“คือว่า…..ได้ยินเฉิงเฉิงบอกว่า เขากับหยาง หยางเปิดเรียนแล้ว…..” เธอหาหัวข้อการสนทนา เพื่อที่จะผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดนี้ลง ดวงตาลึกของเขาจ้องมองไปนอกหน้าต่างรถ ตลอดทาง ไม่ได้หันมามองเธอเลย เขานิ่งเงียบ
“แหะ…” เธอหัวเราะอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “ช่วง นี้พวกลูกๆเป็นเด็กดีไหม คิดถึงพวกเขาจริงๆ… กลับไปแล้ว จะทํากับข้าวชุดใหญ่สักมื้อให้พวก เขา”
เขายังคงไม่พูดไม่จา
นี่คงจะเป็นบทสนทนาระหว่างชายหญิงที่แปลก ที่สุดในศตวรรษนี้ ทั้งคู่ไม่ใช่สามีภรรยา แต่ก็มีลูกชายด้วยกันถึง
สองคน
แน่นอนว่า เธอยังซ่อนลูกสาวคนเล็กไว้อีกหนึ่งคน คนเป็นพ่อไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“อ้….สองสามวันก่อน หยางหยางโทรศัพท์มาหา ฉันแล้วบอกว่าอยากไปเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิ ฉัน รับปากว่าถ้ากลับมาที่เมืองAแล้ว จะพาพวกเขา สองพี่น้องไป….แต่ว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะ ออกไปไหนจริงๆ หรือว่าไปรีสอร์ตที่ชานเมืองA
ไม่รู้ว่าลูกๆจะรู้สึกไม่ค่อยสนุกหรือเปล่านะ… แม้ว่าเป้หมิงโม่จะไม่พูดอะไร แต่พอพูดถึงลูกชายที่รักทั้งสองคน ความรู้สึกห่อเหี่ยวของยอนก็เริ่ม ชัดเจนขึ้น
เวลาถูกใช้ไปกับการพูดกับตัวเองของกู้ฮอน รถก็ได้มาถึงประตูโรงพยาบาลของเมือง แล้ว หลังลงจากรถ ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในโรง
พยาบาล
เขาเค็มนําหน้า ส่วนเธอเดินตามหลัง
จิตใจของกู้ฮอนลอยไปอยู่กับแม่หมดแล้ว พอเห็น เขามุ่งหน้าไปยังคลินิก เธอก็เรียกเขาไว้: “เป่หมิง โม่แม่ของฉันอยู่แผนกผู้ป่วยใน…..
“…” เขาไม่สนใจเธอ ไม่แม้แต่หันกลับมา เดิน ตรงเข้าไปในห้องตรวจที่แผนกฉุกเฉิน “อ้าวเห้…..” เธอตามเข้าไป อยากจะบอกกับเขาว่า
เธอจะเข้าไปเยี่ยมแม่ที่แผนกผู้ป่วยในก่อน เท้าของเธอเพิ่งจะก้าวเข้ามาในห้องตรวจ ก็เห็น ร่างสูงของเป่หมิงโม่เดินเบียดกลุ่มผู้ป่วยออกมา แล้วพูดเสียงขรึม พบแพทย์
เพิ่งจะพูดจบ ธนบัตรสีแดงปีกหนึ่งก็ถูกวางอย่าง ไม่รู้ตัวบนโต๊ะตรวจของหมอ
ผู้ป่วยหกเจ็ดคนที่กำลังรออยู่ในห้อง ก็ตกใจไป
ตามๆกัน
พอเห็นคนที่มาเป็นผู้ชายเย็นชาและอันธพาล ก็ พากันก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ
กู้ฮอนยืนอยู่ตรงประตู ไม่กล้าขยับไปไหน เขาต้องการพบแพทย์ เขาป่วยหรือ แพทย์ที่ตรวจเป็นชายอายุราวห้าสิบปี สวมแว่นสายตายาว เขาเงยหน้ามองเป้หมิงโม แล้วก็หัน ไปมองปีกเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ: “พ่อหนุ่ม นายไป
เข้าคิว แผนกผู้ป่วยนอกเถอะ ไม่ต้องใช้เงิน มากมายขนาดนี้ คนต่อไป”
เป้หมิง โม่ขมวดคิ้วแน่น ร่างสูงยังคงยืนตรง ไม่มี ท่าทีจะขยับไปไหนแม้แต่น้อย
“คนต่อไป คิว สิบแปด” คุณอาจารย์หมอเรียกคิว
ผู้ป่วย
แต่กลับไม่มีใครกล้าเดินไปข้างหน้าเป๊หมิงโม่
ได้ยินเพียงเป่หมิงโม่พูดออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา “ถูกหมาป่าข่วน ยังไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง ฉีดวัคซีน
ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหนึ่งเข็ม ฉีดยากัน บาดทะยักหนึ่งเข็ม”
กู้ฮอนดวงตาเบิกกว้าง ริมฝีปากของเธอ ด
คิดไม่ถึงเลยว่า รอยเลือดบนมือของเป่หมิงไม่ ที่แท้จะถูกหมาป่าข่วนมา
พระเจ้า
เธอสูดลมหายใจเข้า
ผู้ชายคนนี้ทำไมไม่มาฉีดวัคซีนป้องกันโรคก่อน ตั้งแต่เมื่อคืน
แล้วยังจะมามีอารมณ์… มาเล่น จี้กับเธออีก
เป็นพวกตัณหากลับอย่างที่คิดไว้จริงๆ เขาสะกดคำว่าตายไม่เป็นหรือไง อาจารย์หมอเลิกคิ้วขึ้นอย่างใจเย็น แล้วขยับแว่น
หนาเตอะ “พ่อหนุ่ม ฉันบอกว่าต้องต่อแถว……. “คุณหมอ ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม” ไม่รอให้ คุณหมอพูดจบ กู้ฮอนก็รีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจับแขนแข็งแรงของเปหมิงไป แล้วถลกแขนเสื้อ ของเขาขึ้นอย่างไม่สนใจ
เธอถลกแขนเสื้อขึ้น พลางพูดเสียงดังกับคุณ หมอว่า “นี่เป็นเรื่องถึงชีวิตนะคะ หมอรีบมาดู บาดแผลเขาเถอะค่ะ หมอไม่ได้ฟังที่เขาพูดไป เมื่อครู่นี้หรือคะ เขาโดนหมาป่าข่วนมา หมาป่า เชียวนะคะ หมอรู้ไหม ว่าน่ากลัวขนาดไหน แล้วก็ เกือบจะครบเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วด้วยหมอ เปล่า ถ้ารอช้ากว่านี้ แล้วเขาเป็นโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคที่เกี่ยวกับหมาป่าขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ หา คุณหมอเองคงทราบดีนะคะว่าโรคพิษสุนัขบ้า มันไม่มีทางรักษา”
กู้ฮอนตะโกนอย่างกระวนกระวาย เหมือนกลัวว่า
อาจารย์หมอจะหูไม่ดี ไม่ได้สนใจกับพฤติกรรมที่ เกินจริงของตัวเองเลย มันทำให้ผู้คนหันมามอง เป็นจํานวนไม่น้อย
แต่มันก็ไม่รับความสนใจจากอาจารย์หมอเลย แล้วเขายังกลอกตาใส่เธออีก เขาพูดขึ้นเสียง เรียบ: “คุณภรรยาครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของ คุณนะ แต่ไม่ว่าจะถูกแมวหรือสุนัขข่วนมา ก็ต้อง ฉีดวัคซีนเหมือนกัน และในกรณีนี้ อย่างมากแค่ ไปศูนย์อนามัยก็พอ”
คําว่า ‘คุณภรรยา’ ทําเอากู้ฮอนหน้าแดง เมื่อครู่เพราะเธอตื่นเต้นจนหน้าแดง เวลานี้ยิ่ง
แดงเหมือนกันลิง
ตั้งแต่ต้นจนจบ เป้หมิงโม่ที่เป็นเหมือนคนนอก เหลือบมองผู้หญิงที่กระโดดโลดเต้นอยู่ข้างๆ ริมฝีปากบางกระดกขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
โก๋ คุณหมอคะ ฉันรู้…แต่เพราะพวกเราไม่ใช่ คนในเมืองS ก็เลยมาที่นี่…โรงพยาบาลมีไว้ช่วย ชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่หรือคะ พวกเราไม่มี เวลาพอที่จะไปศูนย์อนามัยแล้วค่ะ……
กู้ฮอนเกือบจะโมโหอาจารย์หมอคนนี้แล้ว เขาไม่ ได้ถูกแมวหรือสุนัขข่วน แต่เป็นถึงหมาป่าเลยนะ เธอร้อนใจจนไม่สนใจสายตาประหลาดของคน รอบข้าง เธอถลกแขนเสื้อของเป่หมิงโม่ขึ้นอย่าง แรง เผยให้เห็นท่อนแขนที่เซ็กซี่ของเขา
เห้อ นี่มันเวลาเท่าไรแล้ว ใครจะมาสนว่าแขนของ เขาเซ็กซี่ไหม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ