บทที่129 ยอมรับเถอะ ว่าคุณหึง
บทที่129 ยอมรับเถอะ ว่าคุณหึง
กู้อานหยานกับซูเสี่ยวหมี่พวกเขาเพิ่ง ออกมาจาก KTV เพราะว่าจู่ๆเสี่ยวหมี่ก็ หิว
KTVเหมาข้ามคืน ตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงหก โมงเช้า เวลายาวนานมาก
ระหว่างนั้นก็ออกมากินมื้อดึก เมื่อเทียบ กับกินที่KTVแล้ว ราคาถูกกว่าเยอะ
พวกเขาเป็นแค่นักเรียนจนๆ กินของ แพงๆไม่ไหว
ถึงแม้ในKTVจะมีมื้อดึกสั่งได้ แต่ ทั้ง แพงทั้งไม่อร่อย ยังไงซะห้องก็อยู่ถึงหกโมงเช้า เวลา นานขนาดนี้ ยังกลัวร้องไม่พออีก ?
ตั้งแต่ออกมาจาก KTV กู้อานหยานก็ เอาแต่รู้สึกว่ามีอะไรที่ไม่ค่อยสบายใจ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนกับมีเยือก เย็น สายตาเย็นชาที่น่ากลัว คอยจ้องเธอ ตลอด
ความรู้สึกที่เหมือนเสือชีต้าจ้อง เหมือน กับ……าทางของคุณชายใหญ่มู่จริงๆ
เลย
“อานหยาน เป็นอะไรไป ? “ซูเสี่ยวหมี่ ดึงแขนเสื้อเธอ ทำให้กู้อานหยานที่ อยากหันไปหันมาได้สำเร็จ
“ไม่มีอะไร ก็แค่…..อือ ไม่มีอะไร หิว”กู้ อานหยานพูดเรียบๆ
ดึงซูเสี่ยวหมี่ ดึงเห้อหลิงจือเดินไปข้าง หน้าต่อ
ชัดๆว่าคุณชายใหญ่มู่ยังอยู่คฤหาสน์ จะ มาปรากฏตัวที่นี่ได้ไง ?
คืนนี้เธอน่าจะถูกคุณชายใหญ่มู่ทำให้ ตกใจไปหลายที หลอนจนเห็นเงาตาม
ดังนั้น ตอนนี้สงสัยไปหมด สงสัยมู่บ้าน เป่ยที่อยู่ในมุมด้านหลังสักที่ จ้องเธอ
แต่ความเป็นจริง จะเป็นไปได้ไง หรือว่า คุณชายใหญ่มู่ติดตามเธอไม่ได้ ?
คาวมหลงใหลที่มากมายนั้น ช่างน่า อายจริงๆ ถนนด้านหน้าชายหนุ่มหญิงสาวเดินบน ถนนใหญ่ เจียงนานจ้องร่างในนั้น หรี่ตา ลง
งานเลี้ยงหมั้นของคุณชายใหญ่ เพราะว่าเขาอยู่ต่างประเทศ จึงไม่ได้เข้า ร่วม
เขาไม่เคยเจอคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แต่ หญิงสาวที่นี่ เขาแค่มองก็รู้แล้วว่าคน ไหน
มองไปไกลๆ เห็นไม่ชัดว่าหน้ามีอะไร ก็ มองเห็นใบหน้ารูปทรงที่สวยงามหมดจด
ไม่น่าล่ะ แม้แต่คุณชายใหญ่มู่ก็ถูก ดึงดูด
มู่บ้านเปียกลับเดินก้าวไป ตามหลังกลุ่ม ชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ไกลๆ เจียงนานตามเข้าไป : “พี่ใหญ่ นี่คือ ……..จะข่มขืนเหรอ ?
มู่จ้านเป่ยไม่พูดอะไร ที่จริงเขาควรจะ ทิ้งยัยนั่น ขึ้นรถขับออกไป
แต่ แปลกๆ ก็คืออยากดู“วัยรุ่น”พวกนี้ ดึกขนาดนี้จะชอบทำอะไรกัน
เจียงนานได้แต่ไม่พูดอะไร ตามหลังเขา เงียบๆ
หนานกงอี้กับลู่ฉินก็ไม่พูดอะไร ก้าวเท้า ตามมาเช่นกัน
หนุ่มหล่อทั้งสี่เดินบนถนน ยากที่จะ เลี่ยงสายตาอันน่าทึ่งที่มองมา
แต่ว่า ทั้งสี่คนนี้ก็คุ้นเคยเป็นที่สังเกต ของสาวๆแล้ว เลยไม่สนใจอะไร มู่จ้านเป่ยข้ามถนน เงยไปมองเห็นพวก กู้อานหยานนั่งลงที่ร้านแผงขายอาหาร กลางแจ้งร้านหนึ่ง
กลุ่มคนพูดคุยกินไป กู้อานหยานนั่ง ท่ามกลางกลุ่มคน เข้ากันกับทุกคนโดย สิ้นเชิง ภาพลักษณ์คุณผู้หญิงรนรวยไม่มี เลยสักนิด
มู่บ้านเป่ยอยากเข้าไป เจียงนานกลับ พูด : “คุณอิจฉาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน แล้วชิลแบบนี้ หรือว่าอยากรู้ว่าพวกเขา อยู่ด้วยกัน แล้วพูดอะไรทำอะไรกัน ? ”
มู่บ้านเป่ยเหล่มองเขา สายตาเยือก เย็นหนักขึ้น
เจียงนานพูดขำๆ : “พี่ใหญ่ ยอมรับ เถอะ ว่าพี่หึง” “อยากตายใช่ไหม ? “เสียงของมู่บ้าน เป่ย เยือกเย็นจนอากาศใกล้จะแข็ง
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น แม้แต่หนานกงอี้ ก็ น่าจะกลัวจนถอยกลับ
แต่ เจียงนานจะกลัวได้ไง ?
เขาคุณชายใหญ่มู่เข้าใจมาก คนๆนี้ยิ่ง เป็นแบบนี้ ที่จริง ก็ยิ่งรู้สึกผิด
“พวกเขาไม่รู้จักผม งั้นให้ผมไปดูลาด ราวให้คุณไหมล่ะ ? “เขาขำ
“ย่าเบื่อ ! “ก็แค่เด็กๆ มีอะไรให้ไปดู ?
แต่ว่า เขากลับอยากเข้าไปดูจริงๆ ดูว่ายั ยนั่นคุยอะไรกับพวกเขา จนกระทั่ง อยาก ไปดูว่าเธอกินอะไรด้วยซ้ำ ตอนอยู่บ้าน มีอาหารอันโอชะทุกอย่าง เธอกินอย่างทรมาน
ทีนี่ อาหารบนโต๊ะนั้น เขาสงสัยว่ามี อาหารราคาแพงแบบที่บ้านไหม
แต่ คิ้วของเธอบิดเบี้ยว ยิ้มอย่างมี ความสุขขนาดนั้น ตอนที่ปรึกษากับทุก คนว่าจะกินอะไร ถึงได้มีความสุขขนาด นั้น ?
ไม่ใช่ว่าคืนนี้กำลังใจดีมาก มากจนนมก็ ดื่มไม่ลง ?
ตอนนี้ดูเหมือน แม้แต่วันตัวหนึ่งก็กินได้
เจียงนานตบไหล่เขาเบาๆ จึงออกมา จากเงามืด แล้วไปที่แผงลอยนั้น
“เห้อ เอ่อ ภรรยาคนสวยของคุณไม่รู้จัก ผม ผมก็ไปได้นะ”หนานกงอี้อยากตาม เข้าไป
คอเสื้อด้านหลังแน่น เขายังไม่ทันสู้ กลับ ก็ถูกดึงกลับมาที่เดิม
“แค่ก แค่กแค่ก พี่ใหญ่ พี่จะฆ่าเหรอ ! ‘
ออกแรงมาก จนคอเขาเกือบจะขาด !
“ไม่ให้ผมไปก็ไม่ไป หยาบคายอะไร แบบนี้ล่ะ ? ไม่น่าล่ะภรรยาคนสวยถึงทิ้ง พี่ไปกับหนุ่มน้อย……..เห้อ ! พี่ใหญ่ ผมผิด ไปแล้ว ! ”
มู่จ้านเป่ยได้แต่มองเขาอย่างเยือกเย็น หันไปแล้วเดินไปที่หาร้านอาหารแถวนั้น
ลู่ฉินเตะขาหนานุกงอี้ : “พูดเหลวไหล อีก ระวังพี่ใหญ่จะให้คนเอาเข้มมาเย็บ มาก
“พี่ใหญ่รับไม่ได้”
“คุณลองดูสิ”ลู่ฉินก็เดินเข้าไปร้าน อาหาร หาที่นั่งที่มุมดูได้ดีนั่งลงไป
หนานกงอี้ที่มาทีหลังได้แต่นั่งที่นั่ง ตำแหน่งดีถัดไป มองเห็นเจียงนานใกล้ จะเดินไปถึงโต๊ะคุณหนูตระกูลกู้ เขาตื่น เต้นจนแทบจะเอนไปที่ผนังแก้ว
ผู้หญิงที่ทำให้หัวใจพี่ใหญ่สับสน เหมือนซินซาและยังหงุดหงิดจนอยากฆ่า คนเป็นครั้งแรก โอ้ว เขาก็อยาก เข้าไปคุยด้วย
ครั้งนี้ไม่ได้ งั้นครั้งหน้า !
ครั้งหน้าถือโอกาสที่พี่ใหญ่ไม่อยู่ เขา ค่อยไปแอบดู คงได้แหละ ?
….อานหยานกับเพื่อนๆที่โต๊ะเพิ่งสั่ง อาหาร ก็เริ่มคุยเรื่องสำคัญ
“หลิวซ่าง ระดับที่คุณลงสี ตอนนี้ให้ทำ ไม่ได้จริงๆ”
เดิมทีหลิวซ่างยังหัวเราะพูดคุยกับซู เสี่ยวหมี่ ฟังเธอพูดขนาดนี้ หน้าก็หุบลง ทันที
ที่จริงเขารู้ว่าตัวเองไม่มีเพียงพอ พอได้ ยินเห้อหลิงจือพูดว่าต้องเข้าร่วมแข่ง เขา ก็อยากถอย
“งั้น ผมลองมือกัน ขอฝึกเยอะๆ ไม่เข้า ร่วมรายการแข่งของพวกคุณ ไม่ได้เห รอ ? ” วันนี้ถูกกู้อานหยานทำให้โกรธจนออก มาจากห้อง ต่อมาเห้อหลิงจือก็บอกกู้ อานหยานจะเลี้ยงข้าว
เขาหายโกรธแล้ว คุยไปคุยมาก็เจอ พวก ซูเสี่ยวหมี่ ดังนั้น แค่ปล่อยมันไป เรียกกู้อานหยานออกมาร้องเพลงกินมื้อ ดึก
แต่ใครก็คิดไม่ถึง เพลงยังไม่ได้ร้อง ก็ ถูกเรื่องนี้มาทำให้ผิดหวัง
“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่ให้คุณอยู่ชมรม ฝีมือวาดของคุณดี ไม่อยู่ ก็เสียดายความ สามารถ”
กู้อานหยานกะพริบตา มอง
เขา : “รายการแข่งขันนี้ คุณก็ต้องเข้า ร่วม หนีไม่ได้ ใบหน้าหลิวซ่างตะลึง เห้อหลิงจือกับซู เสี่ยวหมี่ก็ไม่เข้าใจ
“อานหยาน งั้นคุณ….คุณหมายความว่า ไง ? ”
ไม่ใช่ว่าเพิ่งบอกว่าระดับลงสีของตัวเอง ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ? หรือว่า เพราะพวกเขา ขาดคน แม้แต่ระดับก็ไม่ปล่อยไป ?
แต่ว่า งานแข่งขันใหญ่ขนาดนี้ เอาข้อ บกพร่องไปแข่ง งั้นก็คงไม่ผ่านตั้งแต่ รอบแรกแล้ว
“ฉันบอกว่าคุณลงสีไม่ดี แต่ ฉันไม่ได้ บอกว่าด้านอื่นของคุณไม่ได้”
กู้อานหยานมองซูเสี่ยวหมี่ : “คุณเอา รูปนั้นที่วันนี้ฉันให้คุณไป เอามาให้ทุกคน แต่ไม่คิด ซูเสี่ยวหมี่กลับจ้องผู้ชายที่ อยู่ไม่ไกล มองตรงไป
“หล่อมาก อานหยาน หล่อ…….มากมาก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ