ตอนที่ 69 การแก้แค้นที่โหดร้ายและการพิสูจน์1
เธอถูกเขาจับไว้แน่นจนหายใจไม่ออก แก้ม ออกสีแดงซ่าน
ใต้นิ้วมือแข็งแกร่งดุดันของเขา เธอค่อย ๆ เปลือย เปล่าที่ละนิด เธอเห็นเงาของตัวเอง จากในดวงตาดำลึกของเขา
ราวกับแมลงที่ดิ้นรนขณะกำลังจะถูกบดขยี้จนตาย
ไม่เคยนึกเลยว่า เป้าหมายของคืนนี้ที่เขาให้เธอมา นั้นเพื่อหยามเกียรติเธออย่างโหดร้ายนี่เอง! หา
ไม่นานดวงตาของเธอเริ่มมีหมอกปกคลุม หัวใจ
ค่อย ๆ เย็นเยียบ
เป่หมิงโม่จับจ้องใบหน้าที่แดงจนเริ่มออกสีคล้ำขอ งกู้ฮอน แล้วคลายมือ ผ่อนแรงลง
“แค่ก ๆ ๆ…..” เธอสำลักออกมาอย่างหนักหน่วง
เมื่อครู่ขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ ทำให้เธอ เกือบนึกว่าจะต้องตายใต้น้ำมือของผู้ชายคนนี้ซะแล้ว!
จากนั้นจึงปกปิดร่างเปลือยของตัวเองด้วย สัญชาตญาณ ร่างของเธอเริ่มสั่นเทาจนหยุดไม่อยู่
“เป่ยหมิง…โม่ ฉัน…” เธอหายใจติดขัด สีหน้า แดงกำค่อย ๆ กลายเป็นซีดขาว “ฉันโทษด้วย….”
เรื่องมาถึงขั้นนี้ สิ่งที่ทำก็ทำลงไปแล้ว ในเมื่อขโมยไปแล้ว เธอจึงไม่อาจแก้ตัว
“ขอโทษ?” มุมปากของเขาลึกลง ดวงตากวาดไป ยังผู้ชายข้าง ๆ เหล่านั้น “งั้นลองไปถามพวกเขาดูสิ ว่ายอมยกโทษให้เธอไหม?”เธอหันสายตาไป แล้วต้อง ชะงักกับภาพเซ็กส์หมู่เบื้องหน้า กู้ฮอนปิดริมฝีปาก กลั้นไม่ให้อาเจียนออกมา
“ไม่….” เธอเหลือบมองเป่ยหมิงโม่อย่างหวาดกลัว กัดปากเสียจนเป็นแผล “อย่าทำอย่างนั้นกับฉัน….
“อย่า?” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาราวกับสายลมที่ พัดผ่าน
นิ้วมือยาวเรียวลากผ่านแผ่นหลังชิ้นเหงื่อของเธอ “กู้ฮอน ที่จริงนาทีแรกที่เธอเริ่มเข้าใกล้ ฉันก็รู้แล้วว่า เธอไม่ได้มีเจตนาบริสุทธิ์ แต่ก็ยังยอมให้เธออยู่ข้าง กายฉัน เธอไม่ถามหน่อยหรือว่าทำไม?”
“ทำไม?” เสียงของเธอสั่นเทา เอ่ยถามอย่าง สับสน
แววตาของเขาหม่นลง “เพราะว่าฉันอยากเห็น ว่า เธอจะรอนานแค่ไหนถึงลงมือ จะใช้วิธีอะไร ด้วย เหตุผลอะไร ที่ แต่กลับมาคิดว่าเธอจะเจตนาลงมือกับ โปรเจกต์ “หยิง! ในฐานะลูกสาวคนเดียวของกลุ่ม ธุรกิจกู้ ฉันนึกว่าเธอจะเกลียดพวกนั้น คิดขึ้นมาแล้ว ฉันประมาทเธอไปจริง ๆ …”
น้ำเสียงในแต่ละประโยคที่เขาพูดนั้นเยียบเย็นราวกับใบมีดชั้นดี เสียบแทงลงตรงหัวใจเธอทีละเล่ม ทันใดนั้น น้ำตาเธอก็รินไหลราวสายฝน เสียงแหบ พร่า “ขอโทษค่ะ ..”
ถ้าหากเลือกได้ เธอก็ไม่อยากเลือกหนทางนี้เลย
“ขอโทษแค่คำเดียว ก็ถือว่าแล้วกันแล้วหรือ?” เขา หัวเราะอย่างเยือกเย็น “กู้ฮอนเธอจะซื่อใสเกินไปหรือ เปล่า?”
ร่างของเธอสั่นเทา
ความหวาดกลัวแล่นเข้าครอบคลุมทั่วทั้งร่างกาย
ดวงตาเย็นชาของเขา กวาดมองไปยังผู้ชายด้าน ข้างพวกนั้น “ให้ทางเลือกเธอสองทาง ทำให้พวกเขา พอใจ หรือว่าจะกระโดดลงไปจากตรงนี้!”
เธอสูดลมหายใจเฮือก
สายตาเลื่อนไปอย่างหวาดหวั่น เธอไม่คิดว่า วิธี การโจมตีของเขา จะเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้!
ด้วยมือสั่นเทา เธอมองไปยังกลุ่มผู้ชายที่น่า สะอิดสะเอียนพวกนั้น แล้วหันไปมองยังหน้าต่างด้าน หลัง
หัวใจบีบคั้น
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สำหรับเธอแล้วก็นับว่า เป็นการแก้แค้นที่โหดเหี้ยมที่สุด
เธอมองยังเขาอย่างอื่นขม ยิ้มให้เขาอย่างเศร้าสร้อย “เป่า หมิง โม่ ไม่มีทางเลือกที่สามหรือไง?”
น้ำตารินไหลอย่างไม่อาจกลั้นไว้ได้
แววตาของเขาสว่างวาบ สำรอกคำพูดอันชั่วร้าย ออกมา “มีสิ ก็ให้ฝังครอบครัวของเธอร่วมกัน แล้ว เหลือเธอให้มีชีวิตอยู่!”
สีหน้าของเธอพลันซีดขาวราวขี้เถ้า
รู้อยู่แก่ใจ ว่าชายที่สามารถเรียกลมเรียกฝนใน เมืองAนี้ได้อย่างเขา เมื่อพูดแล้วย่อมสามารถทำได้
กู้ฮอนสูดลมหายใจลึก เลือดในกายเย็นเฉียบ
ไม่นึกว่าการช่วยเหลือพ่อ จะกลายเป็นการทำร้าย ทั้งพ่อและตัวเอง
เธอหลับตาลง หยุดนิ่งไปหลายนาที
จากนั้นเมื่อลืมตาอีกครั้ง จึงค่อย ๆ ถอยออกจาก
ร่างของเขา
แล้วจึงยึดตัวขึ้น
ร่างบอบบางสั่นระริกอยู่ต่อหน้าสายตาเขา
ผิวขาวเรียบลื่นราวเซรามิกสะท้อนแสงวาววับภาย ใต้ดวงไฟสีขาวโพลน
เธอใช้มือปิดป้องส่วนน่าอายไว้อย่างช่วยไม่ได้
จ้องมองยังนัยน์ตาของเป่ยหมิงโม่อย่างลึกล้ำ “เป่ห มิงโม่ฉันยอมรับในการกระทำทั้งหมดของฉัน หวังว่าคุณจะไม่ทำร้ายครอบครัวฉันอีก”
ครอบครัวที่เธอกล่าวถึง มีเพียงหยางหยางและแม่ แต่ที่เขาได้ยินกลับนึกว่าหมายถึงตระกูลกู้ เขาหัวเราะเย้ยหยัน จ้องมองเธอก้าวถอยหลังไปที ละก้าวอย่างเรียบเฉย
เธอยิ้มออกมาอย่างสิ้นหวังในที่สุด
จากนั้นจึงหันร่าง สาวเท้าพุ่งออกไปยังหน้าต่าง หลับตาแล้วกระโดดลงไป
*
ตึง
ชั้นล่างราวกับมีเสียงกระแทกดังลอยมา
ผู้ชายกลุ่มนั้นต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ
จ้องมองกันและกัน “ประธานเหมิง เมื่อครู่ผมไม่ ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? เลขาของคุณคนนั้น…”
“กระ…กระโดดตึกเหรอ?”
“ประธานเป่หมิง ไม่เห็นต้องล้อเล่นกันขนาดนี้ ….”
ขณะนั้น ทั้งกลุ่มต่างลนลานกันขึ้นมา ทุกคนต่างเป็นบุคลากรมีหน้ามีตาของเมือง A ทั้ง
นั้น จะให้มีข่าวเสียได้อย่างไรกัน?
ด้วยความกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขา จึงรีบร้อนใส่เสื้อผ้าและกางเกง
หัวคิ้วของเป่ยหมิงโม่ยังคงเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ลงมาจากแท่นบันได ขาของเขาภายใต้ชุด ยังไม่ทันได้ฟื้นคืนสภาพ สูท
ต้องอาศัยเหล็กประคับประคองไว้ ถึงสามารถยืน ตรงก้าวเดิน
เขาก้าวขาทีละก้าวไปยังข้างหน้าต่าง หลุบตามอง ลงด้านล่าง
บนพื้นหญ้าใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน คือความเวิ้งว้าง
ร่างขาวราวหิมะร่างหนึ่ง ราวกับดอกซากุระสีขาว ที่เบ่งบานภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน บริสุทธิ์ ใสเย็น ทว่ากลับมีเสน่ห์ถึงตาย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ