่ไม่ได้กินบะหมี่ แต่กำลัง จ้องตัวเอง

กลืนของในปากไป เขาก็เงยหน้ามองเธอ ขมวดคิ้ว “ทำ อะไร ? ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ ? ”

“อือ”เธอพยักหน้า หล่อมาก

“ทำไม ? เพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบผมเหรอ ? ”

เจียงนานไม่สนคำพูดของเธอนัก ก้มหน้าลงกินบะหมี่ต่อ เพราะว่ากินอยู่ เลยพูดไม่ค่อยชัด

“บอกคุณให้นะ ผมไม่ได้ชอบคนแบบคุณมากนัก ดื้อและ ก็ไม่อ่อนโยน บางครั้งก็หยาบคาย อย่าชอบผม จะเสียใจได้

ถ้าเมื่อก่อนเขาพูดแบบนี้ กู้อานหยานจะต้องตอบโต้ และ

ไม่ชอบเขาแน่

แต่ตอนนี้ เธอได้แต่มองเขาเงียบๆ สักพัก จึงถามด้วย เสียงเบา “ทำไมคุณต้องดีกับฉันขนาดนี้ล่ะ ? ”

เจียงนานตะลึง จากนั้น ดื่มซุปที่เหลืออยู่ไปครึ่งหนึ่ง แล้ว จึงวางชามลง สบตากับเธอ

“ผมดีกับคุณมากเลยเหรอ ? “คำนี้ ถามอย่างจริงจัง กู้อานหยานก็คิดอย่างจริงจัง จึงพยักหน้า “ดีมาก”

“งั้นก็โอเค ! ต่อไป เป็นหนี้ผม ก็ต้องทำงานหนักเพื่อใช้ คืนผม ! อย่าลืมล่ะ ผมยังมีเงินลงทุนไปที่คุณ

….เธอพูดไม่ออกอีกครั้ง
ผู้ชายคนนี้ ทุกครั้งที่ทำให้เธอประทับใจหน่อยๆ ก็จะ ปล่อยหมัดมาให้เธอ ทำให้เธอมีสติขึ้นมาทันที

“รู้แล้ว ! “เธอบ่นพึมพำ ไม่พอใจหน่อยๆ แล้วก็กินบะหมี่ ของเธอ

มองเธอที่ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ใต้ดวงตาของเจียงนาน ก็ดูมีความสุขหน่อยๆ

ดีต่อเธอไหมเหรอ ? เขาแทบจะไม่ได้ตระหนักถึงเลย

ยังไงซะ แค่พี่ใหญ่ให้เขาดูแลเธอ เขาก็เลยดูแลไปงั้นๆ แหละ

แบบนี้…..น่าจะไม่ถึงกับว่าดีมากมั้ง ?

“ชามนี้ยังกินไหม ? ลองสักชามสิ เยอะขนาดนี้ คุณลอง ชิมไม่หมดหรอก

เขาเอาชามตรงหน้ากู้อานหยานมา แล้วดันอีกชามไป

“คุณแน่ใจว่าจะกินที่ฉันกินเหรอ ? “ยังเหลือเยอะขนาดนี้ ตัวเองกินไปชามหนึ่งไม่ได้ ?

ทำซะจนเธอเป็นคนไม่ดี ของที่กินแล้วเอาให้คนอื่นกิน

“คุณชิมก่อน ไม่ดีค่อยให้ผม”ถ้าหากชามที่เขาเลือก เป็น อันที่เธอชอบพอดี คงไม่กลายเป็นว่าไปแย่งเธอกินหรอก เหรอ ?

กู้อานหยานช่วยไม่ได้ เลยได้แต่ชิมอีกชาม

กินบะหมี่ไปหนึ่งคำ อารมณ์ก็ดีขึ้น !

“อร่อยมากเลย ! ”

“ค่อยชิมอันอื่น”

“กินสองสามคำก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

“ชามนี้ก็หอมมาก”

….อือฮือ ! อร่อยมาก ชามนี้ไม่เอาแล้ว ให้คุณละกัน ! ”

ผ่านไปอีกสามวัน เย่หานมาด้วยตัวเอง ทำการผ่าตัด ซ่อมแซมให้กู้อานหยาน

ผ่าตัดใช้เวลาไปกว่าเจ็ดชั่วโมงกว่า กู้อานหยานอยู่ที่ เตียงผ่าตัด นอน หรือนั่ง ใช้เวลาไปถึงเจ็ดชั่วโมง

ตอนออกมา ก็ดูมึนๆไปทั้งตัว

ถึงจะไม่ได้ชาหมด แต่ ทุกที่ต่างใช้ยาชา ฤทธิ์ยาก็ไม่เบา เย่หานกับพยาบาลสองคนประคองเธอลงมา ให้เธอนั่งบน รถเข็น

เย่หานยิ้มให้เธอ ด้วยท่าทางเป็นมิตรเหมือนเคย “คุณ ผู้….คุณหนูอานหยาน การผ่าตัดซ่อมแซมวันนี้เป็นไปได้ ด้วยดี วางใจได้ และแผลส่วนมาก มักจะไม่ทิ้งรอย
“งั้น ส่วนน้อยล่ะ ? “กู้อานหยานเหลือบมองเขา

“เอ่อ……”เย่หานคิดว่าเธอวางใจ จึงรีบปลอบ “ยังมีสามจุด หลังเอว ด้านหลัง แล้วก็บนไหล่ นอกจากบางครั้งที่จะสวม ชุดเปิดไหล่ ก็จะมองเห็น ตรงจุดอื่นก็มองไม่เห็นแล้ว”

“อีกอย่าง หลังจากผ่าตัดซ่อมแซม ก็ต้องฟื้นบำรุงดีๆ เวลานาน รอยแผลก็จะค่อยๆจางลง ต่อไป ก็จะมองไม่เห็น แล้ว”

กู้อานหยานยังไม่พูด เย่หานกังวลเล็กน้อย “คุณหนูอานห ยาน ถ้าหากคุณยังกังวล งั้นรออีกหนึ่งเดือน เราค่อย

“เย่หาน”กู้อานหยานกลับตัดบทเขา ดึงขอบเสื้อเขา

เย่หานรู้ว่าเธอมีอะไรจะพูด พอให้พยาบาลทั้งสองออก ไป เขาคุกเข่าลง สบตากับเธอในระดับเดียวกัน “คุณหนู อานหยาน คุณอยากพูดอะไร ? ”

เธอลังเลหน่อยๆ จึงถาม “คุณชายใหญ่ของพวกคุณ ยัง อยู่ที่เมืองเป่ยหลิงจริงไหม ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ