บทที่ 340 ฉันบอกแล้วว่าจะลากพวกแกลงนรก
บทที่ 340 ฉันบอกแล้วว่าจะลากพวกแกลงแรก
สองชั่วโมงผ่านไป ตลอดการบรรเลงเพลงรัก ไม่มีบทสนทนา เกิดขึ้นแม้แต่คําเดียว
เธออดกลั้นมาตั้งแต่เริ่ม จนต่อมาเธอก็กรีดร้องออกมาอย่าง สิ้นหวัง
สุดท้ายฝ่ามือของเขาก็วางลงบนเอวของเธอ นอกจากสนอก สนใจในร่างกายของเธอแล้ว ก็ดูเหมือนไม่ได้สนใจเธอเลย แม้ กระทั่งจูบสักครั้งก็ไม่มี
หลังจากคลื่นลมสงบลง กู้อานหยานหอบหายใจ เธอมองชาย หนุ่มที่หยัดกายขึ้นจากตัวของเธอ เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียง แหบพร่า “พอได้รึยัง?”
มู่จ้านเป่ยเมินเธอ เขาสวมเสื้อผ้าอย่างเอื่อยเฉื่อย นอกจาก หายใจที่กระชั้นถี่ รวมถึงหยาดเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าและ ร่างกาย รอบตัวเขาห้อมล้อมไปด้วยกลิ่นหายเย็นเหยียบดุจ ท้องทะเล
ความบ้าคลั่งและตื่นเต้นเมื่อครู่ ในตอนนี้ไม่เหลือร่องรอยเลย
สักนิด
มู่จ้านเป่ยแต่งกายเสร็จเรียบร้อย กลับเป็นคุณชายใหญ่อย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง
เขาจุดบุหรี่ ภายในห้วงเวลาอันเงียบงัน จุดประกายแสงที่ ชวนให้หนาวเหน็บหัวใจ
“ทำยังไงถึงจะปล่อยฉันสักที?”
ลงเอยเช่นนี้แล้ว หรือว่ายังไม่สาแก่ใจ?
มู่จ้านเป่ยยังคงไม่โต้ตอบกลับมา กู้อานหยานไม่สามารถ ใจเย็นได้อีกต่อไป!
“มู่บ้านเป่ย! นายยังจะทำอะไรอีก?”
ชีวิตแบบนี้ หรือว่ามันจะไม่มีจุดสิ้นสุดกัน?
เธอทนไม่ไหวแล้ว?
มู่บ้านเป่ยเอนพิงประตูรถ ก่อนจะหันหน้ามามองเธอ ความ เย็นยะเยือกบนใบหน้า ไม่แฝงอารมณ์เลยแม้แต่น้อย
“เธอเดาสิ”
ยังจะพูดแบบนี้อีก! เขาอยากทำให้เธออกแตกตายหรือยัง
ไง!
ร่างกายที่เพิ่งถูกเขาข่มเหงรังแก ตอนนี้ยังปรากฏร่องรอยที่ เขาทิ้งไว้ทนโถ่เต็มไปหมด
จู่ๆ เขาพลันเหยียดยิ้ม เรียวนิ้วยาวจรดลงบนเอวของเธอ
กู้อานหยานก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอดันเพิ่ง นึกขึ้นได้ ตอนนี้บนร่างกายของเธอหลงเหลือสิ่งน่าละอายอยู่ มากมาย
พลันอยากจะปกปิดร่างกายของตัวเอง แต่สองมือยังคงถูก มัดไว้บนหัว ถึงเธออยากจะปิดบังมากแต่ไหน ก็ปิดไม่ได้
ไม่ต้องใช้สายตาแบบนี้มองเธอเลยนะ หยุดกลั่นแกล้งกันได้ แล้ว!
เธอทําอะไรผิดกันแน่?
“นายอยากได้อะไร ฉันจะชดใช้ให้นาย ฉันจะชดใช้ให้! แต่…อย่าหาแบบนี้”
ถูกเขาจ้องเขม็ง ราวกับจ้องมองของเล่นชิ้นหนึ่ง วิธีน่า กระดากอายแบบนี้ ทำเอาเธอรู้สึกทัดทานไม่ไหว
“มู่จ้านเป่ย นายอยากได้อะไรกันแน่?”
“อยากได้อะไรงั้นเหรอ ฉันไม่เคยปิดบัง” คำถามง่ายๆ ยังจะต้องถามอีก?
ยัยนี่ หลังจากผ่านมือชายมาแล้ว หรือว่ายังมองไม่ออกอีก?
หึ! ช่างไร้เดียงสาจริงๆ!
“ฉันไม่ได้พรากลูกของพวกเรา ฉันไม่ได้ตั้งใจ….อีก!”
ลำคอถูกบีบแน่น เขาใช้มือบีบคอของเธอแน่นอย่างเย็นชา
“อย่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฉันอีก! กู้อานหยาน คำโกหกพล่อยๆ ของเธอมันใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก ฉันเคยบอกแล้วว่าจะลาก พวกแกลงนรก เธอคิดว่าฉันพูดไปงั้นๆ สินะ?”
เธอพูดไม่ออก เพราะลำคออ้าขยายออกไม่ได้เลย
แม้ว่าเขาจะควบคุมพละกำลังได้ดี ไม่ได้ทำเธอเจ็บปวด กระทั่งเธอยังพยายามหายใจได้อยู่
ทว่า กลิ่นอายความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ยัง กดดันเธอจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
บางที พูดอะไรไปล้วนไม่มีความหมายใด เพราะเขาไม่เชื่อ
และเขาก็ไม่ยอมเชื่อใจเธอด้วย
ท้ายที่สุด มู่บ้านเปียก็คลายนิ้วมือออก นิ้วมือเย็นไล้ไปทั่ว ร่างกายของเธอครั้งหนึ่ง
คล้ายกับกำลังหยอกล้อของเล่นไร้ชีวิตชิ้นหนึ่ง จนถึงช่วง หนึ่งที่เขาพึงพอใจแล้ว เขาก็คลายเชือกที่มือทั้งสองของเธอ ออก
“รู้ไหมว่าทำไมเธอถึงโดนพาขึ้นรถ?”
เมื่อเห็นเธอร่างกายอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงบนเบาะรถ รอยยิ้ม ของเขาก็เย็นเหยียบยิ่งกว่ามารอีก
“เพราะว่า ฉันคุยกับพวกเขาแล้ว ว่าหลังจากนี้แค่เห็นเธอคน เดียว ฉันจับเธอกลับมา”
กู้อานหยานขดตัวบนเบาะที่นั่ง เธออยากร้องไห้ พลางอ้าปาก
ทว่าไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลย
เจ็บปวดเหลือเกิน ไม่รู้เจ็บปวดที่ตรงไหน บางที คงเจ็บปวด หัวใจมากเกินไป
ขอแค่มองเธอคนเดียว ก็เลยจับเธอกลับมา…เธอต้องกำหนด ไหม ที่ไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือปีศาจ?
ทําให้พวกเขาตกนรก ที่แท้ ไม่ได้เอาชีวิตพวกเขา แล้วก็ไม่
ได้จัดการกับเจียงนาน
แต่กลับใช้วิธีแบบนี้ ใช้วิธีโหดร้ายที่ทำให้เธอไม่สามารถหนี พ้น ทำลายทุกสิ่งของเธอ
ยังทำให้ผู้ชายที่มาสนใจเธอ ได้รับความทรมานด้วยกัน พร้อมกับเธออีกด้วย
ให้ลงนรกไปพร้อมๆ กับเธอ…..
หัวใจ ช่างเจ็บปวดเสียจริง….
แล้วหลังจากนี้ มู่จ้านเป่ยจะทำอะไรกับเธอ กู้อานหยานก็นึก
ไม่ออกเลย
จนกระทั่งตอนที่เธอนึกขึ้นได้ คนต่างก็นอนบนที่นอนในอพาร์
ทเม้นท์
ภายในอพาร์ทเม้นท์ของเจียงนาน
“ตื่นแล้วเหรอ?” เมื่อเห็นว่าเธอแล้ว ชายหนุ่มบนเตียงก็ชะงัก ไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ไปเอาน้ำอุ่นมาให้เธอแก้วหนึ่ง
“ดื่มน้ำอุ่นก่อน อุ่นร่างกายเสียหน่อย”
กู้อานหยานไม่พูดไม่จา อุ่นรวดเดียวหมดแก้ว าประคองเธอให้นั่งลง เธอก็ดื่มน้ำ
ต่อมา เธอก็นึกขึ้นได้ ก่อนจะรีบก้มดูร่างกายของตัวเอง
มีเสื้อผ้าบนร่างกาย…
เมื่อมองเสื้อผ้าอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกของเธอพลันดิ่งลงทันที หยาดน้ำตาไหลออกมา ทว่าไร้เสียง
เพียงแค่หลั่งน้ำตา ไม่ถึงกับร่ำไห้
เจียงนานวางแก้วลง เขากำหมัดแน่นจนสั่นเบาๆ ครู่ใหญ่ เขา ก็ดึงเธอมาโอบกอดไว้
“ขอโทษนะ เป็นฉันที่ปกป้องเธอไม่ดีเอง”
เธอไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา ทว่าท่าทางดูทุกข์ทรมาน ยัง คงหลั่งนํ้าตาออกมาอย่างเงียบงัน
เจียงนานเกลียดตัวเองเป็นบ้า! เกลียดจนอยากฆ่าตัวตาย
เสีย!
“ขอโทษ ฉันไม่ควรพาเธอไปเลย ไม่ควรยั่วโมโหเขา! ”
พี่ใหญ่ต้องรับไม่ได้กับเรื่องที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน รับไม่ได้
แน่ๆ!
พวกเขาไม่จําเป็นต้องเผชิญหน้า เพราะคนที่ไม่อยากเจอคือมู่จ้านเป่ย!
“ขอโทษนะ…”
กู้อานหยานไม่พูดไม่จามาตั้งแต่แรก เธอก้าชายเสื้อของเขา แน่น กดใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของเขา ปล่อยน้ำตาหลั่งริน เงียบๆ
หากเทียบกับร้องไห้เงียบๆ แล้ว เจียงนานก็อยากให้เธอ ร้องไห้ส่งเสียงออกมามากกว่า
บางที การได้ร้องไห้ออกมา ทําให้คนไม่เสียใจมากมาย ขนาดนี้
แต่เธอเอาแต่ปิดปากเงียบ มีเพียงน้ำตาหยดออกมา ทำให้ เสื้อผ้าของเขาเปียกชื้น เขาเจ็บปวดไปทั้งอก เขาถึงรับรู้ว่าเธอ ร้องไห้หนักแค่ไหน
ฝ่ามือใหญ่ของเจียงนานวางลงบนหัวของเธอ ในตอนนี้ ค่า ปลอบโยนดูเหมือนจะไม่จําเป็นแล้ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ กู้อานหยานผละออกจากอ้อม
กอดของเขา
เธอเช็ดน้ำตา ยามที่มองเขาอีกครั้ง เธอแสดงสีหน้าไร้ อารมณ์ “ฉันอยู่กับนายไม่ได้แล้ว”
เจียงนานรู้สึกตกใจ ราวกับหัวใจถูกฉีกออกไปอย่างไรอย่าง
งั้น
เขาจ้องดวงตาบวมแดงของเธอ ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “เธอกลัวงั้นเหรอ?”
“ใช่ ฉันกลัว บางที หลังจากที่พวกเราแยกกัน เขาอาจจะ ปล่อยฉันและนาย”
เธอหวาดกลัวจริงๆ กลัวจนไม่กล้าออกไปไหนคนเดียว
กระทั่งเธอยังนึกสงสัย ต่อให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่ออกไป ไหน มู่บ้านเป่ยจะตามหาเจอเมื่อไหร่ก็ได้รึเปล่า ทำให้เธอ อับอายเมื่อไรก็ได้ กระทั่งข่มเหงและบีบบังคับเธอ
เธอกลัวจริงๆ ต้องอยู่อย่างอกสั่นขวัญหาย มีชีวิตอย่างสิ้น หวัง!
“หลังจากนี้ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอไปไหนคนเดียวอีก อานห ยาน ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะ”
เจียงนานจับไหล่ของเธออย่างแรง “นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย เธอ เชื่อใจฉันนะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย!”
กู้อานหยานกลับส่ายหน้า เธอไม่อยากโจมตีเขาแต่นี่ไม่ใช่ ครั้งสุดท้ายอย่างแน่นอน
เธอรู้จักนิสัยของมู่บ้านเป่ยดี หากไม่มีใครไปล่วงเกินเขาก็
แล้ว หากได้ล่วงเกินล่ะก็ ต้องถูกกำจัด!
เหมือนกับ Paradise Island!
Paradise Islandในตอนนี้ ก็ระเบิดแตกกระจายไปแล้ว!
แล้วพวกเขา ก็ได้รับการลงโทษ ใช้วิธีที่พวกเขาไม่อาจรับได้ มากที่สุด!
เธอมองเจียงนานด้วยสีหน้าเฉยชา “เราเลิกกันเถอะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ