ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 386 หยานหยาน คือคุณจริงๆ



บทที่ 386 หยานหยาน คือคุณจริงๆ

บทที่ 386 หยวนหยวน คือคุณจริงๆ

จะกลับไปอยู่เคียงข้างเขามั้ย

เขาคนนั้น ต่อให้มู่จ้านเป่ยจะไม่ได้พูดระบุ กู้อานหยานก็รู้ว่า เขาหมายถึงใคร

เธอก้มหน้าลงแล้วจ้องมองใบหน้าที่หันข้างของเขา

คุณชายใหญ่มู่ยังคงหลับตาอยู่เหมือนเดิม แม้แต่เปลือกตาก็ ไม่กระดิกเลยสักนิด

ไม่ใช่ว่ากู้อานหยานกำลังรู้สึกลังเลใจ อีกทั้งไม่ได้กำลัง ครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามนี้ที่ว่าจะกลับไปอยู่เคียงข้างใคร แต่ เธอกำลังอึ้ง

นานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันแบบนี้?

เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าๆ ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันล้วนแต่ใช้วิธี การสื่อสารที่ดั้งเดิมที่สุด

ไม่สิ แค่โต้ตอบกันเท่านั้น ไม่เคยจะพูดคุยกัน

เธอไม่พูดจา มู่บ้านเป่ยก็ไม่เอ่ยปากพูดอะไรเช่นกัน
ไม่รู้ว่ากำลังรอคําตอบจากเธอ หรือว่านอนหลับไปแล้ว

อีกทั้งไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน กู้อานหยานจึงพูด “เขาไม่ ต้องการฉันแล้วล่ะ”

แล้วถ้ายังต้องการล่ะ?” คำถามนี้ดูเหมือนจะถามเกินไป “ หน่อย

ตอนนี้เธอยังอยู่เคียงข้างเขา นี่ต้องการให้เธอพูดความจริง หรือว่าพูดโกหกต่อเขากันแน่?

แต่กู้อานหยานไม่รู้สึกลำบากใจเลยสักนิด อีกทั้งไม่ได้ วางแผนจะโกหกเขา

“ฉันอยู่คนเดียว”

คำตอบนี้ ไม่ว่าเขาจะพอใจหรือไม่ อย่างน้อยมันก็คือความ จริง

นึกไม่ถึง มู่บ้านเป่ยจะพยักหน้าแล้วตอบ “อืม”

ผู้ชายคนนี้!

ยังคงเงียบขรึมอยู่เหมือนเดิม

เงียบสงบ แต่มีกลิ่นอายของความสงบสุขและความเงียบงัน
เขาใกล้จะหลับสนิทแล้ว ลมหายใจค่อยๆนิ่งสงบ มีเสียงกรน ออกมาเล็กน้อย

ส่วนใหญ่จะเป็นเฉพาะตอนที่เหนื่อยเท่านั้นที่เวลานอนหลับ เขาจะมีเสียงกรนออกมา

ช่วงนี้เขาคงเหนื่อยจริงๆ

เขานอนหลับไปแล้วจริงๆ กู้อานหยานกอดหัวของเขาเอาไว้ แล้วค่อยๆประคองหัวเขาวางไว้บนหมอน

นึกไม่ถึง พึ่งจะประคองได้สักแปบ หมอนี่ก็สะดุ้งตื่นเพราะฝัน

ร้าย

เขาพลิกตัวทันทีแล้วกอดตัวเธอแนน หัวของเขาซุกเข้าไปใน

ท้องนุ่มๆของเธอ

“อย่าไปจากฉัน!”

กู้อานหยานไม่พูดอะไร เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

เขานอนหลับอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เสียงกรนค่อยๆดังขึ้นมาอีกครั้ง

ยากที่เขาจะนอนหลับได้ลึกขนาดนี้
เมื่อตะกี้ที่มู่บ้านเป่ยพูดละเมอความฝัน เธอตัดสินใจที่จะไม่ สนใจมัน

ไม่อยากให้ตัวเองคิดมาก สุดท้ายมันจะกลายเป็นความผิด หวังทั้งหมด

…เช้าวันถัดไป ตอนที่มู่บ้านเป่ยตื่นขึ้นมา เขายังคงหนุนนอน อยู่บนตักของเธอ

เมื่อเขาขยับตัว กู้อานหยานก็ตื่นขึ้นมาเพราะเขา

หลังจากหัวที่หนุนนอนอยู่บนตักของเธอตลอดทั้งคืนค่อยๆ ขยับออก เธอยังไม่ทันตั้งตัวสักเท่าไหร่

ความปวดเมื่อยที่ถูกส่งมาจากขาทำให้เธอขมวดคิ้วแล้วร้อง

ออกมาเบาๆ

“คุณมาทำอะไรตรงนี้?” มู่จ้านเป่ยลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นจ้อง มองเธออย่างเย็นชา

หนึ่งคืนผ่านไป คุณชายใหญ่มู่ก็ยังคงเป็นคุณชายใหญ่มู่คน นั้นอยู่ดี แววตาที่จ้องมองเธอก็ยังคงไม่ค่อยสัมผัสได้ถึงความ อบอุ่น

“ไม่ได้ทำอะไร” กู้อานหยานเกือบที่จะอดกลอกตามองบนใส่ เขาไม่ไหว
เมื่อคืนเขาดื่มมากเกินไปจริงๆ เขาจำเรื่องราวต่างๆไม่ได้แล้ว หรือว่าตั้งใจ?

ช่างมันเถอะ ถ้าจะใช้เหตุผลคุยกับคุณชายใหญ่มู่ละก็มันก็ เป็นเรื่องที่ไม่มีความหมายอะไร

เธอคลานลงมาจากเตียง

นึกไม่ถึงขาของเธอจะชาไปหมดจริงๆ ขาทั้งสองพึ่งจะ เหยียบบนพื้น แต่เธอไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ เธอจึงล้ม ลงไปนั่งอยู่บนพื้น

ส่วนมู่บ้านเป่ยที่ยืนอยู่อีกด้านก็จ้องมองเธอที่นั่งอยู่บนพื้น ด้วยสายตาที่เย็นชา แม้แต่ท่าทีที่จะประคองเธอสักนิดก็ไม่มี

อีกทั้งไม่คิดด้วยว่าที่เธอต้องขาชาขนาดนี้ มันเป็นเพราะใคร

ที่เป็นคนทํา?

ช่างใจร้าย เนรคุณจริงๆ

เธอพยายามคลานเพื่อลุกขึ้นมา จากนั้นหันหลังแล้วกำลังจะ

เดินไปทางประตู

ห้องของคุณชายใหญ่มู่ ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างเธอควรที่จะอยู่
เมื่อเดินไปถึงประตู น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำของมู่บ้านเป่ยก็ดังขึ้นมา จากด้านหลัง “สิ้นสุดการสอบเมื่อไร?”

“วันนี้มีสองวิชา พรุ่งนี้มีสามวิชาสุดท้าย”

“เมื่อสอบเสร็จ ถ้ามีเรื่องอะไรที่ต้องไปจัดการให้รีบไปจัดการ ซะ วันเสาร์ไปหลิงโจวกับฉันหน่อย?”

กู้อานหยานอึ้งเล็กน้อย เธอหันหน้ามาจ้องมองเขา “หลิง โจว?”

ใบหน้าที่อ่อนโยนของชายชราอยู่ๆก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของ

เธอ

ไม่ได้เจอมาหนึ่งเดือนกว่าๆแล้ว ไม่รู้ว่าคุณปู่กู้ตอนนี้จะเป็น ยังไงบ้าง?

พูดถึงแล้ว กู้เวยจือมาอยู่ในตระกูลกู้ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือน

กว่าๆแล้ว

เธอพยักหน้า ในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินออกไป เธออดไม่

ได้ที่จะหันมาถาม “ไปหลิงโจวทำอะไร?”

“คุณมีสิทธิ์ถามรึไง?” ผู้ชายเริ่มขมวดคิ้ว แสดงสีหน้าที่ไม่ ค่อยพอใจ
ความอ่อนโยนในเมื่อคืนนั้น พอมาตอนเช้ากลับหายไปหมด

กู้อานหยาน หี อยู่ในคอ จากนั้นเปิดประตูออกไป

ผู้ชายคนนี้ ไม่ควรที่จะมีจินตนาการใดใดต่อเขา

เมื่อจินตนาการแล้ว สุดท้ายก็จะกลายเป็นความผิดหวังของ คุณ

ไม่ถามก็ไม่ถาม คิดว่าวิเศษมากรึไง?

ในจังหวะที่เธอจะเดินออกไป มีเสียงทุ้มต่ำที่เธอทั้งรักทั้ง เกลียดดังขึ้นมาอีกครั้งจากด้านหลัง

“หลานสาวคนเดียวที่ตระกูลกู้ยอมรับกลับมา วันเสาร์นี้มีงาน เลี้ยง จะประกาศข่าวนี้”

หลานสาวของตระกูลกู้…. กู้เวยจือ……

นิ้วมือของกู้อานหยานกระตุกเล็กน้อย เธอรู้สึกอึ้งทันที

“ยังไม่ไปอีก?” เขาเริ่มไล่เธอ

คราวนี้ กู้อานหยานไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด ไม่มีอารมณ์ที่จะโกรธ
เธอก้าวฝีเท้าที่ค่อนข้างจะรู้สึกสับสนแล้วเดินกลับไปที่ห้อง

ของตัวเอง

หลานสาวของตระกูลกู้…..เป็นเพราะความสัมพันธ์ของมู่บ้าน เป่ย เรื่องนี้จึงถูกเธอพับเก็บเอาไว้

เดิมทีตั้งใจจะรอให้สิ้นสุดสามเดือนนี้ไปก่อนแล้วเธอค่อยคิด หาวิธีเพื่อตรวจสอบว่าตกลงในปีนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่กลับลืมไปแล้ว หลายครั้งถ้าคุณไม่เดิน คนอื่นก็จะเดิน

ก่อน

หลิงโจว ตระกูลกู้ ….. กู้เวยอ…..เยซิง….เสี่ยวหมี่

ทั้งทั้งที่ดูแล้วมันคือเรื่องที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันอะไร แต่ อยู่ๆก็มีอะไรสะกิดอยู่ในหัวของเธอ

เธอรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งกู้อานหยานกลับมาถึงในห้อง จากนั้นปิดประตู หลี เย่ที่เดินมาแต่ไกลเดินมาเคาะประตูห้องของมู่บ้านเป่ย จากนั้น เดินเข้าไปในห้อง

“คุณชายใหญ่ เอกสารที่คุณต้องการ”

เขาวางเอกสารไว้บนโต๊ะ สีหน้าของเขาแลดูหมองหม่นอย่างบอกไม่ถูก

“ในปีนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นกับคุณท่านหญิง ผู้ชายที่อยู่ในรูปนั้น คือกู้เซียนสิงจริงๆ”

กู้อานหยานไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการ

วันพุธสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ เธอรีบไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยม ซูเสี่ยวหมี่ทันที

ส่วนเรื่องที่บริษัท ยังคงเหมือนเดิม

ประชุมก็ใช้วิธีวิดีโอคอลประชุม การสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต

ทั้งหมด

ดังนั้นวันพฤหัสบดีนี้ พวกเขาจึงเดินทางไปหลิงโจวก่อนกำ

หนด

คุณชายใหญ่คู่กับคุณชายใหญ่ตระกูลกู้ดูเหมือนว่ามีเรื่อง อะไรต้องคุยกัน พอมาถึงหลิงโจว คุณชายใหญ่ตระกูลกู้รีบ เชิญเขาไปทันที

มู่จ้านเป่ยไม่ได้จำกัดอิสระของกู้อานหยาน เขาแค่ให้ฉินอี้อยู่กับเธอ
จริงๆแล้วมันก็คือการสังเกตการณ์

ช่วงบ่ายวันนั้น กู้อานหยานเดินทางออกมาจากโรงแรมแล้ว เดินเล่นร้านค้าที่อยู่รอบๆบริเวณนั้น

ฉินอี้อยู่ด้านหลังเธอตลอด ทั้งสองไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ตลอดช่วงบ่ายเขาไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ

กู้อานหยานรู้ดี ฉินอี้เป็นเพราะความสัมพันธ์ของกู้เวยจือ เขา จึงเกลียดเธอมาก

ผู้ชายคนนี้คงจะชอบกู้เวยจือสินะ

แต่ทว่ามันก็ไม่แปลก

กู้เวยถือเป็นคนช่างเอาอกเอาใจผู้ชายขนาดนี้ บนโลกนี้ ผู้ชายที่ชอบเธอคงจะมีไม่น้อย

เมื่อเดินจนเหนื่อยแล้ว กู้อานหยานจึงนั่งอยู่บนเก้าอี้หินที่อยู่

ข้างทาง

เธอยกชานมร้อนที่พึ่งซื้อเมื่อตะกี้นี้ขึ้นมาจิบทีละนิด

ไม่ไกลจากถนนเส้นนั้นมีรถหรูสีเรียบบีบแตรดังหนึ่งที มัน จอดอยู่ข้างถนน
“คุณลองดูใช่รึเปล่า? ฉันไม่ได้จำคนผิด ใช้รึเปล่า? อาทิ บ ไปดู”

คุณท่านตระกูลกู้รีบเปิดประตูรถออกมา เขาไม่รอให้อาติง ตอบอะไร ตัวเขารีบเดินออกไปก่อน

อาติงรีบลงจากรถแล้ววิ่งตามเขา

“คุณท่าน คุณรอฉันด้วย อย่ารีบวิ่งสิ ระวังหกล้ม!”

“ออกไป! ตาแก่อย่างแกสิถึงจะหกล้ม ฉันยังแข็งแรงดี!”

ราวกับว่าคุณท่านกู้กำลังบินอย่างไรอย่างนั้น เขารีบบินตรง เข้าไปหากู้อานหยาน จากนั้นจับไหล่ของเธอ

“หยานหยาน! ใช่หยานหยานจริงๆด้วย! พระเจ้าช่วย! ทำไม

คุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ