ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 399 ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวของซางชิง



บทที่ 399 ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวของซางชิง

บทที่ 399 ฉันต่างหากที่เป็นลูกสาวของซางชิง

เริ่มลงมือจากตัวกู้เวยจือ…..

กู้ชิงเหลียนไม่ใช่ไม่เคยคิดมาก่อน แต่ว่า ก่อนหน้านั้นคุณ ท่านกับกู้จิ้งหย่วนก็พูดแล้ว ว่าเป็นคนพาไปตรวจดีเอ็นเอด้วย ตัวเอง

อย่างนี้ยังสามารถผิดพลาดได้เหรอ นอกเสียจากว่าตระกูลกู้ ของพวกเขาจะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ ไม่งั้น คงเป็นไปไม่ได้

หรือว่า ตระกูลกู้จะมีหนอนบ่อนไส้จริงๆเหรอ

“ฉันไม่ได้สงสัยใคร แค่มาถามคนในครอบครัวของเวยจื่อดู เท่านั้น”

กู้ชิงเหลียนคิดในใจเล็กน้อยก็หันไปยิ้มให้กู้อานหยาน แล้ว พูด “ในเมื่อเวยจือกับคุณพ่อเคยไปตรวจกันมาแล้ว ถ้างั้นเรื่อง นี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องปลอมแน่”

ยัยเด็กนี่คิดอยากยืมมือของเธอมาเปิดโปงพี่สาวของตัวเอง ดูแล้ว ความสัมพันธ์กับพี่สาวเธอจะไม่ดีเสียเท่าไหร่จริงๆ

“ฉันกับเวยจือเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน คนในครอบครัว กันเองไม่ควรจะสงสัยอะไรกัน เธอว่าใช่หรือเปล่า”
กู้อานหยานยิ้มเบาๆ สำหรับคำพูดนี้ของกู้ชิงเหลียน ไม่เอ่ย ตอบอะไรทั้งนั้น

ใช่ไม่ใช่คนบ้านเดียวกัน ตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ สำหรับ ความ สงสัย นั้นไม่ใช่ปัญหาเรื่องควรหรือไม่ควรมี แต่เป็น ตัวเธอเอง เคยสงสัยมาก่อนหรือเปล่า

“เวลาไม่เช้าแล้วนะคะ คุณนายสองกู้ หนูรู้สึกเหนื่อยนิด หน่อย ไม่งั้น คุณก็ควรจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ”

คุณนายสองกู้คนนี้ แม้ดูแล้วจะอ่อนโยนมากกว่าคุณผู้หญิง ใหญ่ แต่ว่า ความเจ้าเล่ห์นั้น ดูมีไม่น้อยเลยทีเดียว

กู้อานหยานไม่อยากคบกับคนแบบนี้

แม้ตัวเองจะไม่ใช่คุณหนูหลานของตระกูลกู้ ถ้างั้น ก็ไม่ควรที่ จะรู้จักลึกซึ้งอะไรกับคนในตระกูลกู้ ถ้าหากว่า คนในตระกูลกู้ นอกจากคุณปู่กู้แล้ว ยังมีคนที่สามารถทำให้เธอยอมเชื่อใจได้ ถ้าอย่างนั้น คนๆนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกู้จิ้งหย่วน

“งั้นก็ได้ เธอก็พักผ่อนเร็วหน่อย ฉันกลับก่อนล่ะ”

กู้ชิงเหลียนยิ้มให้เธออีกครั้ง เขาหันหลังเดินออกไปประตู ข้างนอก

ใครจะรู้ ว่าออกจากประตูเดินผ่านหัวมุมระเบียงยาว จะเห็นเงาร่างหนึ่งอยู่ กำลังยืนพิงอยู่ทางเดินจะไประเบียงชั้นสอง

ชั้นสองที่ใหญ่ขนาดนี้ ตรงทางเดินมีเพียงพวกเธอทั้งสอง เท่านั้น ทันใดนั้นเอง กู้ชิงเหลียนก็รู้สึกถึงความน่ากลัวบาง อย่าง

“คุณป้าเล็ก ดึกขนาดนี้แล้ว มากับกู้อานหยานคุยอะไรกันเห รอคะ”

กู้เวยจือเดินเข้ามาหาเธอ

แม้ใบหน้าของเธอจะมีรอยยิ้มที่อ่อนหวานอยู่ ถึงขนาดที่ว่า ดู มีมารยาทมากกว่าเมื่อก่อน

กู้ชิงเหลียนเห็นรอบๆข้างไม่มีใครเลย ก็เริ่มยิ้มขึ้นมา แล้ว เดินเข้าไปหาเธอ

“น้องสาวเธอมาทั้งที ฉันก็ต้องมาถามไถ่สิ ถามว่าเธอยังขาด เหลืออะไร ฉันจะได้จัดการหาไปให้”

รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชิงเหลียน กับของกู้เวยจือดู คล้ายคลึงกันมาก

อ่อนโยน อ่อนหวาน ไม่มีประชดประชันเลยแม้แต่น้อย

“แต่ว่า นิสัยน้องคนนี้ของเธอดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนะหงุดหงิดรำคาญใส่ฉัน ฉันทำอะไรไม่ได้ ก็เลยกลับมาก่อน” เธอเข้ามาใกล้กู้เวยจือ กู้เวยจือถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที แล้วยิ้มให้เธอ

“ทั้งสองคนนี้ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉัน ยิ่งไป กว่านั้นเธอเป็นคนหัวดื้อไม่เชื่อฟังมาตลอด เรียนรู้เรื่องเลวๆมา ตั้งแต่เล็ก รวมไปถึงพ่อแม่บุญธรรมของฉัน ก็ตัดหางปล่อยวัด กับเธอไปแล้วค่ะ

กู้ชิงเหลียนยังคงเดินก้าวเข้าไปหาเธอเช่นเดิม แววตาขอ งกู้เวยจือหมองเล็กน้อย แต่ใบหน้ายังมีรอยยิ้มอ่อนๆอยู่

“คุณป้าคะ ถ้ามีอะไรจะพูด เอาแบบนี้ไหม ก็มาพูดที่ห้องหนู ได้นะคะ”

“ดึกขนาดนี้แล้ว…….”

“คุณป้าคะ ได้ยินมาว่าพี่ชายใหญ่ทำงานเก่งมากในบริษัท เก่งยิ่งกว่าพี่ชายรองเยอะมาก”

กู้เวยจือจ้องมองก้าวเท้าที่อยากจะขยับเข้ามาใกล้ของเธอ

รอยยิ้มบนหน้า ก็เริ่มจางหายไปหมด

คำพูดของเธอเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “หนูได้ยินคุณปู่พูดว่า ในอนาคตหากยกบริษัทตระกูลกู้ให้หนูแล้ว พี่ชายใหญ่ จะเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งของหนู ในหุ้นส่วนนั้น พี่ชายใหญ่รองจาก หนู ก็เยอะที่สุดแล้วค่ะ” กู้ชิงเหลียนอึ้งไปทั้งที รอยยิ้มที่อ่อน หวานบนใบหน้า เริ่มค่อยๆปรากฏรอยร้าวที่ลึกออกมา

“คุณพ่อพูดแบบนี้จริงเหรอ”

“ใช่ค่ะ เมื่อคืนคุณปู่เพิ่งพูด แต่ว่า เขาไม่ให้หนูบอกให้คุณป้า ค่ะ”

กู้เวยจือจ้องมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันทีของเธอ ปากบางก็

กระตุกยิ้มขึ้นมา

“แต่ว่า หนูรู้สึกว่า แม้พี่ชายใหญ่จะเก่งมากเพียงใด แต่เพราะ เก่งมากเกินไป ในอนาคตข้างหน้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมอง เห็นหนูอยู่ในสายตาไหม”

“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”กู้ชิงเหลียนในที่สุดก็รู้ ว่า ตัวเองรู้จักว่าผู้หญิงตรงหน้าน้อยเกินไปแล้วจริงๆ

“หนูไม่มีความหมายอื่นเลยนะคะ แค่รู้สึกว่า ถ้าหากเป็นไปได้ หนูยอมเลือกพี่ชายรองเป็นพาร์ทเนอร์ของหนูจะดีกว่า”

กู้เวยจ๋อหันหลัง เดินไปทางห้องนอนของตัวเอง

“คุณป้าเล็ก มาดื่มน้ำชาห้องหนู หลังจากที่หนูกลับมาอยู่บ้านนี้ พวกเราสองคนป่าหลาน เหมือนจะไม่เคยพูดคุยกันแบบ จริงๆจังๆสักครั้งเลยนะคะ”

กู้ชิงเหลียนมีความสับสนเล็กน้อย เดินเข้าไปกับเธอ ก็ หมายความว่าในบางเรื่อง ตัวเองก็ต้องการจะร่วมมือด้วย แต่ ไม่เข้าไปกับเธอ…..สำหรับเธอมีผลดีอะไรนะ เพิ่งจะก้าวเดิน จู่ๆนั้น สายตาก็หันไปเห็นอะไรบางอย่าง

ก้าวเท้าของกู้ชิงเหลียนจึงหยุดไว้ จึงหันหน้าไปมองคนที่อยู่ ไกลทางเดินระเบียงยาวหยุดก่อน”

“ฮี “กู้เวยจื่อหยุดก้าวเดิน หันหน้าไปมองเธอ

เมื่อมองไปตามสายตาของเธอ ก็ดูรู้ทันทีว่าอีกมุมของทาง เดินระเบียงยาว คือใครในเงาร่างนั้น

“กู้อานหยานเหรอ”

ตอนที่กู้อานหยานเคาะประตู กู้จิ้งหย่วนเพิ่งออกมาจากห้อง อาบน้ำ ทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว และผมอันสั้นก็ยังเปียก อยู่
หยดน้ำไหลลงมาจากเส้นผม ทำให้คนที่สุภาพเรียบร้อย อย่างคุณชายใหญ่กู้ ดูมีความเซ็กซี่เร่าร้อนขึ้นมาทันที

ในบ้านนี้ เป็นเหมือนตระกูลมู่แห่งเมืองเป่ยหลิงกับเช่นกัน ชายก็หล่อหญิงก็สวย

ตอนที่กู้อานหยานเห็น ก็หยุดตะลึงไม่ได้

“ทำไมเหรอ คนใช้ดูแลตรงไหนไม่ดีใช่ไหม”

ในเวลานี้เธอมาหาตัวเอง กู้จิ้งหย่วนก็รู้สึกประหลาดใจเล็ก น้อย

คุณชายใหญ่มู่กับคุณปู่และคุณแม่ของเขาอยู่ด้วยกัน เหมือนเรื่องยังพูดคุยกันไม่จบ

เขากลับมาจากการประชุมทางวิดีโอแล้ว ก็อาบน้ำแล้วจะ

นอนทันที

ตอนนี้ เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่มแล้ว

กู้อานหยานส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดอย่างจริงจัง คุณชายใหญ่

“คุณปู่พูดแล้ว ให้เธอทำเหมือนกับเวยจือ เรียกฉันว่าพี่ชาย ใหญ่”กู้จิ้งหย่วนเปิดประตูออก เพื่อให้เธอเข้ามา
จากนั้น ก็ปิดประตูห้องทันที แต่ก็ไม่ได้ปิดจนหมด เขาคือคนที่มีมารยาทมาก ก็รู้จักการความเป็นสุภาพบุรุษ ประตูห้องปิดไม่มิด นั้นเพราะต้องการจะปกป้องชื่อเสียงของ

เธอ

กู้อานหยานรู้สึกเศร้าเสียใจเล็กน้อย

รู้ว่าตัวเองไม่ควรคิด แต่ว่า ก็คิดไปจริงๆ คิดว่า ผู้ชายที่อยู่ ตรงหน้าคือพี่ชายใหญ่ของเธอจริงๆ คิดว่า คุณปู่กู้คือคุณปู่ ของเธอจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น เธอก็จะปกป้องดูแลคุณปู่ของ ตัวเอง และปกป้องดูแลพี่ชายของเธอ แต่เสียดาย ที่พวกเขา ไม่ใช่

“พี่ชายใหญ่”เธอเอ่ยเรียกอย่างว่านอนสอนง่าย ทำตามเสียง เรียกของหัวใจ

กู้จิ้งหย่วนยิ้มเบาๆ เราลากเก้าอี้มา ให้เธอนั่งลงไป

แล้วเทน้ำอุ่นให้เธอแก้วหนึ่ง ตัวเองก็นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ

“ทำไมเหรอ จะดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยจะดี ตอนค่ำที่ทาน ข้าว ก็ทานได้ไม่กี่คำก็วางตะเกียบลงแล้ว ร่างกายไม่สบายใช่ หรือเปล่า”
กู้อานหยานคิดไม่ถึงเลยว่า เรื่องเล็กๆพวกนี้ของเธอ เขาถึง จะเก็บเอาไว้ในสายตา

“คุณปู่พูดแล้ว ว่าให้ฉันเตรียมอาหารมื้อดึกให้เธอ กลัวเธอ กินไม่อิ่มเมื่อกี้ฉันเพิ่งประชุมมา เลยลืมไปชั่วคราว”

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออกตามที่ต้องการทันที

กู้อานหยานยังไม่ทันได้ห้าม เขาก็สั่งออกไปแล้ว “ส่งอาหาร ว่างมาที่ห้องฉัน”

“พี่ชายใหญ่ หนูไม่หิวค่ะ”กู้อานหยานรีบพูดขึ้นมาทันที

กู้จิ้งหย่วนไม่เห็นด้วย” แค่ทานไปสองคำ ผักกวางตุ้งสองชิ้น ซุปคำหนึ่ง ข้าวสวยก็ทานแค่สองคำเล็ก เนื้อยิ่งไม่แตะสักคำ ด้วยซ้ำ จะไม่หิวได้ยังไง”

“หนู…..”

กู้อานหยานคิดแล้วคิด จึงตัดสินใจ จะพูดต่อถึงปัญหานี้อีก

ยิ่งกู้จิ้งหย่วนกับคุณปู่กู้ดีกับตัวเองมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า เรื่องบางอย่าง ก็ต้องควรต้องพูดกับพวกเขาให้รู้เรื่อง”พี่ชาย ใหญ่”กู้อานหยานกำแก้วมือไว้แน่น จ้องมองสายตาที่เป็นห่วง เป็นใยของเขา
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงพูด “หนู……..หากที่เป็น

ลูกสาวของบางชิง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ