บทที่286 ทำท่าทางเหมือนหมาปั๊ก
บทที่286 ทำท่าทางเหมือนหมาปั๊ก
สองวันนี้ เป็นเจียงนานที่อยู่กับเธอตลอดเวลา บางคน บอกว่าไม่ปรากฏตัว ก็ไม่มาปรากฏตัวจริงๆ
สองวันถัดมา ในที่สุดกู้อานหยานก็นั่งรถเข็นได้แล้ว ไปๆ มาๆที่สนาม
ตอนแรกก็เสียใจหน่อยๆ ตอนนี้ อารมณ์เหมือนจะสงบลง แล้ว
“วิชานี้เป็นไงบ้าง ? วิชาเลข ให้ผมช่วยสอนเพิ่มไหม ? ”
ใต้ศาลาในสนาม เจียงนานนั่งตรงหน้าอ่านหยาน ในมือ ถือวิชาเลขของระดับมหาวิทยาลัยเล่มหนึ่ง
“ไม่เข้าใจตรงไหน ? คุณบอกมาสิ ผมดูให้มาจะอธิบายให้ คุณฟังได้ไหม”
ขอบคุณที่ตอนตัวเองเรียน เป็นนักเรียนหัวดี ไม่อย่างนั้น วิชาเลขที่ยากขนาดนี้ ก็คงตอบไม่ได้
กู้อานหยานรับหนังสือมา เปิดไปหน้าหนึ่ง แล้วส่งกลับไป ให้ตรงหน้าเขาอีกครั้ง
“ตั้งแต่ตรงนี้ น่าจะแยกส่วนมา”ช่วงนี้ อุบัติเหตุมีมาไม่ หยุด ไม่ได้ไปเข้าเรียนดีๆเลย
ตอนนี้เดือนพฤศจิกายน ยังเหลืออีกสองเดือน จะต้อง สอบแล้ว
เมื่อก่อนเธอไม่ชอบเรียน ความรู้ในช่วงมอปลายยังไม่ แน่นพอ ใช้ไปกับการบ้านไปเยอะมาก ตอนนี้หยิบยกขึ้นมา ใหม่ก็จะนําบากหน่อยๆ
เธอก็คิดไม่ถึง นักธุรกิจอย่างเจียงนาน จะเข้าใจเรื่องวิชา เรียนของนักเรียนได้ลึกซึ้งขนาดนี้
ปัญหาใดๆ ก็สามารถตอบได้ ช่วยประหยัดเงินค่าจ้างครู สอนพิเศษให้เธอไปอีก
แต่ว่า การขาดทุนของคุณชายรองเจียง เหมือนจะไม่น้อย
เวลาของเขา มีค่ามากกว่าครูสอนพิเศษอีก
เจียงนานกลับไม่คิดอะไร มองเนื้อหาที่เธอเปิด แล้วก็ลาก รถเข็นของเธอไปที่ข้างตัวเอง
เขาหยิบปากกากับกระดาษ อธิบายให้เธอ
ทั้งเช้าวันนั้น นอกจากพยาบาลจะมาตรวจอาการบาดเจ็บ
ให้กู้อานหยานแล้ว เวลาอื่นๆ ก็ทำการเรียน
พยาบาลถือโอกาสที่คุณชายรองเจียงไปโทรศัพท์ที่นอก
ศาลา ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉากู้อานหยานขึ้นมา
“คุณหนูกู้ คุณโชคดีจริงๆเลย แฟนคุณดีมาก เจียงซื่อกรุ๊ป ที่ใหญ่มากขนาดนี้ก็ไม่สน เอาแต่มาอยู่ข้างคุณ ถ้าเป็นฉัน ก็คงมีความสุขจนเป็นลมจนหมดสติไปเลยค่ะ”
“ฉันเป็นลมหมดสติไปไม่พออีกเหรอ ? “กู้อานหยาน เหลือบมองเธอ ไม่มีทางอธิบายอะไรแล้วว่า เจียงนาน ไม่ใช่แฟน
บางที แม้แต่เธอเองก็หมดทางอธิบาย ตอนนี้ที่คุณชาย รองเจียงปฏิบัติต่อตัวเองทุกอย่าง ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องที่มีแต่ แฟนจะทำให้ได้เหรอ ?
เธอลองให้เขากลับไปทำงานแล้ว แต่ทุกครั้งเขาก็ปฏิเสธ สุดท้าย ก็เลยไม่โน้มน้าวเขาอีก
ส่วนพวกซูเสี่ยวหมี่ เพราะว่าไม่อยากให้ทุกคนรู้เรื่องที่ เกิดขึ้น เธอเลยโทรไปบอกแค่ว่าตัวเองไม่ค่อยสบาย อยู่ กับเจียงนาน
อย่างอื่น ไม่ได้อธิบาย เกี่ยวกับเรื่องที่ทำร้ายมู่บ้านเป่ย ก็ ไม่พูดถึง
ช่วงเช้าผ่านไป สิ่งที่เรียนได้ก็เท่ากับคาบเรียนที่เรียน ปกติ
ครูที่เก่งก็สร้างนักเรียนดีๆขึ้นมาได้ มีเพียงนานอยู่ กู้อานห ยานก็พบว่า ตัวเองตามวิชาเรียนไม่ทัน แต่แป๊บเดียวก็เรียน เสริมคืนมาได้แล้ว
“ส่วนการเมืองทั่วไปกับออกแบบ…..ออกแบบผมช่วยคุณ
ได้หน่อย การเมืองต้องให้ตัวคุณเองไปจำใหม่ คนอื่นก็ช่วยไม่ได้”
“คุณรู้เรื่องออกแบบ ? ไม่ได้เรียนการเงินมาเห รอ ? “เหลือเชื่อจริงๆ !
“ใครตั้งกฏว่าเรียนการเงินแล้วจะเรียนออกแบบไม่ ได้ ? “ที่จริงแล้ว วิชาเอกของมหาวิทยาลัย มีอะไรบ้างที่ เขาไม่ได้เรียน ?
การเงิน เพราะว่าต้องสืบทอดมรดกของตระกูล ก็เลยถูก บังคับ ให้ต้องเรียน
“น่าทึ่งมาก ! “กู้อานหยานเหลือบมองเขา นับถือเขาก็ เหมือนกับแม่น้ำที่ไหล ไม่มีที่สิ้นสุด !
“ตอนบ่ายสอนวิชาออกแบบฉันหน่อย ฉันมีหลายอย่างไม่ เข้าใจ แนวคิดของการออกแบบ ฉันไม่เข้าใจเลย
“รู้ว่าคุณโง่”เขาไม่สอนเธอ หรือว่าต้องมองเธอสอบไม่
ผ่าน ?
“ต่อไปไม่เข้าใจ มาถามคุณได้ไหม ? “เธอไม่ได้โง่ แค่เรียนตามไม่ทัน
“ดูอารมณ์”เจียงนานทำเสียงใส่ในลําคอ
กู้อานหยานยิ้มออกไป “งั้นคุณต้องทำไง อารมณ์ถึงจะ ดี?”
“ดูอารมณ์ก่อน”มองเวลา เจียงนานผิดหนังสือลง ยืนขึ้น มาควรจะกลับไปกินข้าว
“ต้องกินของที่ไม่มีรสชาติพวกนี้อีกแล้ว”กู้อานหยานยน จมูก ใบหน้าดูขัดขืน “ฉันกินโจ๊กขาวมาสองวันแล้ว ไม่ อยากกินแล้ว”
“หมอบอกว่ากินเนื้อมากไม่ได้ พวกซอสปรุงรสก็ไม่ได้ อยากมีรอยแผลเหรอ ? ”
เขายังจะอยู่เป็นเพื่อนเธอกินโจ๊กเขาทุกวันเหรอ ?
เขาไม่พูดอะไร เขาเริ่มไม่พอใจแล้วเหรอ ?
“ไม่เอาเนื้อสัตว์ก็ได้ แต่ ไม่อยากกินโจ๊กแล้ว กินบะหมี่ได้ไหม ? ฉันได้ยินพวกเขาพูด ด้านนอกมีร้านบะหมี่ อร่อย มาก”
สองวันนี้กินแต่โจ๊ก จนรับไม่ได้แล้วจริงๆ
ที่จริงเธอบาดเจ็บไม่ได้แรงขนาดนั้น แค่รอยแผลที่ตัว มากไป เขาระวังมากไปแล้ว
เจียงนานคิด สุดท้ายก็หยิบโทรศัพท์มา โทรไปยืนยันกับ หมอ
ตอนที่คุยโทรศัพท์นั้น ก้มหน้าก็เห็นกู้อานหยานมองเขา อย่างน่าสงสาร ด้วยใบหน้าคาดหวัง
ท่าทางที่ไม่มีทางทำให้คนปฏิเสธได้…….จริงๆ
“หน้าประตูใช่ไหม ? คุณรออยู่นี่ ผมไปซื้อให้
สองวันนี้เป็นซีกลับไปทำธุระแทนเขาที่บริษัท รอบๆนี้มี บอดี้การ์ดของเขาคอยเฝ้า เขาเลยไม่กังวลว่าจะเกิดอะไร ขึ้น
“อือ ! “กู้อานหยานเหลือบมองเขา พยักหน้าแรงๆ
ทำท่าทางเหมือนหมาปั๊ก ! “เจียงนานยกนิ้วชี้ขึ้น เคาะ ไปที่ศีรษะเธอ หมุนตัวออกไปจากศาลา
กู้อานหยานตะลึงอยู่สองวิถึงได้สติคืนมา แล้วก็ด่าไปที่ แผ่นหลังเขาทันที “คุณนั่นแหละหมา ! ”
น่าเสียดายที่เขาไม่สนเธอแล้ว แป๊บเดียวก็ออกไปจาก ศาลา เดินไปที่ประตูใหญ่ของโรงพยาบลา
ว่าเธอเป็นหมา ! คนเลวนี่ !
กู้อานหยานบ่นพึมพำ ใบหน้าไม่พอใจ
แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นที่เป็นถึงคุณชายรองแห่งเจียงชื่อกรุ๊ป กลับซื้อข้าวให้เธอเอง เลยไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขาแล้ว
เธอละสายตา นั่งบนรถเข็น เปิดหนังสือ มองจุดที่เขาเพิ่ง อธิบายให้ตัวเองฟังต่อไป
จนกระทั่ง เสียงกรีดร้องจากด้านนอกก็เข้ามา “โอ๊ย กู้อาน หยาน ที่แท้คุณก็ยังอยู่นี่ ? ”
กู้เวยจื่อเดินอยู่บนถนน ด้านหลังมีพยาบาลตามมาสองคน และยังมีบอดี้การ์ดสองคน
ท่าทางบบนี้ ดูอย่างกับเจ้าหญิงทรงเสด็จ
เห็นกู้อานหยานนั่งในศาลาคนเดียว ท่าทางที่อยู่ตัวคน เดียว กับตัวเองที่มีคนล้อมรอบแบบนี้ ต่างกันราวฟ้ากับดิน
เธอเดินไปที่ทางเดินศาลา เข้าไปหาเธอ “ทำไมไม่มีคน อยู่ข้างๆเลยล่ะ ? ไม่มีคนดูแลเธอเหรอ ? ”
กู้อานหยานทนไม่ค่อยไหว เงยหน้ามองเธอ
กู้เวยจือเดินเข้าไปที่ศาลา พยาบาลสองคนก็ตามเข้ามา
เหลือแค่บอดี้การ์ดสองคนนั้นที่ถูกขวางไว้
ที่แท้ยัยกระจอกนี่ ก็มีบอดี้การ์ดธรรมดาๆ อยู่ใกล้ๆ !
กู้เวยจือมองผิดไป เมื่อครู่ คิดว่าเธออยู่ที่นี่คนเดียว
“มีธุระไหม ? “กู้อานหยานมองเธอ น้ำเสียงเยือกเย็น
สายตาของกู้เวยมือกลับมองไปที่หน้าเธอ
ที่คอกับคางมีรอยข่วน แม้ว่าริมฝีปากจะมีรอยแผลเป็น แต่ดูแล้วก็น่าตกใจ
รวมถึง บนหลังมือที่เธอเผยออกมา ก็ยังมีรอยแผล กู้เวยจือมอง ทันใดนั้นก็ดีใจขึ้นมา
“เหอะ ดูเหมือน ผู้ชายพวกนั้นจะทำคุณอย่างดุเดือดเลย นะ! ”
โชคดีไม่ได้อยู่ที่เธอตลอดหรอก ในที่สุดยัยกระจอกนี่ ก็ได้ลิ้มรสถึงความอัปยศอดสูของผู้ชายเหล่านั้น !
แค่เห็นรอยแผลทั้งตัว ก็รู้แล้วว่าเป็นรอยที่ผู้ชายทิ้งไว้
เห็นกู้อานหยานท่าทางน่าสงสาร เธอไม่ใช่แค่ไม่เห็นใจ สักนิด แต่ยังดีใจมาก !
“ฮ่าฮ่า อยู่กับผู้ชายหลายคน เป็นไง ? ฟินไหม ? ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ