บทที่121 ทำไมไม่ตายข้างนอก
บทที่121 ทำไมไม่ตายข้างนอก
หลังจากพูดคำนั้นเสร็จ กู้เวยจือก็อ่อน โยนอีกครั้ง
“ฉันไปดูฟางฟางก่อน เสร็จแล้วค่อยไป หาคุณ”
เธอกับกู้อานหยานเฉียดไหล่กัน ไม่ว่า จะเป็นท่าเดินหรือว่ารูปร่าง ก็สมบูรณ์ไม่มี ที่ติ !
“หน้าชื่อใจคด ! “ตั้งแต่ได้ยินเรื่องที่กู้ อานหยานเคยพูดว่ากู้เวยจือใส่ร้ายเธอ ซู เสี่ยวหมี่ก็ยิ่งเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก ขึ้น
ส่วนทำไบอ้ลาบหยาบต้องคยกันพาก เขาเรื่องกู้เวยจือให้ชัดเจนนั้น เพราะว่า ชีวิตที่แล้วหยางอีกับมู่เทียนโย่วต่างถู กกูเวยจ่อทําร้าย
ไม่อยากให้พวกเขาทำผิดซ้ำซาก ก็ต้อง ให้พวกเขารู้ก่อนว่า กู้เวยจือคือคนแบบ ไหน
เพื่อนทั้งสามต่างเชื่อเธออย่างไร้ เงื่อนไข เธอบอกว่ากู้เวยจือเป็นคนเลว ก็ ไม่สงสัยเลย
“เมื่อกี้เธอพูดอะไรกับคุณ ? “ตอนที่ ออกจากโรงพยาบาล ซูเสี่ยวหมี่ก็ถาม อย่างทนไม่ไหว
“ไม่มีอะไร ก็แค่ถามฉันว่าทำไมไม่ตาย ข้างนอก”
ก้อานหยานไม่อยากพูดมาก เรื่องของ ตระกูลมู่ เธอไม่อยากให้เพื่อนๆต้องถูก เกี่ยวข้องไปด้วย
เรื่องที่เย่ฟางฟางพูดถึงซูหยาน เธอก็ ไม่รู้ว่าต้องเชื่อไหม
ตอนนี้ตัวตนของเย่ฟางฟาง โง่หรือว่า แกล้งโง่กันแน่ ไม่มีทางพิสูจน์
แต่ว่า ถ้าแกล้งโง่ล่ะก็ ตอนที่เธอกลับ มา ก็ไม่จําเป็นต้องเสแสร้งต่อไป
เธอไม่ได้ฟ้องเย่ฟางฟาง และก็ไม่ได้ เป็นอะไร ถ้าเย่ฟางฟางแค่แกล้งโง่ อีก ไม่นาน จะต้องเผยออกมา
งั้นก็ต้องรอดู ว่าเธอจะทนได้ถึงไหน ?
“ตอนเย็นยังมีเรียน รีบไปเตรียมเข้า
เรียนเถอะ” กู้อานหยานนับไม่ถูกแล้วว่าตัวเองขาด ไปแค่ไหน
เมื่อก่อนถึงแม้ไม่ใช่นักเรียนดีอะไร แต่ ก็ยังไม่ถึงจุดที่ทำตามอำเภอใจแบบนี้
เหมือนว่าหลังจากหมั้นกับคุณชายใหญ่ มู่ ชีวิตของเธอก็วุ่นวาย
ถึงแม้วิชาของมหาวิทยาลัยจะผ่อน คลายมาก แต่ ผ่อนคลายไม่ใช่ข้ออ้าง โดดเรียน
วิชาตอนบ่ายเริ่มบ่ายสอง กู้อานหยาน กับ เสี่ยวหมีคือคนที่กลับมาถึง มหาวิทยาลัยตอนบ่ายโมงสี่สิบห้า นาที…..
“ดูว่าใครกลับมา ดาวของโรงเรียนพวก เราไง ! ”
คิดไม่ถึงว่ากู้อานหยานยังกลับมาได้อีก บางคนเห็นเธอ ก็ขยะแขยงขึ้นมา
บางคนก็พูดคำหยาบคาย : “ไม่ใช่ว่า ตายแล้วเหรอ ? ทำไมกลับมาได้อีก เป็น มลพิษของสภาพแวดล้อมจริงๆ ! ”
“ทำไมคุณถึง…..ซูเสี่ยวหมี่โกรธมาก อยากจะพุ่งไปทะเลาะ
กู้อานหยานดึงเธอกลับมา ส่ายหน้า ดึง เธอไปหามุมนั่งลง
ครั้งที่แล้วเธอกับเทียนโย่วไปเรื่องที่
โรงแรม นักศึกษามหาวิทยาลัยหนิงปอ สามสิบกว่าคนเข้าโรงพัก
ชั้นพวกเขามีตั้งหลายคน ตอนนี้คนพวก นี้มองเธอ แน่นอนว่าคันไม้คันมือ
แต่ว่า พวกเขาก็ได้แต่พูดอะไรที่ฟังดูไม่ ดีเท่านั้น
เคยถูกคนของคุณชายใหญ่มู่จัดการ ต่อ ไปเลยไม่กล้าทำเรื่องอะไรที่มากเกินไป อีก
“อานหยาน ! “ซูเสี่ยวหมี่โกรธมากจริงๆ หรือจะปล่อยให้คนพวกนั้นทำไม่ดีแบบนี้ ต่อไปเหรอ ?
“ปากอยู่ที่คนอื่น คุณจะไปห้ามปากพวก เขาได้เหรอไง ? “กู้อานหยานพูดเบาๆ
“อย่างน้อยก็ด่ากลับได้นี่ ! “ก็ถูกว่าโดย ไม่มีเหตุผลเหรอ ?
“คุณแค่คนเดียว แล้วพวกนั้นล่ะ ? “ด่า กัน ? เธอจะด่าได้กี่คนเชียว ?
อีกอย่าง ตอนเธอยืนอยู่ตรงหน้าผา เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ถูกคนทำให้เป็นความ ผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยได้
พูดมากก็ผิดมาก ดังนั้น เงียบไม่ดีกว่า เหรอ ตั้งใจเรียน
“แต่……”ซูเสี่ยวหมี่ยังคงบ่น อย่างน้อย อกน้อยใจ
เธอก็น้อยใจแทนอานหยานนี่ แต่อานห ยานกลับไม่สน
เจ้าตัวล่ะไม่รู้สึกรู้สา แต่คนที่ไม่ เกี่ยวข้องกลับเดือดร้อนแทนจริงๆ เลย……ไม่ ตบตบตุบ ใครคือขันทีที่มา ล่ะ ? “ให้คุณไปหาคนมา หานักวาดรูปได้แค่ ไหนแล้ว ? “ไม่อยากให้เธอกังวลเรื่องนี้ ต่อ กู้อานหยานเลยเปลี่ยนเรื่อง
ซูเสี่ยวหมี่คนนี้ บางทีสมองก็ยังไม่คืน กลับมา
เมื่อเรื่องถูกเปลี่ยน ก็ลืมทันทีว่าเพิ่งพูด อะไรไป
จริงๆด้วย หัวข้อนี้ ทำให้เธอหยุดความ คิดได้ทันที
“ก่อนหน้านี้มีคนมาสมัคร แต่สองวันนี้ เอาแต่หาคุณ ฉันก็เลยยังไม่ทันทดสอบ พวกเขา”
“ต้องเร่งหน่อยนะ เวลาไม่พอแล้ว” “ต้องรีบขนาดนี้เชียวเหรอ ? “ซูเสี่ยวหมี่ หรี่ตา ไม่ค่อยเข้าใจว่ากู้อานหยานจะรีบ อะไร
กู้อานหยานไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธอ อย่างไร พรุ่งนี้เริ่ม จนถึงอีกสองปี ภายใน สองปี เมืองเป่ยหลิงจะต้องมีสตูดิโอ การ์ตูนเพิ่มขึ้นมาก
สองปีนั้นคือช่วงนาทีทองของการเพิ่ม ขึ้นในการ์ตูน แพลตฟอร์มใหญ่ๆต่างแย่ง ชิงทรัพยากรกัน
ถ้าหากรอถึงตอนนั้นค่อยรับสมัครคน ไม่ทันคนที่เริ่มก่อน ถึงตอนนั้น การเงินก็ ไม่ง่าย รับสมัครก็ไม่ง่ายด้วย
สรุป ก็คือใครคว้าได้ก่อน คนนั้นก็จะคว้า
โอกาสดีๆได้ก่อน ถึงซูเสี่ยวหมี่จะไม่เข้าใจ แต่ อานหยาน ว่ารีบ งั้นก็ต้องรีบ
“ไม่เป็นไร เดือนหน้าพวกเรามหาวิทยา ลัยหนิงปอกับมหาวิทยาลัยเจียงโจวมี นิทรรศการการ์ตูนด้วยกัน ถึงตอน นั้น จะต้องมีนักวาดรูปปรากฏตัวเยอะแน่”
“นิทรรศการการ์ตูนด้วยกัน ? “ช่วงนี้กู้ อานหยานไม่ค่อยได้เข้าร่วม มหาวิทยาลัยมากเท่าไหร่ แม้แต่ข่าวนี้ก็ ไม่รู้
“ใช่ นิทรรศการการ์ตูน ถึงตอนนั้น นอกจากชมรมการ์ตูนของสอง มหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีชมรมส่วนตัวอีก เยอะ แม้แต่ชมรมของมหาวิทยาลัยอื่น ต่างเข้าร่วมลงชื่อ” “ใช่อาบหยาบ พวกเราลงชื่อชมรม ไหม ?
“ตอนนี้เพิ่งมาทำ ไม่ทันแล้ว”ชมรมต้อง แจ้งมหาวิทยาลัย ต้องได้รับอนุญาตจาก มหาวิทยาลัย จึงจะตั้งได้
นี่ต้องใช้เวลา แค่ช่วงเวลาสั้นๆคิดว่าจะ ยังไม่ได้รับอนุมัติ
อ่านหยานขมวดคิ้ว สายตาหม่นลง
เสี่ยวหมีรู้ทุกครั้งที่อ่านหยานมี สายตาหม่นลงแบบนี้ หมายความว่าเธอ กำลังพิจารณาปัญหา
ใครว่าอายุหยานของพวกเขาเป็นยัยตัว ปัญหาล่ะ ? พวกเขาก็แค่ไม่เคยรู้จักอาน หยามแค่ น ความเป็นจริง สมองของอานหยานเจ๋ง มาก โดยเฉพาะช่วงนี้ เหมือนจะก้าว กระโดดไปไกลอย่างมาก
“ห้องพวกเรา…..
“กู้อานหยาน คุณกลับมาแล้วจริงๆเห รอ ? “เสียงพูดชัดเจนเข้ามา พร้อมกับ ความประหลาดใจ
เป็นหัวหน้าห้อง เห้อหลิงจือ
เธอเดินไปตรงหน้ากู้อานหยานด้วย ความเร็ว ดูตื่นเต้น อยากจะจับมือกู้อานห ยาน แล้วก็ดูเขินนิดหน่อย
สุดท้าย ก็ทนไม่ไหวจับไหล่ของกู้อานห ยาน อบอุ่น มีชีวิตชีวา
เห้อหลิงจือถอนหายใจแรงๆ ตบ อก : “พวกเขาบอกว่าคุณตกทะเล สอง วันสองคืนก็ยังหาไม่เจอ ฉันนึกว่า……..
เธอถอนหายใจยาวๆ “โชคดี โชคดีที่ไม่ เป็นอะไร”
หัวหน้าคนนี้ ถึงแม้จะหน้าตาธรรมดา แต่ จิตใจอบอุ่น เรียนก็ดีมาก
ชีวิตที่แล้วกู้อานหยานคือเด็กสาวที่มี ปัญหา แต่หัวหน้าอดทนกับเธอมาก ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ที่มีความ สัมพันธ์ที่ดีที่สุดต่อเธอ
“ฉันไม่เป็นไร”กู้อานหยานยิ้มให้เธอ
จู่ๆก็คิดอะไรออกอีก กู้อานหยาน พูด : “หัวหน้า ชมรมการ์ตูนของห้องเรา ก็เตรียมเข้าร่วมนิทรรศการการ์ตูนด้วย ไหม ? ”
ถ้าจำไม่ผิด ชมรมการ์ตูนของพวกเขา น่าจะเพิ่งสร้างมาไม่นานเท่าไหร่
แต่ นิทรรศการการ์ตูนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ หนึ่งมีสองครั้ง ถ้าครั้งนี้ไม่เข้าร่วม ก็ต้อง รออีกครึ่งปีหลัง
แค่มีความสามารถ ชมรมการ์ตูนของ มหาวิทยาลัยทุกกลุ่มต่างไม่พลาด โอกาสดีๆนี้แน่
เห้อหลิงจือหัวเราะแห้ง จับแว่นอย่าง
ประหม่า
“เอ่อ……ชมรมของพวกเรามีแค่. สามคน เอ่อ…….
……..มีแค่ ไม่น่าล่ะ ชมรมห้องอื่นทำซะโดดเด่น มี แค่ห้องของพวกเขา ที่ไร้ความสามัคคี สิ้นเชิง
กู้อานหยานตัดบทเธอ พูด ยิ้มๆ : “หัวหน้า ฉันกับเสี่ยวหมี่เข้าร่วม ได้ไหม ? ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ