แล้วทําไมพ่อต้องไปเรียนไกลขนาดนั้น ด้วยล่ะครับ พ่อบังคับให้ไปหรือ คุณย่าไม่ทํา กับข้าวให้กินหรือ” หยางหยางกิน พลางถามไป ด้วย ในความเข้าใจของหยางหยาง คือพ่อคือคน ที่บังคับให้เขาเรียนหนังสือ แม่คือคนที่ทําอาหาร ให้เขากิน
เป้หมิงโม่ชะงัก
สีหน้ากู้ฮอนไม่ดี เธอมองหน้าของเป่หมิงโม่ เธอรู้ ดีว่าคุณย่า หยางหยางพูด เขาต้องนึกถึงหวีหรู เจียแน่นอน นั่นคือจุดอ่อนของเขา
แต่หยางหยางหมายถึงเจียงฮุย น
เธอรีบพูดขึ้น “หยางหยาง ตอนกินข้าวห้ามพูด เยอะนะจ๊ะ เดี๋ยวจะสําลักเอา” นึกไม่ถึง เป้หมิงโม่กลับตอบกลับด้วยเสียงเรียบ
“คุณปู่ของลูกๆไม่ได้บังคับพ่อหรอก พ่อไปเอง แล้วก็พ่อไม่คุ้นเคยกับอาหารที่คุณย่าของลูกๆทำ ด้วย”
เฉิงเฉิงสงสัยเล็กน้อย “บนโลกนี้มีประเทศตั้ง มากมาย ทําไมพ่อต้องเลือกไปที่สเปนด้วยครับ” “ใช่ๆ ผมคิดว่าออสเตรเลียสนุกดีออก… หยาง หยางยังไม่ลืมช่วงเวลาที่ได้ไปออสเตรเลียกับแม่ เมื่อสองปีก่อนมาจนถึงวันนี้
” มุมปากเป้หมิงโม่กระตุกขึ้นเล็กน้อย เพราะว่าสเปน สามารถทําให้ความฝันเรื่อง
สถาปัตยกรรมของพ่อเป็นจริง”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องสเปนต่อหน้า แม่ลูกทั้งสามคน มันไม่ได้กดดันเหมือนที่เขาคิด เขากลับพูดมันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเสีย ด้วยซ้ำไป
เฉิงเฉิงมองพ่ออย่างตั้งใจ จริงๆแล้วในใจของเขา
พ่อเป็นคนที่เขายกย่องมาโดยตลอด ผมเองก็ อยากเป็นเหมือนพ่อ เป็นคนที่มีความฝัน” เป่หมิงโม่มองเฉิงเฉิงแวบหนึ่ง “งั้นความฝันของ
ลูกคืออะไร”
นึกไม่ถึงว่าพ่อจะเป็นคนถามเขาด้วยตัวเอง เฉิง เฉิงตอบกลับด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “ความฝัน ของผมคือ…หวังว่าจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์
พอเฉิงเฉิงจะพูดจบ บรรยากาศก็แปลกไปในทันที
แม้เป้หมิงโม่จะไม่แสดงสีหน้าอะไร แต่แววตา ของเขามันทรยศความรู้สึกสั่นไหวที่อยู่ภายใน จิตใจของเขา
นึกไม่ถึงเลยว่าความฝันของลูก จะเหมือนกับเขา ตอนเป็นเด็กไม่มีผิด
เขาเองก็เคยเป็นเหมือนเฉิงเฉิง หวังว่าจะมี ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
แต่สุดท้ายโชคชะตา ก็ทำให้เขาต้องไปสเปน เพียงลำพัง เดินทางอย่างโดดเดี่ยว
ผ่านไปหลายปีแล้ว ความฝันเรื่องสถาปัตยกรรมได้ก็เป็นจริงแล้ว แต่ความฝัน’ครอบครัวที่
สมบูรณ์แบบ’ กลับกลายเป็นเศษซากที่
กระจัดกระจายอยู่ในสายลม….. ตะเกียบในมือกู้สอน น
เธอมองใบหน้าเล็กที่คาดหวังของเฉิงเฉิง เธอทน
ที่จะทําลายความฝันของลูกไม่ได้ เพราะสามสัปดาห์จากนี้ ครอบครัวนี้ก็จะแยกออก
อย่างสมบูรณ์
“โอ้เย ผมก็มีความฝันนะ” หยางหยางพูดอย่าง อวดดี ความฝันของผมก็คือเป็นตำรวจ แล้วก็มี คำพูดที่ไม่คิดอะไรของหยางหยาง ช่วยบรรเทา
สาวๆมากมาย”
บรรยากาศที่ตึงเครียดลงในทันที
เฉิงเฉิงกลอกตาใส่ “ถ้านายอยากมีสาวๆมากมาย ควรเป็นดาราดังอย่างอาสาม ไม่ใช่เป็นตำรวจ” “ชิ ยังไงฉันก็จะเป็นตำราที่ร่าเริง “เชอะ” เฉิงเฉิงดูถูก “น่าตลก”
“นายว่าใครน่าตลกห้ะ”
“นายไง”
“ต้ารจที่ร่าเริงน่าตลกขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไม่ใช่ ตัวนายเองต่างหากที่น่าตลก” “เป้หมิงเฉิง นายรอก่อน รอให้ฉันโต ฉันจะต้อง เป็นjcที่ทำให้ทั้งประเทศฮือฮาให้ได้ ให้นายได้ เห็นความเก่งกาจของฉัน”
“ได้ กว่าจะถึงตอนนั้นก็อย่าเพิ่งถูกออกหมายจับ ไปทั่วก่อนล่ะ เพราะมันทําให้ฮือฮาได้ทั้งประเทศ เหมือนกัน…….” บ้านนายสิ
(คนที่ใช้ชีวิตในเมืองซาบาห์เป็นเวลานาน ก็รู้สึก หนาวสั่นในทันที ใครต่อว่าเธออยู่นะ)
หลังจากอาหารเช้า
กู้ที่ล้างจานเสร็จก็เดินออกมาจากห้องครัว ก็
เห็นเฉิงเฉิงกับหยางหยางนั่งอยู่ข้างเป่หมิงโม่ พ่อ ลูกทั้งสามนอนอยู่บนโซฟาห้องรับแขก ดูการ
ถ่ายทอดฟุตบอลยุโรป
หัวใจเธอก็อดเต้นแรงไม่ได้
เป็นครั้งที่เธอได้เห็นพ่อลูกทั้งสามคนอยู่ร่วมกัน
อย่างสงบสุข
แต่ทว่า ภาพที่แสนอบอุ่นนี้ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะ
ร้องไห้
เธอรีบหมุนตัว ซ่อนตัวอยู่ในห้อง
ไม่นาน ก็ตามเข้ามาในห้อง ก็เห็นเธอนั่ง เหม่ออยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไร นายไม่ต้องไปทํางานหรือไง” เธอเลี่ยงสายตาร้อนแรงของเขา แล้วถามขึ้น “อีกสักพักก็ไปแล้ว” เขาพูด แล้วเดินไปเปิดตู้
เสื้อผ้า
กู้ฮอนตะลึง ในตู้เสื้อผ้าของเธอ มีเสื้อผ้าของเขา มาแขวนอยู่ครึ่งหนึ่งเมื่อไรไม่รู้
เขาหยิบชุดสูทตัวหนึ่งออกมา แล้วโยนลงบน
เตียง
“มา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉันหน่อย” ถึงแม้จะเป็นการ ออกคําสั่ง แต่ เสียงอ่อนโยนเธอสังเลเล็กน้อย แล้วจึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
เขา…..
เป้หมิงโ…..ขอบคุณสําหรับอาหารเช้านะ” นี่คือคําพูดที่ออกมาจากใจของเธอ ขอบคุณที่ทำ ให้ลูกๆได้รู้สึกถึงความอบอุ่นจากความรักของพ่อ สักครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถให้ได้
เขาก้มลง เลิกคิ้วขึ้นอย่างชั่วร้าย ปรากฏรอยยิ้ม
บางบนมุมปากของเขา——
“งั้นเธอจะตอบแทนฉันยังไง”
เธอครุ่นคิดพักหนึ่ง แล้วกลอกตาใส่เขา “รู้ดีว่าคน อย่างนายคงไม่ทําอะไรให้มาฟรีๆหรอก” “รู้จักฉันดีขนาดนี้เลยหรือ” เขาหัวเราะเสียงต่ำ
ก้มหัวลงจูบเบาๆบนริมฝีปากที่แดงระเรื่อเหมือน กลีบดอกไม้ของเธอหนึ่งครั้ง “ฉันอยากได้ ร่างกาย และขโมยหัวใจของเธอ….
เขาพูด ไม่รู้ว่าแขนยาวของเขามาโอบเอวของเธอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอใกล้กับเขามาก…….
“เป้หมิงโม่ เมื่อไหร่นายจะรู้จักจริงจังกับเขา
เสียที”
ดวงตาใสของเธอ เงยหน้ามองผู้ชายที่กำลังยิ้ม
ชั่วร้าย
ต้องบอกว่า ตอนที่เขายิ้ม มันช่างดูดีเหลือเกิน… มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ ราวกับว่าสามารถดูด วิญญาณของคนได้
เขาครุ่นคิดสักพัก แล้วพูดขึ้น “ตอนที่ฉันจริงจัง คือตอนที่ฉันทะเลาะกับเธอ; ตอนที่ฉันไม่จริงจัง คือตอนที่ฉันนอนกับเธอ…..ให้ทําแบบนี้ สู้ไม่
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ