เดิมพันรักยัยตัวแสบ

ตอนที่ 466 ดูแลลูกแบบนี้2



หยางหยาง สีหน้าเบื่อหน่าย “โห่ ถ้างั้น ปล่อยผม ……ผมจะออกไปเที่ยว……..ต่อให้พวก นายเป็นซอมบี้ ผมจะไม่ยอมเป็นพืชหรอก ผมจะ ไม่เล่นเกมซอมบี้กับพวกนายที่นี่ มันน่าเบื่อเกิน

หยางหยางพูดไปด้วยแล้วหันมองเฉิงเฉิงที่ยังคง นั่งนิ่งเฉยบนโซฟานั้นไป “นี่ เป่หมิงซึเฉิง นายจะ ออกไปด้วยไหมล่ะ”

เฉิงเฉิงมองหยางหยาง แล้วหันไปมองเป่หมิงไม่

“คุณพ่อครับ หรือว่าให้ผมพาหยางหยางออกไป เที่ยวหน่อยดีไหมครับ.….…..

“ไม่ได้” เป่หมิงโม่ทำหน้าเคร่งเครียด แล้วปฏิเสธ อย่างไม่ลังเล สีหน้าของเด็กทั้งสองเหงาหงอยลงพร้อมกัน

“เหอะ ไอ่พ่อนะ ผมเกลียดคุณ…….

สีหน้าเฉิงเฉิงจริงจังแล้วมองหน้าพ่อด้วยความ เศร้า “คุณพ่อหวังว่า ผมกับหยางหยางจะไม่มี ความสุขเหมือนพ่อเหรอครับ”

คำนี้ทำให้เป่หมิงโม่รู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที “ทำไมนายถึงคิดว่าพ่อไม่มีความสุขล่ะ”

“ก็เพราะคุณพ่อทําเรื่องที่ ‘อย่าแต่งงานโดยไม่มี ความรัก’ ไม่ได้ไงครับ” เฉิงเฉิงตอบอย่างจริงจัง มาก เรื่องที่สองพ่อลูกได้คุยกันเมื่อคืนนี้ ได้ถูก

ตราตรึงไว้ในหัวใจของเด็กน้อยคนนี้อย่างลึกซึ้งและเขาจะจําคําพูดของพ่อค้นั้น คำว่าพ่อไม่ สามารถทำได้ แต่หวังว่าลูกจะทำให้ได้ “อะไรรักแล้วแต่งงานนะ” หยางหยางไม่เข้าใจ

พูดเขา

เป่หมิงโม่เห็นดวงตาของเฉิงเฉิงที่เปล่งประกาย ราวกับภูเขาไฟระเบิด เขาไม่คิดเลยว่า เด็กคนนี้ จะเข้าใจความหมายของเขาภายในพริบตา แน่นอนว่า เขาทําตามความตั้งใจของตัวเองไม่ได้ ดังนั้นเขาถึงโทษตัวเองมาโดยตลอด….

หรือว่าจะให้ลูกทั้งสองคนของเขาจะไม่มีความ สุขไปด้วยเหรอ

เขาถอนหายใจออกมา ความตึงเครียดนั้นค่อย ๆ เพลาลง จากนั้นพูดอย่างอ่อนโยน……

“จะออกไปเที่ยวก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะว่าต้อง ติดตัวไปกับพ่ออย่างเดียว”

“ว้าว ดีจังเลย เยี่ยมมาก” สีหน้าอารมณ์ของหยาง หยางเปลี่ยนไปเร็วกว่าการพลิกหน้าหนังสือ ก่อน หน้านั้นสีหน้ายังเหงาหงอยอยู่ ทันใดก็เหมือนลูก หมาน้อยกระโดดเข้ากลางอกของเป่หมิงโม่ “ผมรู้

ว่าไอ่พ่อนกไม่โหดร้ายขนาดนั้นหรอก……..บอกไว้ ก่อนเลยนะ ว่าผมจะเที่ยวให้ทั่วเมือง S ไป

เลย..….….”

มุมปากเป่หมิงโม่กระตุกเล็กน้อย แม้จะไม่ชอบ พฤติกรรมความซนของเด็ก ๆ แต่ลึก ๆ ในใจก็ รู้สึกใจอ่อนให้กับความน่ารักของเด็กน้อย เขายื่นมือออกไปดึงหยางหยางมาตรงหน้า แล้ว จ้องจมูกน้อย ๆ นั้นไว้ “ไปเที่ยวได้ แต่ต้องเชื่อฟังนะ อย่าหาเรื่อง ไม่งั้นเธอจะถูกส่งกลับไปเมือง A

หยางหยางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วใช้มือน้อย แตะไปที่กลางอกของเขา “ไอ่พ่อนกเอาหัวใจไป ไว้กลางกระเพาะได้เลย ผมรับปาก จะไม่หาเรื่อง ให้พ่อเลยครับ”

เฉิงเฉิงทำหน้าเซ็ง “นายใส่ใจกับการเรียนหน่อย เถอะ เอาหัวใจไปไว้กลางกระเพาะยังไงเนี่ย” “อ้าว ข้าพูดผิดตรงไหน ก็ได้ยินเขาพูดกันแบบนี้ นี่นา” หยางหยางเกาหัว แล้วมองหน้าเฉิงเฉิงอ ย่างสับสน

เขาเรียกว่าเอาหัวใจไปไว้ในท้องได้เลย จะไปไว้ กลางกระเพาะได้ยังไง เห็นแก่กินจริง ๆ เลยนะ เอะอะจะเข้ากระเพาะอย่างเดียว” หยางหยางบน ไปแล้วจัดระเบียบเสื้อตัวเองอย่างใจเย็น หยางหยางชักสีหน้าไม่พอใจ “จะไว้ในกระเพาะ แล้วทำไมล่ะ กระเพาะก็อยู่ในท้องไม่ใช่เหรอ” เป้หมิงโม่มองดูลูกชายทั้งสองที่มีบุคลิกแตกต่าง กันแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ลูกแฝด คงต้องสงสัยจริง ๆ แล้วว่า ไอ้ตัวแสบหยางหยางนี้เป็นลูกแท้ ๆ ของ เขารึเปล่า

และแล้ว สามพ่อลูกนี้…………

ท่านไม่มีสีหน้าที่เป็นอัมพาตปีด้วยความหล่อเหลา เฉิงเฉิงมีสีหน้าที่นั่งสงบด้วยความหล่อเหลา หยางหยางมีสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างหล่อเหลา…….

ทั้งสามพ่อลูก ในที่สุดก็ได้ออกเดินทางอย่างมืความสุข……

เมือง S เป็นเมืองที่ผสมผสานความเรียบง่ายและ ความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน

อาคารสิ่งก่อสร้างสูงเท่าก้อนเมฆในเขตใหม่ ส่วน เขตเก่าก็ยังมีอาคารสิ่งก่อสร้างดั้งเดิมแปลกตา ให้เห็นอยู่

วัฒนธรรมที่แปลกตาโดยบรรพบุรุษได้เกือบเอา ไว้ให้ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งมันก็กลายเป็น อุตสาหกรรมลักษณะเฉพาะในท้องถิ่นนั้น จึง ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามาเยี่ยมชม……. เป้หมิงโม่พาเด็กสองคนขับรถลัมบอร์กินี่ผ่าน ถนนเส้นเก่าในเมือง S นั้น

“เย้ย……ไอ่พ่อนกถึงแม้จะเฒ่ามาก แต่รถไม่เฒ่า เลยแหะ” ใบหน้าหยางหยางติดกับหน้าต่างรถ กำลังดูทิวทัศน์ที่แปลกตาสําหรับเขาอย่างตื่นเต้น ดีใจ

“นั่งลงดี ๆ ” ท่านโมบ่นออกเสียง ไอ้เด็กแสบคนนี้ เข็มขัดนิรภัยก็ผูกเขาไว้ไม่หยุดจริง ๆ หยางหยางชักหน้าผีใส่พ่อแล้วค่อยนั่งกลับที่เดิม ส่วนเฉิงเฉิงนั่งอยู่กับที่อย่างเงียบ ๆ แล้วในมือถือ โน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง เพราะช่วงนี้เขาเสพติดกับการ เขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ และตอนนี้กำลัง ออกแบบเกมแรกของเขา ถ้าเขาไม่ส่งเสียงออก มา หยางหยางคงคิดว่าเขาเป็นอากาศไปแล้ว…… รถวิ่งผ่านใจกลางเมืองเก่าอย่างรวดเร็ว และเพิ่ง

จะหยุดตรงลานจอดรถ“โอเค เรามาถึงแล้ว ลงรถกัน”

ท่านไม่ครวญครางออกเสียงเบา ๆ ด้วยสีหน้า เฉยชา แล้วเปิดประตูรถออก “ถึงแล้วเหรอ นี่มันที่ไหนนะเนี้ย”

หยางหยางเกาหัวตัวใบเล็กของตัวเอง เฉิงเฉิงเก็บคอมพิวเตอร์เรียบร้อย ปลดเข็มขัด นิรภัยออกแล้วลงจากรถ

“เฮ้ ไม่มีมารยาทเลยจริง พวกนายน่ะ รอฉัน

หน่อย ……

หยางหยางเหมือนตั๊กแตนรีบบินตามมาจากด้าน หลัง

เมื่อเห็นพ่อของเขาหยิบแว่นกันแดดออกจาก กระเป๋าเสื้อ แล้วสวมใส่ขึ้นไปอย่างมาดเข้ม หยางหยางอดไม่ได้ที่จะตบขาของตัวเอง มาเมือง S กะทันหันเกินไป ไม่ทันได้เก็บของเลย แถมยัง

ลืมแว่นตาคางคกที่หล่อที่สุดของเขาด้วย “นี่ ๆ ไอ่พ่อนก เค้าก็อยากใส่แว่นกันแดดเหมือน

กันนา……


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ