ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 225 สามารถมีความรักได้อย่างอิสระแล้ว



บทที่ 225 สามารถมีความรักได้อย่างอิสระแล้ว

บทที่ 225 สามารถมีความรักได้อย่างอิสระแล้ว

เมื่อมู่เทียนโยวมาแล้ว

อานหยานก็ไปขึ้นรถตามเขา แล้วรถก็ออกจากตรงนั้นไปทันที

เหลือไว้เพียงแค่ใบหน้าที่ตกใจและคาดไม่ถึงของหลีเย่ และเขา ก็ยืนตกใจอยู่ตรงนั้นอีกนาน

เมื่อรถเคลื่อนไปบนท้องถนนแล้ว กู้อานหยากก็พูดขึ้นมาเบาๆ “เทียนโยว์ ฉัยอยากไปดื่มเหล้า

พวกเขาไม่ได้ไปผับ แต่มู่เทียนโยวซื้อเบียร์มาเล็กน้อย และทั้ง สองคนก็กลับไปตรงระเบียงของที่สำนักงาน

กู้อานหยานยังคงนิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักอย่าง

แต่หลังจากดื่มไปครึ่งขวดแล้ว เธอก็มองไปยังความมืดตรงนอก ระเบียง และอยู่ๆก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
มู่เทียนโยวก็นั่งอยู่ข้างหน้าของเธอ และนั่งดูเธอร้องไห้อยู่ เงียบๆ โดยไม่ได้ปลอบ และไม่ได้ห้ามเธอ

และเขาก็ยังส่งเบียร์ขวดที่สองให้กับเธออีก

ก่อานหยานจึงโยนขวดเบียร์ขวดแรกที่เธอดื่มจนหมดแล้วทิ้งไป และรับขวดที่สองมากรอกใส่ปากของตัวเอง

เธอเป็นคนเมาง่าย แค่ดื่มไปครึ่งขวด สายตาของเธอก็เบลอ และรู้สึกเมามากแล้ว

“สุดท้ายเขาก็ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น หึ เขามีอะไรดี ก็แค่หน้าตา หล่อนิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอ?”

“นี่เขารู้หรือเปล่าว่ากู้เวยจือเป็นคนยังไง? โง่สิ้นดี! แม้แต่หน้า แท้ของเธอก็ดูไม่ออก แล้วยังจะกล้าไปสงสารเธออีกเหรอ?”

“ถุย! หน้าด้าน! ไปๆมาๆ สุดท้ายก็มาอยู่ด้วยกัน หน้าไม่อาย หน้า ไม่อายจริงๆ! ”

“กู้เวยจ่อเธอเป็นคนไม่ดี เธอเป็นนักฆ่า รู้ไหมว่าเธอเป็นคนฆ่า ฉัน? เธอฆ่าฉัน! ”
คำพูดในตอนแรกๆ มู่เทียนโยว่ยังพอรู้สึกว่าฟังเข้าใจ

แต่คำพูดในตอนหลังๆนี้ เขาฟังไม่เข้าใจเลยแม้แต่ประโยคเดียว

เวยจ๋อเป็นคนฆ่าเธอ มันหมายความว่าอะไร? หรือว่าเวยคือ เคยคิดที่จะฆ่าเธอ?

นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความอาฆาต และกำหมัดแน่นขึ้นมา

ทันที

ถ้าหากกู้เวยจ๊อกล้าทำอะไรหยานหยานแล้วล่ะก็ เขาจะไม่ ปล่อยเธอไว้แน่นอน!

“มันก็แค่หน้าตาสวยกว่านิดหน่อยเอง? ไม่ มันสวยตรงไหน? มัน เทียบไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บของเธอ!”

“ใช่” มู่เทียนโยวรู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดนี้เป็นอย่างมาก

เขาไม่คิดว่ากู้เวยจือนั้นสวย ในสายตาของเขานั้น กู้เวยจ๋อก็เป็น แค่ผู้หญิงขี้เหร่คนหนึ่ง

“พวกเขาตาบอดกันหมดแล้วหรือไง ถึงดูไม่ออกว่าฉันนะสวย กว่ามัน? ไอ้พวกคนตาบอด!”
“ไม่ใช่ฉันนะ” มู่เทียนโยวพูดออกมาอย่างจริงจัง

“ไม่ นายก็ด้วย พวกนายมันตาบอดทุกคนเลย ฮือ……

ในที่สุดเธอก็กอดเข่าตัวเองไว้ แล้วปล่อยโฮออกมา

ที่แท้ตอนที่ต้องจบสัญญา มันจะเป็นแบบนี้นี่เอง

ที่แท้เธอไม่สามารถทำเป็นไม่สนใจได้อย่างที่เธอพูดไว้จริงๆ

ที่แท้หัวใจมันก็เจ็บได้จริงๆ มันเจ็บเจ็บมากๆ…….

“กู้เวยจ๋อเป็นคนไม่ดี เธอเป็นคนไม่ดีจริงๆนะ……

เมื่อดื่มเบียร์เป็นจำนวนมาก เธอก็รู้สึกสะลึมสะลือ ไม่รู้ว่าตัวเอง ร้องไห้ไปนานเท่าไหร่แล้ว จนในที่สุดร่างกายก็อ่อนลงแล้วล้ม ลงไปทันที

มู่เทียนโยวจึงรีบไปประคองเธอ เธอจึงล้มเข้ามาอยู่ในอ้อมอก

ของเขา

ถึงแม้คำพูดของกู้อานหยานนั้นจะติดๆขัดๆเพราะว่าเธอเมา แต่ มู่เทียนโยว์ฟังข้อความหลักๆของเธอเข้าใจ
คุณชายใหญ่ ต้องการจะยกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอ แล้วเธอก็จะ กลับมาเป็นอิสระแล้ว

บางที นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ควรดีใจเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าเธอ เสียใจขนาดนี้ เขากลับไม่สามารถดีใจได้เลยสักนิด

เขาไม่อยากเห็นเธอเสียใจ เพราะถ้าเธอเสียใจ หัวใจของเขาก็

จะพลอยเจ็บปวดไปด้วย

“หยานหยาน เดี๋ยวฉันส่งเธอกลับไปพักผ่อนดีไหม?”

มู่เทียนโยวจึงอุ้มเธอขึ้นมา แล้วเดินไปทางห้องนอนของ สํานักงาน

ที่นั่นมีเตียงพับได้สองเตียง ตอนแรกมีไว้เพื่อให้สะดวกต่อการ พักผ่อนของฉินโจว

กู้อานหยานนั้นตัวเล็กจนสามารถนอนข้างบนได้อย่างสบาย

แต่ในทันทีที่เธอนอนลงบนเตียง อยู่ๆเธอก็ยื่นมือออกมา แล้วก อดคอของเขาไว้แน่น: “อย่าไปนะ..……….

มู่เทียนโยวอึ้งไปทันที เธอดึงเขาจนร่างของเขาทับลงไปกับร่าง ของเธอ ระยะของทั้งสองคนใกล้กันมากขึ้น
ลมหายใจของเธอที่ลดอยู่บนใบหน้าของเขา ทำให้หน้าของเขา นั้นแดงขึ้นมาทันที

และหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมา

“ไม่……ฉันไม่ไป เมื่อเธอเป็นแบบนี้ คืนนี้เขาก็คงต้องอยู่ดูแล เธอแน่นอน ไม่ต้องกลัวนะ ฉันนะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง จะไม่ไป ไหนทั้งนั้น

“อย่าไป…..” น้าเสียงของก้อานหยานนั้นแหบและเซ็กซี่ และมือ ของเธอที่กอดไว้ตรงต้นคอ ก็กระชับแน่นขึ้น

“หยานหยาน!” มู่เทียนโยวรู้สึกแปลกๆเล็กน้อย ตอนนี้พวกเขา ทั้งสองคน…….อยู่ใกล้กันเกินไปหรือเปล่า?

ใบหน้าของเขาทั้งสองคนห่างกันไม่เกินหนึ่งนิ้วมือ แต่เธอก็ยัง

ไม่หยุดดึงเขาเข้าไปหาเธอ

เมื่อกี้ เขาก็ดื่มเบียร์กับกู้อานหยานไปเล็กน้อย ตอนนี้ก็เลยไม่รู้ ว่าเป็นเพราะฤทธิ์เบียร์ หรือเป็นเพราะการหายใจของเธอนั้นดู ชวนหลงใหล

เมื่ออยู่ใกล้กันขนาดนี้ จิตใจของเขาก็ฟุ้งซ่านขึ้นมาทันที
“หยานหยาน ปล่อยฉันก่อน” เขาอยากจะดึงมือของเธอออก แต่ กู้อานหยานกลับกอดเขาไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อย

และมู่เทียนโย่เองก็ไม่กล้าออกแรงเยอะ เพราะว่ากลัวจะทำเธอ

เจ็บ

แต่เธอก็ยังคงดึงเขาเข้าไปใกล้เธออีก ความห่างของทั้งสองคน น้อยลงทุกที อยู่ๆ……เขาก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกเธอแทน

ในยามค่ำคืนที่ผู้คนเงียบสนิท ชายผู้โดดเดี่ยวและหญิงแม่ม่าย มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น……..

“หยานหยาน” น้ำเสียงของมู่เทียนโยวนั้นแหบพร่า และซ่อน การหายใจที่รุนแรงไว้

“หยานหยาน ปล่อยฉันก่อน ฉันไม่ไปไหนแน่นอน ฉันรับรอง”

“นี้คุณไม่ต้องการฉันแล้วใช่ไหม?” ดวงตากลมโตของกู้อานห ยานนั้นดูหวานเยิ้ม

สายตาแบบนี้ของเธอ ทำให้มู่เทียนโยว่แทบคลั่ง
ต้องการเธอไหมเหรอ? ต้องการสิ! ต้องการมากด้วย! และ ต้องการมานานมากแล้ว

แต่สภาพของเธอในตอนนี้…….

“มีอะไรกับฉัน……. กู้อานหยานใช้แรงดึงเขาเข้ามาหาตัวเอง

มู่เทียนโยวแทบจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ! เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาจาก ขมับลงมาตามกรอบหน้าของเขา

ลมหายใจที่ปกคลุมอยู่รอบๆของพวกเขาทั้งสองคน มันร้อน ร้อนจนเหมือนไฟไหม้เวลาที่หายใจ

“หยานหยาน……

จนในที่สุด มู่เทียนโยวก็ทนไม่ไหว จึงก้มหน้าเข้าไปใกล้เธอ

แต่ในขณะที่กำลังจะจูบโดนริมฝีปากบางของเธอนั้น ก็ได้ยินเธอ พึมพำขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว: “จ้านเป่ย…..
“หยานหยาน มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณชายใหญ่มู่ถึงต้อง ยกเลิกสัญญาหมั้นกับเธอด้วย? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

หลังจากรู้ข่าวว่ากู้อานหยานอยู่ในที่ทำงาน ซูเสี่ยวหมี่ก็หยิบ โทรศัพท์ แล้วรีบออกมาหากู้อานหยานตั้งแต่เช้า

“หยานหยาน แกตื่นเดี๋ยวนี้นะ รีบตื่นขึ้นมาบอกฉันว่ามันเกิด

อะไรขึ้นกันแน่?”

มู่เทียนโยว่เดินเข้ามาจากข้างนอก และในมือก็ถือถ้วยซุปร้อนๆ อยู่

“ยกเลิกสัญญาหมั้น?” เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้ว่าหยานหยา นกับมู่บ้านเป่ยนั้นได้ทะเลาะกัน แต่ไม่คิดว่ามู่บ้านเป่ยจะทำถึงขั้น ยกเลิกสัญญาหมั้นขนาดนี้

“มันคือเรื่องจริง ถึงขั้นลงหนังสือพิมพ์แล้วเนี่ย!” ซูเสี่ยวหมี่ก็คิด ไม่ถึงเหมือนกัน เวลาเพียงข้ามคืน มันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลย เหรอ?

หรือจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน ที่หยานหยานปฏิเสธคุณชาย ใหญ่มู่ในงานตอนรับรางวัล

แต่เรื่องเล็กแค่นี้ ถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญาหมั้นเลยเหรอ ทำแบบนี้คุณชายใหญ่ ใจแคบไปหรือเปล่า?

“ไม่ได้! ผู้ชายคนนี้ทําเกินไปแล้ว! ฉันจะต้องไปคุยกับเขาให้รู้ เรื่อง!”

มันก็เป็นแค่เรื่องเล็กเท่านั้น ถึงแม้อาจจะทําให้คุณชายใหญ่ รู้สึกเสียหน้า แต่แค่คำขอโทษมันไม่พอหรือยังไง?

ผู้หญิงคนหนึ่งถูกยกเลิกสัญญาหมั้น แล้วต่อไป เธอจะอยู่ใน กลุ่มของพวกเขาได้อีกไหม?

“เธอจะไปหาคุณชายใหญ่มู่อย่างนั้นเหรอ?”คนที่ตามมาที่หลัง อย่างหยางอี้ ก็เหมือนกับซูเสี่ยวหมี่ ที่ในมือยังถือโทรศัพท์อยู่

เขาจ้องมองไปที่ซูเสี่ยวหมี่ ด้วยสีหน้าที่สงสัย: “เธอกล้าเหรอ? คนของเขาอาจจะทำร้ายเธอ แล้วจับเธอโยนออกจากตระกูล ราวกับไก่ตัวน้อยก็ได้นะ”

หยางอี้เดินเข้าไปใกล้อีกหนึ่งก้าว ด้วยสีหน้าที่ดุร้าย: ส่วนคุณ ชายใหญ่มู่ ตามที่ได้ยินคนอื่นเล่ามา เขาเป็นราชาแห่งวงการ ธุรกิจที่เย็นชาและโหดร้ายมาก เธอกล้าไปจริงๆเหรอ?”
ซูเสี่ยวหมี่ตกใจกับสีหน้าที่เขาแสดงออกมา เธอเงยหน้าขึ้น มองไปที่เขา และหดคอของเธอ

………………..ฉันโกรธจริงๆนี่

“ฉันเป็นอิสระแล้ว มันยังไม่ดีอีกเหรอ?”

ไม่รู้ว่ากู้อานหยานที่อยู่ข้างหลังนั้นลุกขึ้นมานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอขยี้ตาเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงแห้งผาก

“ตั้งแต่นี้ไปก็จะไม่มีเรื่องแต่งงานให้ชีวิตยุ่งยากอีกแล้ว และฉัน ก็จะสามารถมีความรักได้อย่างอิสระ ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเรื่อง หนึ่งไม่ใช่เหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ