เดิมพันรักยัยตัวแสบ

ตอนที่310 ทำไมเธอต้องวิ่งหนีทันทีที่เจอคุณ2



เป้หมิงโม่รู้สึกจุก อก!

คำพูดของหยางหยางเหล่านี้ เหมือนกันคำพูดที่ คุณพ่อของเขาเคยพูดกับเขาตอนนั้นไม่มีผิด

เพราะเขาก็เคยเป็นเหมือนหยางหยาง ที่ยืนกราน ขัดขวางการแต่งงานระหว่างพ่อของตัวเองกับเจียงฮุ่ยซิน แต่พ่อกลับบอกว่า คุณแม่ไม่ได้รักพวกเขาแล้ว เขาจะ

แต่งงานกับใครก็ไม่มีความสำคัญอะไรทั้งนั้น แต่สิ่งที่ต่างกันระหว่างเขากับพ่อคือ เขามีคํา สัญญาที่เคยให้ไว้กับเฟยเอ๋อ เขาจำเป็นต้องให้ฐานะและ

ชื่อเสียงแกเฟยเอ๋อ เขาทำให้เธอผิดหวังไม่ได้..

เขามองดูหยางหยางที่ร้องไห้ฟูมฟายอย่างน่า สงสาร เขาอยากโอบกอดเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมอกตัวเอง…….

แต่สุดท้าย เขาก็ทำไม่ได้

“ ผมเกลียดพ่อ…….ผมเกลียดพ่อที่สุด…………. จากนั้น หยางหยางก็ร้องไห้และกระโดดลงจากเตียง ก่อนจะหยุด ผลักเฟยเอ๋อหนึ่งที และรีบวิ่งออกไปจากห้องผู้ป่วย……

หมอรีบพุ่งเข้ามาในห้อง ก่อนจะรีบทำแผลที่คอให้ เป้หมิงโมในทันที…….

เฟยเอ๋อยืนอยู่ข้างๆ มองด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า มือ กุมอกไว้อย่างเจ็บปวด โดยไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกมา เลยสักคํา

เป้หมิงโม่หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ปล่อยให้หมอ จัดการกับแผลที่คอของเขาไป ใจจริงอยากจะถามหมอว่า มียาอะไรที่จะรักษาอาการปวดใจได้บ้าง?

เพราะเหตุใด หัวใจของเขาถึงได้เจ็บปวดรวดร้าวถึงเพียงนี้ ?

ช่วงพลบค่า

ลั่วเฉียวนอนอยู่ในบ้านของกู้ฮอน หลังจากกินมา ม่าจนจุก ก็นอนลงบนโซฟาก่อนจะเปิดทีวีดูแก้เก้อ

กู้ฮอนเดินออกมาหลังจากล้างถ้วยเสร็จ พอมาเห็น ลั่วเฉียวที่นอนเหงาหงอยเศร้าสร้อย ก็อดที่จะเลิกคิ้วมอง อย่างสงสัยไม่ได้

คุณลั่วคะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรอีก? ทำหน้า เป็นหมาหงอยแบบนี้ ไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด”

ลั่วเฉียวค้อนใส่กู้ฮอนด้วยสายตาเอาเรื่อง ครุ่นคิด สักพักก่อนถามขึ้นว่า “ฮอน เธอจำเรื่องคืนนั้นหลังจากที่ เราสองคนดื่มจนเมาไม่ได้จริงๆ เหรอ?”

กู้ฮอนยักไหล่พร้อมส่ายหน้าไปมา “นี่ เธอถามฉัน มาเป็นรอบที่36แล้วนะ คำตอบฉันก็ยังเหมือนเดิมคือ จำ ไม่ได้จริงๆ……แล้วเธอล่ะ?”

” ลั่วเฉียวปิดปากด้วยสีหน้าที่กลัดกลุ้ม ก่อน จะพูดอ้อมแอ้มว่า “เฮ้อ ฉันก็จำไม่ได้แล้ว…..เอาเป็นว่า เหล้าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ครั้งหน้าเธอต้องเตือนสติฉันนะ อย่าให้ฉันดื่มจนเมาอีก..

“อืม” ดูสีหน้าที่ดูมีลับลมคมในของลั่วเฉียวแล้ว กู้ ฮอนก็ได้แค่พยักหน้ายิ้มรับโดยไม่ได้เค้นถามอะไรต่อ

ลั่วเฉียวหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นอีก ครั้งว่า

“ไม่สิ! ถ้าครั้งหน้าฉันดื่มเหล้าอีก ต้องห้ามให้เทพ แห่งไฟที่เป็นคนสนิทของโม่คนนั้น อยู่ในวงเหล้าเด็ด ขาด…..
“อ่อ? งั้นเหรอ?” กู้ฮอนยักคิ้วหยอกเย้า “หรือว่าคน นั้น มี ‘ไฟ’ สิงเข้าร่างเธอแล้วหรือเปล่า?”

“เฮ้ย! ไม่ๆๆๆ!” ลั่วเฉียวรีบเด้งตัวขึ้นมาส่ายหน้าไป มาอย่างปฏิเสธ “ฮอน อย่าหลอกให้ฉันตกใจอีกเลยนะ แค่ นี้หัวใจฉันก็จะวายตายแล้วเนี่ย………

พอสิ้นเสียงพูด เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

กู้ฮอนเปิดประตูพร้อมรอยยิ้ม

วินาทีที่ประตูเปิดออก เพิ่งเข้าใจความหมายของ คำว่าพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา อย่างถ่องแท้ก็ตอนนั้นเอง พูด ยังไม่ทันขาดค้า!

ฉิงฮัวยืนดื้อไม่พูดไม่จาพร้อมสีหน้าที่เย็นชาไร้ ความรู้สึกนั้น อยู่ๆก็มาปรากฏขึ้นมาอยู่ตรงหน้าหน้าประตู

ฉิงฮัวถือกล่องบางอย่างไว้ในมือ พอเห็นกู้ฮอนก็ โค้งคำนับด้วยความเคารพ “คุณกู้ครับ ต้องขอโทษที่มา รบกวนโดยพลการครับ..……..

พูดยังไม่ทันจบ ทันใดนั้นเอง

“เฮ้ย!” ลั่วเฉียวตะโกนดังลั่นขึ้นมาทันที

กล่องที่อยู่ในมือของฉิงฮัวหล่นตุบลงพื้นด้วยความ ตกใจในเสียงนั้นทันที

กู้ฮอนหันกลับไปมองลั่วเฉียว ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น อย่างสงสัย “พวกคุณสองคนเป็นอะไรไป? ตกใจอะไร ขนาดนี้?”

ฉิงฮัวพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะรีบเก็บกล่อง นั้นขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด จนมั่นใจว่าไม่มีอะไรเสีย หายหรือบุบสลาย

ลั่วเฉียวรีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา ก่อนจะยิ้มแห้งๆอย่างมีพิรุธ “เอ้อฮอน คือว่า ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระด่วน นะ.

ที่ต้องไปจัดการ งั้นฉันไปก่อนนะ…..ไว้ฉันโทรหาอีกที

ลั่วเฉียวลุกลี้ลุกลนเหมือนมีไฟลนก้น ก่อนจะรีบ คว้ากระเป๋าและรีบใส่รองเท้าส้นสูงอย่างลนลาน ก่อนจะ เดินตอกแตกตอกแตกออกจากประตูไปนั้น ฉิงฮัวถอย หลังหลบไปสองก้าวก่อนก้มหัวเพื่อทักทายอย่างมี มารยาท

ลั่วเฉียวเม้มปากอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนจะรีบ เดินจากไป……..

จนภาพแผ่นหลังของลั่วเฉียวลับหายไป จากรัศมี สายตาของกู้ฮอน เธอถึงได้สติและหันมามองฉิงฮัวอย่าง สงสัย “ฉิงฮัว มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกคุณใช่ไหม? ไม่งั้น ทําไมลั่วเฉียวถึงวิ่งหนีจุกตูดไปแบบนั้น ทันทีที่เจอคุณ?

ฉิงฮัวหน้าตึงเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าเรียบ เฉยเหมือนเดิมว่า “คุณกู้คิดมากไปแล้วล่ะครับ เมื่อสักครู่ คุณลั่วเฉียวก็บอกแล้วว่ามีธุระด่วนใช่ไหมครับ? เห็นได้ ชัดว่าเธอคงยุ่งจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าผมหรอก”

กู้ฮอนพยายามจับพิรุธจากสีหน้าของฉิงฮัว แต่….เจ้านี่เหมือนเจ้านายตัวเองไม่มีผิด!

คงจะเป็นนักศึกษาดีเด่นที่จบมาจาก ‘สถาบัน ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก’ เหมือนกันแน่ๆ ถึงได้มีสีหน้าที่ไร้ อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้

เอาเถอะ เธอยักไหล่อย่างยอมจำนน “ถ้าคุณไม่ บอก ก็เชิญกลับไปได้เลย….

เธอพูดพร้อมทําท่าทีเหมือนจะปิดประตูใส่เขา

“เดี๋ยวก่อนครับ คุณ ฮอน!” ฉิงฮัวรีบห้ามเธอไว้ ทันที ก่อนจะหยิบกล่องในมือนั้นขึ้นมา พร้อมยื่นไปตรงหน้าเธออย่างเคารพ “อันที่จริงแล้ว ที่ผมมาวันนี้ ตั้งใจมา เพื่อเอาของที่เจ้านายให้นํามามอบให้คุณ ฮอนโดย เฉพาะครับ รบกวนคุณกู้ฮอนรับไว้ด้วยครับ”

“ของอะไร?” เธอกวาดตามองดูกล่องที่ห่อหุ้มไว้ อย่างมิดชิดนั้น ที่ภายนอกถูกปกปิดไว้ด้วยกระดาษห่อ ของขวัญ ทำให้คาดเดาอะไรไม่ได้เลย

“คุณกู้ฮอนเปิดออกดู ก็จะรู้เองครับ”

เธอขมวดคิ้วพร้อมมองฉิงฮัวอย่างระแวด ระวัง “บนโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ และไม่มีใครทำดีโดย ไม่หวังผลตอบแทน! ฉันกับเขาตัดขาดจากกันแล้ว ของ ชิ้นนี้ ฉันขอไม่รับ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ