บทที่203 หักหลัง
บทที่203 หักหลัง
การแข่งขันในช่วงเช้าของวันที่สอง มันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ความสามารถที่หลิวซ่างสามารถแสดงออกมาได้นั้นไม่มีอะไรน่า เป็นห่วงเลย
อีกอย่าง การแข่งขันนี้ไม่มีการคัดทีมออก ดังนั้น ทุกคนเลยไม่ ได้สนใจอะไรมาก
ขอเพียงแค่หาได้ตามความสามารถปกติของตัวเองก็เพียง พอแล้ว
ตอนนี้เหลือแค่รอดูการแสดงฝีมือของหยางอีกับซูเสี่ยวหมี่ใน ตอนบ่ายก็เท่านั้นเอง
สําหรับพวกเขา การที่สามารถวาดภาพประกอบที่ค่อนข้างซับ ซ้อนจํานวนหกสิบช่องเสร็จได้ในเวลาสามชั่วโมง มันเป็นความ ยากที่ไม่น้อยเลย
แต่ทว่า ถ้าเกิดว่าสามารถสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี การจะได้ เข้าไปเป็นหนึ่งในห้าทีม ก็คงจะไม่มีปัญหามาก
เพียงแต่ว่า เมื่อหลิว างกลับมาจากแข่งเสร็จ แล้วขณะที่ทุกคนกลับเข้าไปในห้องพัก บรรยากาศทั้งทีมมันก็ดูหมองหม่น ถึงขีดสุด
ทำไมจู่ๆ เขาก็ออกจากทีมไปล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? เขา “ ถูกจับตัวไปหรือเปล่า ? ”
เห้อหลิงจือนั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆ ตอนนี้ พวกเขาน่าจะสามารถ เข้าไปเป็นหนึ่งในห้าได้แล้ว แต่ทำไมฉินโจวกลับออกไปจากทีม ของพวกเขาในเวลาแบบนี้กันนะ
การออกไปจากฉินโจว สำหรับพวกเขา มันเป็นการทำลายกัน เลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าซูเสี่ยวหมี่กับหยางจะแข่งขันได้อย่างราบรื่นในช่วง บ่ายนี้ แล้วได้เข้าไปเป็นหนึ่งในห้าทีม แต่การแข่งขันในวันพรุ่งนี้ พวกเขาไม่มีนักวาดแล้วถ้าจะแพ้ก็คงจะไม่แปลกอะไร
ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ ? อานหยาน คุณมั่นใจในว่าเขาเป็น “ คนพูดเองจริงๆ หรือเปล่า ? คุณลองโทรหาเขาหรือยัง ? ”
“โทรไปแล้ว ไม่มีใครรับเลย แต่ว่าเมื่อเช้าก็เห็นเขานะ เขาก็ยังดู ปกติดี
คําพูดของกู้อานหยาน ทำให้พวกเขาวางใจได้แต่ก็รู้สึกหมด หวังไปในเวลาเดียวกัน
“ถ้าพูดแบบนี้ ฉินโจวคงจะอยากออกจากทีมเองจริงๆ แต่ว่า ทำไมกันนะ ? ในสถานการณ์ที่สำคัญแบบนี้เนี่ยนะ?”
ซูเสี่ยวหมี่ไม่สบายใจ และเห้อหลิงจ๋อก็มีแต่ความโศกเศร้า
มู่เทียนโย่วกลับปิดกระจก ก่อนจะมองทุกคน ไม่เห็นคนพวกนั้น แล้ว”
“ใครกันเหรอ ?”
ทุกคนอึ้งไปชั่วขณะ เพราะไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่มู่เทียนโย่วจะสื่อ
ออกมา
“ตั้งแต่เมื่อวานตอนกลางคืน มีคนแอบมามองพวกเราตลอดเลย เมื่อเช้าก่อนที่หลิวซ่างจะไปแข่ง ก็ถูกคนสองคนมองอยู่
“อะไรนะ ? ” หลิวซ่างตกใจแทบแย่ ก่อนจะรีบมองออกไปข้าง นอกหน้าต่าง
พวกเขาอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ข้างนอกหน้าต่างมันตรงกับด้านหลังของห้องวิจัย ตรงกลางของทั้งสองตึกมันมีถนนเส้นใหญ่และ ถนนสองเส้นเล็กๆ กันอยู่ด้วย
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดี ทุกคนต่างไปพักผ่อน มีนักเรียนเดิน ผ่านมาบ้าง แต่ทว่า มองไปก็ดูไม่ได้มีอะไรแปลกตา
“เมื่อวานตอนที่ฉันไปส่งคุณที่ห้องนอน ก็เห็นว่ามีคนแอบมอง อยู่ มู่เทียนโย่วเบ้ปาก
“ฉันรู้แล้ว ตอนเช้าที่คุณบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็จะให้ฉันกับ เสี่ยวหมี่อยู่ด้วยกัน เป็นเพราะกลัวว่าจะมีคนมาทำร้ายพวกเรานั้น เหรอ ? ”
หยางอีคิดๆ ดู ก่อนจะรู้สึกกลัวขึ้นมา “แต่ว่า ทำไมสุดท้ายคุณไม่ ได้อยู่ข้างๆ พวกเรา ?
“จากนั้นก็พบว่า พวกเขาไม่ได้จะทำร้ายอะไรเรา แค่ตามดูตลอด ทั้งเช้าเลย
“เพราะอะไรล่ะ ? ” หยางอึยังคงไม่ค่อยเข้าใจ
ถ้าเกิดว่าไม่ได้จะทําร้ายอะไร แล้วจะจ้องไปทําไมกัน ? เปลือง แรงจะตายไปไม่ใช่เหรอ ?
“ตอนนี้ จ้องพวกเราไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อไม่มีฉินโจว ถึง จะเข้ารอบหนึ่งในห้าได้ แต่ก็ไม่มีทางจะเข้าไปติดหนึ่งในสามได้
เห้อหลิงจ๋อฟุบอยู่ที่โต๊ะ เธอเศร้ามากจนเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้
ในตอนนี้ ฉินโจวที่โดดเด่นขนาดนี้ เมื่อทุกคนคิดถึงชมรมวาด ภาพเมษา ว่าที่หนึ่งไม่ใช่หัวหน้าทีมอย่าง อานหยาน แต่กลับ เป็นนักวาดระดับเทพอย่างฉินโจว
ถ้าหากว่าการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ฉินโจวไม่ปรากฏตัวออกมา กรรมการคงจะเข้าใจได้ในทันที ว่าฉินโจวออกจากชมรมวาดรูป ของพวกเราไปแล้ว
เมื่อไม่มีฉินโจวที่โด่งดังที่สุดแล้ว ชมรมการวาดการ์ตูนนี้มันจะ ไปมีค่าอะไรอีก ?
แค่จุดเดียว การให้คะแนนก็คงจะตกต่ำไปเหมือนกันแน่นอน
อีกอย่างในเวลาที่รีบร้อนแบบนี้ จะไปหานัดวาดมาจากไหนได้ ?
หยาง สามารถเป็นนักวาดมือหนึ่งได้ แต่ว่าเมื่อเทียบกับฉินโจว
แล้ว ก็ห่างกันอยู่ไม่น้อยเลย
การวาดภาพสําหรับหยาง นั้นเป็นแค่งานอดิเรกเท่านั้น เพราะ ว่าอาชีพจริงๆ ของเขาก็คือการทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีต่างๆ
ไม่ใช่ที่หนึ่งหรือโดดเด่นอะไร ไม่อาจเทียบกันได้เลยด้วยซ้ำ
ซูเสี่ยวหมี่เท้าคางอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทีเศร้าหมอง
“ทำยังไงกันดี ?”
“ฉินโจวไม่อยู่แล้ว อย่างน้อยคนของพวกคุณก็ยังปลอดภัยกันดี อยู่ไม่ใช่เหรอ ? ”
กู้อานหยานยิ้ม ก่อนจะใช้เท่าสะกิดไปที่น่องของเธอเบาๆ “มอง โลกในแง่ดีหน่อย”
ซูเสี่ยวหมี่ยังมีท่าทีหม่นหมอง
มองโลกในแง่ดีเหรอ ? จะไปทำได้อย่างไร ?
แต่เมื่อฉินโจวออกไปจากชมรมวาดภาพของพวกเขาแล้ว ทุกคน ก็คิดว่าพวกเขาไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว
คนที่อยากจะทําร้ายพวกเขานั้น ก็จะได้พักสักหน่อย ความ ปลอดภัยของทุกคน ก็ค่อยน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้าง
แต่ว่า…….แต่ว่าพวกเขาก็ต้องการฉินโจว ฮือๆ …….
เวลาค่อยๆ ล่วงเลยไป เมื่อกินข้างกันเสร็จ และพักผ่อนไปสักครู่ แล้ว เห้อหลิงจ๋อก็พาหยางกับซูเสี่ยวหมี่ไปลงชื่อ
ครั้งนี้ทั้งกลุ่มออกไปพร้อมๆ กัน กู้อานหยานเองก็พาคนอื่นๆ เข้าไปในสนามแข่งขัน
มันเป็นการแข่งเพื่อหาทีมสุดท้าย เพราะฉะนั้นทุกคนต่างจับจ้อง
มา
ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร อย่างน้อย ก็ขอให้เข้าไปเป็นหนึ่งใน ห้าให้ได้ก่อน
“นั่นมันฉินโจว ! “จู่ๆ ซูเสี่ยวหมี่ก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ พลาง ไปทางเข้าของสนามการแข่งขัน
“พระเจ้าช่วย ! ทำไมเขาถึงไปอยู่ทีมเดียวกับซูเล่ยได้นะ ?” เห้อหลิงจือเหมือนว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลยแม้แต่
น้อย
หยางอีเองก็งงเหมือนกัน ฉินโจวออกไป พวกเขาเลยคิดความ เป็นไปได้ต่างๆ นานา แต่ว่ากลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแบบที่อยู่ ตรงหน้านี้ !
“หรือว่า เขาไปอยู่กับซูเล่ยแล้ว ? ”
“นี่มันมากเกินไปแล้ว ! ”
หลิวซางตาแดง ก่อนจะเดินไปด้วยความรวดเร็ว
เหมือนกับว่าฉินโจวเองไม่ได้มองเห็นพวกเขา เมื่อหลิวซ่างเดิน ไปอยู่ตรงหน้าเขา เขาถึงจะรู้ตัว
“ฉินโจว ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ? ”
หลิวซ่างดึงเสื้อของฉินโจวด้วยความโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
“ผู้หญิงคนนี้ให้อะไรกับคุณ ? คุณถึงได้ไปกับพวกเขา ? คุณมัน ใจร้ายเกินไปแล้ว ! ”
พวกเขาเป็นนักเรียน ตั้งแต่แรกเริ่ม ทุกคนเป็นเหมือนกับคน แปลกหน้า จนสุดท้ายมีอานหยานเข้ามาร่วมทีมด้วย
ทุกคนก็ค่อยๆ เป็นเหมือนพี่น้องกันทีละน้อยๆ
เขาเห็นฉนโจวเป็นพี่น้องแล้วจริงๆ แต่ว่า ฉินโจวล่ะ ?
ถ้าเกิดว่าเป็นพี่น้องกันจริง ทําไมในเวลาที่สําคัญขนาดนี้กลับมา หักหลังพวกเขา ?
“คุณหาอะไรน่ะ ? ” ซูหยานอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะมีสีหน้าจริงจัง
“พวกคุณทําอะไรกัน ยังไม่รีบปล่อยอีก ? ”
ลูกมือในทีมสังเกตเห็นก่อนจะรีบเข้ามาประชิดตัว แล้วดึงหลิว
ช่างออก
“อย่าลงมือ ! ” กู้อานหยานพาคนมาเป็นทีม
มู่เทียนโย่วเพียงแค่เดินเข้ามาประชิดตัว ด้วยท่าทีเย็นยะเยือก จึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามตกใจ จนรีบปล่อยหลิวซ่างออก
หลิวช่างยังอยากจะเข้าปะทะ แต่กลับถูก เทียนโย่วดึงกลับไป
“ใจเย็นๆ! ” กู้อานหยานจ้องเขาอยู่สักพัก
หลิวซ่างตาแดงอยู่ แต่ก็กลับใจเย็นลงในที่สุด
แล้วจ้องฉินโจว ด้วยความโกรธและเจ็บใจ !
ซูเสี่ยวหมี่เกือบจะร้องไห้ออกมา ทำไมถึงคิดไม่ถึงเลยว่าฉันโจ วจะไปกับซูเล่ย
“คุณ…….ใจร้ายเกินไปแล้ว ! ” คำด่าอื่นๆ เธอพูดไม่ออกเลยที เดียว
แค่คิดจะอ้าปากออก ก็รู้สึกว่าไม่มีเสียงออกมาแล้ว มันเป็นความ กล้ำกลืนที่พูดออกมาไม่ถูกเลยทีเดียว
เห้อหลิงจือพยุงเธอ และมองฉินโจว แต่กลับไม่มีอะไรจะพูด
เขาจะเลือกอยู่กับใครก็ได้ จะมีใครไปว่าฉินโจวว่าทำไม่ถูกได้
อีก ?
ด้วยความสามารถของเขา การไปอยู่กับทีมของซูเล่ย มันก็เป็น โอกาสที่จะทำให้เขาได้โลดแล่นได้ดีกว่าเดิม
ถึงอย่างไรชมรมวาดภาพของพวกเขาก็เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่ ถึงเดือน ถึงจะมีความสามารถอยู่มาก แต่ว่าเท่าที่เห็นในวันนี้ยังไงก็ยังเป็นทีมเล็กๆ อยู่ดี
แต่ทีมของซูเล่ยกลับไม่เหมือนกัน ทีมของเธอนั้นมันไปไกล กว่ามากในวงการการวาดภาพทั้งหลายแล้ว
ฉินโจวเลือกที่ที่ดีกว่า เลือกทีมที่ดีกว่า ใครจะไปว่าอะไรได้ ?
กู้อานหยานเองก็มองฉินโจว พลางถามด้วยความไร้อารมณ์ “คุณตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ