ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่132 คนที่มาจากคนละโลก



บทที่132 คนที่มาจากคนละโลก

บทที่132 คนที่มาจากคนละโลก

คุณชายใหญ่มู่แอบมองอยู่ในที่มืดจริงๆ

เจียงนานถูกไล่ออกไปเร็วขนาดนี้ คาดไม่ถึงจริงๆ

“คุณไม่ใช่ว่าถูกเรียกว่ามือฆ่าสาวน้อยห รอกเหรอ ไม่มีสาวคนไหนปฏิเสธเส่หน้ คุณได้ ? ”

หนานกง ตอนนี้ดีใจมาก แม้แต่เจียง นานที่อ่อนโยนและสง่างามที่สุดก็ยังถูก ปฏิเสธ คุณหนูตระกูลกู้คนนั้น น่าทึ่ง จริงๆ

ตอนนี้เขากระตือรือร้นมาก อยากไป

ลองร้ข้ออ้อวบหยาบลมวก ลองรู้จักกู้อานหยานดูมาก

เจียงนานเหล่มองเขา จู่ๆแก้วในมือก็ กระแทกเข้าไป

ดีที่หนานกงอี้ก็เป็นนักเรียนมีอดีที่ฝึก พิเศษในตอนนั้น ตอบสนองไวพอ

พลิกตัวออกมาจากเก้าอี้ เสียงดังเพลียะ แก้วนั่นหล่นไปที่ของเขา ทันใดนั้นก็แตก ละเอียด

“นี่มันโซฟาหนังแท้นะ ! “ทันใดนั้น หนานกงอี้ก็ตะลึงไป

โซฟาหนังแท้ จะทั้งนุ่มทั้งยืดหยุ่น ปกติ แก้วหล่นไป จะขาดได้ไง ?

เจ้านี่ ไม่ใช่แค่เอาแก้วไปสัมผัสโซฟา แต่ยังทำให้แตกเป็นเสี่ยงๆ แรงมากแค่ ไหน ก็ลองคิดดู !

หนานกงอี้ไม่พอใจทันที : “คุณจะฆ่า กันหรือไง ? ก็แค่มีความสุขในความทุกข์ คนอื่นเท่านั้นแหละ ใช่ไหมล่ะ ? ”

สีหน้าเจียงนานยังคงมีรอยยิ้มสง่างาม แม้แต่ความรู้สึกในดวงตาก็ไม่เปลี่ยน

ยกถ้วยขึ้นมาจิบชาสักหน่อย กลิ่นชา อบอวล

เขากลับคิดถึงร้านแผงลอยเมื่อครู่ แก้ว น้ำชานั้นที่ถูกตัวเองทิ้ง

คุณหนูตระกูลกู้พูด แม้แต่น้ำชาของร้าน แผงลอยเขายังไม่กล้าดื่ม

พนักงานเสิร์ฟรีบเข้ามาทำความสะอาด เห็นคนหล่อสี่คนนี้ที่หล่อจนเกิน จินตนาการของเขา พนักงานเสิร์ฟแม้แต่ มองก็ยังไม่กล้ามองเยอะ ไม่กล้าถามว่า เกิดอะไรขึ้น

รีบเก็บที่นั่งให้เรียบร้อย เปลี่ยนแล้วก็ เปลี่ยนชาหอมๆให้ด้วยความเคารพ แล้วจึงออกไป

หนานกงอี้นั่งกลับไปที่เดิม รอเจียงนาน หน้าไม่พอใจ

ก็ถึงเขาจะดูบูดบึ้งมากแค่ไหน แต่ สามารถเอาท่าทางอ่อนโยนนั้นมาหลอก ทุกคนในโลกได้ !

เจ้านี่ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ว่า ใบหน้าเขา แบบนั้น บวกกับท่าทางที่สง่างามนี้ ผู้ หญิงต่างรู้สึกเขาอ่อนโยนไม่มีพิษภัย แต่ความเป็นจริง เขาต้องการทำร้าย ผู้คน ช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ

“โอเค ผมไม่พูดก็ได้ ? แต่อย่าจับอะไร อีก ไร้การสั่งสอนจริงๆ

หนานกงอี้นั่งก็ตัวสั่นเล็กน้อย กลัวเขา จะไม่พูดอะไร แล้วทำใส่เขาอีกรอบ

แรงเยอะขนาดนี้ ถ้าหลบไม่ทัน ใส่เข้าที่ ตัวคงเจ็บมาก

ดู ! คุณชายรองเจียงที่หยาบคายขนาด นี้ ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง ใครจะเชื่อ ?

“พี่ใหญ่ คุณจะดูถึงเมื่อไหร่ ? “ลู่ฉินที่ นั่งอยู่เงียบๆด้านข้างจู่ๆก็ถามขึ้น

พวกเขาถึงสังเกตว่า มู่บ้านเป่ยนั่งข้าง หน้าต่าง ในมือถือแก้วใบหนึ่ง แต่ในแก้ว นัน นำชาหมดตั้งนานแล้ว

เขายังรักษาท่าทางตั้งแต่เริ่มต้น มอง ชายหนุ่มหญิงสาวที่โต๊ะนั้นไกลๆ ริม ฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้น ไม่พูดอะไรสัก

เจียงนานวางแก้วลง มองใบหน้าด้าน ข้างที่เยือกเย็น พูดเรียบๆ : “บางที ตัว ตนของคุณ และก็อายุของคุณ อาจจะ ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นคนที่มากคนละโลก กับคุณก็ได้”

คนที่มาจากคนละโลก ?

มู่จ้านเป่ยเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่พูดอะไร

เจียงนานสงบสติอารมณ์ได้แล้ว รอยยิ้ม บางๆที่อ่อนโยนเหมือนหยกนั้น ยังคงมี อยู่ที่มุมปาก “ได้ยินว่าผมคือเพื่อนของคุณชายใหญ่ มู่ เธอก็ระวังตัวจากผมทันที สุดท้าย ยัง ไล่ผมไป

“พูดแบบนี้ คุณถูกไล่ไม่ใช่เพราะว่าตัว เองหน้าตาไม่ดี …….แค่ก ล้อเล่น”

หนานกงอี้หงุดหงิดเล็กน้อย รีบพูด ต่อ : “แต่เป็นเพราะ สาวน้อยคนนั้น ปฏิปักษ์ต่อพี่ใหญ่ทุกอย่าง ? ”

รวมถึง เพื่อนของพี่ใหญ่ด้วยไหม ? ครั้งนี้เขาออกไป ก็โทรหาหลีเย่ไปด้วย ต้องไปแล้วจริงๆ

“ก็ประมาณนั้น หมายถึงอย่างนั้นแหละ”

จู่ๆมู่บ้านเป่ยก็วางแก้ว ยืนขึ้น มองแผ่นหลังเขาที่ออกไป หนานกงอี้ก็ แปลกใจ

พอพี่ใหญ่ออกไปจากร้านอาหาร หนาน กงอี้จึงมองเจียงนาน : “พี่ พี่ใหญ่ ตกหลุมแล้วเหรอ ?

ทุกครั้งที่เรียกพี่ การแสดงออกถึง ความอ่อนแอ ในที่สุดก็เจียงนานยอม มองเขา

หลังจากนิ่งเงียบไป เจียงนาน พูด : “เกรงว่า จะเป็นจริง”

แค่ไม่รู้ ตกหลุมครั้งนี้ แค่ชั่วขณะ หรือ ว่าอีกยาวนาน

แต่จากนิสัยของพี่ใหญ่แล้ว ถ้าไม่ชอบ หรือเมื่อชอบ กลัวว่าจะเป็นทั้งชีวิต หัวใจต้นปาล์มที่แช่แข็งมาหลายพันปี ต้นนี้ ถูกยัยนั่นจับจริงๆเหรอ ?

แต่ยัยนี่ เหมือนจะไม่ค่อยพอใจพี่ใหญ่ เส้นทางความรักของพี่ใหญ่เส้นนี้ กลัวว่า จะไม่ใช่เรื่องง่าย

คุณชายใหญ่มทํางานต่างจังหวัดอีก แล้ว เช้าวันถัดมาก็นั่งเครื่อง ไม่ได้บอก ว่ากลับเมื่อไหร่

กู้อานหยานก็ไม่รู้โล่งอก หรือว่ายังมี ความรู้สึกอะไรที่ต่างไป

ยังไงซะ ก็โล่งอกมาก แต่กลับถึง คฤหาสน์ไม่เห็นร่างของมู่บ้านเป่ย ก็แอบ มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยชิน บางที อาจจะไม่ชิน

แต่นี่ก็ดี คุณชายใหญ่มู่ไม่อยู่ เธอก็โล่ง

อก

เอาความรู้สึกนี้ไป กู้อานหยานเก็บ กระเป๋าตัวเองเสร็จ ย้ายไปที่หอพัก มหาวิทยาลัย

ลุย เตรียมเริ่ม

สองวันถัดมาเห้อหลิงจือกลับมาบอก ลงชื่อเรียบร้อย

การแข่งรอบแรกคืออีกสองสัปดาห์ ห่าง จากตอนนี้แค่สิบสองวัน

แต่ชมรมเล็กๆของเขา สามบทแรกใน ที่สุดก็เสร็จในเช้าวันที่สาม “ส่งอีเมลโดยตรงเลยไหม ? “ซูเสี่ยวหมี่ ไม่รู้ว่าต่อไปจะทำอย่างไร

ถ้าส่งบทความลงนิตยสารไปที่อีเมล โดยตรง ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามแก้นานไม่ ตอบ แล้วถึงการแข่งรอบแรก ยังไม่มีผล งานที่เสร็จล่ะ ?

“ไม่ได้ เผยแพร่เองเลยดีกว่า”ถ้าส่ง บทความลงนิตยสาร แล้วมีคนมาดู เซ็น สัญญา ก็จะมีค่าผลงานเลย

แต่ ถ้าเป็นตัวเองเผยแพร่ ถึงเว็บจะ อนุมัติผ่าน สามารถปรากฏออกมาได้ แต่จะไม่ได้ค่าผลงาน

“ตอนนี้พวกเราต้องการหนึ่งผลงาน ทำ ลงฟรีไปก่อน ส่วนส่งลงนิตยสาร เวลายัง ไม่ทัน” “เข้าใจแล้ว งั้นตอนเที่ยงเลิกเรียน จะ ไปสมัครบัญชี แล้วก็เผยแพร่เอง”

ซูเสี่ยวหมี่เงยมองขึ้นมา คิดว่าผลงาน พวกเขาเดี๋ยวก็จะเอาไปเผยแพร่แล้ว ก็ ไม่รู้ว่าดีใจมาแค่ไหน

ถึงแม้ ผลงานที่ไม่มีการเซ็นสัญญาจะ เผยแพร่เลย จะเป็นไปได้มากที่อนาคตจะ ต้องใช้เวลานานที่ไม่เป็นที่นิยมและก็ ไม่มีคะแนน แต่อย่างน้อย ก็มีผลงาน ของตัวเองแล้ว

“อานหยาน คิดชื่อเรียบร้อยยัง ?

“Fiery youthละกัน”

“โอเค งั้นก็ชื่อ (Fiery youth) !”

“แต่ว่า อานหยาน เล่มนี้คณคิดว่าจะเล่า ถึงการโตมาด้วยกันของเด็กหนุ่มกับเด็ก สาวเหรอ ? ”

ซูเสี่ยวหมี่ประหม่าเล็กน้อย ไม่ใช่เธอ พูด ประวัติการเติบโตอะไรแบบนี้ มัน โอเวอร์ไป ความเป็นจริงไม่มีปริมาณ ง่าย ต่อการกระโจน

“ไม่ ความรักสมัยวัยรุ่น นักแสดงหลัก ชายสุดหล่อสามคน

“นี่ถึงถูกสิ ! ”

ตอนนี้เด็กหนุ่มเด็กสาวต่างชอบแบบนี้ เนื้อเรื่องที่จริงจังนัก ไม่ค่อยชอบกัน

เห้อหลิงจือเข้ามาจากด้านนอก ในมือ ถือโปสเตอร์ ไปตรงหน้ากู้อานหยานกับซู เสี่ยวหมี่ “ตอนบ่ายซูเล่ยสาวเก่งของ มหาวิทยาลัยเจียงโจวจะมา ทุกชมรม การ์ตูนจะต้องให้คนไปเข้าฟัง อานหยาน คุณกับเสี่ยวหมี่ไปนะ

กู้อานหยานขมวดคิ้วเบาๆ

ซูเล่ย นักเรียนตัวอย่างของ มหาวิทยาลัยเจียงโจว เป็นนักวาดที่มี ฝีมือดี

ตั้งแต่ยังอายุน้อย ก็มีผลงานฮอตฮิต มากมาย แฟนคลับในweiboของเธอ มากกว่าล้านคน !

คนหนึ่งอยู่ในโลกการ์ตูน คนดังที่เป็น ตัวแปรสำคัญ

แต่ให้กู้อานหยานขมวดคิ้ว กลับเป็นตัว ตนของเธอ หลานสาวของซูหยาน ลูกสาวคนรวยที่ดีที่สุดของตระกูลซู ! 131361607_1112828849214439_42623341616996478_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ