บทที่105 เทพธิดากับไดโนเสาร์

บทที่105 เทพธิดากับไดโนเสาร์

หลังจากที่ผ่านความวินาศสันตะโรในชีวิต มาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวต่อ หน้าผู้คน

วันนี้เธอใส่ชุดกระโปรงสีม่วง ผมยาวสีดำ ขลับ บนใบหน้าก็มีเครื่องสำอางอยู่ไม่มาก

ถึงแม้ว่ายังเรียกว่าเป็นดาวแห่ง มหาวิทยาลัยเจียงโจวไม่ได้ แต่ว่า ความ สวยของหญิงคนนี้เรียกได้ว่าสวยสดงดงาม เลยทีเดียว

เธอยืนอยู่ในกลุ่มของคนเก่ง ในมือพลาง ถือหนังสือ ดูดีมากจริงๆ

สวยแบบสง่างาม สวยแบบน่าตะลึง สวย

แผนร่วมโดย ผู้หญิงสวยเก่งแบบนี้ เทียบกับกูอานห ยานที่เรียนไม่เก่งและน่าเกลียดนั้น ถือได้

ว่าเป็นคนละชั้นเลยล่ะ

มหาวิทยาลัยเจียงโจวมีแต่สาวสวย เป็น คำพูดที่จริงเหลือเกิน

ขนาดผู้ชายในมหาวิทยาลัยหนิงโป มอง เย่ฟางฟางแล้วมองกู้อานหยาน ยังไม่มี ความอยากอาหารเลย

ถึงแม้ว่าผู้หญิงในมหาวิทยาลัยหนิงโปจะ ไม่ได้ชอบมาก แต่ว่า เมื่อเห็นคนน่ารังเกียจ อย่างกู้อานหยาน ก็เทียบกันไม่ติดเลย

เทพธิดากับไดโนเสาร์ ยังจะต้องเทียบกัน อีกเหรอ ?

“อานหยาน พวกเราไปเข้าเรียนกัน” ซู เสี่ยวหมี่จับมือของกู้อานหยาน ก่อนจะเดิน เข้าไปในตึกเรียน ตระกูลเย่เองก็ไม่รู้ว่าใช่นางจิ้งจอกยั่ว สวาทหรือเปล่า แต่ก็สวยกว่าใครต่อใคร เป็นไหนๆ !

เย่ฟางฟางเป็นหลานสาวของเย่สุ่ยซิง กู้ เวยจือเป็นลูกของเย่สุ่ยซิง อันที่จริงก็ถือ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเย่

เย่ฟางฟางสวยขนาดนี้ สวยกว่ากู้เวยจือ ตั้งมากมายหลายเท่า

ซูเสี่ยวหมี่ไม่คิดว่ากู้อานหยานนั้น อัปลักษณ์ แต่อันที่จริง อานหยานเองก็สวย ใช่ย่อย

แต่น่าเสียดาย ที่กระบนใบหน้าของเธอนั้น บดบังความสวยไปจนหมด

ก็ไม่ได้น่าเกลียด แต่ก็เรียกว่าสวยได้ไม่

เต็มปาก “ทำไมเหรอ ? มองคนสวย ก็ไม่สบายใจ แล้วเหรอ ? ”

กู้อานหยานเขกหัวเธอ ใบหน้าเต็มไปด้วย รอยยิ้มบางๆ แต่กลับดูไม่มีอารมณ์ร่วม อะไรมากมาย

“คนพวกนั้นกำลังเอาคุณกับผู้หญิงเลวนั่น มาเปรียบเทียบกัน มันมีอะไรน่าเปรียบ เทียบกันนักนะ ? พวกเขาแต่ไม่รู้ว่าผู้หญิง คนนั้นมันน่ากลัวขนาดไหน

ซูเสี่ยวหมี่โกรธมากแล้ว เพราะว่าอานห ยานก็สวยไม่แพ้กัน แต่กลับไม่มีใครมอง เห็น

“คุณรู้ว่าเธอน่ารังเกียจขนาดไหนแล้ว ยัง จะโกรธอีกเหรอ ? ” กู้อานหยานพูดขึ้น

“คุณไม่รู้สึกโกรธอะไรเลยจริงๆ เหรอ ไง ? ยัยนั่นกำลังเสแสร้งอยู่นะ ! ” ซเสียว หมี่โกรธเป็นอย่างมาก

กู้อานหยานยิ้มเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้สนใจ อะไรมาก ก่อนจะเดินลงจากตึกเรียนกับเธอ ไป

“นี่มันยัยน่าเกลียดที่ชื่อกู้อานหยานใช่ ไหม ? ” ข้างหลัง มีเสียงดังขึ้น

“ฟางฟาง นั่นมันคนที่ข่มขู่คุณใช่ไหม ?

นี่มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ยัยขี้เหร่คนนี้ สามารถหาคนที่มีเงินทุนมากขนาดนั้นได้ อย่างไรกัน ?

“ไม่รู้เหมือนกันว่าเบื้องหลังของเธอมีใคร อยู่บ้าง รูปร่างก็ไม่ดี หน้าตาก็ยังแย่อีก !

“อย่าพูดแบบนั้น” เสียงของเย่ฟางฟางนั้น เบามาก แต่ว่า คนแถวๆ นั้นต่างได้ยินกัน ถ้วนหน้า

เธอแอบมองกู้อานหยาน ก่อนจะขบริม ฝีปาก แล้วก้มหน้าลงต่ำ : “ไม่ต้องพูดแล้ว เธอไม่ได้กลั่นแกล้งฉันหรอก”

ท่าทีที่ดูน่าสงสารนี้ ทำให้ผู้ชายต่างพากัน ใจอ่อนยวบไปตามๆ กัน

ไม่เพียงแค่นักเรียนจากมหาวิทยาลัย เจียงโจวที่มาด้วยกัน ขนาดผู้ชายจากมหา วิทยาลัยหนิงโปยังรู้สึกไปด้วยเลย

ดังนั้น ก่อนที่กู้อานหยานกับซูเสี่ยวหมี่จะ เข้าไปในห้องเรียน พวกเขาก็โดยดักเอาไว้ ก่อนแล้ว

“ยัยน่าเกลียด กลั่นแกล้งคนอื่นก็จะหนีไป เลยหรือไง ? ” เมื่อวานนักเรียนที่โดนจับไป ก็เพราะว่า บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวคนอื่น

ตอนนี้ พวกเขาอยู่ในที่ที่ใครก็สามารถเดิน เข้าออกได้ตามสบาย ก็ไม่ถือว่าผิด กฎหมาย จึงไม่ต้องเกรงกลัวอะไรเลย

“ถามหน่อยว่าฉันไปกลั่นแกล้งเธอตอน ไหน ? ”

กู้อานหยานมองผู้ชายของมหาวิทยาลัย เจียงโจวที่ขวางเธอเอาไว้ ก็มีหน้าตาเย็น ชาขึ้น

“คุณทำเรื่องอะไรเอาไว้ ตัวเองไม่รู้เรื่อง เลยเหรอ ? ”

“นั่นสิ หน้าตาแบบนี้ ก็ควรจะหลบหน้าไป อย่ามาให้คนอื่นเห็น ยังกล้ามาเสนอหน้า อีก ! ” “พวกคุณพูดอะไรกัน อานหยานเสนอหน้า ตรงไหน ? ”

ซูเสี่ยวหมี่โกรธจนหน้าแดง “พวกเรา เรียนกันเงียบๆ มันไปขัดหูขัดตาใคร ?

“ขัดหูขัดตาทุกคนนั่นแหละ” มีผู้หญิงพูด แทรกขึ้นมา

พูดถึงการทะเลาะกัน แน่นอนว่าผู้หญิง โหดร้ายกว่าผู้ชาย

มีผู้หญิงหลายคนมาร่วมด้วย : “ไม่รู้จริงๆ ว่าคนเบื้องหลังคุณหูหนวกตาบอดขนาด ไหน ถึงได้ไม่รู้ว่าคุณน่าเกลียดน่ากลัว ขนาดไหน ? ”

“จริงๆ ด้วย สุ่มผู้หญิงทั่วไปในมหาวิทยา ลัยหนิงโป ยังดูดีกว่าคุณเป็นสิบเท่าเลย ! ” “ไม่แน่ว่าเรื่องบนเตียงอาจจะดีมากก็เป็น ไปได้”

“พูดแบบนี้ก็ถูก ไม่น่าจะมีแค่คนคนเดียว หรือว่าอาจจะเป็นคนทั้งกลุ่ม ? ”

“นี่ก็ร้ายมากแล้ว คงไม่ใช่ได้มาพร้อมกัน ทั้งสามที่ใช่ไหม ? ฮ่าๆ ……

“พวกคุณมันน่ารังเกียจ ! ” ซูเสี่ยวหมี่กำ มือแน่น อีกนิดเดียวก็จะต่อยคนที่พูดจาน่า รังเกียจมากที่สุดแล้ว

ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดจาน่ารังเกียจ แต่ว่าพอพูดกับกู้อานหยาน ผู้ชายกลับไม่ สงสารเลย

“กู้อานหยาน คุณไปกลั่นแกล้งคนไร้ทางสู้ แบบนั้น ควรจะไปขอโทษหน่อยไหม ? ” หลังจากที่ผู้หญิงด่าไปหมดแล้ว ตอนนี้ ก็ ถึงตาผู้ชายบ้างแล้ว

“ฉันต้องการให้คุณไปขอโทษฟางฟาง ถ้า ไม่อย่างนั้น คุณก็อย่าออกไป ! ”

ผู้ชายที่อายุประมาณยี่สิบในกลุ่มนั้น โกรธ เคืองขึ้นมาอย่างง่ายดาย

โดยเฉพาะสิ่งที่เย่ฟางฟางพูดเมื่อสักครู่ มันยิ่งทำให้ทุกคนยิ่งอยากจะปกป้อง มากกว่าเดิม

ชายที่อยู่หน้าสุดเดินมาประชิด จนซูเสี่ยว หมี่ตกใจและรีบปกป้องกู้อานหยาน : “พวกคุณ……กล้าเข้ามาเหรอ ! ”

“ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ หลีกไป ! ” ชาย ที่อยู่ในกลุ่มนั้นจับไหล่ของซูเสี่ยวหมี่ ก่อน จะเหวี่ยงไป ซูเสี่ยวหมี่ถูกเขาสะบัดออก จนชนเข้ากับ ผู้หญิงตรงนั้น

ผู้หญิงตรงนั้นไม่ได้คิดจะพยุงเธอขึ้นมา เลยด้วยซ้ำ แถมยังมีคนผลักเธออีก จึง ทำให้เธอล้มลงพื้น

“เสี่ยวหมี่ ! ” กู้อานหยานเพิ่งจะรู้ตัว ก็ กลับถูกชายคนอื่นขวางเอาไว้

พวกเขาเข้ามาประชิดไม่หยุด และมีท่าที จะเข้าทำร้ายได้ทุกเมื่อ

กู้อานหยานรู้อยู่แล้ว ว่าผู้ชายวัยนี้ บางทีก็ ปะทะได้อย่างง่ายๆ เลย

เมื่อทุกคนโกรธ ก็เหมือนกับว่าพร้อมจะ เข้ามาทำร้ายได้ทุกเมื่อ !

เธอเบะปากเล็กน้อย ก่อนยืนจังก้าเผชิญ หน้ากับแววตาที่น่ารังเกียจพวกนั้น

“ใครเป็นคนบอกพวกคุณ ว่าเย่ฟางฟาง เป็นคนที่ไร้ทางสู้ ? ”

“ต้องให้ใครมาบอกอีกเหรอ ? ” ผู้ชายที่ อยู่ตรงนั้นค้านขึ้น

หญิงที่หน้าตาน่ารังเกียจขนาดนี้ ยังจะมา ใส่ร้ายคนอื่นอีกเหรอ ?

กู้อานหยานได้แค่มองพวกเขาเงียบๆ ก่อนจะพูดขึ้น : “งั้นเหรอ ? เรื่องที่เธอเคย ทำเอาไว้ พวกคุณรู้มากน้อยแค่ไหนกัน ? ”

“ยัยน่ารังเกียจ อย่ามาใส่ร้ายคนอื่นนะ ! สิ่งที่ถ่ายทอดสดออกมาน่ะ เป็นเพราะพวก คุณบังคับเธอทั้งนั้น ตอนนี้คุณยังไม่รู้จัก สำนึกผิดอีก ! ” “จะพูดอะไรกับเธอเยอะแยะขนาดนั้น ? พวกเราไปลงชื่อให้โรงเรียนไล่เธอออกดี กว่า ! ”

“จริงด้วย ต้องไล่เธอออกให้ได้ ! ยัยน่า รังเกียจคนนี้ต้องไม่มีที่ยืนอยู่ในมหาวิทยา ลัยหนิงโป ! ”

ในตอนนั้นเอง มีเสียงดังขึ้นเป็นระลอกๆ : “ไล่กู้อานหยานออกไป ! ไล่ยัยน่า เกลียดกู้อานหยานออกไป ! ”

ขณะที่มีเสียงดังขึ้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดัง ขึ้นมา : “นี่…….นี่มันคืออะไรกัน ? ทำไมถึง เป็นแบบนี้ได้ ? ”

“พวกคุณรีบดูweibo เร็วเข้า ! ดูสิว่านี่มัน เรื่องโกหกหรือเปล่า ? ”

“เป็นไปไม่ได้ เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ? ไม่มีทาง ! ”

คนกลุ่มนั้น ตกอยู่ในความสั่นไหวและยาก จะเชื่อ…….