บทที่ 8 ออกไปอย่างวางก้าม
เป่ยหมิงโม่มองไปที่หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของตัว
เอง
“ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงชั้นต่ำ แค่นี้ก็ดูออกแล้ว! เขาคลายร่างของเธอออกอย่างน่ารังเกียจ จากนั้น ทุกอย่างก็กลับมาสงบเงียบตามปกติ กู้ฮอนร่างกายสั่นเทา
ความเยือกเย็นที่เกิดขึ้น ทำให้เธอตื่นขึ้นมาก
สองข้างแก้มแดงจนผิดปกติ
คำพูดของเขาที่มแทงมาที่เธออย่างรุนแรง
เธอยิ้มอย่างไม่สู้ดีนัก เพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะเกินกว่า จะโต้กลับได้
เปหมิงโม่เดินอย่างสง่าผ่าเผยไปที่ยังเคาน์เตอร์อ่าง ล้างมือใกล้เคียงและเปิดน้ำ
ล้างมือ
ล้างราวกับว่า กลัวจะมีสิ่งสกปรกติดมาจากการที่ สัมผัสร่างกายเธอไปครู่นี้
ระดับความสะอาดของเขาอยู่ขั้นไหนกัน
ถึงทำกับผู้หญิงแบบนี้ได้
หลังจากล้างมือเสร็จ เขาส่องกระจก แล้วจัดเสื้อผ้า อย่างช้าๆ ท่าทางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
เมื่อจัดเสื้อผ้าเสร็จ
เขาก็ไม่ได้หยุดดูที่กู้ฮอนอีก และทำท่าจะเดินจากไป
ช่วงเวลาที่เขาดึงลูกบิดประตู
“เสื้อนี่.”กู้ฮอนพูดขึ้น
เขามองไปที่ชุดสูทสีขาวยับยู่ยี่นั้นและพูดอย่างเย้ย หยัน: “ของสกปรกอย่างนั้น ผมไม่ต้องการ!”
จากนั้นเขาก็เดินจากไป….
***
กู้ฮอนชะงักค้างไปครู่หนึ่ง
ถึงค่อยเข้าใจถ้อยคำที่แฝงความดูแคลนในคำพูดของ
เขา
จริงๆแล้ว เธอแค่อยากบอกว่า ถ้าทำความสะอาด
เสื้อผ้าเสร็จเธอจะคืนให้เขาในภายหลัง
เธอยิ้มด้วยความขมขื่น คืนนี้ คงเป็นเพราะเธอทำตัว
เองทั้งนั้น
เผลอเล่นกับคนที่ไม่ควรเล่นด้วย
ต่อสู้ฝืนทนกับร่างกายที่อ่อนแอ ใช้เสื้อคลุมสูทราคา แพงที่เขาทิ้งไว้พันแน่นรอบร่างกายบอบบางของตัวเอง
ทันทีที่เธอกระโดดลงจากเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ดวงตาของเธอก็มืดมิด
จนไม่สามารถต้านทานได้ และหมดสติอยู่ที่พื้น….-
ในคืนที่มืดมนที่สุด
โรงแรมแมนดาริน
เสียงลิฟต์พิเศษ ‘ติ้ง” เปิดขึ้นที่ชั้นบนสุดของโรงแรม เป่ยหมิงโม่รีบก้าวออกจากลิฟต์อย่างรวดเร็ว
หลังจากงานเลี้ยงนั้น ร่องรอยของความเหนื่อยล้าและ มึนเมาถูกเปิดเผยบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
แต่เขาเก็บซ่อนมันได้ดีมาก
ผู้ติดตามด้านหลังชายผู้นั้น เป็นผู้ที่ให้ความนับถือและ กล้าหาญ
“นายใหญ่ครับ งานเลี้ยงวันนี้ มีหลายบริษัทเสนอแบบ ร่างแปลนมาที่ผม บอกว่าหวังว่านายจะตรวจดูด้วยตัว เอง..
ฉิงฮัวซ่อนแบบแปลนในกระเป๋าและมองที่ เป่หมิงโม่ อย่างระมัดระวัง
ใครจะรู้ว่าเขาไม่ได้ยกเปลือกตาขึ้นด้วยซ้ำ ฉิงฮัวรีบโค้งคำนับ “ขอโทษครับนาย ผมรู้ว่าทำผิด
อะไรไป โครงการ ‘หยิง สำคัญสำหรับนายมาก…”
“ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมถึงยังเกิดขึ้น”
เสียงของเป้หมิงโม่พูดออกมาอย่างเกียจคร้าน คำพูดของฉิงฮั่วถูกขัดจังหวะอย่างเยือกเย็น “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีหลายบริษัทกำลังต่อสู้แย่งชิง กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อจะได้โครงการ หยิง’ ดูเหมือนว่า นายท่านจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่…”
ฉิงฮัวปฏิเสธไม่ได้ว่า บริษัทที่ให้แบบร่างแปลนแก่เขา นั้น ถูกสั่งโดยนายท่าน
“เขาไม่พอใจมันก็เรื่องของเขา!”
เป่หมิงโม่ตะคอกไปและเดินไปทางด้านในสุดของทาง เดินโรงแรม
ฉิงฮัวเก็บซ่อนแบบแปลนเอาไว้ สุดท้ายก็ไม่กล้าเอา มันขึ้นมา
เดินตามอยู่ข้างหลังนายใหญ่ โดยไม่กล้าทำอะไร
และขี้ขลาด พูดว่า:
“นายใหญ่ครับ งานเลี้ยงคืนนี้นายจะไม่กลับไปแล้วเห รอครับ? นายท่านบอกว่าคุณเป่ยจะมา และเชิญให้นาย ใหญ่กลับไป…”
ฝีเท้าหยุดกะทันหัน
อากาศหนาวเย็นขึ้นมา!
เห็นได้ชัดว่าประโยคของนายท่าน ทำให้ใครบางคน โกรธขึ้นมา
ดวงตาที่เยือกเย็นของเหมิงโม่เหมือนถูกไฟไหม้ ทรมาน
“นี่เป็นครั้งที่สามที่นายพูดเรื่องนี้ ! ฉิงฮัวนายเป็นลูก น้องของฉันหรือว่าสุนัขที่คอยวิ่งตามเขา?”
คิ้วหนาขมวดเข้าด้วยกันอย่างไม่พอใจ แต่ไม่นานก็หายไปและกลับมาเย็นชาเหมือนเช่นเคย ความหมายของเขาก็คือไม่ต้องการได้ยินอีกเป็นครั้งที่
ส่
ฉิงฮั่วโค้งตัวลงด้วยความลำบากใจ ดูเหมือนว่านาย ใหญ่คงจะไม่ได้กลับไปในคืนนี้แล้ว
“ขอโทษครับนาย ผมพูดมากเกินไป”
ด้วยความที่อยู่กับเป่ยหมิงโม่มาหลายปี ฉิงฮัวล้วน เข้าใจว่านิสัยเขาเป็นอย่างไร
ทันทีที่นึกถึงว่าจะโดนนายท่านตำหนิ ฉิงฮั่วก็รู้สึกปวด หัวขึ้นมา
ดวงตาคมนั้น ก้มลงมองดูสีหน้าลำบากใจของฉิงฮัว เป่ยหมิงโม่ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง
จนกระทั่งเดินไปถึงหน้าประตูห้องชุด ถึงเอ่ยปากพูด:
“ถ้าเขามาซื้ออีก ก็พูดไปว่างานเลี้ยงวันนี้ ฉันเมาก็แล้ว
กัน”
เมื่อฉิงฮัวได้ยิน เขาก็รีบยืดตัวตรง ในที่สุดก็มีรอยยิ้ม ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
โดยไม่คาดคิดว่านายใหญ่จะช่วยเขา
“นายครับ!” ฉิงฮัว รีบหยิบคีย์การ์ดห้องออกมา “ผม เปิดประตูให้ครับ”
คลิกฯ
ประตูไม้หนาแกะสลักเปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ร่างใหญ่ของเป่ยหมิงโม่เดินเข้าไปในห้อง ฉิงฮัวยืนอยู่ที่ประตู ส่งเสียงแหลมและสั่นไหว
“คือ นายครับ… เฉิงเฉิงให้ผมเตือนนายว่า เดือนนี้ เขาสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่หก แล้ว…ดังนั้นนายควรปล่อยสัตว์เลี้ยงของนายน้อย ออกมา เพราะนายขังมั่นมาหนึ่งเดือนแล้ว ….”
เพิ่งจะอายุห้าขวบ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงยังไม่ได้เข้า โรงเรียนประถมด้วยซ้ำ
เฉิงเฉิง ก็จบการศึกษาระดับประถมแล้ว
ความฉลาดนี้คงเป็นมรดกสืบทอดมาจากสายเลือด ของตระกูลเป่หมิง
ฉิงฮั่วทำความเคารพอย่างสุดซึ้ง
คิ้วเป็หมิงโม่ยกสูงขึ้นเล็กน้อย มองไปที่ฉิงฮัว
มุมริมฝีปากพูดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ: “งั้นเหรอ! เด็ก นั้นคงเริ่มรู้วิธีบีบบังคับฉันแล้ว?”
“เออ เฉิงเฉิงไม่กล้าทำอย่างนั้นแน่นอนครับ เพียงแค่ ครบกำหนดเวลาหนึ่งเดือนแล้ว เลยอยากเตือนนาย เท่านั้น….”
ฉิงฮัวรู้สึกว่าลิ้นของตัวเองพันกัน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ