บทที่166 จุดอ่อนที่เกือบปางตาย
บทที่166 จุดอ่อนที่เกือบปางตาย
หลีเย่ตะลึงเล็กน้อย ลังเลพูดอะไรไม่ออก
ไม่เข้ามาดูด้วยตัวเองก่อน ใครจะรู้ว่าคุณชายน้อย ป่วยถึง ระดับไหนล่ะ ?
เขาคิดว่าที่เขาพูดก็รุนแรงพอแล้ว ใครจะรู้ พอเข้ามาดู ดู เหมือน จะรุนแรงขึ้นมาหน่อย
มู่บ้านเป่ยมองพวกเขา ที่จริงก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอมาก
นัก
แต่คนแบบเขา ปกติภาพลักษณ์ที่สูงส่งก็เหมือนเทพเจ้าแห่ง
สงคราม
ตอนนี้เทพเจ้าแห่งสงครามนอนที่เตียง ตาทั้งคู่ร่องรอย ถึง ไม่พูด ก็ทำให้คนรู้สึกเจ็บปวด
กู้อานหยานไม่มีอารมณ์สนใจหลีเย่ ยื่นมือไปแตะหน้าผาก ของมู่บ้านเป่ย
อุณหภูมิยังปกติ เธอจึงโล่งอก
เห็นเขาไม่พูดเอาแต่มองตัวเอง เธอถามเบาๆ : “รู้สึกยังไง บ้าง ? ยังดีอยู่ไหม ?
“มึน”ได้ยินว่าตอนนี้เขาสมองได้รับการกระทบกระเทือน ดัง นั้น คำนี้ควรจะรับมือได้ดีที่สุด
หลีเย่มองมู่เฟิงจิ่น พูดเสียงเบา : “เอ่อ คุณชายสาม งั้นพวก เราออกไปกันก่อนเถอะ”
มู่เฟิงจิ่นกลับจ้องมู่จ้านเป่ยที่อยู่บนเตียง รวมถึงกู้อานหยาน ที่นั่งข้างเตียง ไม่พูดอะไร
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเห็นหน้าพี่ใหญ่แบบนี้ เพื่อผู้หญิง คนหนึ่ง ยอมทิ้งตัวตนของตัวเอง
ท่าทางที่เยือกเย็นนั้น ตอนที่กู้อานหยานเข้ามา ก็หายไป
ที่จริงเขาไม่ค่อยดีใจ แต่ เรื่องที่พี่ใหญ่ทำ เขาไม่มีทางเปิด เผยได้
และก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปิดเผย
อีกอย่าง เดิมทีพีใหญ่ก็ไม่จําเป็นต้องเสแสร้ง แค่เขาไช ท่าทางที่เยือกเย็นของตัวเองสักหน่อย ก็เพียงพอที่จะทำให้ หญิงสาวเจ็บปวด
สายตาของมู่เฟิงจิ่นมองไปรอบๆกู้อานหยานอีกครั้ง แล้วจึง หมุนตัวออกไปจากห้องคนไข้
หลีเย่ตามออกไป : “คุณชายสาม คุณขับรถมาเองเหรอ ครับ ? ”
มู่เฟิงจิ่นที่เดินอยู่ตรงทางเดินจึงหยุดลง หันไปมองเขา
ถูกเขามองแบบนี้ หลีเก็ตะลึง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าหนังหัวรู้สึก ขนลุกชาเล็กน้อย
คิดไม่ถึงว่า สายตาของคุณชายสามก็สามารถเย็นชาได้ ขนาดนี้ เมื่อก่อนไม่เคยสังเกตุเห็น
“ค, คุณชายสาม มีอะไรจะพูดใช่ไหมครับ ? ”
“ทำไมพี่ใหญ่จึงบาดเจ็บ ? “ประชาชนโหดๆไม่กี่คน อิฐไม่กี่ ก้อนก็ทำให้เขาบาดเจ็บเหรอ ? นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไป ได้ !
หลีเย่รู้ เรื่องนี้ไม่พูดตรงๆ ก็ปิดไม่อยู่
เขาลังเลเล็กน้อย จึงพูดไปอย่างซื่อสัตย์ : “ก็เพื่อ…….ช่วย คุณผู้หญิง”
เป็นผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วจริงๆ !
เพื่อเธอ พี่ใหญ่ถึงได้มาเสี่ยงอยู่ตลอด เธอก็เหมือนเนื้อร้าย ก้อนหนึ่ง ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของพี่ใหญ่ได้ตลอดเวลา
“คุณชายสาม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณผู้หญิงเลยสักนิด”
แค่เห็นท่าทางที่เย็นชาของคุณชายสามทั้งตัว หลีเย่ก็รู้ว่า เรื่องแย่แล้ว
ครั้งที่แล้วคนพวกนั้นพาซูเสี่ยวหมี่ไป อยากขัดขวางงานหมั้น ของคุณชายน้อยกับคุณผู้หญิง ที่จริงเป็นคุณชายสามที่ให้คน ไปทํา
คุณชายสามแค่อยากขวางงานหมั้นของคุณชายน้อยกับคุณ หนูตระกูลกู้ที่หน้าตาอัปลักษณ์ แต่ไม่ได้คิดจะทำอะไรซูเสี่ยว หมี่หรือกู้อานหยาน
แค่คนพวกนั้นพอพาซูเสี่ยวหมี่ไปที่เกาะ ก็เกิดอารมณ์ ต้องการขึ้นมา
ดังนั้นสามารถพูดได้ว่า ที่จริงคุณชายสามไม่ชอบกู้อานหยาน คบกับคุณชายน้อยเสมอมา
“พี่ใหญ่ชอบกู้อานหยานขนาดนั้นจริงๆเหรอ ? ”
บาดเจ็บเพื่อกู้อานหยาน ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว
ตอนนี้แค่หัวเจ็บ แล้วเมื่อไหร่ จะกลายเป็นอาการบาดเจ็บ ปางตายเหรอ
เพื่อผู้หญิงคนนี้ เขาถึงกลับยอมขัดใจคนของParadise
Island
ใครจะไปรู้ เจ้านายของParadise Island พอคลุ้มคลั่งขึ้นมา ก็คือคนบ้านี่เอง !
ตอนนี้คนของParadise Islandเอาแต่หาโอกาสเอาคืนคุณ ชายใหญ่มู่ เรื่องนี้ ไม่ใช่ความผิดของอานหยานหรือไง ?
“คุณชายสาม คุณผู้หญิงคือคู่หมั้นของคุณชายน้อย คู่หมั้นมีอันตราย คุณชายน้อยก็ต้องช่วยอยู่แล้วครับ”
“ผมแค่ถามคุณ เขาชอบกู้อานหยานจริงๆแล้วใช่ไหม
ที่จริงคำถามนี้ หลังจากที่เมื่อกี้เห็นท่าทางของพี่ใหญ่ ในใจ ของมู่เฟิงจิ่นก็มีคําตอบแล้ว
บางทีแม้แต่พี่ใหญ่ของตัวเองคงจะไม่เห็นว่าเขาปฏิบัติต่อผู้ หญิงคนนี้ มีใจมากไปแล้ว !
“คุณรู้ไหมว่าพี่ใหญ่มีศัตรูที่เมืองเป่ยหลิงเยอะแค่ไหนน่ะ ? ”
มู่เฟิงจิ่นจ้องหลีเย่ ฮึดฮัดใส่ : “ในตอนนี้ ถ้าให้รู้ว่าเขามีผู้ หญิงที่แคร์ล่ะก็ คุณเดา คนพวกนั้นจะทำยังไง ? ”
หลีเย่อ้าปาก แต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ
ที่จริงเขาเข้าใจ แม้ครั้งที่แล้ว ตอน คุณชายน้อยกระโดดลง ทะเลโดยไม่สนใจตัวเองเพื่อที่จะช่วยกู้อานหยาน เขาก็แอบมี ลางสังหรณ์ไม่ดีแล้ว
ถ้าวันหนึ่ง ศัตรูของคุณชายน้อยใช้คุณผู้หญิงมาเอาคืนคุณชายน้อย ง็นเพื่อคุณผู้หญิง แม้แต่ชีวิตคุณชายน้อยก็ไม่ สนใจ ?
“ในเมื่อคุณรู้ ผู้หญิงแบบนี้อยู่ข้างพี่ใหญ่ ก็เป็นระเบิดเวลา คุณยังจะตามใจ ? ”
มู่เฟิงจิ่นมองเขา หมุนตัวออกไป เหลือแค่แผ่นหลังที่เยือก เย็นทิ้งไว้ให้เขา
หลีเย่ขยุ้มหัวตัวเอง ทันใดนั้นก็เจ็บปวดขึ้นมา
คำพูดของคุณชายสามมีเหตุผล แต่ มาตำหนิเขาก็ไร้เดียงสา ไปหน่อยมั้ง ?
เขาตามใจที่ไหนล่ะ ? เขาแค่ทำตามคำสั่ง !
แต่ว่า เพื่อคุณผู้หญิง คุณชายน้อย มีความเสี่ยงอยู่ตลอดคือ เรื่องจริง
เรื่องแบบนี้ จะต้องทำไง ? เห้อ……
ในห้องคนไข้ กู้อานหยานประคองมู่บ้านเป่ยนั่งลง
เห็นแผลที่พันผ้าบนหน้าผากเขา กู้อานหยานก็โทษตัวเอง ขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว
“ฉันไม่ดีเอง…….
“ไม่โกรธแล้ว ? “เสียงของชายหนุ่มทุ้มเบา และแหบแห้ง ฟัง แล้วทําให้คนเจ็บปวด
กู้อานหยานส่ายหน้า พูดเสียงเบา : “ไม่โกรธแล้ว
“กลับบ้านไหม ?
กู้อานหยานเงยหน้ามองเขา มู่บ้านเป่ยไม่รู้ว่ามองอะไร เหมือนว่าไม่สนใจคำถามนี้มาก แค่ถามไปงั้นๆ
เธอไม่รู้จะตอบไปอย่างไร
สุดสัปดาห์นี้คือรอบรองชนะเลิศ ตอนนี้ทีมพวกเขายุ่งมาก
จริงๆ
หลังเลิกเรียนวันนี้ ทุกคนรีบกลับไปที่ห้องทำงาน สร้างผลงานของพวกเขาต่อ
มีแค่เธอ ที่แอบออกมา
เดิมทีแค่จะมาดูคุณชายใหญ่มู่ ถ้าเขาไม่เป็นไร เธอก็เขียน สคริปต์ต่อที่ห้องทำงาน
แต่เขาตอนนี้ เหมือนจะไม่เป็นไร และก็เหมือนจะเป็น …… อานหยานรู้สึกพัลวันเล็กน้อย
กลับบ้านหรือไม่ คำถามนี้ เธอยังคงคิดอยู่
จู่ๆมู่บ้านเป่ยยกมือขึ้น นิ้วเรียวยาวอยู่ที่หน้าปากตัวเอง
“เป็นอะไร ? “กู้อานหยานตกใจ รีบไปพยุงเขา “เริ่มเจ็บอีก แล้วเหรอ ? ”
เขาไม่พูด ไม่อยากสนเธอ
“ฉันให้หมอมาดูคุณ
“ไม่ต้อง ! “เขาเปิดผ้าห่ม อยากลงจากเตียง
กู้อานหยานรีบเข้าไป ประคองแขนเขา
“หมอบอกว่าคุณมีกระทบกระเทือนสมองเล็กน้อย มึนหัวได้ ตลอดเวลา ต้องระวัง
“ผมไม่เป็นไร”มู่บ้านเป่ยนั่งที่ข้างเตียง ด้วยท่าทางเย็นชา ไม่ ต่างอะไรกับปกติ
“ถ้าคุณมีธุระ ก็ให้หลีเย่ส่งคุณกลับไปที่มหาวิทยาลัย
“ฉัน…กหน่อยค่อยกลับ”เธอมีธุระจริงๆ แต่ตอนนี้คุณชาย ใหญ่มู่เป็นแบบนี้ เธอจะไปได้ไง
สีหน้าชายหนุ่มหม่นลงทันที
เธอจะกลับมหาวิทยาลัยจริงๆด้วย ไม่ใช่บอกแล้วเหรอ ว่าจะ กลับบ้านกับเขาน่ะ ?
เขาดันมือเธอออกเบาๆ : “ผมทำเองได้”
คุณชายใหญ่มู่ที่เยือกเย็นไม่น่ายุ่งด้วยเท่าไหร่จริงๆ ถ้าเขา ไม่ได้รับบาดเจ็บ อานหยานก็ไม่กล้าเข้าใกล้นัก
“คุณจะทําอะไร ? “เธอไม่กล้าพยุง และก็ไม่กล้าออกไป
“หมอให้คุณพักเยอะๆ ไม่มีอะไร อย่าลงจากเตียง”
มู่ล้านเป่ยก็ยืนขึ้น แต่ตอนที่ยืนนั้นเอง ร่างสูงใหญ่ก็สั่นเล็ก
น้อย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ