เดิมพันรักยัยตัวแสบ

ตอนที่ 267 ความชอบไม่ใช่การครอบครอง



ตอนที่ 267 ความชอบไม่ใช่การครอบครอง

ยิ่งไปกว่านั้น ท่าทีที่เธออยู่ในอ้อมอกของหยินฝันวันนั้น มันยิ่งเหมือนการราดน้ำมันลงบนกองไฟดีๆนี่เอง

หากไม่ใช่เป็นเพราะใช้หมายศาลวิธีนี้ ก็คงบีบเธอออกมา ไม่ได้

เขามองไปทางท่านและเจียงฮุยซิน “ป้าซินครับ ใบ สัญญาต้นฉบับที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นทั้งหมด รบกวนคุณป้าเอา ให้ฉิงฮัวนะครับ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเอาอะไร มาชนะการฟ้องร้องครั้งนี้

วันต่อมา

รถของเป้หมิงโม่เพิ่งเข้าจอดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของ ตึกเปหมิง เงาคนที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

ฮอนมารอที่ช่องจอดรถประจำของเขาในลานจอดรถเพื่อ

พบเขา

จอดรถเสร็จ เป้หมิง ไม่ลงมาจากรถด้วยความเย็นชา ท่า เหมือนไม่เห็นชอน เดินตรงดิ่งไปยังลิฟต์ทันที

“เดี๋ยวก่อน!” ฮอนรีบตามไปขวางเขาไว้
เห็นเขาเหมือนแต่ก่อน ดูเย็นชาไร้อารมณ์ ใจของเธอรู้สึก เจ็บแปลบขึ้นมา

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เลียนแบบท่าทางเย็นชาของเขา พูดด้วยหน้าตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ “เรื่องยังไม่ทันขึ้นศาล และ ศาลก็ยังไม่ได้ตัดสินอะไร คุณก็ยังไม่มีสิทธิ์เอาตัวหยาง หยางไปนะคุณโม่”

สายตาเย็นชาของเขาสะท้าน ดีมาก เธอเรียกเขาด้วย ความเหินห่างว่าคุณไม่งั้นเหรอ

“คุณคิดว่าคุณอยู่ในระดับที่จะมาต่อรองกับผมได้เหรอ หรือคุณคิดว่าหยินฝันมีความสามารถที่จะช่วยคุณทวง ลูกชายคืนงั้นเหรอ?” เป้หมิงไม่เม้มปากแล้วแสยะยิ้มออกมา “คุณไร้เดียงสาเกินไปหรือเปล่า คุณกู้”

คำว่า “คุณ” เหมือนถูกของแหลมทิ่มแทงเข้าไปในใจ

แววตาเธอหม่นหมองลง จากนั้นก็หันมองลึกเข้าไปยัง นัยน์ตาเขา “เรื่องการฟ้องร้องก็เริ่มต้นมาจากคุณนั่นแหละ ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะไม่ยอมเสียสิทธิ์เลี้ยงดูหยางหยางหรอก และคุณเองก็มีเฉิงเฉิงอยู่แล้ว

แล้วยังไง ถ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผมแล้ว ผมไม่มีทาง ปล่อยให้ไปที่อื่นเด็ดขาด ตอนนั้นที่คุณขโมยลูกผมไป คุณ ก็น่าจะรู้แล้วว่ามันต้องมีวันนี้” น้ำเสียงของเขาเรียบเฉย เหมือนกำลังต่อรองธุรกิจ
พูดจบ เขาก็เดินเลยไป

ใบหน้าของเธอขาวซีด กัดริมฝีปากแน่น พลางรีบวิ่งตาม ไป “แล้วคุณจะเอายังไงถึงจะยอมปล่อยฉันกับหยางหยาง ไป? ยังไงซะคุณก็ไม่ชอบเด็กอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอ”

ทันใดนั้น ขาของเขาก็หยุดก้าวซะงัก

เธอเกือบจะชนเข้ากับแผ่นหลังของเขา ดีที่หยุดไว้ทัน

เขายักคิ้วหันมองเธออย่างพิจารณา “ผมไม่ชอบเด็ก ก็ไม่ ได้หมายความว่าผมไม่ต้องการพวกเขา ความชอบกับการ ครอบครอง มันไม่ใช่เรื่องเดียวกันสักหน่อย

ครอบครองงั้นเหรอ?

เขากล้าพูดออกมาว่ากับลูกเป็นแค่การได้ครอบครองนั้น

เหรอ!

“เป้หมิง โม่” เขาทำให้เธอโกรธ “เฉิงเฉิงอยู่กับคุณก็ไม่มี ความสุขไปคนหนึ่งแล้ว คุณยังจะมาพรากวัยเยาว์ของหยาง หยางไปอีกเหรอ? คุณนิสัยพิลึกพิลั่นก็ว่าแย่แล้ว ทำไมยังจะ ต้องทําให้ลูกเหมือนคุณอีกฮะ”

“นิสัยพิลึกพิลั่นงั้นเหรอ” ประกายประหลาดฉายวาบใน แววตา เขาหรี่ตาลง มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความเย็นชา

“อย่ามาคิดที่จะท้าทายกับขีดความอดทนของผมนะอะไรไหมกู้ฮอน ผมไม่ได้รู้สึกดีใจขึ้นมาเลยที่รู้ว่าคุณเป็นแม่ ของลูกชายผม ก็แค่รู้สึกอยากขากับเรื่องโง่ๆที่ผมเคยทำให้ กับคุณมากกว่า เพื่อลูกแล้วคุณต้องมาเข้าใกล้คนที่ปากคุณ พูดปาวๆว่าเป็นคนแย่ เหลี่ยมจัด ทุเรศ คุณคงจะขยะแขยง มากเลยสินะ”

แน่นอนว่าตอนนี้พอผมคิดย้อนกลับไป คำพูดที่ว่าอยาก ดูแลคุณ เป็นห่วงคุณ อยากมีอะไรกับคุณพวกนั้น ก็รู้สึกขยะ แขยงมากๆเช่นกัน ผมคิดไปได้ยังไงว่าผู้หญิงที่สามารถอุ้ม บุญให้ผู้ชายคนหนึ่งได้ เธอจะยอมเป็นผู้หญิงของผมเพียง แค่คนเดียว เธอคงอยากได้แค่เงินถึงจะถูกสินะ และผมก็ให้ เธอตามใจเธอทุกอย่าง เหลือก็แต่เงินที่ไม่เคยให้เธอ

ผมเองก็ไม่ได้มีความยินดี ที่อยู่ดีๆก็ได้ลูกชายเพิ่มมาอีก คนหรอกนะ ก็เหมือนกับที่คุณพูดว่าคนอย่างผมมันไม่รัก เด็ก จะหนึ่งคน สองคนหรือจะอีกสักกี่คน สำหรับผมแล้วมัน ก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ผมก็ต้องการที่จะให้ลูกเป็น เหมือนผม โตมาแบบไม่มีความสุขนี่ล่ะ!!”

ตาเธอหรี่ลง ถ้อยคำของเขามันเหมือนมืดน้ำแข็งที่ แหลมคม ค่อยๆกรีดเฉือนหัวใจเธอทีละแผล ทีละแผล

เธอยิ้มอย่างเย็นชา ที่ผ่านมาฉันทำให้คุณขยะแขยง ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วคุณล่ะ คุณจะหาคนมาอุ้มบุญไม่ใช่เห รอ คุณถือดียังไงมาว่าผู้หญิงที่ช่วยคุณอุ้มบุญเสียๆหายๆ แล้วพูดเอาดีเข้าตัวแบบนี้ เป้หมิงโม่ คุณมันสองมาตรฐานคุณมันดูถูกดูแคลนผู้หญิงอย่างฉันเข้ากระดูกดำ ไม่ว่า อย่างไรก็ตาม ฉันจะไม่มีทางปล่อยหยางหยาง ฉันต้องการ หยางหยาง แค่หยางหยาง”

แววตาล้ำลึกทอประกายแสงที่เย็นเยือก ริมฝีปากบางเชิด “งั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูไปเถอะ ให้หยินฝันของคุณโชว์ของ ออกมาให้หมดล่ะ อย่าให้ผมได้หัวเราะเยาะทีหลังก็แล้วกัน”

สิ้นเสียง เขาก็เร่งฝีเท้ารีบเดินก้าวเข้าลิฟต์ไปทันที ฮอนมองตามแผ่นหลังเขา น้ำตาร่วงเผลาะ

ระหว่างเขาสองคน…..เดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกันนะ

ตอนกลางคืน

ในบาร์เหล้า มีคนดื่มจนเมาอีกแล้ว

ป่ายมนั่งอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ค่อยๆเช็ดขวดเหล้า ราคาแพงอย่างใจเย็น

อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งจะมีเรื่องต่อยกับเป้หมิงโม่ แผลฟกช้ำ ของเขายังไม่หายดี

สายตาเหลือบผ่านไปเห็นผู้ชายที่กำลังดื่มอย่างบ้าคลั่ง ป่ายซีก็ทนนั่งต่อไปไม่ไหว กำลังจะเดินไป…

“นี่นี่ ไอ้ป่าย แกหยุดเลยนะ หยุดเลย” หยุนเพิ่งรีบไปห้ามป่ายมู่ไว้

“ซูเอ้อ มันอยากจะโดนอีกหมัดหรือไงกัน รู้ทั้งรู้ว่าฉันยัง โกรธอยู่ ยังจะมาดื่มเหล้าที่ร้านของฉันอีก

“เอาน่า เอาน่า นายก็คิดซะว่าฮอร์โมนของเขาแปรปรวน

แล้วกัน เห็นใจหน่อยเถอะนะ”

หยุนเพิ่งปรามเพื่อนป่ายเสร็จก็ให้เขาไปอยู่อีกฝั่ง แล้ว ค่อยๆนั่งลงข้างๆ เปามิงโม่ พลางหยิบเหล้าแก้วหนึ่งขึ้น

กระดก—

“ห.. ห..หมม.. เหล้าแรงขนาดนี้เลยเหรอ?”

ดื่มได้เพียงสองกริ๊บ ซูหยุนเฟิงก็ทนไม่ไหวแล้ว แต่เป็นมิ่ง ไม่กลับกระดกหมดขวด หยุนเพิ่งถอนหายใจ พลางตบไหล่เปหมิงเอ้อ “ฉันว่านะ

เหมิงเอ้อ เรื่องของนายฉันก็ได้ยินมาบ้างแล้วล่ะ แต่ยังไง ซะ ก่อนอื่นก็ต้องยินดีกับนายด้วย ที่เจอลูกที่พลัดพรากกัน หลายปีแล้ว…….

ปัง!!!

แก้วเหล้าถูกวางกระแทกกับเคาน์เตอร์บาร์เสียงดัง

ใบหน้านิ่งของเปามิงโม่ที่กำลังเมาได้ที่หันกลับมามอง ดวงตาสวยงามมองขวางมายังหยุนเฟิง “ยินดี นายอุตส่าห์ มายินดีฉันงั้นเหรอ นายรู้ไหมว่าฉันกลุ้มจะตายอยู่แล้ว
ซูหยุนเฟิงถือแก้วเหล้า ยักๆไหล่แล้วยิ้มๆ “นายกลุ่มอะไร กันฮะ คราวก่อนที่นายแอดมิดเข้าโรงพยาบาล นายก็รู้แล้ว ว่าความรักคืออะไร เป็นแบบนี้หรือคราวนี้จะให้พี่ชายคนนี้ สอนนายว่าอะไรคือความรักแบบครอบครัว

พอพูดถึงทฤษฎีความรักที่น่าสยองของซูหยุนเพิ่งคราว ก่อน หน้าของเป้หมิงโม่ก็รู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา

“ไสหัวไป พูดแต่เรื่องไร้สาระอยู่ได้

“ฮ่าๆ อย่าเพิ่งไล่สิ หรือว่าหลายเดือนนี้ฮอนชอนไม่ได้รับ ไฟราคะ) ในตัว ให้นายเลยเหรอ ไฟราคะ) ในตัวนายมันเลย แผดเผาตัวนายอยู่ล่ะสิ” หยุนเฟิงยักคิ้วหลิ่วตา พูดอย่าง เจ้าเล่ห์ “แต่จะว่าไป คิดไม่ถึงเหมือนกันนะว่าฮอนฮอนจะเป็น แม่ของลูกนาย ไม่แปลกใจเลยที่เธอไม่ยอมรับรักฉัน…

สายตาเปหญิงโม่ดุดันขึ้น คว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดูกอีก รอบ พูดออกมาอย่างรำคาญ “อย่ามาพูดถึงพูดหญิงคนนั้น ให้ฉันได้ยินอีก

หยุนเฟิงเม้มปาก “เฮ้อ นายนี่ก็แปลกนะ ถ้าเป็นผู้ชายคน อื่น เขามารู้ว่าผู้หญิงที่ชอบก็คือแม่ของลูกตัวเองแล้วล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะดีใจแค่ไหน รีบพาตบแต่งเข้าบ้านเป็นเรื่องเป็นราว ไปแล้ว ใครจะไปเหมือนนาย มานั่งอมทุกข์ยังกับพ่อเสีย เอ่อ อ…ว่าแต่ฉันไม่ได้แช่งคุณท่านเปหมิงหรอกนะ….

เป้หมิง โม่ขมวดคิ้วครุ่นคิดนาน แล้วจึงกระดกเหล้าต่ออีกหนึ่งกริ๊บ “ซูเอ๋อ ฉันแคร์ ฉันแคร์เรื่องนี้มากๆเลย

“ยังไง แคร์ที่เธอหลอกนายเหรอ? หรือแคร์ อุ้มบุญให้นาย?” ที่เธอเป็นคนที่ หน้าตาที่ปกติไม่ค่อยสบอารมณ์ของเหมิงไม่ ตอนนี้เริ่มแดงเพราะความเมา นานๆทีจะเผยอารมณ์ออกมา

ตอนนี้เขาทำให้คนที่เห็นเริ่มเป็นห่วงและทุกข์ใจตาม……

หยุนเฟิงถอนหายใจ มือจับบนไหล่ของเป้หมิง โม่ “พวก เราเป็นเหมือนพี่น้องกัน เข้าใจนะว่าถูกผู้หญิงหลอกลวงมัน รู้สึกแย่ ยิ่งคิดว่าถ้าเป็นลูกหลานที่ไปอุ้มบุญเพราะต้องการ เงิน ในใจก็คงยิ่งปวดร้าว แล้วแกไอ้เหมิงเอ๋อ เป็นพวกรัก สะอาดมากด้วย นายก็คงยิ่งแคร่ไปใหญ่ แต่นายบ้าไปแล้ว เหรอ ฮอนฮอนเธออุ้มบุญให้คนนั้นก็คือนายนะ เจ้าโง่เอ๊ย”

” คิ้วโค้งเรียวของเป๊หญิงโม่ขมวดติดกันแน่น แกว่งแก้วเหล้าในมือ “แล้วถ้าไม่ใช่ฉันล่ะ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะ เธอก็จะทำเหมือนกันหรือเปล่า ถ้าหากว่าเป็น…เปหญิงเฟิง ล่ะ หรือว่าเป็นหยินฝันล่ะ”

“ถ้าเป็นเป้หมิงเฟิงคงยอมแน่ๆ…

..………..” สายตาของชายบางคนเหมือนมีดบินออกไป

“เอ่ออ ฮ่าฮ่า ฉันคงพูดเกินจริงไปใช่ไหม ก็เหมิงเฟิง เป็นรักแรกของเธอนี่ แถมหน้ายังดูขาวหล่อเหมือนตุ๊กตา ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะตอนนั้นเพิ่งจนล่ะก็ นายคิดเหรอว่าจะมีใคร มาชอบคนที่ดูเหมือนลุงอย่างนาย

“ซูเอ้อ!” ชายบางคนเตือนอย่างเปิดเผยและชัดเจน

“เอ่อ.. คือว่า ฉันได้ยินมาผ่านๆนะว่าไอ้หยินฝันเนี่ย มัน เป็นลูกที่อกตัญญูต่อพ่อหยินเฉินเหยา แน่นอนว่ารวยก็สู้นาย ไม่ได้ แต่เขาดีกว่าตรงที่เป็นคนปากหวาน อ่อนโยน ดึงดูดผู้ หญิงได้ดีกว่านาย นายมันปากร้ายคำพูดพ่นพิษได้ นาย มัน…

“หยุนเฟิง! ชายบางคนกำลังจะหมดความอดทนลงแล้ว

“พอล่ะ เรากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ตอนนี้ความจริงก็คือ นาย คุณชายรองตระกูลเปหมิงที่โชคดีได้เป็นผู้ชนะแล้ว นาย ยังจะต้องกังวลอะไรอีกมิทราบ

“เธอรู้ทั้งรู้ว่าเป็นแม่ของลูกผม ก็ไม่ควรที่จะหนีตามเป็น มิงยี่เฟิงไปนี่”

“อืม ป้ารองพาหลานชายหนีเหรอ ฟังยังไงก็ดูไม่เข้า

“ซูหยุนเฟิง วันนี้นายมาที่นี่เพื่อจะแซะฉันใช่ไหมฮะ” ชาย

บางคนเริ่มฉุน

“ฮ่าฮ่า อย่าโกรธเลยนะ อย่าโกรธเลย ….” ซูหยุนเฟิง ปลอบไปยิ้มไป “นายต้องเข้าใจว่าเธอเจอหลานนายก่อนแล้วถึงจะมาเจอลุงรองอย่างนาย นายเป็นพวกที่มาทีหลังแต่ ได้กินไก่ก่อน”

คำว่า ‘ไก่’นั้น หยุนเพิ่งพูดได้กำกวมมาก ถึงกลับโดน กลอกตาใส่ทันที

“ชายบางคนนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาบึง ขึ้นมา “ซูเอ้อ นายไม่เข้าใจ….

“ยังจะต้องเข้าใจอะไรอีกล่ะ” หยุนเพิ่งกลอกตามองบน “ไม่รู้ว่าเส้นประสาทเส้นไหนของนายมีปัญหาหรือยังไง ถึง กับต้องไปฟ้องร้องเพื่อแย่งลูก ความโกรธมันบังอยู่หรือยัง ไง? ถึงขั้นต้องแย่งชิงกันเลยเหรอ นายต้องการลูก ก็รับผู้ หญิงมาอยู่พร้อมกันด้วยเลย แฮปปี้เอ็นดิ้ง”

แฮปปี้เอ็นดิ้งไปคนเดียวเลยไป ฉันไม่แฮปด้วย เข้าใจ ไหม!” เป้หมิงโม่พูดจบก็กระดกเหล้าอีกกรบหนึ่ง

ซูหยุนเพิ่งถอนหายใจพลางส่ายหน้า ยกแก้วขึ้นมาชนกับ เขา “หรือว่านายยังติดอยู่กับเรื่องราวในอดีตนั้นเหรอ ก็ เหมือนกับเพลง แสงจันทร์สีขาวที่ฮอนชอนเลยร้องนั่นแหละ ลึกๆแล้วในใจของทุกๆคนย่อมมีแสงจันทร์สีขาว (คนที่รักแต่ ไม่สามารถอยู่ด้วยกัน และไม่มีวันลืม)ด้วยกันทั้งนั้น แต่เป็น มึงเอ้อ มันผ่านมาเป็นสิบปีแล้ว นายควรเรียนรู้ที่จะปล่อย วางได้แล้วนะ….”

เปหนึ่งโมดื่มแก้เซ็งอีกแก้ว
ชั่วขณะหนึ่ง

เขาครุ่นคิดพลางค่อยๆส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าฉันปล่อยวาง ไม่ได้ อย่างที่นายบอก ผ่านมาสิบปีแล้ว ก็รู้อยู่แล้วว่าอะไร ใช่อะไรไม่ใช่ แต่ก่อนหน้านี้ฉันกลับยังจินตนาการว่าเจอ เธอ…. ซูเอ้อ นายรู้ไหม ฉันยอมทำเป็นว่าฉันอยู่สเปนไม่เคย กลับมาที่นี่ ฉันยอมทำเป็นเหมือนว่าตัวเองไม่เคยพบเจ อฮอนมาก่อน แบบนี้ชีวิตที่เคยสงบสุขของฉันคงจะไม่ วุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมดเหมือนอย่างทุกวันนี้

ซูหยุนเพิ่งพยักหน้ารับรู้ เข้าใจนะเพื่อน ความวุ่นวายที่ ควบคุมไม่ได้นะ ฉันเองก็เคยเจอ ก็เหมือนที่นายเคยชินกับ ชีวิตที่สงบสุขของนายนั่นแหละ เคยชินกับการควบคุม สถานการณ์ทุกอย่างได้ พอมันเกินความคาดหมาย ไม่ได้อยู่ ในการควบคุมของเราแล้ว นายก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะ ทำยังไง เริ่มจากตรงไหนก่อน มันผิดแผนไปหมด… พวกนี้ ฉันเข้าใจหมด…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ