เดิมพันรักยัยตัวแสบ

ตอนที่ 270 ไฟไหม้กัน



ตอนที่ 270 ไฟไหม้กัน

สายตาอ่อนโยนของฮอน หลังจากกลับมาจากออสเตรเลีย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับลูกชายสุดที่รักทั้งสองของ เธอ เพียงแค่คิดก็กลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่อยู่แล้ว

และตอนที่หยางหยางกำลังจะวิ่งมาสู่อ้อมกอดของเธอนั้น เป้หมิง โม่ก็ขัดขืนมาด้วยความเย็นชา

“ฉิงฮัว ไปจับเด็กทรยศสองคนนั้นกลับมาให้ฉัน

ยังไงซะเด็กสองคนนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะสู้กับฉิงตัวได้อยู่ แล้ว ดิ้นไม่กี่ทีก็ถูกจับไปอยู่ข้างกายพ่อของพวกเขา

กู้ฮอนคิ้วตก สีหน้าแสดงถึงความผิดหวัง

หยินฝันเซตปากพลางประชด “เอ๊ะ คุณชายรองตระกูล เป้หมิงยังจะต้องขึ้นศาลเพื่อแย่งลูกอีกเหรอ ผมว่าจับเด็ก สองคนไปมัดไว้ก็เรียบร้อยแล้ว ก็เหมือนกับแย่งไปเหมือน กัน”

เป้หมิง โม่กวาดสายมองหยินฝันและกู้ฮอน “ฉันจะทำ อะไรมันก็เรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับนายด้วย แล้วอีกอย่าง นะ ก่อนที่จะขึ้นศาลทั้งโจทย์และจำเลยก็ควรจะอยู่ห่างกันทั้ง สองฝ่าย พวกนายมากะทันหันแบบนี้ มันเหมือนจะผิด กฎหมายหรือเปล่านะ”
“หืออ คุณชายรองตระกูลเปหมิงคุยกฎหมายกับผมเหรอ ก็ไม่รู้ว่าคุณชายรองตระกูลเหมิงรู้หรือไม่ว่า ถ้าสร้างหลัก ฐานเท็จขึ้นมา ก็ถูกจับติดคุกได้เหมือนกันนะครับ

“หึ” เป้หมิงโม่แสยะยิ้ม “นอกเสียจากว่าเด็กสองคนนี้ ไม่ใช่ลูกชายฉัน นายถึงจะฟ้องว่าฉันสร้างหลักฐานเท็จได้

“เป้หมิง โม่ นายไม่ต้องมาเบ่ง ฉันจะบอกอะไรให้นะลูก ฮอนฮอนเองก็มีสิทธิ์ ไม่ใช่นายที่จะครอบครองได้แค่คน เดียวหรอก!”

“…” เป้หมิงโม่แสยะยิ้ม “เพื่อเด็กที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข ของนาย นายกลับทุ่มเททั้งกายและใจ ทำไมเหรอ ถ้านาย ชอบ ทำไมไม่ไปมีลูกกับผู้หญิงคนนี้เองเลยล่ะ จะมาแย่งกับ ฉันทําไมกัน

“ไอ้เปี่หมิง ไม่แก

“ฝัน” กู้ฮอนพูดเสียงเรียบขัดหยินฝันที่กำหมัดไว้แน่น

แล้ว

ถึงยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเปามิงโม่จะพูดออกมาว่า ให้เธอไปมี ลูกกับหยินฝัน ซึ่งเป็นคำพูดที่เลือดเย็นได้ขนาดนี้

ฮอนสูดหายใจเข้าลึก ตาแวววาวเป็นประกาย

“คุณเปหมิง โม่พูดถูก ฉันกับฝันเราสามารถมีลูกกันได้ อีกหลายคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องประเคนหยางหยางให้คุณ คุณสามารถถ่ายทำภาพความสัมพันธ์ ระหว่างพ่อลูกของคุณ ฉันก็สามารถถ่ายความสัมพันธ์ ระหว่างฉันกับลูกได้เหมือนกัน”

พูดจบ ไม่สนใจว่าเป้หญิงโม่จะโกรธหน้าดำหน้าแดงเพียง ไหน เธอตัดสินใจหันหลังกลับ ดึงแขนหยินฝัน แล้วไปกาง

ท้องฟ้า ในบรรยากาศที่อึมครึมแบบนี้ ค่อยๆมืดลง

ทีมช่างภาพโดนเป้หมิงไม่ไล่กลับไปอีกฝั่ง

แล้วฝั่งนี้ก็มีเต็นท์อยู่ห้าหลังฝั่งหนึ่งสามหลัง อีกฝั่งหนึ่ง สองหลัง

ในค่ำคืนอันมืดมิดนี้ มีแสงจากกองไฟสองกอง

กองแรกหยินฝันและฮอนชอนเริ่ม ตั้งแคมป์วิธีเดิม โดย การใช้ถ่านก่อเตา แถมยังทำที่ย่างเนื้อได้ออกมาดูดีอีกด้วย

กลิ่นหอมเย้ายวนของกลิ่นปีกไก่ย่างค่อยๆล่องลอยไป จน ไปเตะเข้าที่จมูกหยางหยาง……

อีกฝั่ง ฉิงฮัวใช้แก๊สกระป๋องจุดเตาแบบสมัยใหม่

และเตาแก๊สเล็กนี้ก็ทำได้เพียงแค่อุ่นอาหารเท่านั้น ไม่ สามารถย่างอาหารอะไรได้ เพราะอาหารแช่แข็งนำเข้าพวกนั้น เปิดห่อก็สามารถกินได้เลย ไม่จำเป็นต้องย่าง

สายตาหยางหยางชะเง้อมองไปทางฝั่งของแม่ที่มือถือปีก ไก่ย่างอยู่ แล้วก็กลืนน้ำลายอีก อีก “โอ้โห… ปีกไก่ ย่าง…อยากกินจังเลย…..

“เป้หมิงหยาง ถ้าแกกล้าออกไปจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว ฉันจะสั่งให้คนไปกว้านซื้อปีกไก่ทั่วเมือง ต่อไปให้แกหาซื้อ ไม่ได้อยากกินก็ไม่ได้กิน” คนรวยอย่างคุณชายรองตระกูล เป้หมิงซะอย่าง พูดได้ทำได้อยู่แล้ว

“อ่ออ…. ” หยางหยางเบะปาก นี่มันก็เหมือนกับว่าเพื่อกิน ปีกไก่ย่างไม้หนึ่งต้องยอมแลกกับหมื่นๆแสนๆไม้ปีกไก่ย่าง เลยเหรอ เหมือนกับที่อาสามพูดว่า เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งต้อง ยอมปล่อยผู้หญิงทั้งโลก มันแต่งต่างกันหรือเปล่านะ เป็นการเลือกที่ลังเลจริงๆ….

เฉิงเฉิงลูบท้องเพราะเริ่มรู้สึกหิว ได้ยินพ่อพูดแบบนี้ ก็ได้ แต่ทน ม าแทน….

จึงตัวมองดูพ่อตาขวางใส่ลูกสองคน ก็กลอกตาบนอย่าง ไม่ได้ตั้งใจ เพราะขนาดผู้ชายอย่างเขายังเกือบจะทน กับกลิ่นยวนเย้าของปีกไก่ย่างไม่ไหว แล้วกับคุณชายน้อยทั้ง สองล่ะ”

อยู่ดีๆ ไม่รู้เสียงท้องร้องของใคร ก็ดังขึ้น
ช็อก จ๊อกก…

เฉิงเฉิงและหยางหยางมองหน้าพ่อนิสัยเสียของพวกเขา พร้อมกันโดยบังเอิญ

เป้หมิง ไม่หน้าเสีย ปากถึง “มองอะไรหะ ง่วงก็ไปนอนไป นัยน์ตาเป้หมิง โม่เลิกลักไปชั่วครู่ ตีให้ตายเขาก็ไม่ยอมรับ

ว่าเป็นเขา ที่แม้จะหิวแล้วก็ตาม

เหมือนกลัวว่าจะถูกเด็กๆมองออกว่าเขาหิวโหย เป้หมิง โม่พูดแก้เก้อจบ เขาก็รีบหมุนตัวเข้าไปในเต็นท์ของตัวเอง แล้วรูดซิป ขังตัวเองอยู่ภายในเต็นท์……

เฉิงเฉิงและหยางหยางมองหน้ากัน

จึงตัวยังคงทําตามหน้าที่ดูแลอยู่ข้างๆ

กู้ฮอนเห็นแบบนั้น เธอค่อยๆถือปีกไก่โบกไปมา ใช้ปาก พูดโดยไร้เสียง

“รีบมาหาแม่ทางนี้…

เด็กสองคนเริ่มถูกดึงดูด กำลังจะลุกขึ้น กลับถูกเสียงพ่อ นิสัยเสียในเต็นท์ขัดขืน

ถึงตัว เด็กสองคนนั้น ถ้ามีใครกล้าไปอีกฝั่ง พรุ่งนี้นายก

ไม่ต้องมาทํางานแล้ว

จึงตัวรับค่าด้วยความซื่อสัตย์ “ครับ เจ้านาย
เด็กสองคนห่อเหี่ยวเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลม หมด

สภาพอยู่บนเสื่อ…..

โอ้แม่เจ้า หิวจังหิวจัง….

สองฝั่งต่างก็ไม่มีใครยอมใคร

เด็กสองคนท้ายที่สุด หลังจากถูกฉิงตัวติงไม่คาดสายตา

ก็เขาไปในเต็นท์ของพวกเขา

ฮอนพอเห็นเด็กๆเข้าไปในเต็นท์แล้ว เธอก็ทนง่วงไม่ไหว กลับเข้าเต็นท์ไปพักบ้าง

หยืนฝันก็กลับไปพักผ่อนในเต็นท์ของเขาเอง

เหลือแค่ฉิงฮัวคนเดียว ที่ยังคงเฝ้ายาม

คําคืนอันมืดมิด

เฉิงเฉิงผล็อยหลับไปเงียบๆ

หยางหยางสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยความหิว

ลูบๆคลำๆ กระเป๋าเข้าค่าย เจอไม้ขีดไฟกล่องหนึ่ง พร่าง

พกับตัวเองเบาๆ

เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟบอกว่า จุดไฟไม้หนึ่ง ก็จะมีไก่ย่างตัวหนึ่งปรากฏขึ้น…

ขาว ไม้ขีดไฟก้านหนึ่งจุดไฟติด

หยางหยางมองไปรอบๆเต็นท์ “แปลกจัง ทามมายฉันมอง

ไม่เห็นล่ะ หิวจังเลย ลองอีกสักก้านดีกว่า….

ชาว ไม้ขีดไฟอีกด้านหนึ่งจุดไฟติด

ก็ยังมองไม่เห็น………………………..

ชวา ชาว ชาว วว…. หยางหยางไม่รู้ว่าจุดไปมากเท่า ไหร่แล้ว เขาหิวจนเขาอยากร้องไห้ออกมา

“โอยย…อย่าว่าแต่ไก่ย่างเลย แค่ขนไก่สักเส้นก็ไม่เห็น เลย… หิวจังเลย…

หยางหยางไม่รู้เลยว่าเขาจุดไม้ขีดไฟไปที่บ้านแล้ว……..

หลังจากที่จุดไม้ขีดไฟก้านสุดท้าย ก็ยังคงมองไม่เห็นไก่ ย่างตามที่เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟบอกนั้น ความหวังสุดท้าย ของหยางหยางก็ดับลงไปพร้อมกับไฟที่ค่อยๆหมอดของไม้ ขีดไฟ

“ฮี เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟขี้โกหก นิทานเด็กหลอกลวง ทั้งเพ” หยางหยางถอดใจเบาๆเสร็จ ก็กลับไปเอาผ้าคลุม หัวนอนต่ออย่างหงุดหงิด

ในเต็นท์เงียบลงอีกครั้ง
เงียบจนได้ยินเสียงนกเสียงหนอนในป่า

เสียงลมพัดต้นไม้ใบไม้กระทบกัน…

ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน…

เฉิงเฉิงหิวจนไร้เรี่ยวแรง สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เหมือนได้ กลิ่นไหม้แปลกๆ…….

เขาเริ่มรู้ตัวแล้วไปเขย่าน้องชายที่นอนข้างๆ “หยาง หยาง…นายได้กลิ่นไหม..

“หืออ..” หยางหยางหิวจนไม่อยากจะขยับตัว สูดลม หายใจเข้าลึกๆ นึกเอะใจ “กลิ่นปิ้งย่าง

“นั่นสิ หรือพวกเรากำลังฝันไป” เฉิงเฉิงนอนขมวดคิ้ว

“งั้นก็คงเป็นฝันดี…..ในฝันฉันจะกินปีกไก่ย่าง ขาหมูย่าง …เอ๊ะ ทามมายกันรู้สึกร้อนๆล่ะ” หยางหยางเม้มปาก เริ่ม รู้สึกตัวเอามือไปลูบที่กัน

อร๊ายย เสียงร้องแหลมดังลั่นเสมือนฟ้าค่ำคืนนี้ จะถล่ม “ร้อน..ร้อน..ร้อน….

เฉิงเฉิงตกใจลืมตาตื่น เห็นหยางหยางกระโดดโหยงขึ้น มาเหมือนถูกไฟไหม้กันซะอย่างนั้น

เขาขยี้ตามอง คราวนี้เห็นชัดว่ากันของหยางหยางโดนไฟ ใหม้เป็นวง ยังมีเปลวไฟแดงๆติดอยู่…….
ชะงักไปสักครู่เฉิงเฉิงก็ได้สติพลางตะโกนลั่น “ไฟไหม้แล้ว ไฟไหม….

“โอ้ยย แสบจะตายอยู่แล้วล่า… เองเบาๆ ” หยางหยางตบกันตัว

ฉิงตัววิ่งเข้ามาในเต็นท์เป็นคนแรก

ต่อมา เป้หมิงไม่พยายามยัดร่างใหญ่ของเขาเข้ามาใน

เต็นท์

ชั่วขณะที่เขาเห็นไฟลุกไหม้ที่ก้นหยางหยางนั้น เขารีบคว้า ตัวหยางหยางแล้วตบไปที่ก้นหยางหยางมือเปล่า โดยไม่ได้ ป้องกันอะไรทั้งนั้น จากนั้นก็รีบถอดกางเกงหยางหยางออก กลิ่นควันไหม้สมเป็นกองลอยเข้าจมูก

ฮอนและหยินฝันได้ยินเสียงก็รีบตามมา

เห็นภาพไฟไหม้ก้นลูกตัวเอง ฮอนหัวใจแทบจะหยุดเต้น เป้หมิงไม่ดับไฟให้หยางหยางด้วยความรวดเร็ว

ฉิงฮัวรีบอุ้มเฉิงเฉิงออกจากเต็นท์ เฉิงเฉิงหน้าซีดเซียว คงจะตกใจน่าดู

ตอนที่หยางหยางเห็นหน้าแม่ ทั้งหิวทั้งเจ็บแถมยังตกใจ นํ้าตาไหลพรากทันที

“อืออ..ฮืออ..แม่ครับ เจ็บจังเลย….
ฮอนใจเหมือนถูกแทง รีบไปคว้าหยางหยางจากเหง ไม่มากอด ปลอบลูกใจแทบจะสลาย “หยางหยางไม่ต้อง กลัวนะ แม่อยู่นี่แล้ว.. แม่อยู่แล้ว…

ต่อมา เธอลูบไปที่ก้นของหยางหยาง พบว่าเริ่มเป็นแผล พุพอง พลางพูดกับฝัน ฝัน พวกเรารีบพาหยางหยางไป ทำแผลที่โรงพยาบาลกันเถอะ”

หยินฝันรีบเก็บโทรศัพท์มือถือ เป้หมิงไม่ช่วยหยางหยาง ดับไฟช่วงนั้นเขาได้อัดวิดีโอเอาไว้หมดแล้ว “ได้ ฉันจะรีบไป เอากุญแจรถ

เป้หมิงโม่ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่หนึ่ง เขาไม่ทันพูดอะไรก็ แย่งหยางหยางมาจากอ้อมกอดกู้ฮอน แล้วเอ่ยขึ้นประโยค หนึ่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลูกชายเป็นของผม ถ้าจะไปโรง พยาบาลก็ต้องเป็นผมที่ไปส่ง

เขาหันหลังแล้วตรงไปที่รถทันที

ฉิงตัวอุ้มเฉิงเฉิงรีบวิ่งตามไป

“เป้หมิงโม่ คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณยังทำให้ลูกเจ็บไม่ พอเหรอ” ฮอนตะโกนตามหลังเขา

คําตอบที่เธอได้รับ กลับเป็นอากาศที่เยือกเย็น……..

โรงพยาบาลกลางใจเมืองA
โชคดีที่แผลไฟไหม้ของหยางหยางไม่ได้ถูกไหม้หนัก นอน พักไม่กี่วัน รอผิวหนังฟื้นตัวใหม่ ก็จะกลับมาโลดโผนเหมือน ตกแตนตัวน้อยได้แล้วล่ะ

ฮอนนั่งรถตามมากับหยินฝัน พอได้ยินข่าวนี้ก็ถึงกับ โล่งใจ

แต่เป็นเพราะว่าเด็กทั้งสองหิวจนเวียนหัว คุณหมอเลยให้ เด็กทั้งสองนอนให้วิตามินคนละขวดก่อน วุ่นวายกันทั้งคืน ในที่สุดก็หลับลงอีกครั้ง

เป้หมิงไม่ออกไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงห้องพักคนไข้VIP

หยินฝันอยู่อีกฝั่งของระเบียงห้องรอฮอนเงียบๆ

ชายสองคนต่างก็มีเรื่องในใจ

เพราะหยางหยางเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บเนื่องจากไฟไหม้ เป็นเหตุให้ตอนแรกบรรยากาศที่ไม่สู้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแย่ เข้าไปใหญ่

หยืนฝันหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดคลิปที่ถ่าย ไว้เมื่อครู่ เดินไปหาเป้หญิงไม่

“เป้หมิง โม่ เป็นเพราะนายสะเพร่า หยางหยางถึงได้รับ อุบัติเหตุไฟไหม้บาดเจ็บ ถ้าหากคลิปนี้ถูกเปิดเผยในศาล แล้วล่ะก็ เชื่อว่าภาพลักษณ์ของนายที่มีต่อผู้พิพากษาและ คณะลูกขุนจะต้องถูกหักคะแนนไปเยอะแน่ๆ”
เป้หมิงไม่มองขวางหยินฝันไปที่หนึ่ง ไม่สนใจหันไปสูบ บุหรี่ต่อ คิดครู่หนึ่งแล้วจึงพูด “ต่อให้นายจะพยายามจับผิด ฉันยังไงก็แล้วแต่ ลูกชาย ฉันต้องได้แน่ๆ

หยินฝันหันมองเป้หมิงไม่นิ่งๆ สายตาแฝงความรำคาญ บางๆ “ท่าที่มั่นใจว่าจะต้องได้ของนายมันดูน่ารำคาญจริงๆ ทำไมนายถึงไม่ถามถึงความสมัครใจของลูกๆนายบ้าง ไม่ ถามดูล่ะว่าลูกอยากอยู่กับใคร?”

เป้หญิงโม่นัยน์ตาดำสนิทฉายแสงวาบ น้ำเสียงไร้ซึ่งความ รู้สึก “ฉันเคยมีสิทธิ์ได้เลือกแบบนั้นบ้างหรือเปล่าล่ะ มีใคร เคยถามฉันว่าอยากจะอยู่กับใครไหม ฉันไม่มี พวกเขาก็ต้อง

ไม่มีเหมือนกัน!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ