บทที่393 กับเธอ ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก
บทที่393 กับเธอ ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก
เวยจือแม้แต่ฝันก็ยังคิดไม่ถึง ว่าเพราะการที่ตัวเองได้รับ บาดเจ็บ คุณชายใหญ่มู่จะมาเยี่ยมเธอด้วยตัวเอง
“ฉัน…….ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ เพียงแต่………เพียงแต่ว่าออกเลือด นิดน้อย ร่างกายมีความ…….มีความเพลียเล็กน้อย”
ไม่ได้พบเขามานานมากแล้ว การพบกันครั้งนี้ จึงตื่นเต้นมาก จนพูดไม่รู้เรื่อง
เธอพยายามอยากลุกขึ้นมานั่ง แต่เพียงได้ขยับ ก็เจ็บจนจี๊ด
ไปเลย
ครั้งนี้ เป็นเพราะไม่ระวังจริงๆ จึงทำโดนที่แผลเข้า
แม้แผลจะไม่ใหญ่ แต่ว่า ก็เจ็บจริงๆ
มู่จ้านเป่ยเดินมาข้างเตียง จ้องมองหน้าที่แดงก่ำของเธอ
เขาเป็นคนพูดไม่เก่งไม่แสดงออกมาตลอด แต่เพียงแค่ สายตานี้ ก็มากพอที่ทำให้กู้เวยจือค่อยนึกถึงไปอีกนาน
สุดท้ายกู้เวยจือก็ลุกขึ้นมานั่งจนได้ แล้วเงยหน้าจ้องมองแวว ตาเขา
การโดนเขาจ้อง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที จนถึงกับวิ่ง เวียนจะไปลมไปเลยทีเดียว
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆค่ะ จ้านเป่ย คุณ….มาเยี่ยมฉันโดย เฉพาะใช่ไหมคะ”
“ส่วนหนึ่ง”อีกส่วนหนึ่ง คือมาเยี่ยมเยียนคุณท่าน
แต่ว่า หลังจากที่คุณท่านกู้เจอกับกู้อานหยานแล้ว ก็ค่อยอยู่ ข้างกายยัยเด็กนั่นตลอดเลย
ตรงกันข้ามกลับเป็นแขกอย่างเขาที่มาเยี่ยมเยียนโดยเฉพาะ เสียเอง ที่ไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยสักนิด
“งั้น…….”กู้เวยจือมีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับเขา
จากกันมาเดือนกว่า เขาเคยคิดถึงเธอบ้างไหมนะ
แต่ตอนแรก ที่จากห้องพักว่างเจียงเก๋อมา คำพูดไร้เยื่อใย ของคุณชายใหญ่มู่ ยังคงหลอกหลอนอยู่ในสมองซ้ำไปมา
ถึงเธอจะโง่แค่ไหน แต่ก็ความฉลาดทางอารมณ์อยู่
เธอไม่รู้ ว่ามู่จ้านเป่ยในตอนนี้ จะใช้สายตาแบบไหนมามองดูเธอ
“คุณชายใหญ่มู่มาหลังโจวครั้งนี้ คิดจะมาอยู่สักระยะหนึ่งใช้ ไหมคะ”เย่สุ่ยชิงยิ้มแย้ม
ลูกสาวตอนนี้เป็นคุณหนูหลานสุดที่รักของตระกูลกู้
หากสามารถแต่งงานกับคุณชายใหญ่มู่ ก็คือแต่งงานกับท่าน ประธานบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปได้ละก็
ถ้างั้นลูกสาวของเธอ ในวันข้างหน้าสำหรับทั้งหลิงโจวรวมไป ถึงเมืองเป่ยหลิง ก็กลายเป็นผู้หญิงที่มีเงินมีฐานะที่สุด
ได้รับความช่วยเหลือจากคุณชายใหญ่มู่ หลิงโจวตระกูลกู้ ทุกอย่างที่มีในที่นี้ ทำไมจะไม่ตกมาอยู่ในมือเวยจือของพวก เขาล่ะ
มู่บ้านเป่ยไม่ได้ตอบ แต่พยักหน้าไปส่งๆ
นึกไม่ถึงว่าเขาจะสนใจคนเล็กๆอย่างเธอด้วย
เย่สุ่ยซิงจ้องมองผู้ชายตรงหน้าที่หล่อเหลาโดดเด่นดึงดูด ผู้หญิงระหว่างแปดสิบขึ้นถึงแปดขวบลง ก็กินเรียบหมดได้ ใบหน้าก็แดงขึ้นมาเบาๆ
ถึงแม้คนเขาจะอ่อนกว่าตัวเองตั้งสิบกว่าปี แต่ว่า ก็ต้านทาน
เสน่ห์นี้ไม่ได้จริงๆ
มู่จํานเปียไม่สนใจอะไรเธออีก แล้วหันจ้องมองกี้เวยจือ น้ำ เสียงอ่อนนุ่มแตกต่างไปจากปกติที่ไม่เคยพบมาก่อน
“งานเลี้ยงวันเสาร์ ให้คุณท่านกู้เลื่อนออกไปก่อนไหม”
“เพราะ เพราะอะไรต้องเลื่อนคะ”เสียงของเขาน่าฟังมาก แม้ จะไม่ถึงกับอ่อนโยน แต่ก็ลดความเย็นชาในปกติลงเยอะแล้ว
กู้เวยจือได้ฟังแล้ว ทั้งตัวก็หลอมละลายไปทันที
เพราะแบบนี้ สมองจึงใช้การไม่ค่อยจะได้
“เธอได้รับบาดเจ็บ ร่างกายไม่สบาย ไม่ต้องฝืน”
“ไม่ได้ค่ะ”กู้เวยจือร้อนรนขึ้นมาทันที ส่ายหัวรัวๆ
“การได้นับญาติกับคุณปู่และพวกคุณป้า เป็นความโชคดี ของฉัน งานเลี้ยงนี้ ไม่ต้องเลื่อนหรอกนะคะ ฉันโอเคมากค่ะ”
กู้เวยจ่อดึงผ้าห่มออก แล้วลงจากเตียง โชว์ร่างกายของตัว
เองให้เขาดู
“จ้านเป่ย ฉันสบายดี คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะคะ”
ความเป็นห่วงของคุณชายใหญ่มู่ สำหรับกู้เวยจื่อแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์
เมื่อก่อนแม้จะอยู่ด้วยกัน ภายใต้หลังคาเดียวกัน แต่คุณชาย ใหญ่มู่เมื่อไหร่ก็ไม่เคยสนใจเธอมากเท่านี้มาก่อน
กู้เวยจ่อมีจะลอยเล็กน้อย มองผู้ชายหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้า แม้รอบๆยังมีใคร ก็เหมือนจะลืมไปหมดแล้ว
“จ้านเป่ย ในเมื่อมาแล้ว ฉันพาคุณไปชมรอบๆบรรยากาศ ของตระกูลกู้พวกเรา ดีไหม”
เธอไม่ได้พูดคุยกับคุณชายใหญ่มู่ตามลำพังมานานแล้ว อยากพูดคุยความในใจ
ในห้องนี้ เต็มไปด้วยผู้คน
ไล่พวกเขาไปก็ไม่ได้ งั้นพวกเขาทั้งสองออกไปเดินเล่นกันดี
กว่า
กู้เวยจือก้มหน้ามองดูแขนที่ถูกเธอเองจับไว้ หัวใจก็เต้นตุบๆ ตับๆขึ้นมาทันที
เธอลืมไปแล้วว่ามู่บ้านเป่ยเกลียดการถูกผู้หญิงโดนตัวมาก ที่สุด แต่คิดไม่ถึง ว่าวันนี้เขากลับไม่ผลักเธอออก
ถึงขึ้น ไม่มีการปฏิเสธเลยแม้แต่นิดเดียว
หนึ่งเดือนที่ไม่เจอกัน เขารู้แล้วใช่ไหม ว่าตัวเองนั้นมีใจให้กับ
150
ถ้าไม่งั้น เพราะอะไรวันนี้ไม่เพียงแสดงความห่วงใยต่อเธอ แถมยังให้เธอจับแขนตัวเองได้ตามใจอีกล่ะ
เมื่อได้จับ กู้เวยจ๋อก็ไม่ยอมที่จะปล่อยมือออกอีก
“จ้านเป่ย ฉันไปเดินเล่นเป็นเพื่อนคุณ ได้ไหม” มู่บ้านเป่ย ไม่พูดอะไร กู้จิ้งหย่วนยิ้มเอ่ย “งานเลี้ยงจัดในวันเสาร์ ตอนนี้ ห่างจากวันเสาร์เป็นเวลาสองวัน คุณชายใหญ่มู่ ถ้าไม่งั้น ช่วง เวลานี้ก็พักที่ตระกูลกู้พวกเราก่อนดีกว่าไหมและให้พวกเราได้ ทำหน้าที่เจ้าบ้านต้อนรับที่ดีด้วยนะครับ”
มู่บ้านเป่ยยกมุมปาก แล้วยิ้ม “จะรบกวนแบบนี้ให้อย่างไงกัน
ครับ”
“ไม่รบกวน ไม่รบกวนเลยสักนิด ที่นี่ห้องรับแขกมีเยอะ”
กู้เวยถือกำลังสงสัยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังฝันอยู่ใช่หรือเปล่า นะ มู่บ้านเป่ยทำแบบนี้แปลว่าตกลงแล้ว นั้นหมายความว่าย อมพักแล้ว
เธอรีบมองเยี่สุ่ยซิง
เย่สุ่ยซิงรับรู้ความหมายของลูกสาวอยู่แล้ว ไม่รอให้เธอเอ่ย พูด ก็พูดขึ้นเอง”ฉันจะรีบให้คนจัดเตรียมห้องให้นะคะ”
เวยจอจ้องมองมู่บ้านเบี้ย แล้วพูดอย่างอ่อนโยน จำเป็น ได้ไหมคะ
แววตามู่บ้านเปียนั้นมีการยิ้มเล็กน้อย แต่การนี้ ยังคง ลึกลับเช่นเดิม ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้
เขาเอ่ยเบาๆ ได้
พ่อบ้านติงวางโทรศัพท์ลง แล้วรีบเดินไปหาของรางที่อยู่ข้าง
หน้า
“คุณท่าน อานหยานจะพัก สองครับ”
“จริงเหรอ”คุณท่านกู้จ้องมองอ่านหยาน ทั้งหน้าเต็มไปด้วย ตื่นเต้นความดีใจ “งั้นก็ตกลงตามนี้แหละ
ทั้งหน้ากู้อานหยานเต็มไปด้วยความมึนงง ใครเป็นคนตัดสิน ใจแทนเธอ
เธอต้องทำตามคำสั่งผู้ชายคนนั้น โดนที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ ตัดสินใจเอง
“ที่คุณพูด คือคุณชายใหญ่มู่เตรียมจะอยู่ที่นี่สองวันเหรอ คะ”เธอจ้องมองลุงพิม
ลุงติงพยักหน้า แล้วยิ้มพูด “เมื่อกี้คุณชายจิ้งหย่วนโทรหาผมบอกว่าคุณขายใหญ่มู่ตัดสินใจจะพักที่นี่ ตอนนี้คนใช้กำลัง เตรียมห้องรับแขกให้พวกคุณอยู่ครับ”
สามารถพักอยู่เป็นเพื่อนคุณท่านเพิ่มขึ้นอีกสองวัน กู้อาหนาน ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
แต่ว่า ทำไมคุณชายใหญ่มู่ถึงยอมพักล่ะ
นี่ถือว่า เป็นการพักอยู่บ้านคนอื่น
นี่…….ยอมอาศัยใต้ชายคาคนอื่น ไม่เหมือนนิสัยของเขาเลย สักนิด
“คุณชายใหญ่มู่กับคุณเวยจือก็ออกมาแล้ว คุณท่าน พวกเรา ไปทักทายเขาหน่อยไหมครับ พ่อบ้านติงกะพริบตาจ้องคุณ ท่าน
เมื่อกี้ต้องอยู่ที่ห้องโถง ตาแก่นี้ไม่เอาคุณชายใหญ่มู่ไว้ใน สายตาเลยแม้แต่น้อย เจอกู้อานหยาน ก็กลายเป็นผีบ้าขึ้น ทันที กับคุณชายใหญ่มู่ แม้แต่ชายตามองก็ยังไม่ยอมเลย
คุณท่านเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าเมื่อกี้เหมือนที่ห้องโถงได้เห็น คุณชายใหญ่มู่ด้วย “คุณชายใหญ่มู่เขาพูดแล้ว ว่าวันนี้มา เยี่ยมเยียนคุณโดยเฉพาะ”พ่อบ้านติงพูดเตือน
คุณท่านตบกบาลตัวเองเบาๆ “ไอ้หยา เมื่อกี้เสียมารยาทจริง ด้วย”
เขาจูงมือของกู้อานหยาน แล้วเดินไปทางเข้าบ้าน
“ไป ไปเป็นเพื่อนปู่คุยกับคุณชายใหญ่มู่สักหน่อย เมื่อกี้ปู่ท้ มารยาทที่ไม่เหมาะสมนิดหน่อย”
กู้อานหยานนึกอยาก เล็กน้อย ตอนนี้เพิ่งจะมานึกได้ว่าเสีย มารยาท เมื่อกี้ไปทําอะไรอยู่ล่ะ
ยังไม่ทันได้เดินเข้าห้องโถง ก็เห็นคนไม่กี่คนเดินออกมาจาก ด้านใน
ผู้ชายที่เดินอยู่ด้านหน้า ทั้งตัวเต็มไปด้วยความสง่า อยู่ใต้ แสงอาทิตย์ที่สองช่างออร่ามาก
ไม่ว่าผู้ชายคนนี้จะเดินไปตรงไหน ก็ฉายแววความโดดเด่น
ที่สุด
คุณมองไปครั้งแรก คนแรกที่เข้าตา ก็ต้องเป็นเขายังแน่นอน
แต่ว่า ก้าวเท้าของกู้อานหยาน กลับเป็นเพราะผู้หญิงที่ข้าง กายเขา จึงทําให้หยุดชะงักไปทันที
ผู้หญิงคนนั้น จับแขนคุณชายใหญ่มู่เอาไว้ แล้วกำลังยิ้ม อย่างเบิกบานไม่ใช่กู้เวยจือ ยังสามารถเป็นใครได้อีกเหรอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ