บทที่158 ผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้
บทที่158 ผู้หญิงน่ารังเกียจคนนี้
ตั้งแต่ออกมาจากตระกูลมู่ กู้อานหยาน ก็พยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง
คำพูดบางคำพูดให้ชัดเจนไปเลยยังจะดี เสียกว่า ถึงจะไม่มีอะไรในอนาคต ก็ไม่มี อะไรให้คิดมากแล้ว
ตอนนี้ พูดมาจนถึงตอนนี้แล้ว ทุกคนก็รู้ อย่างชัดเจนในใจ
คิดไปเองเหรอ ?
ไม่ เธอไม่ได้คิดไปเอง เพียงแค่ว่า ไม่ อยากอยากจะเป็นแบบชาติที่แล้วอีกแล้ว
ขนาดผู้หญิงอย่างด้วยคือ แด่เธอกล้า แตะคนของเธอ ถึงเธอจะนับเป็นน้อง ของคุณชายใหญ่มู่ เธอก็จะไม่มีทาง ปล่อยไปอย่างแน่นอน
เมื่อเดินเข้าไปในบริษัท ซูเสี่ยวหมี่ก็ปรี่ เข้ามาหาเธอ ด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“อานหยาน คุณดูสิ ผู้หญิงคนนี้น่า รังเกียจจัง ! เธอกล้าเรียกคุณชายใหญ่ ว่าพี่ชาย แถมยังลงรูปที่ถ่ายกับห้องพัก ว่างเจียงเก๋ออีก คุณดูสิ ! ”
กู้อานหยานกวาดตามองหน้าจอของซู เสี่ยวหมี่
เป็นweiboของกู้เวยจือ มีเนื้อความว่า วันนี้พี่ชายแสนดีของเธอให้พ่อครัวทำ อาหารให้เป็นพิเศษเลย
ในรูปทั้งเก้านั้นมีแต่รูปที่เธอเซลฟี่ บาง รูปเป็นภาพที่เธอนั้นอยู่ตรงโต๊ะรับ ประทานอาหาร บางรูปเป็นรูปที่นั่งอยู่ใน โถงรับแขก ส่วนรูปสุดท้ายเป็นรูปที่อยู่ หน้าห้องพักว่างเจียงเก๋อ
ดูเหมือนจะเป็นรูปเซลฟี่ธรรมดา แต่ว่า คำว่าห้องพักว่างเจียงเก๋อ ที่เขียนเอาไว้ อย่างชัดเจน มีใครไม่เห็นบ้างล่ะ ?
คอมเม้นต์ข้างล่าง น่าสนใจกว่ามาก เพราะมีคนกลุ่มหนึ่งพูดกันว่านี่ไม่ใช่ห้อง ของคุณชายใหญ่มู่ที่ชื่อห้องพักว่างเจียง เก๋อเหรอ ?
ยังมีบางคนรู้สึกอิจฉา พูดคุณชายใหญ่ มู่กลายเป็นพี่ชายของเธอแล้ว
ซูเสี่ยวหมี่ดูคอมเม้นต์ต่อไป แต่กู้อานห ยานกลับไม่อยากดูต่อไปแล้ว “มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่มีอะไรน่า สนใจสักหน่อย”
มันก็แค่การหาคนมาพูดเรื่องที่ยัง อธิบายไม่ชัดเจนในweiboมาขยายให้ มันชัดเจนขึ้นก็เท่านั้นเอง
คอมเม้นต์ที่ถูกคนคลิกไลก์มากที่สุดก็ เขียนเอาไว้ชัดเจนแล้ว ว่าห้องพักว่าง เจียงเก๋อเป็นห้องของคุณชายใหญ่มู่ กู้ เวยจ่อกับคุณชายใหญ่กินข้าวด้วยกัน และกู้เวยจือเรียกคุณชายใหญ่ ว่าพี่ชาย
วิธีของกู้เวยจือนั้นถือว่าใช้ได้ เพราะตัว เองไม่ได้พูดบนweiboให้ชัดเจนเลย
แต่ คนที่ตอบกลับกลับสามารถวิเคราะห์ ได้อย่างชัดเจน คอมเม้นต์ที่อธิบายเอา ไว้นั้นอยู่บนสุดตลอดเลย หลังจากที่ทุกคนดูweiboแล้ว เมื่อเห็น คอมเม้นต์ที่ถูกปักเอาไว้บนสุด ใครจะ มองไม่ออกอีก ?
คอมเม้นต์สุดท้ายนั้น มีคนไม่น้อยเลยที่ อิจฉาตาร้อนเลยล่ะ
แน่นอน ว่าจะต้องมีคนลากกู้อานหยาน เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
โดยทั่วไปก็พูดกันว่า ยัยขี้เหร่กู้อานห ยาน ทำไมถึงได้คุณชายใหญ่มู่ไปนะ ?
หรือไม่ก็ คุณชายใหญ่มู่เก็บพี่น้อง ตระกูลกู้เอาไว้ทั้งสองคน
ยังมีบางคน เรียกร้องให้คุณชายใหญ่ ทิ้งยัยขี้เหร่กู้อานหยาน แล้วไปคบกับผู้ หญิงที่สวยและอ่อนหวานแทน แน่นอนว่า มีคนเห็นใจกู้เวยจ่อกับคุณ ชายใหญ่มู่ แต่ทว่า คอมเม้นต์แบบนี้ ไม่ นานก็โดนกลบไปอยู่ข้างใต้หมด
“อานหยาน คุณไม่โกรธเหรอ ? มาเรียก คุณชายใหญ่มู่ว่าพี่ชาย ! ผู้หญิงคนนี้มัน หน้าไม่อายจริงๆ !
“เธอก็ควรจะเรียกว่าพี่ชายจริงๆ นั่น แหละ” กู้อานหยานวางกระเป๋าลง ก่อน จะเปิดสมุดออก และกำลังจะทำงาน
“อะไรกัน ? อานหยาน คุณเป็นอะไรไป แล้ว ? ผู้หญิงคนนั้นจะไปมีความสัมพันธ์ อะไรกับคุณชายใหญ่มู่ได้ล่ะ ? ”
ซูเสี่ยวหมี่คิด ก่อนจะพูดด้วยความ ร้อนรนว่า : “คุณชายใหญ่มู่คงจะไม่มี ทางคบกับเธอใช่ไหม ? ” “ไม่รู้” คบกันหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้ เพราะ เขาก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องบอกเธอ
“อานหยาน ทำไมคุณถึงมีท่าทีแบบนี้ ? คุณชายใหญ่มู่เป็นคู่หมั้นของคุณนะ ! ‘
ตอนนี้ คู่หมั้นของเธอกำลังถูกผู้หญิง คนอื่นมาเรียกว่าพี่ชายอย่างเปิดเผย เธอ ไม่รู้สึกไม่สบายใจบ้างเลยเหรอ ?
ในที่สุดกู้อานหยานก็หันหน้ามา ก่อน จะมองเธอสักครู่ : “ฉันเคยพูดไปแล้ว ไม่ใช่เหรอ ว่าความสัมพันธ์ของฉันกับ คุณชายใหญ่มู่ มันไม่ได้มีอะไรจริง เลย ? ”
ดังนั้น จะให้เธอทำอะไรได้อีก ?
เธอผลักสมุดออก ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปทางห้องทำงานอีกห้องหนึ่ง “ไปไหนแล้วล่ะ ? ”
“อยู่ในหัวหมดแล้ว” ซูเสี่ยวหมี่เองก็ เดินตามเข้าไป
ในห้องทำงานเล็กๆ นั้นมีอยู่สามคน คนหนึ่งคือหยางอีกำลังลงสี ส่วนหลิว ช่างกำลังวาดเส้น
สุดท้าย เขานั่งอยู่ในมุมลึกสุด ผมเผ้า รุงรัง หน้าทรงโจร ส่วนเสื้อผ้ายังคงใส่ เหมือนกับเมื่อวานซืน ใบหน้ามันแผล็บ
“พระเจ้าช่วย คุณไม่ได้กลับหอนานแค่ ไหนแล้วเนี่ย ? ” กู้อานหยานงงเป็นไก่ ตาแตก
ฉินโจวไม่ได้มองเธอเลยแม้แต่น้อย กู้ อานหยานรู้ ว่าตอนที่คนคนนี้กำลัง ทำงาน มักจะมีจดจ่ออยู่แบบนั้น แต่ว่า ฉินโจวในตอนนี้ ดูผอมลงกว่า สองอาทิตย์ที่แล้วเยอะมาก
ดูไม่ได้ไม่มีชีวิตชีวาอะไร แต่แค่ดูผอม ลงไปมากก็เท่านั้นเอง
เถ้าแก่ของเธอ เหมือนจะใช้งานหนัก เกินไปแล้ว
“เขาอยู่ที่นี่มาสี่วันสี่คืนแล้ว คุณลืมไป แล้วเหรอ ? ว่าเสื้อตัวนี้มันสี่วันที่แล้ว แล้วนะ”
ซูเสี่ยวหมี่ถอนหายใจ ด้วยความไร้ทาง เลือกใดๆ
“คุณดูท่าทีของเขาตอนนี้สิ พูดกับเขา เขาก็ไม่สนใจ ต้องรอให้เขาวาดเสร็จ ก่อน เขาถึงจะมีเวลามาสนใจคุณ” “วันนี้วาดไปเท่าไหร่แล้ว ? ” กู้อานห ยานรู้อารมณ์ของฉินโจว
แค่ได้รู้จักกันมาสองอาทิตย์ ทุกคนก็ สนิทกันแล้ว
“ตอนนี้รูปที่สาม”
“ฉินโจวคุณบ้าไปแล้วเหรอ ! ” นี่เพิ่ง ครึ่งวันเอง แต่เป็นภาพที่สามแล้วงั้นเห รอ !
เขาเตรียมจะวาดห้าถึงหกภาพหรือยัง
ไง ?
“เพราะว่าพวกเราได้รับคัดเลือก แล้ว ! ”
ในตอนแรก เสี่ยวหมีว่าจะรอเธอกลับ มา และจะบอกข่าวดีนีกับเธอ ให้เธอได้ เซอไพรส์
แต่คิดไม่ถึงเลย ว่าจะเกิดเรื่องที่กู้เวยจ๊อ เข้าไปในห้องพักว่างเจียงเก๋อ แล้วเรียก คุณชายใหญ่มู่ว่าพี่ชายเสียก่อน
“ผ่านการคัดเลือกแล้วงั้นเหรอ ? ”
ตอนนี้ ความไม่สบายใจทั้งหมด ก็ถูกลืม ไปแล้ว
ในตอนแรกผลจะออกมาเร็วที่สุดก็ช่วง วันจันทร์หน้า แต่คิดไม่ถึง วันเสาร์ อาทิตย์นี้ผลก็ออกมาแล้ว
“ฉินโจวกำลังจะใช้เวลาเสาร์อาทิตย์นี้ ในการวาดFiery youthให้จบเหรอ ?”
“ใช่ การแข่งขันรอบต่อไปเริ่มวันศุกร์ที่ จะถึงนี้ แล้วการแข่งขันในรอบต่อไปมัน ต้องยากกว่ารอบแรกอย่างแน่นอน”
ถ้าเกิดว่าวาดภาคที่สองเสร็จแล้ว สำหรับพวกเขา อย่างน้อยการแข่งขันมัน ก็จะเพิ่มไปได้อีกระดับหนึ่ง
ซูเสี่ยวหมี่เปิดแอพการ์ตูนในโทรศัพท์ ขึ้นมา ก่อนจะเปิดอันดับหนังสือใหม่
“อานหยานดูสิ พวกเราได้ขึ้นมาเป็น อันดับที่สามของการจัดอันดับหนังสือ แล้ว ถ้าเกิดว่าคืนนี้อัปเดตได้มากเป็น สองเท่า ก็จะได้ขึ้นไปอยู่ที่สองอย่าง แน่นอน”
คะแนนนี้ สำหรับนักเขียนมือใหม่ที่ไม่มี อะไรเลยอย่างพวกเขา มันถือว่าไม่เลว เลยทีเดียว ต้องรู้ด้วย ว่าการที่ได้อยู่ในอันดับนี้ คน ส่วนใหญ่ที่ติดอันดับมันจะเป็นนักเขียน เก่าๆ ที่มีฐานแฟนคลับมากอยู่แล้ว
การที่เริ่มต้นจากศูนย์ มันก็ยากแบบนี้ แหละ
“ไม่เป็นไร ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็พอแล้ว ฉันเชื่อมั่นคุณภาพของพวกเรา ว่ามันจะ ติดอันดับที่ดีกว่านี้
แต่ทว่า เมื่อเห็นฉินโจวเหนื่อยขนาดนี้ กู้อานหยานก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
อันที่จริงหน้าที่ของเขา มันหนักหนา เกินมนุษย์จะรับไหว คิดไม่ถึงเลย ว่า หน้าที่ที่เขามอบให้กับตัวเอง มันน่ากลัว มากขนาดนี้ !
คนปกติ ไม่มีทางทำได้เร็วขนาดนี้หรอก ในสถานการณ์ที่ต้องทำให้ได้เร็วมาก และยังต้องรับประกันคุณภาพให้ไม่มีตก อีก
“ทุกคน มากินข้าวเที่ยงเร็ว ! ”
เห้อหลิงจือเอาอาหารถุงใหญ่มา เมื่อ เห็นกู้อานหยาน เธอก็รู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่าวันนี้มีธุระที่บ้าน แล้วจะกลับมา ช้าหน่อยไม่ใช่เหรอ ? ฉันยังไม่ได้ซื้อ ข้าวให้คุณเลย !
“ไม่เป็นไร ฉันกับอานหยานกินด้วยกัน ก็ได้” ซูเสี่ยวหมี่รีบพูด
กู้อานหยานเดินไป ก่อนจะช่วยเธอวาง ของลง
“หัวหน้าห้อง คะแนนที่ออกมาวันนี้ ดู อันดับได้ไหม ? ”
“ดูอันดับไม่ได้ แต่ทว่า ส่วนที่เก่งกา จมากๆ ก็ได้เข้ารอบตัดสินเลย”
เห้อหลิงจืออิจฉามาก แต่ก็ทำได้เพียง แค่อิจฉาต่อไปเท่านั้นเอง
“เป็นกลุ่มของซูเล่ยน่ะ”
“เป็นไปได้อย่างไร ? ซูเล่ยไม่ใช่ กรรมการเหรอ ? ”
การทำงานของกรรมการ ไม่มีทางได้รับ อนุญาตให้เข้าแข่งขันแน่นอน มันเป็นกฎ ของการแข่งขัน
“เธอลาออกจากการเป็นกรรมการแล้ว”
เห้อหลิงจือเองก็ไร้หนทาง ซูเล่ยไม่ได้ เป็นกรรมการแล้ว แต่กลับมาลงแข่งขัน กับทุกคน สำหรับผู้เข้าแข่งขันทุกคนในนี้ มันถือเป็นความยากลำบากหนึ่ง
“การแข่งขันปีนี้ ได้ยินมาว่ามีรางวัล ใหญ่มากมายเลย
“ใช่ๆ ฉันเองก็ได้ยินมาแบบนั้น ต้อง เป็นรางวัลที่ไม่เคยมีมาก่อนแน่เลย !
ซูเสี่ยวหมี่เองก็ร่วมวงสนทนาด้วยความ ตื่นเต้นดีใจ !
“กลุ่มที่ได้รับรางวัลพิเศษ จะได้ทำโปร เจกกับบริษัทการบันเทิงฮุยขวางที่บริษัท เจียงชื่อกรุ๊ปดำเนินการอยู่ เพื่อร่วมกันจัด ตั้งบริษัทการ์ตูน”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ