เดิมพันรักยัยตัวแสบ

ตอนที่ 55 กลุ่มคนไร้สมอง1



ตอนที่ 55 กลุ่มคนไร้สมอง1

ตอนที่ 55 กลุ่มคนไร้สมอง 1

ตลอดเวลาห้าปี ลูกชายของเขาจะเชื่อฟังอย่าง สงบเงียบเหมือนกับเขาไม่มีผิด

แต่ตอนนี้ เด็กคนนี้มุดเข้ามาในอ้อมแขน แล้ว ร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ทั้งน้ำตาและน้ำมูกไหลมากอง รวมกันอยู่บนหน้าของเขาหมด บางครั้งเขาก็เช็ดบน เสื้อผ้าแสนสะอาด จากนั้นก็ร้องไห้ต่อ….

เขากัดฟันแน่น “เป่หมิงซีเฉิง ร้องพอหรือยัง”

นึกไม่ถึงว่า การที่เขาดู จะทำให้เด็กน้อยในแขน ร้องไห้หนักกว่าเดิม “แง.พ่อ…แง…ดุจัง….แง….

เส้นเลือดของเป็หมิงโม่เริ่มปูดขึ้น จ้องเด็กน้อยผม ยุ่งเหมือนรังนกในอ้อมแขน ไม่รู้ทำไม เขากลับนึกถึง หัวยุ่งๆเหมือนรังนกของกู้ฮอน….

เหมือนว่า เธอกับลูกชายของเขามีดวงตาที่ใสเป็น ประกายเหมือนกัน

เขาอดที่จะคิดไม่ได้

ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเสียงต่ำ ยื่นแขนแข็งแรง ไปจับร่างเล็กเบาๆ และพูดอย่างเกร็งๆว่า “พอแล้ว ไม่ดุ แล้วก็ได้”
หยางหยางสูดหายใจเข้า เงยหัวขึ้นเล็กน้อย ดวงตาสดใสปนด้วยน้ำตาจ้องมอง ทำแก้มป่อง มอง หน้าเป่หมิงโม่ด้วยความไร้เดียงสา

ในที่สุดเขาก็ได้เจอพ่อแล้ว

กว่าจะถึงวันนี้ เขาเฝ้ารอมาเนิ่นนานมาก พอคิดแล้วก็นึกถึงแม่มากๆ เขารอจนแทบจะรอไม่ไหวต่อไปแล้ว และวันนี้ ในที่สุดเขาก็ได้เจอพ่อสมปรารถนา เขารู้สึกดีใจมากเกินไป เลยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้อย่างหนักออกมา

น่าขายหน้าที่สุดเลย

มือเล็กของหยางหยางยกขึ้นจับแก้มของ เป่หมิง โม่ แล้วตั้งใจมองอย่างละเอียด

ราวกับอยากจะบันทึกท่าทางของเป๋หมิงโม่ไว้ใน ความทรงจำ น้ำเสียงอ่อนโยนของเขา ถามอย่าง กระตือรือร้น “พ่อหรือ คุณเป็นพ่อใช่ไหม เป็นพ่อ ของเฉิงเฉิงใช่ไหม”

เป้หมิงโม่มองลูกชาย คำถามที่ไร้เหตุผลของเด็ก คนนี้ ทำให้เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็พูดไม่ถูกว่า มันแปลกตรงไหน

เขาตอบเสียงหนักแน่น แล้วพยักหน้ายอมรับ จากนั้น เสียงถามลูกชายเสียงต่ำ “ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ หา”

ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ที่เขาเอง ไม่รู้ตัวแม้แต่นิดเดียว

เหมือนว่าเขาไม่ทันสังเกต คำถามแบบเดียวกันนี้ เมื่อคืนเขาก็ถามแบบนี้กับกู้ฮอนที่กำลังร้องไห้เช่นกัน

หยางหยางตกตะลึง “พ่อ ทำไมถึงเพิ่งจะกลับมา ผมรอตั้งนาน ….” เขามองตาของเป่ยหมิงโม่ จนเกือบจะ ร้องไห้แล้ว

หัวเล็กๆคิดว่า พ่อของหยางหยางเป็นพ่อที่อยู่ไม่ ติดบ้านแบบนี้เองหรือ

พอคิดแบบนี้ ปากเล็กของหยางหยางฉีกยิ้มกว้าง อย่างสดใส มือเล็กจับเป่ยหมิงโม่ จากนั้นเสียงเด็กก็ ตะโกนขึ้นอย่างออดอ้อน–

“ไฮ พ่อ จริงๆแล้วผมคิดถึงพ่อมาก…”

ที่จริงหยางหยางอยากพูดว่า คิดถึงพ่อที่อยู่ไม่เคย ติดบ้านจริงๆ พ่ออยู่ข้างนอกสบายดีไหม

เป่ยหมิงโม่ตกใจนิดหน่อย

คนที่นิ่งเงียบอย่างเป่หมิงซิเฉิง เยือกเย็นเหมือน กับเขามาโดยตลอดอย่างเหมิงซีเฉิง ตอนนี้กลับพูด ออกมาว่าคิดถึงพ่อ

เป็หมิงโม่ตะลึงไม่น้อย ห้าปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้ง แรกที่เห็นลูกพูดแบบ….เลี่ยนๆขนาดนี้
ที่น่าแปลกก็คือ เสียงเด็กที่ไร้เดียงสานี้ กลับไม่ ทำให้เขารู้รำคาญเลยสักนิด แต่กลับมีความอบอุ่น เล็กๆที่อธิบายไม่ได้

เหมือนความอบอุ่นไหลเข้าสู่หัวใจที่ว่างเปล่าของ เป็หมิงโม่ทันที เขารู้สึกจุกอยู่ที่คอ ไม่สามารถพูดอะไร ได้

เขาหลุบตาลงมองในอ้อมแขน หัวที่ฟูเหมือนรังนก ลูกชายที่กำลังมองเขาด้วยสายตาบริสุทธิ์

ในสมองมีภาพใบหน้าที่ยิ้มอย่างไม่คิดอะไรขอ งกู้ฮอนลอยเข้ามา

ทันใดนั้น ปลายนิ้วของเขาก็สั่นเบาๆ

เหมือนกับเขาบ้าไปแล้ว

ที่คิดว่ากู้ฮอนคนนั้น เหมือนกับลูกชายของเขา….

*

เบลล่าที่หลบอยู่ตรงมุมไกลๆ แอบจ้องไปอ้อม กอดของพ่อและลูกชายที่แสนประทับใจ มันนอนคว่ำ หน้า ขีดข่วนอยู่บนพื้น โถ่เอ๊ยเฉิงเฉิง ที่แท้จุดอ่อนของ พ่อนายคือน้ำตานี่เอง..

ว่ากันว่า ภาพการกอดและร้องไห้ของพ่อและ ลูกชายของตระกูลเป่ยหมิง สุดท้ายถูกตีพิมพ์ออกมา เพราะหลังคุณชายรองเป่หมิงประสบอุบัติเหตุ เขาก็ เข้าใจถึงความรักเต็มเปี่ยมของคนเป็นพ่อ คุณชาย น้อยเฉิงเฉิงก็รู้สึกเกือบจะสูญเสียพ่อไป ดังนั้น นี่เป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่พ่อกับลูกชายกอดกัน และทลาย กำแพงน้ำแข็งในหัวใจของพวกเขา

และสุดท้ายมันไม่ใช่แค่ถูกเผยแพร่ออกไปเท่านั้น

แต่มันไม่ใช่ความจริง

เป็หมิงโม่เหมือนคนอื่นที่ไหน

คนที่หน้าตาเย็นชาประดุจธารน้ำแข็งอย่างเขา แค่ ลูกชายมากอดและร้องไห้ ความผูกพันของสองพ่อลูก จะคืบหน้าไปเร็วขนาดนั้นได้ยังไง

หลังจากผ่านไปแค่ชั่วพริบตาเดียว เขาก็กลับมา เงียบและเย็นชาเหมือนเดิม

แต่ที่โชคดีก็คือ เป็นหมิงโม่ไม่พูดถึงเรื่องกำจัดเบล ล่าอีกแล้ว ในที่สุดเบลล่าก็มีชีวิตแบบมนุษย์อีกครั้ง ไม่ สิ มีชีวิตใหม่แบบสุนัขต่างหาก

และเมื่อหยางหยางได้พบกับพ่อของเฉิงเฉิง หลัง จากที่เขาตื่นเต้นดีใจ เขาไม่รู้สึกเสียใจอีกแล้ว เขาคิด ว่า ควรจะบอกลาตระกูลเป่ยหมิง กลับออกมาจากเส้น ทางนั้น ถึงเวลาที่จะกลับไปหาแม่แล้ว

แต่ว่า เขาเริ่มมีความลังเลเล็กน้อยที่จะต้องจาก คุณตา คุณยาย และพ่อของเฉิงเฉิงไป ถึงกับไม่อยาก แยกจากกับสุนัขหน้าตาขี้เหร่อย่างเชี่ยตัวนั้น

ในความค่ำคืน แสงไฟเริ่มส่องแสงสว่าง
ตอนที่กู้ฮอนกลับไปถึงเย่หยิงอีพิน ก็เป็นเวลากิน ข้าวเย็นแล้ว

พอเปิดประตูเข้าไป เธอเงยหน้ามอง ตอนนี้เป่หมิง โม่อยู่ในห้องแล้ว

ร่างสูงเอนกายพิงริมระเบียงอย่างขี้เกียจ นิ้วเรียว ยาวถือซิการ์อยู่มวนหนึ่ง เขาสูบและพ่นควันออกมา ควันจางๆลอยหายไป ความเปล่าเปลี่ยวภายใน

ห้อง

ใบหน้าเย็นชา ปรากฏร่องรอยของความเหงา

เธอถอนหายใจอย่างเงียบๆ ผู้ชายคนนี้เกิดมา พร้อมความโกลาหลวุ่นวายก็จริง ถ้าแค่ดูเฉยๆ เขา เหมือนคนที่ไร้วิญญาณมากกว่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ