ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่197 นังแพศยา มีเจตนาร้ายจริงๆ ด้วย



บทที่197 นังแพศยา มีเจตนาร้ายจริงๆ ด้วย

บทที่197 นังแพศยา มีเจตนาร้ายจริงๆ ด้วย

ตอนที่กู้อานหยานกลับไป ฉินโจวยังคงพักอยู่ในห้องเรียน

ไม่รู้ว่าซูเสี่ยวหมี่ไปเอาน้ำมันนวดมาจากไหน ก่อนจะนวดฝ่ามือ ให้เขาเบาๆ

“เครียดไหม ? ” กลิ่นของน้ำมันนั้นมันหอมมาก กู้อานหยานได้ กลิ่น ก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น

“นิดหน่อย” ฉินโจวพูดออกมาตรงๆ

ไม่ได้กลัวว่าจะวาดไม่เสร็จ แต่กลัว ว่าจะไม่สามารถช่วยหลว ช่างได้ตามเวลาที่กำหนด

ถ้าเกิดว่าวาดเส้นได้ไม่มากพอ ก็เกรงว่าหลิวช่างคนเดียวจะไม่ สามารถวาดได้ทัน

“อย่าเครียดมากเกินไปเลย ไม่เป็นไรหรอก” กู้อานหยานตบไหล่ ของเขา

จมูกของซูเสี่ยวหมี่นั้นไวกว่าจมูกของสุนัขเสียอีก ! “อานหยาน คุณไปกินหม้อไฟมาเหรอ ! !”
“อือ”

“ใจร้ายจังเลย ! ไม่พาพวกเราไปด้วย ! ” ไปกินคนเดียวแบบนี้ มันกินได้ไม่เยอะ ไม่น่าล่ะเธอถึงผอมมาก !

“ครั้งหน้าจะพาพวกคุณไปก็แล้วกัน วันนี้เธอกินจนเลี่ยนแล้ว “คืนนี้ ไปฉลองที่ได้เข้ารอบชิงกันเถอะ”

“คุณรู้ได้อย่างไรว่าจะได้เข้ารอบชิง ?”

“ต้องได้อยู่แล้ว !”

เห้อหลิงจือเดินเข้ามาจากข้างนอก พลางมองฉินโจว “จะต้อง ลงชื่อทีมแล้ว”

“ไปกันเถอะ พวกเราไปด้วยกัน”

…..เมื่อเดินเข้าไปในสนามแข่งในครั้งนี้ ทุกคนถึงจะรู้สึกได้ว่า ทีมวาดการ์ตูนแบบชำนาญการมันเป็นอย่างไร และมันมีลักษณะ อย่างไร

ทุกคนต่างมีเสื้อผ้าของผู้ช่วยที่ใส่กันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มหนึ่งอย่าง น้อยสิบกว่าคนกำลังยืนล้อมกัน
แต่พวกเขา ขาดๆ เกินๆ บ้างดูคนน้อยและไม่ครบบ้าง ดูไม่สม บูรณ์จริงๆ

“นั่นเป็นทีมของซูเล่ย” เห้อหลิงจือจ้องไปตรงทางเข้าของ สนามแข่ง จากนั้นก็พูดเสียงเบาๆ ขึ้นมากะทันหัน

ทุกคนเลยเงยหน้าขึ้นมอง

ทีมของซูเล่ยนั้นดูโตที่สุดในกลุ่มนักเรียน

นอกจากซูเล่ยแล้ว ทุกคนก็ใส่ชุดยูนิฟอร์ม เพียงแต่ว่าชุด

ยูนิฟอร์มนี้เมื่อเทียบกับแบบปกติ ก็ดูดีกว่ามากอย่างเห็นได้ชัด ดูมีความเป็นศิลปะเป็นอย่างมาก มีสีสันน่าดึงดูด ความรู้สึกถึง

การ์ตูนนั้น กลับไม่ได้ทำให้ใครรู้สึกว่ามันมากเกินไปเลย

“การออกแบบแบบนี้ น่าจะใช้เงินไปไม่น้อยเลย

เห้อหลิงจือถอนหายใจ “การมีเงินเป็นสิ่งที่ดี

“ทีมของพวกเขาทำเงินไปมากแล้ว คุณคิดแบบนี้สิ ว่าถ้าเกิด ว่าทีมของเราทำคะแนนออกมาได้ดี คุณเองก็สามารถทำได้เช่น เดียวกัน”
กู้อานหยานทิ้งเธอไว้ ก่อนจะเดินไปที่ลงทะเบียนพร้อมกับฉน

โจว

ทุกทีมลงทะเบียนตามลำดับ จากนั้น คนที่จะลงแข่งขันก็เดิน เข้าไปเตรียมตัวภายในเขตการแข่งขัน

ครั้งนี้ชมรมวาดภาพเมษาของพวกเขาถูกคนอื่นหัวเราะเยาะใส่ อีกครั้งหนึ่ง

เห้อหลิงจือคิดว่าตัวเองทำให้ทีมนั้นโดนหัวเราะเยาะ เมื่อมอง ทีมของคนอื่น แล้วหันมามองตัวเอง………

เห้อ หาคนมาไม่ได้ เธอเองก็ไร้ทางเลือก ! ระยะห่างคืออะไร ? นี่สิคือระยะห่าง ! ทีมอื่น มีอย่างน้อยห้าคน ท่าทีที่ดูเหงาหงอย ดูเย็นยะเยือกกว่าตอนที่กู้อานหยานเดิน เข้าไปแข่งขันช่วงเช้ามาก

แต่ทีมของซูเล่ยน้อยลงนิดหน่อย เพราะมีแค่สามคน

แต่พวกเขาล่ะ ? พวกเขามีแค่ฉินโจวคนเดียวเลยจริงๆ
ฉินโจวนั่งลงตรงที่นั่งของตัวเอง พลางมองไปรอบๆ สนามแข่ง

กู้อานหยานยกกำปั้นของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะพูดเสียงเบาๆ กับ เขาว่า “สู้ๆ ! ”

ฉินโจวพยักหน้า ก่อนจะรับกำลังนั้นเอาไว้

“หึ คุณดูน่าจะชอบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายนะ ? ” ด้านหลัง มีเสียง ใสที่มีความน่ารักซ่อนอยู่ลอยมา

เป็นผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว อย่างกับวิญญาณตามติดก็ไม่ปาน

ตอนที่กู้อานหยานหันหลังกลับไปมองเธอ กลับมีใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณกู้ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ? ”

“น่าประหลาดใจจริงเชียว” กู้เวยจือจ้องเธออยู่สักครู่ เธอไม่ สบายตรงไหนหรือเปล่าเหรอ ? ปราสาทเสียอย่างไรล่ะ

กู้อานหยานยักไหล่ “เห้อ นิ้วของฉันเจ็บนิดหน่อย วันนี้ไม่ระวัง กินอาหารทะเลมากไปหน่อย เลยบวมขึ้นมาน่ะ

เธอทำท่าทีจับนิ้วก้อยของตัวเอง จากนั้นก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนเหลือเกิน
“ตอนเที่ยงคุณกินอาหารทะเลมากขนาดนั้น ไม่เป็นอะไรก็ ดีแล้ว”

เธอหันหลังไป พลางจังคล้องแขนกับซูเสี่ยวหมี่แล้วเดินไปทาง ที่นั่งของคนดูพร้อมๆ กัน

ซูเสี่ยวหมี่อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามองกู้เวยจ๋อ พลางถามเสียง เบาว่า “ชุดของเธอ มันปิดคางของเธอไปหมดเลย มันก็ดูดีอยู่ หรอกนะ แต่ว่ามันน่าประหลาดใจไปสักหน่อย”

“คุณไม่รู้เหรอ ? ว่าคางของกู้เวยจือโดนไฟลวก คางของเธอ

ตอนนี้มันเป็นเนื้อตายหมดเลย ไม่ปิดได้อย่างไรล่ะ ? ”

กู้อานหยานพูดไม่ดังมาก แต่ว่าคนรอบๆ นั้น กลับได้ยินอย่าง

ชัดเจน

“นี่..…….” กู้เวยจือเองก็ได้ยินเช่นกัน จึงรีบหันขวับกลับมา แต่ยัย นั่นก็เดินจากไปไกลแล้ว

แต่คนรอบๆ นั้น ต่างมองคางของเธอเป็นตาเดียว

แต่ว่าคางของเธอถูกลูกไม้บังอยู่ มันเป็นแผลหรือเนื้ออย่างไร ก็ ไม่มีใครรู้ได้
เพียงแต่ว่า การออกแบบอย่างนี้ มันดูแปลกตาไปมากจริงๆ

หรือว่าสิ่งที่กู้อานหยานพูดเมื่อเมื่อครู่เป็นเรื่องจริงที่ว่าคางขอ งเวยคือนั้นเน่าไปหมดแล้ว ตอนนี้เลยเป็นเนื้อตายอยู่น่ะ ?

แววตาที่ดูรักใครนั้น หรือจะเป็นเพราะว่าเนื้อตายนั้น มันเลย ทำให้แววตาเหล่านั้นเปลี่ยนไปเป็นห่างเหินและสงสัยกันนะ

สมองก็พลันแต่งเรื่องที่น่ากลัวขึ้นมา สิ่งที่มองไม่เห็นนั้น ยิ่งคิด ก็ยิ่งน่ากลัว

พวกเขาแทบจะจินตนาการไปแล้วว่าคางของกู้เวยจือนั้นมีเลือด และน้ำหนองไหลเต็มไปหมดแล้ว

แค่คิดแบบนั้น ข้าวเที่ยงที่เพิ่งจะกินเข้าไปก็แทบจะอ้วกออกมา หมด

กู้เวยถือโกรธเป็นอย่างมาก และสีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป

“คางของฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ! ใครบอกว่าคางของฉันมี ปัญหากันเล่า ! ”

เธอโกรธมากจริงๆ สายตาของคนพวกนั้นมันคืออะไรกันนะเหมือนกับว่าเธอจะแพร่เชื้อโรคได้อย่างนั้นแหละ

ทุกคนต่างหยุดนิ่งกันไปหมด เหมือนกับกลัวว่าจะต้องมารู้จัก หรือสัมผัสเธออย่างไรอย่างนั้น

มันจะมากเกินไปแล้ว ! เมื่อเช้า พวกเขายังจ้องเธอไม่หยุด พลางน้ำลายไหลกันเป็นสายด้วยไม่ใช่หรือไง ?

เพียงแต่ว่า ทำไมคางที่ดีๆ อยู่ถึงได้รู้สึกคันขึ้นมานะ ?

“คุณกู้ การแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้ว เข้าไปที่สนามกันก่อนเถอะ” ผู้ ช่วยถงถงเตือน

กู้เวยจือจับบริเวณคางเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึง ได้รู้สึกคันขึ้นเรื่อยๆ กันนะ

แต่ทว่า ทุกคนต่างเข้าไปข้างในแล้ว เธอไม่อยากจะยืนอยู่ตรง

นั้น

จึงทำได้เพียงอยู่กับถงถง และเดินไปนั่งอยู่กับพวกกรรมการ

ทําไมคางถึงได้คันขนาดนี้กันนะ……
“คุณชายรองเจียงล่ะ ? ” เมื่อเห็นว่าที่นั่งกรรมการนั้นเป็นผู้ช่วย ของเจียงนานที่ชื่อเว็นกำลังนั่งอยู่ เธอก็ขมวดคิ้วขึ้น

ที่นี่ คนที่โดดเด่นมากที่สุดก็คือคุณชายรองเจียง ถ้าเกิดว่า คุณชายรองเจียงไม่อยู่ ก็ไม่น่าสนใจแล้ว

โดยเฉพาะการที่ความสัมพันธ์ของเจียงนานกับกู้อานหยานนั้น ไปได้ดี แต่สิ่งที่กู้อานหยานชอบนั้น เธอจะไม่มีทางปล่อยให้ไป แม้แต่สิ่งเดียว

กู้อานหยานอยากจะมีความสัมพันธ์พิเศษกับคุณชายรองเจียง ได้ถามเธอหรือยัง ?

คุณชายรองเจียงที่โดดเด่นมากขนาดนี้ จะต้องมาชอบเธออย่าง

แน่นอน !

นังแพศยากู้อานหยาน ไสหัวไปได้ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี

“เขาไม่มาเหรอ ? ” กู้เวยจือจับใบหน้าของตัวเอง พลางยิ้มให้กับ

เวินซี

“คุณชายรองไม่ได้บอกเอาไว้ แต่การคัดเลือกในรอบบ่ายเขาให้ ฉันเป็นคนรับงานแทน” เป็นซีพูดอย่างเกรงใจ
กู้เวยจ่อยังอยากจะถามต่ออีก แต่ว่า คางของเธอมันค้นมากจริงๆ เธอแทบจะทนไม่ได้อยู่แล้ว

เธอไม่สามารถเกาคางได้ เลยทำได้แค่จับบริเวณใบหน้า เผื่อมัน จะดีขึ้นได้

แต่ว่า ใบหน้าถูกเธอเกาจนแทบจะเลือดไหลแล้ว แต่คางที่คัน นั้นกลับไม่ได้ดีขึ้นเลย !

คันจังเลย !

ยัยกู้อานหยาน เธอจะต้องรู้แน่เลย เพราะตอนเที่ยงที่กินหม้อ ไฟกันนั้น กู้อานหยานถึงได้เอาแต่คืบผักให้เธอ !

เธอรู้ว่าคางของเธอมีแผลอยู่ แต่กลับคืบแต่อาหารทะเลให้ ทั้ง สาหร่ายทะเล ทั้งปลาน้ำเค็มแถมยังมีเนื้อกุ้งอีก !

เธอคิดจะมาลอบทำร้ายกันตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วนี่หน่า !

นังแพศยา คิดอะไรดีๆ ไม่เป็นเลยสินะ

“คุณกู้ อย่าเกาอีกเลย” ถงถงเห็นท่าทางที่แปลกตาไปของเธอ จึงรีบห้ามเอาไว้ “ถ้าเกาอีก หน้าจะเป็นแผลเอาได้นะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ