ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่254 คุณเต็มใจจริงๆเหรอ ?



บทที่254 คุณเต็มใจจริงๆเหรอ ?

บทที่254 คุณเต็มใจจริงๆเหรอ ?

ข่าวเศรษฐกิจช่วงเที่ยง ข่าวที่ทำให้ย่านธุรกิจทั้งเมือง เป่ยหลิงต่างช็อก ตกใจจนตะเกียบในมือของกู้อานหยาน หล่นลงไปที่โต๊ะ

บริษัทซื่อจี้กรุ๊ปของคุณชายใหญ่มู่ ถูกบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปเข้า ซื้อกิจการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

คุณชายใหญ่มู่รับตำแหน่งเป็นประธานคนใหม่ของบริ ษัทมู่ชื่อกรุ๊ป ส่วนนายท่านใหญ่มู่ถอยไปอยู่เบื้องหลัง อย่างเป็นทางการ

กู้อานหยานก้มหน้าลง มองข้าวสวยในชามตัวเอง ไม่พูด

เจียงนานก็คิดไม่ถึง ทีวีในห้องจะเล่นข่าวเศรษฐกิจ

ใช่ นี่คือห้องโดยเฉพาะของเขา พนักงานในห้องอาหาร ต่างรู้ เขาชอบดูรายงานข่าวเศรษฐกิจ
“คุณ……..เขาปิดประตู เดินเข้าไป เก็บตะเกียบบนโต๊ะให้ เธอ แล้ววางกลับไปที่ที่วางตะเกียบ

“เป็นไง ? ไม่สบายตรงไหนเหรอ ? ”

กู้อานหยานส่ายหน้า ยังคงลดสายตาลงไม่รู้อะไร แค่ตรงหน้านี้ จู่ๆก็พร่ามัวขึ้นมา

เจียงนานมองเธออย่างละเอียด จึงพบว่าน้ำตาเม็ดใหญ่ ไหลลงมาจากใบหน้าของเธอ ตกลงไปที่โต๊ะ

“ทำไม ? เห็นข่าวนี้แล้ว ไม่มีความสุข ?”

พี่ใหญ่ต้องกลับไปที่บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป เขารู้นานแล้ว ดังนั้น รายงานข่าวนี้ ในอยู่สิ่งที่คาดคิดไว้

“บริษัทชื่อ กรุ๊ปคือเลือกเนื้อของเขา เขาขยันมาตั้งนาน ก็เพราะอยากมีโลกใบหนึ่งที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ฮือ………

ในที่สุดกู้อานหยานก็ทนไม่ไหว ฟุบลงโต๊ะร้องไห้เสียงดังออกมา

เขารักบริษัทซื่อ กรุ๊ปของเขามาก รักมากๆจริงๆ

ทุกคนต่างรู้ว่าคุณชายใหญ่มู่คือคนบ้างาน ถ้าไม่ใช่ว่ารัก ขนาดนั้น ใครอยากจะเป็นเครื่องจักรของการทำงานตลอด

แต่ตอนนี้ เขากลับยอมทิ้งบริษัทชื่อจี้กรุ๊ปที่ตัวเองสร้าง ขึ้นมาด้วยมือหนึ่ง กลับไปที่บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป และยังเอา บริษัท อ กรุ๊ปไปอยู่ในมือของบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปอีก

ประธานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ฟังดูแล้วดูสูงส่ง ไกลซะจน เอื้อมไม่ถึง และทำให้คนรู้สึกอิจฉา

ไม่รู้ว่าตระกูลมู่มีกี่คน ที่เล็งตำแหน่งนี้ไว้ เล็งไว้อยู่ที่เดียว

แต่ คุณชายใหญ่มู่ไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่ๆ ไม่ใช่แน่นอน

ทำไมเขาต้องกลับไปด้วย ? ทำไมต้องยอมแพ้ที่ตัวเองรัก มากที่สุดด้วย ?
“ฉันออกมาได้จากตระกูลมู่ย่างราบรื่น เพราะว่าการต่อ รองของคุณชายใหญ่มู่เหรอ ? ”

เสียงของเธอแหบแห้ง ตาแดงบวม แต่ก็เปลี่ยนความจริง

นี้ไม่ได้

เจียงนานไม่ได้ตอบที่เธอถาม ได้แต่ยิ้มบางๆ : “ทำไม คุณไม่คิด บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่อไปจะอยู่ในมือของคุณชาย ใหญ่มู่ จะต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ? ”

“ร่วมมือแข็งแกร่งด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเทียบกับบริษัทที่เขา นําบากนําบนพัฒนาด้วยตัวเองแล้ว ดีกว่าเหรอ ? ”

ใช่ คุณชายใหญ่มู่ตอนนี้ ตัวตนน่านับถือยิ่งขึ้น อนาคต บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปก็ต้องเป็นของเขา อนาคตก็จะไร้ขีด จำกัด !

แต่ นั่นใช่ที่เขาต้องการจริงๆเหรอ ?

ไม่รู้ว่ากู้อานหยานร้องไห้นานแค่ไหน จึงเงยหน้ามอง เจียงนาน น้ำตาไหลพราก

“ฉันออกมาจากตระกูลมได้ เพราะว่าคุณชายใหญ่มุ่ตอบรับเงื่อนไขพวกนี้ของนายท่านใหญ่ใช่ไหม ? ” ”

“ในเมื่อรู้ ทำไมต้องถามอีก 2

ต่างผ่านไปแล้ว ไม่ว่าตอนนี้เธอทำอะไร ก็เปลี่ยนความ จริงนี้ไม่ได้

บางที บริษัทชื่อจี้กรุ๊ปที่เคยเป็นทุกอย่างของพี่ใหญ่ จน กระทั่งว่าเป็นชีวิตของพี่ใหญ่นั้น

ตั้งแต่ที่เขาไปพูดคุยกับนายท่านใหญ่เอง บริษัทซื่อจี้กรุ๊ป ในสายตาพี่ใหญ่แล้ว ก็คงไม่มีความหมายอีกต่อไป

เพราะว่า ในชีวิตของเขา มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเขา เอง ตั้งนานแล้ว

“นายท่านใหญ่ไม่มีทางให้คุณกลับไปอยู่ข้างกายเขาแน่ ถ้าผมคือคุณ ใจผมคงสลาย

คำบางคำก็ทำร้ายจิตใจมาก แต่เป็นความจริง

“คุณคือสิ่งมีชีวิตที่เทียบได้กับบริษัทซื่อจี้กรุ๊ป ซึ่งสิ่งที่มีอยู่แบบนี้สำหรับนายท่านใหญ่แล้ว คือภัยคุกคาม

“มากไปกว่านั้น คุณทำให้คุณชายใหญ่มู่สูญเสียมาก ขนาดนั้น กลัวว่า เขาคงไม่ยอมให้คุณอยู่ข้างๆอีกต่อไป แล้ว”

สำหรับคุณชายใหญ่มู่ที่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว คุณ ก็เป็นแค่ภาระเขา มีแค่ตัดขาดความสัมพันธ์กัน ลืมคุณ เขาถึงจะยืนได้อย่างไม่ล้ม

เขาหยิบทิชชู เช็ดน้ำตาที่ขอบตาให้เธอ

“ครั้งนี้ เป็นเขาเองที่ทิ้งคุณให้ผม ต่อไป ไม่ต้องคิดกลับ ไปอีกแล้ว”

“ไม่ใช่เขาไม่ดี และก็ไม่ใช่เขาไม่แคร์คุณ แต่เพราะว่า แคร์มากไป ก็ไม่สามารถมีคุณได้ คุณ……..เข้าใจไหม ? ”

กู้อานหยานคําฝ่ามือตัวเองแน่น ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่ แต่ คำพูดของเจียงนาน อย่างน้อยเธอก็ได้ยินชัดเจนใจดี

..ได้กลายเป็นภาระของมู่บ้านเป่ย อยู่ข้างๆเขา มีแต่ทำร้ายเขาทำร้ายตัวเอง

ในที่สุดเธอ ก็เสียคุณสมบัติที่จะยืนอยู่ข้างเขาแล้ว

“งั้นต่อไปคุณ มีแผนการอะไรไหม ? ”

ยัยเด็กนี่น่าจะเข้าใจดี แค่ไม่รู้ ว่าเธอกำลังคิดอะไร

“จะมีแผนการอะไรได้อีกล่ะ ? “กู้อานหยานหยิบทิชชูมา หนึ่งแผ่น เช็ดหน้าตัวเองให้สะอาด

“วันเวลา ต้องผ่านไป

มู่บ้านเป่ยรับตำแหน่งประธานของบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป สำหรับ คนภายนอกแล้ว ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นโดยไม่ต้องสงสัย

ท่ามกลางลูกหลานของตระกูลมู่ ก็นับว่าคุณชายใหญ่มุ่ โดดเด่นที่สุด นายท่านใหญ่จะเลือกทายาท เลือกคุณชาย

ใหญ่มู่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างวางใจ
แต่ ในตระกูลมู่ นี่กลับเป็นเรื่องคาดไม่ถึงอย่างมาก !

“เขาไม่ได้บอกเหรอว่าจะออกไปสร้างบริษัทด้วยมือของ เขาเองน่ะ ? ทำไมเขาต้องกลับไปตระกูลมู่ด้วย !

มู่เจ๋อหนานโกรธจนเกือบจะเตะเก้าอี้ในล็อบบี้แตกเป็น เสี่ยงๆ !

นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ยังมีน้องชายที่คนละแม่ คุณชายห้าที่ สองสามปีนี้ไม่ค่อยอยู่ในตระกูลมู่ มู่เพ้ยถาง

เวลานี้ มู่เพ้ยถางกำลังชิมไวน์แดงที่มู่เจ๋อหนานเก็บไว้ สําหรับความโกรธของเขา แทบจะไม่มีอยู่ในใจสักนิด

“พี่ใหญ่คือนักธุรกิจมือฉมังจริงๆ ที่จริงพวกนี้ทุกคนต่างก็ รู้ พี่ใหญ่กลับมาแล้ว บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถึงจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ ?

“นี่คือความคิดในใจคุณจริงๆเหรอ ? คุณชายใหญ่คู่รับ ช่วงต่อ หมายความว่า ชาตินี้บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปก็ไม่สามารถ ตกอยู่ในมือคุณได้แล้ว ! ”

มู่เพ้ยถางกลับมองเขา ท่าทางดูซับซ้อน
สักพัก จึงยิ้มกว้าง : “พี่รอง พูดตรงๆนะ เอ่อ…….

เขาใจเย็นลง ไอเบาๆ : “ถึงพี่ใหญ่ไม่รับช่วงต่อ บริษัทมู่ ชื่อกรุ๊ปก็ไม่มีทางตกอยู่ในมือของผมได้ ไม่ใช่ว่ามีพี่รอง กับพี่สามเหรอ ? ”

เขาอย่างละอายใจหน่อยๆ พี่รอง พี่เอาไวน์มาให้ผม ชิม คงไม่ใช่ว่าอยากให้ผมร่วมมือกับพี่ ทำเรื่องต่อต้าน อะไรหรอกนะ ?”

ดูเหมือนมู่เพ้ยถางจะกลัวหัวข้อพวกนี้หน่อยๆ ก็รีบส่าย หัวและโบกมือ

“เกี่ยวกับทักษะในการทำธุรกิจ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ พี่ใหญ่จริงๆนะ บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปตกอยู่ในมือของพี่ใหญ่ ทุก คนต่างเชื่อถือ”

“พี่รอง ผมว่า อย่าเดือดดาลเลย ต่อไปเป็นผู้จัดการ ทั่วไป ก็เป็นคนชั้นสูงในเมืองเป่ยหลิงได้แหละน่า

“แต่ถ้าเอาแต่สู้กับพี่ใหญ่ ถ้าหากพี่ใหญ่โกรธ ต่อไป แม้แต่อยู่ในบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ปพี่ก็อยู่ไม่ได้ ! ”
“แค่ผู้จัดการทั่วไปธรรมดาๆ คิดว่าฉันคู่ควรเหรอ ! ”

เรื่องอะไรที่มู่ล้านเป่ยได้เป็นประธาน แล้วเขาก็เป็นได้แค่ ผู้จัดการต่ำต้อยด้วยล่ะ

ทุกคนต่างนามสกุลมหมด ทำไมตาแก่นั่นปฏิบัติต่างกัน อย่างนี้ ?

“หลายปีนี้ คุณชายใหญ่มู่เขาเอาความคิดทั้งหมดไปไว้ที่ บริษัท อจี้กรุ๊ป เขาเคยทำผลงานให้บริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป ? ”

“สองสามปีนี้ ผมทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป ตาแก่นั่นก็ไม่เห็นหรือไง ? เขาตาบอดเหรอ ? ”

“ฉันกับมู่บ้านเป่ย ใครสร้างผลงานให้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ? เขาล่ะ ? ทำไมลำเอียงได้ขนาดนี้ ? ”

“พี่รอง พี่ดื่มมากไปแล้ว คำพูดแบบนี้ อย่าพูดเลยเหอะ”

มู่เพ้ยถางอยากไปดึงเขา ใครจะรู้ว่ามู่เจ๋อหนานสะบัดเขา ออก ด้วยใบหน้าไม่พอใจ
“ตัวคุณล่ะ ? คุณเป็นถึงนักเรียนตัวท็อป อายุสิบแปด ก็ได้ปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์แล้ว ทุกคนต่างรู้ คุณคือ อัจฉริยะ !

“แต่ แค่ตระกูลมู่วันหนึ่งมีมู่บ้านเป่ยอยู่ ก็ไม่มีโอกาสที่คุณ จะได้เสนอหน้าตลอดไป คุณเต็มใจจริงๆเหรอ ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ