ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่200 เขาบ้าไปแล้ว



บทที่200 เขาบ้าไปแล้ว

บทที่200 เขาบ้าไปแล้ว

ทำไมซูเสี่ยวหมี่ถึงสูงขึ้นเร็วขนาดนี้ ?

ตอนที่กู้อานหยานจะหอมแก้มเธอนั้น ก็กอดคอเธอเอาไว้ด้วย จนเธอนั้นถูกดึงไป

แต่ใบหน้าและท่าทางแบบนี้ มัน……. แค่ได้ฟังเสียงเพียงอย่างเดียว ก็รู้แล้วว่าเธอตกใจมาเพียงใด ผู้ชาย ! ทำไมถึงเป็นผู้ชายได้นะ ?

“ราย ! ”

เสียงผู้หญิงกรีดร้องขึ้น ก่อนจะรีบปล่อยผู้ชายที่ตัวเองดึงมา

จูบ !

แต่สิ่งที่สามารถทำให้เธอมึนงงเข้าไปใหญ่ ก็คือผู้ชายคนนี้…. อานหยานพูดด้วยท่าทีแข็งทื่อ “คุณ…ชายใหญ่มู่ ? ”
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? ซูเสี่ยว หมี่ล่ะ ?

ซูเสี่ยวหมี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกำลังมองพวกเขา ด้วย ใบหน้าแดงก่ำ

ให้ตายเถอะ เธอมองเห็นอานหยานพยายาม……จูบคุณชายใหญ่

มู่เต็มสองตา !

OMG อานหยานชอบใช้กำลังจริงๆ !

ที่แท้ตอนที่พวกเขาย้ายที่กัน เธอไม่รู้เลย !

เสี่ยวหมี่ ไม่ใช่แบบนั้นนะ……….ยานอยากจะอธิบายเป็น อย่างมาก เมื่อครู่เธอคิดว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เป็นซูเสี่ยวหมี่จริงๆ

ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้น เลยหอมแก้มไปเพียงเพราะว่าจะปลด ปล่อยอารมณ์ของตัวเองออกมาก็เท่านั้นเอง

ใครจะไปรู้…ะว่าคนที่ถูกเธอหอมแก้มเป็นคุณชายใหญ่มู่ ? นักเรียนที่อยู่แถวนั้น มองมู่บ้านเป่ยกันไม่น้อยเลย ที่กำลังตกใจกันยกใหญ่

ชายที่หล่อเกินใคร….กหญิงน่าเกลียดอย่างกู้อานหยานหอม เข้าให้แล้ว !

ให้ตายเถอะ ! ถูกหอมแก้มแล้วจริงๆ โดยที่ไม่ได้มองพลาดไป

เลย

แต่ว่า การแข่งขันที่อยู่ด้านล่างนั้นน่าชมเป็นอย่างมาก ส่วน ผู้ชายตรงนี้ก็เป็นอาหารตาได้เป็นอย่างดี

ในตอนนั้นเอง เธอไม่รู้ว่าจะมองอะไรดี

“ฉัน…ฉันไปก่อนนะ” กู้อานหยานหน้าแดงจนเหมือนจะมีเลือด ไหลออกมาได้แล้ว

เธอลุกขึ้นยืน โดยที่ไม่กล้าปรายตามองมู่บ้านเป่ยเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะรีบเดินออกไป

น่ากลัวมาก ! น่ากลัวมากเกินไปแล้ว !

แสงสาดส่องลงมา ผู้ชมโดยรอบต่างจับจ้องเป็นตาเดียวกัน เธอ หอมแก้มคุณชายใหญ่แล้ว……มันน่ากลัวจริงๆ !
กู้อานหยานกำลังจะเดินออกไป มู่บ้านเป่ยเองก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ

ไปเขายังคงนิ่งเฉย

เธอนั่งอยู่ทางด้านใน เลยต้องเดินผ่านหน้าเขาไป

แต่ว่า จู่ๆ เท้ากลับถูกอะไรสักอย่างขัดอยู่ ยังไม่ทันจะร้องออก มาด้วยความตกใจ เธอก็ล้มไปข้างหน้าแล้ว

“อานหยาน ! ” ซูเสี่ยวหมี่ตกใจอ้าปากค้างจนปากเป็นรูปตัวโอ

เธออยากจะเข้าไปช่วย แต่ว่า ระยะมันห่างกันเกินไป เลยเข้าไป ช่วยเอาไว้ไม่ทัน

ถ้าเกิดว่าอานหยานหน้ากระแทกเข้ากับบันได ใบหน้าคงจะเสีย โฉมไปมากกว่านี้ !

แต่ว่าขณะที่กู้อานหยานกำลังจะจูบเข้ากับบันไดนั้น เอวของเธอ ก็ถูกกอดเอาไว้แน่น และถูกดึงกลับไปทั้งตัว

จนนั่งลงบนขาของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเต็มแรง ก่อนจะล้ม เข้าสู้อ้อมกอดของเขา

“ขอโทษ ! ” กู้อานหยานตกใจจนพยายามขัดขืนดิ้นให้หลุดออกมา

มู่ล้านเป่ยเองก็ไม่ได้ขวางอะไร แต่ว่าเขาตัวใหญ่ และสิ่งที่ สำคัญก็คือเขานั้นขายาวเกินไป

กู้อานหยานนั่งอยู่บนตักเขา โดยที่ขาของเธอยังไม่แตะพื้นเลย

เธอเหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่งก่อนจะพยายามถไถในอ้อมกอด เขาเพื่อจะลุกขึ้นมา กว่าจะลุกขึ้นมาได้นั้นมันไม่ง่ายเลย

หน้าไม่อาย !

นี่เป็นคำวิจารณ์เดียวที่ผู้หญิงที่เห็นต่างพูดขึ้น

ยังกล้ามาถูไถในอ้อมกอดของเขาอีก ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่หน้า ไม่อายขนาดนี้ได้นะ ?

สิ่งที่น่าจับจ้องที่สุดก็คือยัยหญิงขี้เหร่ !

“คุณชายใหญ่มู่ ฉัน ฉันไปก่อนนะ กู้อานหยานกลับหลังหัน ก่อนจะรีบเดินออกไป

แต่ข้อมือของเธอนั้นกลับถูกเขาดึงเอาไว้
ไม่รีบไม่ร้อนอะไร แต่กลับถูกจับเอาไว้แน่น ไม่ว่าจะพยายาม ขัดขืนอย่างไรก็ไม่มีทางหลุดออกมาได้

“ฉันยังไม่เคยไปที่โรงเรียนของคุณเลย” มู่บ้านเป่ยลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินมาข้างกายเธอ “พาฉันไปดูหน่อยสิ” มหาวิทยาลัยหนิงโปกับมหาวิทยาลัยเจียงโจวมันอยู่ใกล้กัน

มาก มันถูกกั้นด้วยถนนเส้นเดียว

สถานศึกษาในมหาวิทยาลัยหนิงโป ไม่ได้หรูหราเท่ากับ มหาวิทยาลัยเจียงโจว แต่ว่าการเป็นมหาวิทยาลัยอันดับสองของ เมืองเป่ยหลิงนั้น การก่อสร้างอาคารต่างๆ ก็ถือว่าไม่เลวเลยที เดียว

โดยเฉพาะสวนทางด้านหลัง กำแพงแดงเขียวมรกตที่มีทั้งกลิ่น อายของความโบราณผสมอยู่ด้วย

มันมีทางเข้าออกและถนนอยู่หลายเส้นหลายสาย มีต้นไม้ใบ หญ้าอยู่เต็มไปหมดอีกทั้งภูเขาจำลองที่สร้างขึ้นและทะเลสาบ เล็กๆ อยู่ด้วย

“มาที่นี่บ่อยเหรอ ? ” ขณะที่เขาเดินไปบนถนนเส้นเล็กๆ ที่เต็ม ไปด้วยต้นไม้นั้น จู่ๆ มู่บ้านเป่ยก็ถามขึ้น
กู้อานหยานเงยหน้ามองเขา ก่อนจะส่ายหัว

“ดีมาก”

เธอกลับไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ ?”

ไม่มาสวนทางด้านหลังที่มีป่าไม้เล็กๆ มันดีงั้นเหรอ ? ที่นี่มีอะไร ไม่ดีงั้นเหรอ ?

บรรยากาศรอบๆ นี้ ถือว่าดีเลยทีเดียว ถ้าจะมานั่งอ่านหนังสือ หรือมานั่งเงียบๆ มันนับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมมาก

มู่บ้านเป่ยปรายตามองไป ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า “ที่ นี่ มันเหมาะกับการที่คู่รักจะมาทำอะไรที่ให้คนอื่นเห็นไม่ได้”

เรื่องที่ให้คนอื่นเห็นไม่ได้งั้นเหรอ……

กู้อานหยานหันกลับไปมอง ที่นี่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าแล้วก็ภูเขา ถ้า เกิดว่าเป็นข้างหลังภูเขาจำลองนั่น……

“ฮม ! ” เธอหน้าแดงขึ้นมา และมีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะชอบใจสัก เท่าไหร่ “พวกเราเป็นนักเรียนกันทั้งนั้น นักเรียนจะไป“อื้ม…… ไม่รู้ว่าเป็นเสียงของเล็กๆ ของผู้หญิงมาจากมุมไหน กู้อานหยานตกใจจนเบิกตาโต เธออยากจะหันไปมอง แต่ก็ไม่

กล้า !

นี่มันอะไรกันเนี่ย เพิ่งจะเวลาพลบค่ำเองไม่ใช่เหรอ ?

ฟ้ายังไม่จะมืด ก็แอบมาอยู่ในป่าไม้เล็กๆ นี่ แล้วทำ…..เรื่องที่ไม่ ควรจะให้คนอื่นเห็นงั้นเหรอ มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า ?

สิ่งที่มันเกินจะรับไหวก็คือ เมื่อครู่เธอเพิ่งจะเถียงกับคุณชาย ใหญ่มู่ไปเอง เพื่อจะปกป้องความบริสุทธิ์ของนักเรียนอย่างพวก

เขา

แต่วินาทีต่อมา กลับหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ แบบนี้ !

มันมากเกินไปแล้ว ! มากเกินไปแล้วจริงๆ !

“อยากจะพูดอะไร ? ” มู่บ้านเป่ยจ้องใบหน้าแดงๆ ของเธอ ก่อน จะเลิกคิ้วขึ้น “หม ? “เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการเย้ยหยันเธอ

กู้อานหยานกัดฟัน ด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“ที่นี่…นี่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ฉันพาคุณไปดูที่อื่นดีกว่า”

“ฉันคิดว่าที่นี่ก็วิวดีนะ” หรือว่าเมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ แล้ว มู่บ้านเป่ยเลยไม่อยากจะทำให้มันจบโดยเร็ว

“ฉัน……

เสียงเล็กแหลม ดังเข้ามาในหูของเธอ กู้อานหยานตัวเกร็งไป ทั้งตัว จากนั้นใบหน้าก็เริ่มแดงขึ้นและหัวใจก็เต้นเร็วและแรงมาก ยิ่งขึ้นอีกด้วย และอยากจะออกจากที่แห่งนี้เหลือเกิน

แต่ว่าคุณชายใหญ่คู่กลับมีท่าทีเหมือนกำลังชมวิวสวยๆ อยู่ โดยที่ไม่มีท่าทีจะเดินออกจากที่นี่เลย

หรือว่า เขาชอบ……..งงั้นเหรอ ?

เมื่อคิดแบบนี้ หน้าก็แดงขึ้นมามากกว่าเดิม
“คุณชายใหญ่มู่ อย่าอยู่ที่นี่ต่อเลย” เธอพยายามขอร้อง

“ทำไมล่ะ ? ” เขากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

ทำไมงั้นเหรอ ? เขายังกล้ามาถามว่าอะไรอีกเหรอ ?

เสียงแบบนี้ ในตอนแรกก็แยกไม่ออกว่ามันดังมาจากภูเขา จําลองลูกไหน แต่ว่ายิ่งฟัง ก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดขึ้น

ไม่แน่ อาจจะอยู่แถวๆ นี้ใกล้ๆ เลยก็ได้

คนสองคนที่ซ่อนอยู่นั้นเหมือนจะได้ยินเสียงของพวกเขา เพียง ชั่วครู่ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้ว

ขณะที่กู้อานหยานอึ้งไปชั่วขณะและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ไป จู่ๆ มู่บ้านเป่ยก็จูงมือของเธอ ก่อนจะรีบเดินตรงไปข้างหน้า

“เมื่อครู่เหมือนจะเป็นเสียงที่ดังมาจากภูเขาจำลองทางด้านหน้า พวกเราไปดูกันเถอะว่าเป็นใครกันแน่”

“คุณ…… จะไปดูเหรอ ? พระเจ้าช่วย ! ……..ร้ายกาจเกินไป

แล้ว !
แต่ว่า คุณชายใหญ่มู่ก็จับมือของเธอ และเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ

พูดเสียงดังขนาดนี้ เขาจะไม่ได้ยินเหรอ ?

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้ ฝั่งนั้นก็รีบใส่เสื้อผ้าให้ เรียบร้อยก่อนจะออกมาจากภูเขาจำลอง เพียงชั่วครู่ก็ไม่เห็น แม้แต่เงาแล้ว

กู้อานหยานรู้สึกผิดกับทั้งสองคนนั้นจริงๆ ..

แต่ว่าเธอไม่คิดไม่ฝันเลย ว่าจู่ๆ มู่บ้านเป่ยจะออกแรงดึงเธอเดิน ตามไปข้างหน้าเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“ไป เราไปดูกันว่ามีอีกกี่คนที่ซ่อนอยู่กันแน่ แล้วถ่ายรูปของพวก เขาเพื่อไปแจ้งกับทางคณะกันเถอะ”

“คุณ”

บ้าไปแล้ว ! เขาบ้าไปแล้วจริงๆ !

กู้อานหยานยังไม่ทันจะปฏิเสธ ก็ถูกเขาดึงเดินไปทางเล็กๆ นั้น คนที่อยู่ในป่านั้นต่างตกใจกันไปหมด จนแตกกระเจิงเหมือนกับฝูงนกบินไปทั้งสี่ทิศ

แต่คนที่เริ่มทำการอย่างคุณชายใหญ่ เมื่อได้เห็นทุกคนวิ่งหนี แตกกระเจิง ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา “ฮ่าๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ