ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 382 เขาดีกับคุณมั้ย?



บทที่ 382 เขาดีกับคุณมั้ย?

บทที่ 382 เขาดีกับคุณมั้ย?

ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ ถึงแม้ว่ากู้อานหยานจะไม่ได้ ปรากฏตัวออกมาตลอด

แต่ การตัดสินใจใหญ่ๆของบริษัทเมษามีเดีย เธอก็มีส่วนร่วม ในการตัดสินใจมาตลอด

ความจริงแล้ว มู่จ้านเป่ยแค่ให้เธออยู่ที่ห้องพักว่างเจียงเก๋อ

สำหรับเรื่องกิจกรรมที่เธอทำเมื่ออยู่ในห้องพักว่างเจียงเก่อ เขาไม่เคยที่จะถาม

โดยเฉพาะ ในช่วงเวลานี้มู่บ้านเป่ยค่อนข้างที่จะยุ่งมาก

ช่วงที่ยุ่งที่สุด อาทิตย์หนึ่งกลับไปแค่หนึ่งคืนเท่านั้น

ช่วงเวลาที่คุณชายใหญ่มู่ไม่อยู่ กู้อานหยานมีเวลามากมาย

เพียงพอ

บางครั้งก็มีประชุมวิดีโอคอลประชุมกับทุกคน ประชุมจนถึงตี สองตีสาม

ยังไงซะ งานที่บริษัทเมษามีเดีย เธอไม่ได้วางมือเลยสักนิด
“รายงานของผลประกอบการในปีที่แล้วออกมาแล้ว พวกเรา ควบคุมการขาดทุนให้อยู่ภายใน45%”

ทันทีที่เห้อหลิงจือได้รับรายงานก็รีบรายงานให้กับกู้อานห ยานในทันที

“แต่ทว่าคุณวางใจได้ ครึ่งปีหลังพวกเราพึ่งจะก่อตั้งบริษัท นี้ขึ้นมา ยังมีเวลาอีกครึ่งปีจะต้องควบคุมให้ความสูญเสียอยู่ ภายใน30%ให้ได้”

นี่คือรายงานของผลประกอบการที่พึ่งจะออกมา ยังร้อนผ่าว

ผ่าวอยู่เลย!

กู้อานหยานใช้เวลาดูรายงานในตลอดช่วงบ่าย อีกทั้งได้ วิเคราะห์จุดสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสีย

แต่การสูญเสียเหล่านี้กำลังพัฒนามีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี

ถ้าให้เวลาอีกครึ่งปี บางทีอาจจะสามารถควบคุมให้อยู่ ภายใน20%เลยก็ได้

มีโครงการบางอย่าง กำลังเริ่มทำกำไรแล้ว!

“แอนิเมชั่นเรื่อง เมื่อเกิดใหม่แล้ว ฉันจะไม่รักคุณอีก ) กำลัง อยู่ในระหว่างการวางแผน แต่ หยานหยานเรื่องนี้ฉันอยากจะ ถามความเห็นของคุณอีกรอบ”
เห้อหลิงจือคำนวณถึงต้นทุน เธอมีอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยจะ

แน่ใจ

“ขั้นตอนของการทําโครงการแอนิเมชั่นนี้ค่อนข้างจะยาวนาน อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึงสองปี ส่วน (สามีลึกลับของฉัน) เวอร์ชันคนแสดงสามารถฉายได้ในปีหน้า

“หยามหยาน คุณแน่ใจนะว่าจะเริ่มทํา (เมื่อเกิดใหม่แล้ว ฉัน จะไม่รักคุณอีก ) โครงการนี้จริงๆน่ะ?”

แอนิเมชั่น อาจจะสามารถทําก๋าไรก้อนโตได้ แต่ก็อาจจะ ขาดทุนเลือดซิบได้เช่นกัน

“นี่บางทีอาจจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเรา เป็นฟางเส้น สุดท้ายที่จะมาช่วยพวกเราก็ได้นะ”

กู้อานหยานหยิบรายงานอีกฉบับออกมา “ก่อนหน้านี้ฉันเคย พูด ต้องควบคุมต้นทุนการทำแอนิเมชั่นของ เมื่อเกิดใหม่แล้ว ฉันจะไม่รักคุณอีก ) ให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้

“ฉันเข้าใจความหมายของคุณ แบบนี้ต่อให้ขาดทุนก็จะไม่ กระทบต่อแผนกําไรทั้งหมด

เห้อหลิงจือยังคงรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่แบบนี้ มันจะเพิ่ม ภาระให้ต้นทุนของพวกเรา

ในข้อตกลงของพวกเขากับคุณชายรองเจียงจะต้องทำกำไรให้ได้30%ภายในระยะเวลาสามปี

สำหรับบริษัทมีเดียแห่งหนึ่งแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย

“งั้นก็เอาเป็นว่าเราสูญเสียเงินก้อนนี้ไป อย่าเอามันใส่ไว้ในงบ ประมาณ”

เห้อหลิงจือไม่ได้พูดอะไร คนอื่นๆก็เงียบเช่นกัน

ยาก มันยากมากจริงๆ แต่ความยากลำบากมันก็คือแรงผลักดันอย่างหนึ่งไม่ใช่หรอ?

“โอเค! งั้นก็เดินตามแผนของคุณ เอาเป็นว่า พวกเราได้สูญ เสียเงินทุนจํานวนหนึ่งร้อยล้านไปแล้ว”

“ไม่ใช่หนึ่งร้อยล้าน แต่เป็นห้าสิบล้าน” กู้อานหยานจ้องมอง ไปที่ฉินโจว “ที่เหลืออีกห้าสิบล้าน ไม่ว่าจะยังไงคุณก็ต้อง ประหยัดให้ฉันให้ได้

“หยานหยาน แบบนี้จะสร้างความลำบากให้ฉินโจวมากเกิน ไปนะ!” ต้นทุนแรงงานห้าสิบล้านจะให้เขาคิดจัดการยังไง?

ฉินโจวกลับพยักหน้า จากนั้นจ้องมองไปที่กู้อานหยานด้วยสีหน้าที่ดูมุ่งมั่น
“คุณวางใจได้ สองปี เงินทุนห้าสิบล้านนี้ ฉันจะต้องประหยัด มันเอาไว้

“คุณจะเหนื่อยตายก่อนสิ!” เห้อหลิงจือรู้สึกปวดใจเป็นอย่าง

มาก

ฉินโจวกลับยิ้มแล้วพูด “สู้สุดใจตอนเป็นวัยรุ่น หรือว่าจะต้อง รอให้แก่ก่อนแล้วถึงจะมาสู้?”

กลัวแค่ว่า พอแก่มาก็จะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนเถียงกลับไม่ออกจริงๆ

“โอเค โครงการ’ (เมื่อเกิดใหม่แล้ว ฉันจะไม่รักคุณอีก )’ ก็ ตกลงตามนี้นะ”

กู้อานหยานเปิดแพลนอีกหนึ่งเล่ม “สำหรับเรื่อง สามีลึกลับ ของฉัน) ได้คัดนักแสดงเอาไว้แล้ว เปิดกองประมาณต้นปี เถอะ”

….วันนั้นพวกเขาได้ประชุมอยู่ในห้องประชุมตลอดช่วงบ่าย

เมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น ทุกคนแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นแล้วเดินออกมาจากห้องประชุม

การประชุมทางวิดีโอคอลมันไม่ได้ลึกซึ้งเท่ากับการประชุมนอกสถานที่จริงๆ

การประชุมนี้ทำให้ทุกคนได้เห็นและรับรู้ถึงเสน่ห์ของกู้อานห ยานในฐานะผู้จัดการอีกครั้ง

ความเด็ดขาด มีเหตุผล อีกทั้งยังมีความยืนหยัด!

ในความยืนหยัดที่มีเหตุผลเช่นนี้สามารถกระตุ้นความ กระตือรือร้นของทุกคนออกมาได้

หนทางที่อยู่ตรงหน้านั้นยากลำบาก เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ มันก็คือความท้าทายครั้งใหม่อย่างหนึ่งไม่ใช่หรอ?

ทุกคนกลับไปเก็บข้าวของ เตรียมตัวจะออกไปกินข้าว

กู้อานหยานไม่มีของอะไรต้องเก็บ เธอไม่ได้ทำงานอยู่ใน ออฟฟิศนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าแล้ว

เธอตัดสินใจที่จะลงไปรออยู่ที่ห้องโถงบริเวณชั้นหนึ่งก่อน แต่นึกไม่ถึง พึ่งจะลงมาถึงชั้นหนึ่ง ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ร่างที่เรียวบางเข้ามาในสายตาของเธอโดยไม่คาดคิด

กู้อานหยานอึ้งทันที เธอจ้องมองใบหน้าเย็นชาที่แลดูเย็นชา มากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน ทันใดนั้นเธอลืมตอบสนอง ต่อทุกสิ่ง
ลืมแม้กระทั่งว่าเธอควรจะเดินออกมาจากลิฟต์ก่อน

เธอไม่เดินออกมา คนที่ยืนอยู่นอกลิฟต์ก็ไม่สามารถเดิน เข้าไปในลิฟต์ได้

เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ประตูลิฟต์ก็ปิดอัตโนมัติอีกครั้ง

จนกระทั่งเธอไม่สามารถมองเห็นร่างนั้นอีก กู้อานหยานจึง ค่อยๆดึงสติกลับมาอีกครั้ง

เธอต้องการจะเปิดประตูลิฟต์อีกครั้ง แต่มันก็สายเกินไปเสีย

แล้ว

ในขณะที่เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน ประตู ลิฟต์ก็เปิดออกอีกครั้ง

เขาอยู่ข้างนอก กำลังกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์

“ฉัน ขอโทษ……

กู้อานหยานก้มหน้า จากนั้นรีบเดินออกมาจากลิฟต์

เธอนึกว่าเขาจะเดินเข้าไปในลิฟต์ นึกไม่ถึงว่าเขาจะยังคงยืน อยู่ที่เดิมแล้วจ้องมองมาที่เธอ

ประตูลิฟต์ได้ปิดลง ชั้นบนมีคนต้องการจะใช้ลิฟต์ ลิฟต์จึงค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไป

กู้อานหยานรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง อยากจะเดินออกไป แต่ กลับก้าวเท้าออกไปไม่ได้

เจียงนานก็ไม่ได้เดินเข้าไปในลิฟต์ เขายังคงจ้องมองเธอแล้ว ไม่พูดอะไรสักคำ

สุดท้าย กู้อานหยานหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้ว สบตากับเขา

เธอยิ้มอ่อนๆแล้วพูด “ไม่เจอกันตั้งนาน ช่วงนี้คุณสบายดี มั้ย?”

“ไม่ดี”

” เขาพูดออกมาว่า”ไม่ดี”ด้วยความจริงจังทำให้เธอรู้สึก สับสนจนทำอะไรไม่ถูก

แต่ ทุกอย่างมันจบลงแล้ว

ต่อให้มีชีวิตที่ไม่ดี ก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป

“ฉันมีสอบวันนี้เลยแวะมา ตกดึก..….

เธอชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นพูด “ดึกหน่อยฉันก็จะกลับไป”
เมื่อมองเห็นลิฟต์ไปจอดอยู่ที่ชั้นแปด กู้อานหยานจึงรู้ว่าพวก เพื่อนๆกำลังจะลงมา

เธอฝืนยิ้มออกมา จากนั้นจ้องมองเขา “ฉันต้องไปแล้ว

คุณ…..ดูแลตัวเองดีดี”

รอบๆดวงตาของเขาดูยุบลงไปเล็กน้อย เขายังคงดูดีมาก แต่ มันทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดใจ

เธอหันหลังแล้วจะเดินออกไป อยู่ๆข้อมือก็ถูกจับไว้แน่น เธอ โดนเขาดึงแขนเอาไว้

“เจียงนาน….. ” กู้อานหยานตกใจเป็นอย่างมาก ลิฟต์จากชั้น แปดกำลังค่อยๆเคลื่อนตัวลงมา

พวกเขาใกล้จะมาถึงแล้ว ในตอนนี้เธอไม่อยากจะมีปัญหาต่อ

หน้าเพื่อนๆ

เธอไม่อยากจะทำให้ใครต้องรู้สึกเป็นห่วง

“เจียงนาน ฉันต้องกลับไปแล้ว”

คำว่ากลับไป สองคำนี้เธอพูดเน้นเสียงมากเป็นพิเศษ

เขาเป็นคนฉลาด เขาจะต้องเข้าใจว่าคำพูดนี้หมายความว่าอะไร
เธออยู่เคียงข้างคุณชายใหญ่มู่มาเป็นเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ แล้ว

ในหนึ่งเดือนกว่าๆนี้ มู่บ้านเป่ยทำอะไรกับเธอบ้าง ทำสิ่งต่างๆ มากมายเท่าไหร่ ต่อให้เขาไม่ได้เห็นกับตาเขาก็พอจะนึกออก ดังนั้นผู้หญิงแบบนี้ ผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างผู้ชายอีกคนตลอด เวลา มันยังควรค่าที่จะยังรักอีกมั้ย?

“เจียงนาน ปล่อยมือได้มั้ย? หลิงจือพวกเขากำลังลงมา”

สายตาของกู้อานหยานอ้อนวอนเขา เธอกับเห้อหลิงจือพวก เขานัดกันไว้แล้ว จะไปกินข้าวหลังจากเสร็จประชุม

ทุกคนกำลังจะลงมาถึงชั้นล่างแล้ว

เจียงนานไม่ยอมปล่อยมือ แต่ตรงกันข้ามเขากลับจับข้อมือ ของเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม

เขาถามด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก “เขาดีกับคุณมั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ