ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่ 74 มีคนชอบรังแกคนอย่างคุณเช่นนี้ด้วยหรือ



บทที่ 74 มีคนชอบรังแกคนอย่างคุณเช่นนี้ด้วยหรือ

อานหยานยกแก้วขึ้นมา เบาๆหนึ่งคำ

ภายใต้สายตาทั้งหมด แบกรับความกดดันที่มีสายตาเยอะมากเช่นนี้ เธอกลับ ดูเหมือนไม่มีความอึดอัดเล็กน้อยแม้แต่นิด

“กู้อานหยาน ตกลงคุณหมายความอะไรหรือ?” เอื้อมักจะสงบสติ อารมณ์ไม่ได้ที่สุด

คนมากมายเช่นนี้รอเธออธิบายอยู่ เธอถึงกลับจะไม่สนใจอะไรเลยหรือ?

“ไม่ได้หมายความว่าอะไร เผชิญหน้ากับคำโกหก ตกลงว่าฉันยังต้องอธิบาย อะไรหรือ?”

อานหยานวางแก้วลง มุมปากหงายเล็กน้อยยิ้มกล่าวว่า “ในสมัยนี้ไม่ใช่ใคร เสนอใครแสดงหลักฐานหรือ?ถึงขนาดพูดว่าฉันไล่เธอออกไป นั่นก็ต้องแสดง หลักฐานออกมาจึงจะได้

ถ้ามิฉะนั้น ใครๆก็มากล่าวหาหนึ่งประโยค ฉันยังต้องไปอธิบายทีละตัว ฉัน ว่างขนาดนี้เลยหรือ?”

คำพูดนี้ ก็ถือว่าสมเหตุสมผลนะ แต่ว่า นี่ไม่ใช่ว่ามู่ฟางเฟยใส่ร้ายเธอหรือ?

มู่ฟางเฟยกลับไม่ได้โมโห เพียงแค่กล่าวเบาๆว่า “ไม่ใช่อย่างนี้ คือตัวฉันเอง ไม่อยากขัดขวางคุณหนูกู้ดูกระเป๋า แม้แต่รองเท้าก็จึงไม่กล้าลอง รีบเดินออก

ไปล่ะ เธอจ้องมองกู้อานหยาน ตามด้วยรอยยิ้ม ในรอยยิ้มแอบแฝงด้วยความกังวล ใจและหวาดกลัว

“ขอโทษที คุณหนูกู้ ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย เป็นความผิดของฉัน

“ฟางเฟย! คุณถูกรังแกแล้ว ยังจะยอมรับผิดด้วยตนเองอีก! พวกเราลูกของ ตระกูลมู่ ถูกคนรังแกกลายเป็นเช่นนี้แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ?”

ทำให้คนโมโหถึงขีดสุดจริงๆ ! เอ๋อจะทนได้อย่างไร?

กู้อานหยาน ฉันจะให้แกกล่าวขอโทษกับฟางเฟย

อานหยานกลับยกไหล่กล่าวว่า “ฉันไม่ได้ทำผิด ทำไมต้องกล่าวขอโทษ หรือ?”

สุดท้าย เธอหยิบมือถือออกมา กดปุ่มอัดเสียง วางไว้อยู่บนโต๊ะ

สายตาราบเรียบตกอยู่บนกายของ ฟางเฟย จู่ๆ สีหน้าเย็นชา

“มา ลองพูดดู ตอนนั้นตกลงว่าฉันทำอะไรกับคุณแล้ว คนอย่างฉันไม่ว่าทำ อะไรล้วนยึดตามความเป็นจริง มาโดยตลอด คุณพูดว่าฉันรังแกคุณ ดีที่สุด คุณพูดออกมาให้อย่างชัดเจนจะดีกว่า”

ตอนนี้ฉันบันทึกการสนทนาของพวกเราไว้ ถึงเวลานั้น ทางตำรวจจะไปตรวจ สอบถ้าหากว่าคุณพูดโกหก เช่นนั้น ความผิดข้อหาใส่ร้ายคาดว่าหนีไม่พ้น แน่นอน

กู้อานหยาน แกกล้าขู่หรือ?”ปูเสี่ยวหย่านสีหน้าเข้มขึ้น ผู้หญิงคนนี้ ช่างเกิน ไปแล้วจริงๆ!

ซูหยานก็รู้สึก เรื่องไม่จำเป็นต้องโวยวายทำให้เป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้

เธอรีบกล่าวเสียงเบาๆว่า “อานหยาน เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่จําเป็น

ต้อง….

“ไม่ ซู ฉันรู้สึกว่ามีความจำเป็นมาก

ครั้งนี้ อานหยานไม่ยอมปรองดองแม้แต่นิดกล่าวว่า “พูดสิ รอเธอพูดเสร็จ พวกเราเจอกันที่โรงพัก

มู่ฟางเฟยก็นึกไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนี้ถึงจะแข็งกระด้างได้ถึงขนาดนี้

ที่นี่ทั้งบ้านล้วนคือแซ่มู่ เธอเป็นคนนอกคนหนึ่ง เธอมีความกล้าหาญมาจาก

ไหนล่ะ?

เธอก็ไม่กลัวว่าอนาคตจะโดนคนของตระกูลมู่แกล้งจนตายหรือ?

“เป็นยังไงหรือ? ไม่กล้าพูดแล้วหรือ? ฉันคือทำยังไงให้คนไล่คุณออกจาก ร้าน คุณจะต้องพูดรายละเอียดให้ชัดเจนนะ”

กู้อานหยานผลักมือถือไปทางเธออีก หัวเราะแบบแกล้งๆกล่าวว่า “ฉันรออยู่

นะ”

บริเวณโต๊ะพวกผู้หญิงหลายโต๊ะ สายตาล้วนตกอยู่บนกายของมู่ฟางเฟย

คุณผู้หญิงรองอยากจะเข้าไป ช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวตนเอง แต่ว่า ถูกคนรับใช้ข้างๆเกลี้ยกล่อมกลับไป

เด็กๆทะเลาะกันก็ปล่อยให้เด็กๆทะเลาะกันไปเถอะ คืนนี้เป็นงานเลี้ยงตระกูล ถ้าหากว่าโวยวายขึ้นมาแล้วจริงๆ ไม่ว่าถูกผิด ผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมก็ต้องถูก ลงโทษ

ก็อย่างเช่นคุณผู้หญิงใหญ่ หยานเมื่อกี้ ตอนที่คุณผู้ชายใหญ่เข้ามา ไม่ได้ แยกแยะความชัดเจน ก็โยนความผิดให้เธอไม่ใช่หรือ?

คุณผู้หญิงรองมองเห็นลักษณะลูกสาวตนเองที่ได้รับความน้อยใจ ในใจไม่รู้ ว่าเจ็บปวดมากขนาดไหน แต่ว่า แต่ว่ายังคงถูกคนรับใช้เกลี้ยกล่อมกลับไป เลย

งานเลี้ยงใหญ่เช่นนี้ เธอยังไม่กล้าออกหน้าจริงๆ

มู่ฟางเฟย ก็นึกไม่ถึงว่าอ่านหยานจัดการยากเช่นนี้ ลักษณะเธอทุ่มๆบ่ายๆ แม้แต่ฟ้าดินก็ไม่กลัว ช่างทำให้คนปวดหัวเหลือเกิน!

“ฉัน ฉันก็พูดหมดแล้ว เพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ฉัน…

“ไม่ เมื่อกี้คุณไม่ได้พูดเช่นนั้น” อ่านหยานยิ้มเย็นชา

“กู้อานหยาน แกพอแล้ว!แกจะต้องบังคับเธอขนาดนั้นหรือ?” ปูเสี่ยวหย่านถึง มู่ฟ่างเฟยมาที่ตัวเขา

“มีคนชอบรังแกคนอย่างคุณเช่นนี้ด้วยหรือ?”

มู่ฟางเฟยหลบอยู่หลังเธอทันท์ ไม่กล้าส่งเสียงออกมาอีก อย่างไรก็ตาม มีคน

ออกหน้าแทนเธอแล้ว อานหยานกลับอยู่พนักเก้าอี้ เหลือบตามองเงาร่างของเธอ ยิ้มเหมือนดั่ง

ถ้าหากว่าคุณหนูสี่ถูกคนทำให้เปรอะเปื้อนแล้ว คุณจะทำเช่นไรหรือ? เกรง กลัวว่า คุณทําได้มากกว่าอีก

กล่าวได้อีกว่า เพียงแค่เธอพูดความจริง แม้ว่าถึงโรงพักก็จะกลัวอะไรอีก ล่ะ? ในร้านล้วนมีกล้องวงจรปิด ฉันคงไม่สามารถอาศัยอิทธิพลใช้เล่ห์เหลี่ยม ปิดบังอำพรางมวลชนได้ ฉันยังไม่มีความสามารถเช่นนี้

สายตาของทุกคน คราวนี้ล้วนตกอยู่บนกายของฟางเฟย

เป็นคุณหนูของตระกูลแท้ๆ ถึงไม่ได้นับว่าเป็นสายเลือดโดยตรง ก็

ไม่ถึงจะต้องกลัวเขาจนขนาดนี้

ถ้าหากว่าถูกรังแกแล้วจริงๆ พูดออกมาก็จะเป็นยังไงอีกล่ะ?

คุณหนูของตระกูลกู้ที่ยังไม่ได้เข้าประตูคนหนึ่ง ตระกูลกู้นั้นยังเป็นตระกูลที่ ไม่สามารถเข้าสู่สังคมชั้นสูงตระกูลหนึ่ง กลัวอะไรหรือ?

มู่ฟางเฟยแม้กระทั่งพูดก็ไม่กล้า หรือว่า คือทำให้เขาเปรอะเปื้อนแล้วจริงๆ

หรือ?

ฟางเฟย ตอนนั้นเธอทำยังไงกับคน คุณก็พูดออกมาตรงๆ มีพวกเราอยู่ที่นี่

กลัวอะไรหรือ?

“ฉัน…ตอนนั้นฉัน…ฟางเฟยยังคงหลบอยู่ข้างหลังของมู่เสี่ยวหย่านไม่กล้า

พูดมั่ว เธอไม่กล้าแน่นอน! ก่อนหน้านั้นปูเซียนเซียนล้วนทำอะไรแล้วล่ะ พูดไปแค่ ประโยคเท่านั้น ก็ได้รับคดีความโดยตรงเลย

ตอนนี้ ถ้าหากว่าเธอพูดอะไรที่ไม่ได้เป็นความจริง ผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ยังอัด เสียงอยู่ล่ะ!

ถึงตอนนั้นส่งบันทึกนี้ให้แก่หลีเย่ หลีเยก็จะดำเนินเรื่องทันที เธออาจจะต้อง ติดคดีความจริงๆ

คนที่อยู่ข้างๆคุณชายใหญ่ ไม่กล้าทำอะไรเลย

มู่เซียนเขียนก็คือเป็นประสบการณ์จากก่อนหน้านั้น เธอกล้าที่ไหนล่ะ?

เมื่อกี้กล้าพูด เพียงแค่เพราะนึกไม่ถึงว่าอานหยานกล้าสู้กับเธออยู่ต่อหน้า พวกผู้หญิงตระกูลมากมายเช่นนี้จริงๆ

ตอนนี้ เขาก็คือจะถกเถียงสู้เพื่อเอาชนะจริงๆ เธอก็หมดความกล้าแล้ว

“ดูแล้ว ตอนนี้เธอคือไม่กล้าพูดโกหกแล้วล่ะ

กู้อานหยานหยิบมือถือขึ้นมา อมยิ้มนิดๆกล่าวว่า เกลียดที่สุดก็คือผู้หญิงที่ ชอบพูดมั่วเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนคลื่นไส้กว่าแมลงวันจริงๆ”

คำพูดนี้ แม้แต่มู่เสี่ยวหย่านกับมู่เสงี่ยนเอ๋อล้วนไม่สามารถตอบกลับ

พวกเธอแม้ว่าไม่กลัวกู้อานหยาน แต่ว่า มู่ฟางเฟยแม้แต่คำเดียวก็ไม่กล้าพูด ทุกคน ล้วนเห็นอย่างชัดเจน ผู้หญิงคนนี้ถึงจะเป็นการสร้างข่าวลือจริงๆ ก็เสียแรงที่เมื่อกี้พวกเธอยังเชื่อ

เธออยู่

“! เสี่ยวหย่าน เย็นชา ผลักฟางเฟยที่อยู่ข้างหลังออกไปทันที

“น้ารองฝั่งโน้นยังมีที่นั่ง คุณไปเลย

ตำแหน่งคุณหนูในตระกูลของพวกผู้หญิง แท้จริงแล้วยังสูงกว่าหยาน เสียวหย่านให้เธอไป ฟางเฟยที่ไหนกล้าอยู่หรือ?

ได้เพียงแค่จ้องมองกู้อานหยานอย่างโหดร้ายแล้ว น้ำตาคลอเบ้า ออกจากที่ นั่งของตนเองอย่างน่าสงสาร ไปยังโต๊ะข้างๆฝั่งโน้นของคุณผู้หญิงรอง

ภายใต้สายตาของคนทั้งหลาย ครั้งนี้คือถูกไล่ออกจริงๆ จะไม่น้อยใจได้

หรือ?

แต่ว่า เธอก็ไม่กล้าพูดคำว่าไม่กับมู่เสี่ยวหย่านแม้แต่น้อย ไม่มีความกล้าเช่นนี้

ก็ไม่มีสิทธิเช่นนี้

แต่การน้อยใจที่กู้อานหยานทำให้เธอได้รับในวันนี้ เธอทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะลืม

ได้!

เธอต้องตอบสนองกลับอย่างแน่นอน!

หลังจากมู่ฟางเฟยออกไป ปูสี่ยวหย่านกลับไปนั่งเก้าอี้ของตนเอง สีหน้า เคร่งขรึมไม่ได้ลดลงโดยตลอด

เดิมทีมู่เสงี่ยนเอ๋อยังอยากจะหาเรื่อง แต่ว่า ทันทีนั้นก็ดูเหมือนว่าไม่รู้จะหา เรื่องอะไรได้อีก ล้วนโทษมู่ฟางเฟยโง่เง่าคนนั้น ตอนนี้โดนกู้อ่านหยานชนะไปหนึ่งรอบ รอบ หน้ากลับยังไม่ได้เริ่ม

ในเวลานั้น บรรยากาศดูเหมือนเกร็งๆเล็กน้อย

คนรับใช้เริ่มให้คนยกอาหารขึ้นมาแล้ว อาหารส่งขึ้นมาทีละอย่างๆ ทั้งโต๊ะ เต็มเปี่ยมด้วยอาหารดีๆอย่างรวดเร็ว

มู่เสงี่ยนเอ่อจู่ๆกลับมองอานหยานครั้งหนึ่ง ยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณหนูกู้ ได้ยิน ว่าการงานของบริษัทกู้ชื่อกรุ๊ปไม่ค่อยราบรื่นเล็กน้อย เกรงว่าบ้านพวกคุณไม่ เคยได้กินของดีๆเช่นนี้มานานแล้วล่ะหรือ?”

คำพูดนี้ ช่างไม่เห็นแก่หน้าแม้แต่นิดจริงๆ

เธอชี้ไปที่อาหารจานหนึ่งในนั้นกล่าวว่า “เอาหอยทากทองคำ ส่งไปให้คุณ หนู เชิญเธอชิมให้ดีๆ หอยทากนี้ อยู่ข้างนอกจะไม่ได้กิน หนึ่งจานเกรงว่าจะ ราคาเท่ายอดขายทั้งวันของบริษัทกู้ชื่อกรุ๊ปทั้งหมดแล้วล่ะหรือ?”

“แต่ว่า” เธอก็หันหน้าไปมองอานหยานอีก ยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้มกล่าวว่า “คุณ หนูกู้ ของสิ่งนี้แกกินเป็นไหม?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ