บทที่ 217 คุณคือคู่หมั้นของผมมู่บ้านเป่ย
บทที่ 217 คุณคือคู่หมั้นของผมมู่บ้านเป่ย
แต่สิ่งที่ทำให้กู้อานหยานคาดไม่ถึงคือ หลังจากมู่บ้านเป่ยเห็น ชื่อของคนที่โทรเข้ามา เขาก็เก็บโทรศัพท์ลงไปทันทีโดยไม่ได้ รับสาย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่การไม่รับสายที่คุณชายใหญ่ นําไป เมื่อสักครู่ ก็ทําให้กู้อานหยานสบายใจขึ้นมาไม่น้อย
ไม่ว่าเธอจะต้องการยอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่จริงๆแล้วเธอนั้นก็ รู้สึกหึง และรู้สึกสนใจเขาเหมือนกัน
“ช่วงนี้คุณย่าเป็นยังไงบ้างคะ?”เมื่ออารมณ์ดีแล้ว กู้อานหยานจึง ยอมที่จะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน
“อยากรู้ แล้วทำไมไม่ไปเยี่ยมคุณย่าด้วยตัวเองล่ะ?”มู่บ้านเป่ย พูดออกมาเสียงเย็น
กู้อานหยานจึงมองไปหาเขา ตอนที่ยังไม่ได้มองเขาเธอก็ไม่ได้ เป็นอะไร แต่พอหันไปมองที่เขาแล้วหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้น มาทันที
คุณชายใหญ่มู่ที่ผ่านการดื่มเหล้ามา ผมของเขาก็จะมีความยุ่งนิดๆ ตอนหายใจก็จะมีกลิ่นเหล้า และใบหน้าที่มีความแดงเล็ก น้อย
ฮั่ว แค่มองเขานิดเดียวหัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นมาแล้ว เธอจะ มองเขาไม่ได้มองไม่ได้!
เธอจึงรีบถอนสายตาออกมาจากเขา เพราะรู้ว่าเธอมองผู้ชายคน
นี้นานไม่ได้
“เดี๋ยวอีกสักพักฉันจะไปเยี่ยมคุณย่าแล้วกันค่ะ”
“คุณแน่ใจเหรอ?”มู่บ้านเป่ยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เพราะแค่กลับ ไปถึงบ้านก็ใช้เวลาไปตั้งเท่าไหร่แล้ว?
ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะไปเยี่ยมคุณย่าอีก ไม่กลัวจะไปรบกวนเวลา พักผ่อนของคุณย่าหรือยังไง
กู้อานหยานเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้อาจจะดึกเกินไปจริงๆ
แล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของมู่บ้านเป่ยก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง และชื่อ ของสายที่เธอมองเห็นก็ยังคงเป็นกู้เวยจือเหมือนเดิม
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขานั้นรู้สึกรำคาญขึ้นมา เขาจึงได้ขมวดคิ้ว และในสุดท้ายก็กดปิดเครื่องทันที
กู้อานหยานทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหันหน้าออกไปดูบรรยากาศ นอกหน้าต่าง และสายตาของเธอที่สะท้อนกับหน้าต่างรถนั้น มี ความเปล่งประกาย
ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้น และสบตาเข้ากับสายตาของคุณชาย ใหญ่มู่ ที่อยู่ภายใต้ภาพสะท้อนของกระจกหน้าต่างรถ
และนาทีนั้น ก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมา และหายใจผิด จังหวะทันที
เธอตกใจจนต้องรีบก้มหน้า เธอจะไม่มองเขา ถึงแม้จะเป็นการ มองผ่านจากหน้าต่างรถก็จะไม่มอง
นี่เขาจะมองเธอทำไมกัน?
“มานี่ อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาเสียงเบา
กู้อานหยานรู้สึกตกใจเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองที่เขาจะทำ อะไรคะ?”
มู่บ้านเป่ยไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยื่นมือออกไป แล้วดึงร่างของเธอเข้ามาหาตัวเองทันที
อยู่ๆอุณหภูมิของที่นั่งขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหลังก็ร้อนขึ้นมาทันที ราวกับเป็นการบอกล่วงหน้าว่าจะมีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
จังหวะการหายใจของเธอนั้นยิ่งผิดเข้าไปใหญ่ เธอไม่รู้ว่าการ กระทำของคุณชายใหญ่นี้หมายความว่ายังไง
สองมือของเธอวางอยู่บนแผงอกของเขา แล้วก็ผลักเขาออก เบาๆ ด้วยใบหน้าที่แดงไปด้วยความเขิน
“คุณชายใหญ่มู่ นี่คุณมีเรื่องอะไรกันแน่คะ?”
ถึงไม่ขยับระยะระหว่างเขาสองคนก็ใกล้กันมากพอแล้ว แค่พูด คุยกันจำเป็นต้องอยู่ใกล้กันขนาดนี้เลยเหรอ?
“คุณหลบหน้าผม?”เขาขมวดคิ้ว ด้วยความไม่พอใจเธอที่ต่อต้าน
ตัวเอง
“ฉันไม่ได้หลบหน้าคุณ” กู้อานหยานพูดออกไปด้วยความปาก แข็ง ทำไมเธอจะต้องหลบหน้าเขาด้วยล่ะ?
“แล้วคุณจะดิ้นทำไม? อยู่ๆมู่บ้านเปียกระชับแขนของเธอแน่นขึ้น จนทำให้ร่างบางของเธอนั้นเซเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ เขา
กู้อานหยานรู้สึกสึกงุนงงขึ้นมาทันที การที่เธอดิ้นนั้นมันหมาย ถึงการหลบหน้าอย่างนั้นเหรอ?
เธอก็นั่งอยู่ดีๆของเธอ อยู่ๆก็โดนเขาดึงเข้าไปกอด แบบนี้จะไม่ ให้เธอดิ้นได้ยังไง?
“ฉัน……. “วินาทีต่อมา เธอก็ต้องหยุดพูดทันที เพราะเธอรู้สึกได้ ถึงลมหายใจที่รุนแรงและเย็นเฉียบของเขา
“เคยมีผู้ชายคนอื่นกอดคุณแบบนี้ไหม?”
หลังจากระงับความโกรธมาหลายวัน จนในที่สุดความโกรธนั้นก็ ถูกปะทุออกมา
อยู่ๆเขาก็ดึงเธอไปนั่งบนตักของเขา และกอดเธอไว้แน่นเพื่อไม่ ให้เธอหนีไปไหนได้
กู้อานหยานรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็น จังหวะ
เขานั้นยังคงโกรธเธอ โกรธที่เธอไม่ได้เลือกเขาเมื่อตอนกลางวัน
ผู้ชายคนนี้ ถ้าดูเผินๆแล้วจะเป็นคนที่ดูมีภูมิฐานสูงศักดิ์และหยิ่ง ผยอง แต่ในความเป็นจริงนั้นเขาเป็นคนที่ใจแคบมากๆ
“ไม่เคยค่ะ ถ้าไม่ใช่ตอนเด็ก ก็น่าจะไม่มีนะ
บรรยากาศที่เย็นยะเยือกเมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังคงไม่พอใจอยู่ดี
“คุณคือคู่หมั้นของผมมู่บ้านเป่ย!” อย่างน้อยตำแหน่งนี้ก็ยังคง เป็นของเธอไม่เคยเปลี่ยน
แต่ว่า คุณชายใหญ่มู่เคยพูดเองไม่ใช่เหรอคะว่าจะไม่มายุ่ง
เรื่องส่วนตัวของฉัน”
การทํางานก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ และตอนนี้การที่เธอ เซ็นสัญญากับทางเจียงชื่อกรุ๊ปนั้น ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการ เป็นคู่หมั้นของเขาทั้งสองคนไม่ใช่เหรอ?
แล้วก็ไม่ใช่ว่าเธอได้ไปทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีไม่งามกับผู้ชายคน อื่น แล้วส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขาจริงๆสักหน่อย
เขาก็แค่รู้สึกไม่พอใจ ที่มีผู้หญิงกล้าปฏิเสธเขาก็เท่านั้นเอง
พูดตามตรง จริงๆแล้วมันก็เป็นความคิดของเขาเองไม่ใช่เหรอ?
“คุณนี่เก่งเรื่องทําให้ผมโกรธจริงๆเลยนะ!” มู่บ้านเป่ยหรี่ตาลง ทันที
คําพูดนี้ เขาเคยพูดมาก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นก็คือตอนนั้นและตอน นี้ก็คือตอนนี้ คําพูดนี้เขาสามารถพูดได้ เขาก็สามารถคืนคําพูด ได้เหมือนกัน!
“คุณชายใหญ่มู่ ฉันก็แค่ต้องการมีกิจการเป็นของตัวเองก็เท่านั้น ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยนะคะ
เธอเข้าใจอะไรบางอย่างจากในสายตาของเขา ถ้าหากเขา ต้องการ เขาก็สามารถทำลายทุกอย่างที่เป็นของเธอได้ทุกเมื่อ
การใช้เหตุผลคุยกับผู้ชายคนนี้มันใช่ไม่ได้ผลจริงๆ เพราะว่า พวกเขาเป็นคนเถื่อนที่ไม่มีเหตุผลเลย
เขาจ้องมองเธอ อย่างเอาเป็นเอาตาย
การจ้องมองแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกถึงความอ่อนหวาน เลยสักนิด แต่กลับทำให้เธอรู้สึกว่าเขานั้นพร้อมที่จะทําลายเธอทุกเมื่อ
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาก็คงใจอ่อน และยอมให้เธอเซ็นสัญญา กับเจียงซื่อกรุ๊ปไปแล้วใช่ไหม?
แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่น เธอคือกู้อานหยาน และเธอก็เป็นตัว ของเธอเอง!
หลังจากสองปี หรืออาจจะไม่ถึงสองปี ความสัมพันธ์ระหว่างเธอ และคุณชายใหญ่มู่ก็จะจบลง
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปหรือว่าจะเป็นบริษัทซื่อจี้กรุ๊ปของเขา เธอก็ไม่เคยคิดที่อยากจะได้ส่วนแบ่งเลยแม้แต่น้อย……..
ตามจริงแล้ว มู่บ้านเป่ยต้องการทำลายสัญญาการหมั้นหมายกับ เธอตั้งแต่ชาติที่แล้วแล้ว
หลังจากหมั้นหมายได้ไม่นาน มู่บ้านเป่ยก็ได้ทำการคุยเงื่อนไข ทันที เงื่อนไขคือเขาจะให้หุ้นของบริษัทซื่อจี้กรุ๊ปกับเธอสิบ เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นการชดเชยค่าเสียหายให้กับเธอ
ถึงแม้กู้อานหยานจะรู้ดีว่า ตัวเองไม่คู่ควรกับเงินจำนวนมหาศาล ขนาดนั้น
แต่คุณย่าก็ต้องการให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้จะใกล้ตายก็ต้อง ให้คุณชายใหญ่มู่นั้นรับปากว่าจะแต่งงานกับกู้อานหยานให้ได้ หลังจากได้พูดเรื่องแต่งงาน ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องหย่ากันอีกเลย และครั้งเดียวที่เคยพูด ก็คือครั้งสุดท้ายที่เธอเป็นคนพูด
ดังนั้นหลังจากหมั้นแล้วสองปี พวกเขาถึงแต่งงานกัน
ตอนจบคือ กู้เวยจ๋อหัวเราะออกมาด้วยความพอใจ และจ้างคนให้ ขับรถมาชนเธอ
ชาตินี้ เพื่อจะได้ไม่กลับไปเดินทางเก่า เพื่อจะไม่ให้ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เธอจะต้องพึ่งตัวเอง
“คุณชายใหญ่มู่ ฉันรู้ว่าคุณไม่พอใจ แต่ฉันก็รู้ว่าคุณก็ไม่ได้ชอบ การวาดการ์ตูนเลย
ธุรกิจการ์ตูนขนาดเล็กแบบนี้ แค่เขาใช้เวลาของเขาเพียงหนึ่งวิ นาทีก็ถือว่าสิ้นเปลืองแล้ว
ตามจริงแล้วกู้อานหยานเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนที่มีครบทุกอย่างแบบคุณชายใหญ่มู่ ถึงได้ไปเป็นกรรมการที่ มหาวิทยาลัยเจียงโจว แล้วก็ยังแย่งคนกับเจียงชื่อกรุ๊ปอีกด้วย
ชอบเธอเหรอ? ไม่ไม่ไม่! อย่าคิดอะไรเข้าข้างตัวเองเด็ดขาด ชาติที่แล้วยังแพ้ไม่พอหรือยังไง?
กู้อานหยานไม่เคยคิดว่ามู่บ้านเป่ยนั้นจะชอบเธอแม้แต่น้อย อย่างมากก็แค่รู้สึกว่าสิ่งของของตัวเองนั้นถูกแตะต้องโดยคนอื่น
ใช่ สำหรับเขาแล้วเธอที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น ก็เป็นแค่สิ่งของที่ เขามีก็เท่านั้น
ตอนนี้ เขาแค่รู้สึกไม่พอใจ ที่ของของตัวเองนั้น ถูกแตะต้องด้วย คุณชายรองเจียง
สิ่งของที่อยู่ภายใต้การอุดมการณ์ชายของเขา เอาแต่ใจและไร้ เหตุผล
“ที่จริงแล้วฉันก็รู้นะคะว่า คุณชายรองเจียงนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่อง การ์ตูน แต่คนที่คุณชายรองเจียงพามาล้วนแต่เป็นคนที่เชี่ยวชาญ ทั้งนั้น และคุณชายเองก็ยอมเสียเงินเพื่อทำธุรกิจนี้จริงๆ
หลังจากเจียงซื่อกรุ๊ปเข้ามาจัดการแข่งขัน กฎของการแข่งขัน ทั้งหมด หัวข้อ หรือแม้แต่ระดับขั้นตอนในการจัดการแข่งขัน ก็ ถือได้ว่าเป็นการจัดที่มืออาชีพที่สุดในธุรกิจทั้งหมด
จากจุดนี้ ก็สามารถรู้ได้ว่าเจียงซื่อกรุ๊ปนั้นตั้งใจจริงๆ
“คุณชายใหญ่มู่คะ ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าถ้าคุณอยากทำจริง คุณก็ สามารถจัดตั้งบริษัทการ์ตูน และกลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งใน ด้านนี้ได้ ”
“แต่ฉันก็แค่ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่า ที่บริษัทของพวกเราพัฒนา มันเป็นเพราะฉันคนเดียว เพราะบริษัทของเรานั้นมีความสามารถ ค่ะ……คุณ คุณจะทำอะไร?”
เขาก้มหน้าลงมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วยังอยู่ใกล้เธอใน ระยะที่ประชิดมากขึ้นอีก มันหมายความว่ายังไง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ