บทที่192 เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
บทที่192 เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
มันเป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผู้ชายมาให้กำลังใจ ก่อน จะคบหากับชายคนนั้น
บทร่างต่อไปนั้น มีความหวานของทั้งสองคนเสริมเติมแต่งขึ้น มาเล็กน้อยด้วย
หลังจากนั้น ก็มีคนมาหาผู้หญิงคนนั้น ก่อนจะบอกว่าเธอเป็นคุณ หญิงที่หายไปของตระกูลหนึ่ง
จากนั้นผู้หญิงก็ถูกพากลับมา แล้วพบว่าผู้ชายคนนั้นเป็น คุณชายใหญ่ของบ้านนี้
แม่ของฝ่ายชายปารูปลงบนโต๊ะ ก่อนจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้ พยายามจะจับผู้ชาย มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่คู่ควรกับสมบัติ ของต้นตระกูล
หญิงสาวที่จะได้รับสมบัติทุกอย่างของตระกูล กลับทำให้ท่าน ผู้ใหญ่ในบ้านที่กำลังป่วยหนักใกล้เสียผิดหวังเป็นอย่างมาก
ตกกลางคืน ผู้หญิงคนนี้ก็ไปหาฝ่ายชาย ก่อนจะบอกเขาว่าไม่ว่าเธอจะอยู่ในฐานะอะไร เธอก็ยังชอบเขา ส่วนฝ่ายชายนั้นก็ ยืนยันที่จะไม่ไปไหน
ผู้หญิงบอกเขาว่าถึงแม้ว่าจะต้องตาย ก็จะไม่ลืมเขา
เมื่อผู้หญิงเดินจากไป ฝ่ายชายนั้นก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เมื่อ ฝ่ายชายไปหาหญิงสาว ก็พบว่าเธอนั้นนอนจมอยู่ในอ่างอาบน้ำ แล้ว
ผู้ชายคนนั้นจึงรีบช่วยหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะปลดเสื้อผ้าของ เธอจากนั้นจึงช่วยปั๊มหัวใจให้ แต่ว่าในตอนนั้นเอง หญิงสาวก็กรีด ร้องขอความช่วยเหลือออกมาเสียงดัง
ทุกคนต่างพุ่งเข้ามา เมื่อเห็นว่ามีผู้ชายกำลังถอดเสื้อผ้าของ หญิงสาว ด้วยเจตนาไม่ดี
ฝ่ายชายนั้นก็ถูกคุณปู่ไล่ออกจากบ้าน ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้รับ มรดกทรัพย์สินไปเต็มๆ
ใต้พายุฝนที่โหมกระหน่ำเช่นเดียวกัน ฝ่ายชายกำลังยืนสูบบุหรี่ ใต้ต้นไม้ และก็มีผู้หญิงถือร่มปรากฏตัวขึ้น
ฝ่ายหญิงสาวนั้นพูดขึ้นว่า มีเพียงคนอ่อนแอเท่านั้นที่จะใช้แผน ร้ายในการกอบโกยทุกสิ่งอย่างที่ตนต้องการ
เธอบอกว่า พวกเรา เป็นพวกอ่อนแอ
…..อเรื่องราวต่างๆ เขียนมาถึงตรงนี้ ในใจก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา
เพราะว่าอันที่จริงชายคนนั้นก็ชอบหญิงสาวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ถ้า ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ถูกหลอก แล้วมาติดกับของหญิงคนนี้
เรื่องราว มันควรจะจบลงตรงนี้
ขณะที่ทุกอย่างกำลังเงียบสงัดจนเหลือแต่เสียงลมหายใจ ก็กลับเห็นนิ้วเรียวยาวของกู้อานหยาน กลับเริ่มพิมพ์ลงบน คีย์บอร์ดต่อ
รถคันหนึ่งขับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นฝ่ายชายก็มองรถที่อยู่ข้าง หลังหญิงสาว ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
ขณะที่รถยนต์กำลังจะพุ่งเข้ามาชนหญิงสาวนั้น ฝ่ายชายก็ กระโจนเข้าไป ก่อนจะช่วยเธอเอาไว้
สายฝนกระทบลงบนหัวของฝ่ายชาย จนทำให้ผมสั้นๆ ของเขา นั้นเปียกปอนไปหมด เขายิ้มด้วยความขมขื่น “ฉันแพ้ให้เธอทุก ทางแล้วจริงๆ”
หญิงสาวลูบใบหน้าของเขาเบาๆ ก่อนจะยิ้มพลางพูดว่า “ใช่ คุณ แพ้แล้ว”
จากนั้นฝ่ายชายก็ปล่อยร่างของหญิงสาวออก ก่อนจะหันตัวเดิน จากไป
ด้านหลังนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงเบรกของรถยนต์ดังขึ้นในทันใด เมื่อ ฝ่ายชายหันกลับไปดู ก็พบว่าเรือนร่างของหญิงสาวคนนั้นลอย ราวกับใบไม้ที่ร่วงโรยไปตามอากาศ บนร่างนั้นเต็มไปด้วยเลือด
ฝนหยุดลง ก่อนจะมีลมพัดผ่าน จนทำให้ใบไม้นั้นร่วงโรยลงมา
คำบรรยายกำกับ : การเดินเกมนี้ ไม่มีผลแพ้ชนะ
แต่สิ่งเดียวที่ฉันสามารถทำได้ ก็คือขณะที่คุณรักฉันมากที่สุด ฉันสามารถใช้ชีวิตของฉันในการปะทะมาได้
ไม่มีใครคิดว่าในวันหนึ่ง ตัวเองจะรอดูคำพูดทุกคำเพียงที่ จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอเพียงเพราะอยากจะลุ้นรออ่านจุดจบของ เรื่องนี้
และก็ไม่มีใครคิด ว่าในการถ่ายทอดสดการแข่งขันนี้ จะมีบทที่เขียนออกมาอย่างรวดเร็วที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก เจ็บ ปวดจนแทบจะหยุดหายใจเช่นนี้ !
ความรักในเกมกระดานครั้งนี้ มันไม่มีทางที่ใครจะเป็นผู้ชนะได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน และก็เป็นเพราะพวกเขานั้นรักกัน เข้าให้แล้ว
ตั้งแต่เริ่มแรก ก็กำหนดเอาไว้แล้วว่าทั้งสองคนจะต้องแพ้ทั้งคู่
ฉากเศร้าหมองในตอนสุดท้าย บางทีอาจจะเป็นโอกาสในการ พลิกเกมของฝ่ายชาย แต่ว่า เขากลับยอมปล่อยโอกาสนั้นไป เขายอมช่วยหญิงสาวแทน เขาแพ้ไปหมดทุกทางแล้วจริงๆ แต่ว่าในขณะนั้นเองหญิงสาว ก็ได้รับสิ่งที่เธออยากได้มากที่สุด มาแล้ว
ความรักของเขา ความรักที่กดดัน และยังเป็นความรักที่ถูก กำหนดเอาไว้แล้วว่าไม่มีวันสมบูรณ์แบบ
ชีวิตของเธอมันครบจบอย่างสมบูรณ์แล้ว
เธอกลายเป็นของเขาไปแล้ว แต่ก็กลับปะทะยืดยื้อกับเขาอีก ด้วย
เขามอบโลกทั้งใบให้กับเธอ แต่ทุกอย่างกลับต้องมลายหายไป เพราะเขาเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่ที่เธอเริ่มรักกับพี่ชาย เธอก็สูญเสียชีวิตนั้นไปแล้ว การใช้ ชีวิตนั้น มันก็เหมือนกับศพเดินได้ที่ไร้ชีวิตชีวาเท่านั้นเอง
เธอไม่ได้อยากจะมีชีวิตอยู่ตั้งนานแล้ว……
“อือ….” ไม่รู้ว่าในมุมไหนของสนามนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งอดไม่ ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุกคนต่างพากันมองกู้อานหยานที่ กำลังจะกดปุ่มจบลงอย่างเงียบๆ ก่อนจะหยิบคีย์บอร์ดของตัวเอง แล้วลุกออกจากที่นั่ง
ในตอนแรกเธอเป็นคนที่ช้าที่สุด แต่ว่าตั้งแต่เธอวางมือลงบน คีย์บอร์ด จนกระทั่งเรื่องที่เขียนได้จบลง มันกินเวลาเพียงยี่สิบ นาทีเท่านั้นเอง
ตอนนี้ เธอเป็นคนแรกที่ส่งงานและลุกออกไปแล้ว !
ทุกคนยังไม่ทันจะจัดการกับอารมณ์หนักอกไปได้ ก็ถูกความเร็ว ของเธอทำให้แตกตื่นฮือฮากันขึ้นมาอีกครั้ง
ที่เธอไม่ได้ลงมือเขียนในตอนแรกมาตลอด ก็เป็นเพราะกำลัง คิดเนื้อเรื่องอยู่
หลังจากที่คิดเนื้อเรื่องเสร็จ ก็สามารถเขียนเสร็จได้ภายในชั่วครู่ เดียว โดยไม่ได้หยุดเขียนระหว่างทางเลย
หลังจากที่พิธีกรอึ้งไปชั่วขณะ ก็รีบหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดว่า “ผู้เข้าแข่งขันคนแรกเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนสู้ต่อไป”
คนหนึ่งในทีมนั้น ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที
เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า เวลาก็เป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสิน
คนแรกนั้นมีการเพิ่มคะแนนให้ และลดหลั่นกันไปตามลำดับ แต่ จะเริ่มหักคะแนนที่อันดับที่หก
เพียงชั่วครู่ บรรยากาศก็เริ่มเข้มข้นขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ว่ากู้อานหยานไม่ได้สนใจแล้ว เธอเดินตรงออกมาจากสนาม แข่งขัน โดยไม่ได้หันกลับไปมองอีก
สาวน้อยคนนี้ไม่ได้หันไปมองเขาเลยแม้แต่นิดเดียว………
เจียงนานหันกลับมา พลางจ้องเธอที่กำลังเดินออก ก่อนจะเม้ม ปากเล็กน้อย
ผู้ช่วยเวินซีรีบพูดว่า “คุณชายรอง ทีมนี้ น่าจะเป็นทีมชมรมของ คณะการออกแบบของมหาวิทยาลัยหนิงโปในชั้นปีสิบแปด ชื่อ ว่า……..ชมรมวาดภาพเมษา
“อือ” เจียงนานพยักหน้า ก่อนจะผลุบสายตาลง
คนที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้น เป็นผู้แทนของบริษัทมู่ชื่อกรุ๊ป ชื่อกู้เวยจือ
กู้เวยจ๋อหันหน้าด้านข้างที่สวยงามสมบูรณ์แบบไปมองเจียงนาน เธอยิ้มให้เขาพลางพูดว่า “งานเขียนบทนี้เขียนได้อย่างประณีต แต่ทว่ามันซับซ้อนไปหรือเปล่า ?
เจียงนานไม่ได้พูดอะไร กู้เวยจ๋อเลยพูดต่อว่า “ตั้งแต่บทร่าง ไปจนถึงโครงเรื่อง จากนั้นยังต้องวาดภาพประกอบด้วยความ อลังการ ร่างเส้นและลงสีอึก”
“ถ้าเกิดว่าบทร่างซับซ้อนมากเกินไป ตอนวาดนั้นจะเจอปัญหา เป็นอย่างมาก เธอเกลาโครงเรื่องออกมาได้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่ได้นึกถึงคนในทีมคนอื่นๆ เลย”
ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ กู้เวยจอรีบพูดว่า “พูดให้ชัดก็คือเธอเป็นพวก ชอบโดดเด่นเป็นฮีโร่ เลยสนใจแต่การโชว์ความสามารถของตัว เอง แต่ไม่สนใจคนอื่นในทีมเลยแม้แต่น้อย
เพราะว่าบทร่างนั้นมันออกจะซับซ้อนไปหน่อยจริงๆ ทุกคนต่าง เขียนกันแค่สองพารากราฟ แต่ที่กู้อานหยานเขียนนั้น ทั้งเรื่อง เลยทีเดียว
ย่อหน้าหนึ่งราวๆ ห้าถึงหกสิบช่องได้ เมื่อดูเนื้อเรื่องของเธอ ถ้า เกิดว่าความสามารถในการทําความเข้าใจและจัดการของคนวาด นั้นแย่ไปสักหน่อย ก็ไม่มีทางวาดห้าหกสิบช่องออกมาได้แน่นอน
แต่ว่าคนอื่น ถ้าเกิดว่าเป็นเรื่องดรามาดม ย่อๆ ไม่กี่พารากราฟ วาดราวๆ สามสี่สิบช่องก็พอแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ อีกสักครู่ที่จะมีการแข่งขันภาพในช่วงบ่ายนั้น แค่ เรื่องของเวลา พวกเขาก็แพ้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
ถ้าเกิดว่าวาดไม่เสร็จภายในเวลาที่กําหนด งั้นการประกอบให้ เป็นรูปเป็นร่างจนเสร็จสมบูรณ์ในตอนท้าย ก็ไม่มีทางสำเร็จอย่าง แน่นอน
อย่างมาก ก็น่าจะเสร็จได้เพียงครึ่งเดียว
ถ้าจะเอางานที่สำเร็จเพียงครึ่งเดียวมาเทียบกับผลงานที่ สมบูรณ์แบบของคนอื่น จะเอาอะไรไปชนะคนอื่นกันนะ ?
กู้อานหยาน นั้นเห็นแก่ตัวเองมากเกินไป ตอนนี้อาจจะดูเหมือน แพรวพราวมาก แต่เมื่อถึงช่วงบ่าย พวกเขาจะต้องผิดหวังอย่าง แน่นอน
“ฉันก็คิดว่าอาจจะไม่เป็นแบบนั้น เป็นซีหัวเราะขึ้นพลางพูดว่า “ได้ยินมาว่านักวาดของทีมนั้นระดับเทพเลยทีเดียวเชียวล่ะ”
“วาดหกสิบช่องภายในเวลาสามชั่วโมง มันแทบจะเทียบเท่ากับ คนอื่นที่วาดไปสักสองบทได้ แถมยังต้องวาดภาพที่ซับซ้อน ถึง จะเป็นนักวาดระดับเทพ ก็ไม่เคยเห็นจะวาดเสร็จกันสักคน
“ถงถง เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นน่ะ ไม่ต้องเดาไปก่อนหรอก” กู้เวยคือ พูดอย่างนิ่งๆ
“ค่ะ คุณกู้” ถงถงนั่งหดตัว แล้วไม่พูดอะไรต่อไป
เวยจ่อคิดว่าเจียงนานจะเข้ามาทักทายด้วยตัวเอง ผู้หญิงที่สวยใจกว้างและสง่างามเช่นนี้ ไม่มีผู้ชายคนไหนปฏิเสธได้หรอก
แต่ว่า อีกฝ่ายกลับดูนาฬิกาเป็นพักๆ ด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
มีสาวสวยนั่งอยู่ข้างๆ แท้ๆ เขากลับมีท่าทีหงุดหงิดร้อนรนแบบ นี้งั้นเหรอ ?
ในที่สุด กู้เวยจือก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาก่อนว่า “สวัสดีค่ะ ฉัน
“ผลลัพธ์คุณเป็นคนตัดสิน” จู่ๆ เจียงนานก็ลุกขึ้นมา พลางพู ดกับเวินซีมาเพียงประโยคเดียว ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินจาก
เขาเดินจากไปแล้วจริงๆ !
กู้เวยจ๋องงเป็นไก่ตาแตกเลย ราวกับว่าตัวเองถูกทิ้งอย่างไร อย่างนั้น !
มีผู้หญิงสวยงามขนาดนี้นั่งอยู่ข้างๆ เขากลับไม่ปรายตามองเลย แม้แต่นิดเดียว และไม่ได้คิดจะทำความรู้จักเลยแม้แต่นิดเดียวตระกูลเจียงคุณชายรองนี้ ตาบอดหรือเปล่า ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ