ประธานมู่ ฉันไม่รักนายอีกแล้ว!

บทที่48 จะรู้สึกยังไง มันไปเกี่ยวอะไรกับเขา ?



บทที่48 จะรู้สึกยังไง มันไปเกี่ยวอะไรกับเขา ?

บทที่48 จะรู้สึกยังไง มันไปเกี่ยวอะไรกับเขา ?

“แล้วยังไงต่อ ? แจ้งความ ? ให้สืบต่อ ? เธอสืบอะไรได้แล้ว เหรอ ? ”

มู่บ้านเป่ยนั่งอย่างสบายอารมณ์ พลางมองเธอเพียงเล็ก

น้อย

กู้อานหยานกัดริมฝีปาก เธอโกรธจนกระทั่งอยากจะฉีก ใบหน้าไร้อารมณ์นี้ให้แหลกออกเป็นชิ้นๆเลย !

เธอกำลังจะบอกว่า เธอจะปกป้องเขาให้ถึงที่สุดเหรอ ? “

“ไม่ ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำพวกเขาต้องได้รับโทษ อย่างสาสม เขาเคาะกระจกรถ

หลีเย่เปิดประตูรถ ก่อนจะพูดกับกู้อานหยานด้วยความ เคารพ : “คุณผู้หญิง สามคนนั้นถูกจับส่งตำรวจแล้ว

แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังล่ะ ? ทำไมเขาถึงไม่ต้องรับโทษอะไร “ เลยล่ะ ? “ดังนั้น มันไม่เพียงพออยู่แล้ว !
“คุณผู้หญิง อุบัติเหตุรถยนต์นั้นเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ไม่มีใคร จัดฉากจริงๆ”

“คนที่อยากจะทำร้ายเสี่ยวหมี่ พวกเขาก็เพิ่งคิดขึ้นมา ก่อน หน้า สิ่งที่พวกเขาตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้เลย”

คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายเสี่ยวหมี่เลย แม้แต่นิดเดียว ดังนั้น สามคนนั้นต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขา

หลีเย่กลายเป็นเหมือนคนไกล่เกลี่ยไปโดยปริยาย แต่เขา เห็นได้อย่างชัดเจนว่า กู้อานหยานเองไม่อยากฟังเลยแม้แต่

น้อย

“ฉันจะต้องไปสืบมาให้ได้ ! ”

เพิ่งจะพูดจบ หยางก็โทรมาพอดี

กู้อานหยานเบือนหน้าหนี ก่อนจะรับโทรศัพท์ : “หยางอี เป็นยังไงบ้าง ? ”

“อานหยาน อำนาจของฝั่งตรงข้ามนั้นมากมายเหลือเกิน เขาทลายระบบของธนาคาร ตอนนี้ข้อมูลเหล่านั้นโดนลบไป หมดแล้ว หาข้อมูลของบัญชีปลอมนั้นไม่เจอแล้ว
พวกเขาเพิ่งจะขึ้นรถไป ก่อนที่เทียนโยวขับรถกลับไป หยาง พลางจดลงในสมุดบันทึกเล่มเก่าของเขา

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อก่อนกับตอนนี้เวลาห่างกันแค่หนึ่ง ชั่วโมงเอง ฝ่ายตรงข้ามทำได้แม้กระทั่งหลายระบ ธนาคารเลยด้วยซ้ำ 1

กู้อ่านหยานถือโทรศัพท์เอาไว้ในมือแน่น โดยที่ไม่พูดอะไร สักคำ ในใจเธอนั้นว่างเปล่าเหลือเกิน

จานเบียพยายามปิดกั้นทุกวิถีทางเพื่อจะขัดขวางไม่ให้เธอ สืบข้อมูลต่อไป

เสียงของหยาง ยังคงพูดอยู่ไม่หยุด : อ่านหยาน แต่ก็ ไม่ใช่ว่าจะหาข้อมูลไม่ได้เลย แต่ว่าฉันต้องแก้ระบบให้ได้ ก่อน แต่ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย

“ไม่ต้องหรอก เรื่องนี้ ปล่อยให้มันจบตรงนี้เถอะ” อ่านห ยานหลับตาลง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “ฉันจะ พยายามโน้มน้าวเทียนโยวละกันนะ แล้วจะกลับไปดูแลเดี่ยว หมี่

อ่านหยาน…
“เชื่อฉันเถอะ ! ”กู้อานหยานพูดย้ำอีกครั้ง

ถ้าจะสืบต่อไปแล้วจะทำไม ? เธอเชื่อในตัวของหยางอี แน่นอนว่าเขาสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้

คนอื่นไม่สามารถซ่อมแซมระบบได้ แต่ขอเพียงแค่ให้เวลา กับเขาสักหน่อย เขาต้องทำได้แน่นอน ไม่ว่าระบบนั้นจะมีขั้น ตอนการกักกันและขัดขวางมากสักเพียงใด

แต่ว่า ซ่อมแล้วยังไงต่อล่ะ ?

ถ้ามู่บ้านเป่ยไม่ยอมให้เขาค้นหา พวกเขาก็ไม่มีทางหาอะไร

ได้เลยแม้แต่น้อย !

สิ่งที่เธอกลัวที่สุดคือ หยางยั่วโมโหมู่บ้านเป่ยไปแล้ว อาจ

จะไม่มีจุดจบที่ดี

เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ว่า : “ให้ฉันลงจากรถ

“เธอลืมสัญญาของเราไปแล้วเหรอ ? “น้ำเสียงของมู่บ้านเป่ย ดูจริงจังเล็กน้อย แต่กลับไม่มีความอบอุ่นอยู่ในน้ำเสียงนั้น

เลย
เธอเคยบอกว่าหลังจากหมั้นแล้ว ก็ตัวใครตัวมัน ! ”

แต่ฉันไม่เคยพูดหา ว่าตอนกลางคืนจะไม่กลับที่พักได้

“นี่เธอ…”

“กลับบ้านพักตากอากาศกัน เขาพิงพนักพิงอยู่ พลาง หลับตาทั้งสองข้าง แต่ก็คว้ามือของเธอเอาไว้ โดยที่เขาไม่ คิดจะปล่อยเลยแม้แต่น้อย

“เธอเป็นแค่คู่หมั้นของฉันนะ เธอไม่มีอำนาจมาบังคับทุก การกระทำของฉันได้หรอกนะ ! “เธอไม่อยากกลับไป ไม่ อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับชายคนนี้แล้ว !

เธอไม่มีทางเลือกมากขนาดนั้นหรอก” ตอน คุณชายเลย ความบ้าอำนาจออกมานั้น ไม่มีใครสามารถทำให้เขาเปลี่ยน ความคิดได้!

หลีเย่นั่งอยู่ตรงที่นั่งของคนขับรถ พลางแอบมองด้านหลัง ผ่านกระจกมองหลัง

จากนั้น เท้าข้างหนึ่งของเขาจึงเหยียบเข้าที่คันเร่ง รถจึง เริ่มเคลื่อนที่ออกจากท่าเรือนั้น ก่อนจะขับไปบนถนนใหญ่เลียบชายทะเล

เมื่อรถเคลื่อนตัวออกประตูรถก็ถูกล็อกโดยอัตโนมัติ หลัง จากที่รถเคลื่อนตัวออกไป มู่บ้านเป่ยก็ปล่อยมือออกจากกู้ อานหยานในทันที

กู้อานหยานทองเขาด้วยแววตาโกรธเคือง พลางนวดข้อมือ ของตัวเองไปด้วย

เขาผลุบตาลง ถึงจะเห็นว่ามือของเธอโดนตนเองบีบจนแดง

ไปหมดแล้ว

ผิวของผู้หญิงนี่มันบอบบางขนาดนั้นเลยเหรอ ? เขาไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองใช้แรงเยอะอะไรขนาดนั้น แต่ทว่า กลับบวมแดง ขนาดนั้นเลยเหรอ ?

“เจ็บไหม ? “มู่จ้านเป่ยถามขึ้น

กู้อานหยานเบือนหน้าหนี และทำเป็นไม่สนใจเขา

ฉันจะเจ็บหรือไม่เจ็บมันไปเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ ? โดยเฉพาะ ในสถานการณ์แบบนี้เขาเป็นคนบีบข้อมือเอจนเจ็บ แล้วตอนนี้ กลับแกล้งทำเป็นสงสารแบบนี้เหรอ ?
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเสี่ยวหมี่อาการเป็นอย่างไรบ้างแล้ว เธออยาก จะไปเยี่ยมจริงๆ แต่ทว่า เรื่องที่มู่ล้านเป่ยตัดสินใจไปแล้ว เธอเองก็ไม่มีปัญญาจะเปลี่ยนแปลงมัน

เขาบอกให้เธอกลับไปที่บ้านพักตากอากาศ คืนนี้เขาไม่มี ทางปล่อยให้เธอไปแน่

ผู้ชายคนนี้ นอกจากจะเย็นชา ยังเป็นจอมเผด็จการ ไม่มี เหตุผล อีกทั้งยั้งไม่น่าไว้ใจอีก !

ความซึ้งใจที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั้น ในตอนนี้เวลานี้ กลับกลาย เป็นความขุ่นเคืองใจไปแล้ว

เขาเห็นเธอเป็นอะไร ? คนที่เขาอยากจะปกป้องมาทำร้าย เสี่ยวหมี่ แต่เสี่ยวหมี่ คือคนที่เธอสาบานเอาไว้ว่าจะปกป้อง ด้วยชีวิต !

กู้อานหยานไม่ได้พูดอะไร มู่บ้านเป่ยเองก็ไม่พูดอะไรต่ออีก

เพียงแต่ว่า ไม่รู้ว่าแววตาคู่นั้นมีความห่วงใยซ่อนอยู่รึเปล่า แต่ว่าเขาก็มองข้อมือเธออยู่หลายรอบเหมือนกัน

แต่ว่าเขาจับเพียงชั่วครู่ ต้องบวมขึ้นมาขนาดนั้นเลยเหรอ
ไง ?

อยากจะให้หมอประจำบ้านมาดูอาการให้ไหม ?

รถจอดอยู่ตรงประตูใหญ่

หลีเย่เปิดประตูให้กับสองคนนั้น จากนั้น จึงยื่นกุญแจให้แม่

บ้านผู้ดูแล

ทั้งสามคนเดินไปที่ห้องรับแขกใหญ่ คิดไม่ถึงเลยว่า เพียง แค่เดินเข้ามา ก็เห็นเงาที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกใหญ่

เธอแต่งหน้าแต่งตัวได้อย่างสง่างาม ถึงแม้อายุจะปาเข้าไป ถึงเลขสี่แล้ว แต่ทว่าการดูแลตัวเองของเธอนั้นดีเหลือเกิน ราวกับสาวอายุสามสิบนิดๆเท่านั้นเอง

กู้อานหยานรู้จักผู้หญิงคนนี้ แต่ทว่า ชาติก่อนกลับไม่เคย

คบค้าสมาคมด้วยมาก่อน

เธอเป็นภรรยาคนปัจจุบันของนายท่านตระกูลมู่ แถมยัง
เป็นแม่แท้ๆของเจ้าหนานอีกด้วย เธอชื่อทยาน

เมื่อเท็มทั้งสองคนกลับมา หยานรีบลุกขึ้น พลางมองพวก เขา : เป่ย กลับมาแล้วเหรอ ?

งานเป่ยเห็นหลาน เขาจึงยิ้มขึ้นเบาๆอย่างอ่อน

อ่านหยาบเรียกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ : น้ำ

ซูทยานพยักหน้า เมื่อเห็นทรายที่เปรอะตามร่างกายของผู้ อาบหยาบ เธอก็รู้สึกแปลกใบเล็กน้อย

เธอยิ้มขึ้นอีกครั้ง : “ลึกขนาดนี้แล้ว ไปเที่ยวที่ริมทะเลมาเท รอ? วัยรุ่นอย่างพวกเธอ ยังมีเรี่ยวแรงอยู่ที่ดีเนอะ

กู้อาบหยาบได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ถึงแม้ว่าจะอารมณ์ไม่ดี แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องแสดงออกมาให้ รุ่นพี่เห็น เธอพูดขึ้นว่า : เนื้อตัวฉับสกปรกไปหมดแล้ว ป้าซู ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ

“โอเค”ซูหยาบพยักหน้า
กู้อานหยานหันหลังก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนไป โดยที่ไม่ชายตา มองมู่บ้านเปียเลยแม้แต่น้อย

“สาวน้อยคนนั้นทำไมดูเหมือนเธอจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ล่ะ ? “ซูหยานกับมู่บ้านเปียนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะยิ้มอย่าง อบอุ่น

“เธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาเป่ย เธอต้องดูแลดีๆหน่อยนะ ผู้หญิง คนหนึ่งที่ต้องจากบ้านของตัวเอง แล้วแต่งเข้ามาอยู่กับตระกู ลมู่ เธอก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้สึกไม่คุ้นชินน่ะ

มู่บ้านเป่ยได้แต่พยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไร

ซูหยานถอนหายใจเบาๆ พลางปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อน จะพูดว่า : “เป่ย วันนี้น้าซูมาเพื่อขอโทษเธอโดยเฉพาะเลย นะ”

“เรื่องอะไร ? “เขารับน้ำชาที่แม่บ้านเทให้ แต่เขาถือเอาไว้ ในมือเฉยๆ ไม่ได้ดื่มเลยแม้แต่น้อย

ซูหยานพูดขึ้น : “ฉันเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าแต่ก่อนเจ๋อ หนานเคยลงไม้ลงมือกับอ่านหยาบ จริงๆแล้วฉัน…….ฉันไม่รู้ว่า จะสั่งสอนลูกคนนี้ยังไงแล้ว
แววตาของเธอซ่อนความรู้สึกผิดเอาไว้ แต่ก็มีความไร้ความ หวังซ่อนอยู่

“ทั้งหมดเป็นเพราะน้า สอนมาไม่ดีเอง ไม่ได้เข้มงวดกับเขา ตั้งแต่เด็ก แต่กลับปล่อยให้เขาทำตัวยโสโอหังและไร้มารยาท แบบนี้ เป่ย น้าขอโทษพวกเธอแทนเขาด้วยนะ ฉันหวังว่า พวกเธอจะให้อภัยเขานะ

มู่บ้านเปียไม่ได้ตอบอะไร หยานรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เปีย ยังไงเขาก็เป็นน้องชายแท้ๆของเธอ ไม่ว่าจะเป็น ความผิดมากมายขนาดไหน ทั้งหมดก็เป็นเพราะฉันเป็นแม่ที่ ไม่ดีเอง…….

“เขาได้รับบทลงโทษแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ไม่จำเป็นจะต้อง ขุดขึ้นมาพูดอีก”

มู่ล้านเป่ยวางแก้วลง : “น้า นี่ก็ดึกมากแล้ว เดี๋ยวให้คนส่ง น้าซูไปพักผ่อนดีกว่านะครับ

“ก็ได้” ซูหยานรู้ว่าเขาไม่อยากจะพูดถึงมันอีก เลยทำได้แค่ ปิดปากเงียบแล้วไม่พูดถึงมันอีก

เธอลุกขึ้นยืน พลางจะคิดๆดู ก่อนจะพูดขึ้นว่า : “ใช่สิ คุณตาจะจัดงานเลี้ยงขึ้นที่บ้านในวันพรุ่งนี้นะ เธอเองก็พาอานห ยานกลับไปเร็วๆหน่อยละกัน จะได้คุ้นเคยกับคนในครอบครัว มากขึ้นสักหน่อย”

มู่บ้านเปียกลับรุดขึ้นไปข้างบน เขาเพียงแค่พยักหน้า แต่ไม่ ได้ใส่ใจอะไรมาก

มือของสาวน้อยยังเจ็บอยู่ เรียกให้หมอมาดูสักหน่อย เธอ คงจะไม่อนุญาตให้หมอตรวจหรอกมั้ง ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ