ตอนที่ 288 โลกใบนี้ช่างกลมเหลือเกิน
จึงตัวทำได้แค่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย…….
ผ่านไปชั่วครู่ เสียงฮึดฮัดของคุณชายรองเปหมิงก็ลอย
ออกมาจากภายในห้อง
“สมควรตาย! ฉิงฮัว ไปซื้อกล่องยาสามัญประจำบ้าน มา……บิดาเจ็บจะตายแล้ว…….
“ครับ เจ้านาย”
“ยังมีอีก! หลังจากนี้อย่าให้ฉันเห็นซ้อน ใส่รองเท้าอีก!!!
นับตั้งแต่เป้หมิงโม่ย้ายมาอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามกู้ฮอนแล้ว ฉิงฮัวราวกับเทพเฝ้าประตูยืนเฝ้าที่ประตูเปหมิงไม่อยู่ทั้งวัน ตาใหญ่จ้องตาเล็ก หมายถึงจ้องมองหน้ากันไปมาอย่างจน ปัญญา) ไม่ พูดให้ถูกก็คือ ยืนเฝ้าอยู่ตรงกลางระหว่างประตู บ้านฮอนและประตูบ้านของเปามิงโม่ ตาใหญ่จ้องตาเล็ก
กู้ฮอนรู้สึกว่าฝันร้ายเพิ่งจะเริ่มขึ้น……..
เช้าตรู่ ตอนที่ออกจากบ้านไปซื้ออาหารเช้า จึงตัวจะวิ่งเข้า มาด้วยความกระตือรือร้น พร้อมยกน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ร้อนๆมาด้วย
“คุณกู้ ผมไปซื้ออาหารเช้าแทนเจ้านาย เลยซื้อเกินมาอีก ชุด เชิญคุณทานครับ.
ตอนนี้ ฮอนจะถลึงตามองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทของ เป้หมิงโม่ชั่วครู่ “ฉันไม่กินปาท่องโก๋ โดยเฉพาะ เหล่า โหยว เดียว (หมายถึง เป็นคำแสลงในภาษาจีน หมายถึง คนที่ไหล ลื่นเหมือนปลาไหล ตีเนียน )”
ฉิงฮัวดึงมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน คนโง่ยังฟังเข้าใจ ว่าคุณกำลังด่าเจ้านายว่าเป็นเหล่าโหยวเดียว อย่าง
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฮอนทำได้แค่ซื้อก๋วยเตี๋ยว สําเร็จรูปกลับมาต้มกินที่บ้าน สามารถออกจากบ้านได้น้อย ลงไปหนึ่งครั้งก็นับเป็นหนึ่งครั้ง
ตอนกลางวัน เธออยู่ในบ้านทำอาหารกินเอง จึงตัวมา เคาะประตูอีกครั้ง
“คุณกู้ เจ้านายไม่กลับมาทานข้าว ดังนั้นผมอาหารที่ผม สั่งเดลิเวอรี่มานั้นอาจจะไม่มีใคร
เช้าตรู่ ตอนที่ออกจากบ้านไปซื้ออาหารเช้า จึงตัวจะวิ่งเข้า มาด้วยความกระตือรือร้น พร้อมยกน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ร้อนๆมาด้วย
“คุณกู้ ผมไปซื้ออาหารเช้าแทนเจ้านาย เลยซื้อเกินมาอีก ชุด เชิญคุณทานครับ………
ตอนนี้ ฮอนจะถลึงตามองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทของ เปหมิงโม่ชั่วครู่ “ฉันไม่กินปาท่องโก๋ โดยเฉพาะ เหล่า โหยว เถียว (หมายถึง เป็นคำแสลงในภาษาจีน หมายถึง คนที่ไหล ลื่นเหมือนปลาไหล ตีเนียน )
ฉิงฮวดึงมือกลับอย่างกระอักกระอ่วน คนโง่ยังฟังเข้าใจ ว่าคุณกำลังด่าเจ้านายว่าเป็นเหล่าโหยวเดียว อย่าง
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ฮอนทำได้แค่ซื้อก๋วยเตี๋ยว สำเร็จรูปกลับมาต้มกินที่บ้าน สามารถออกจากบ้านได้น้อย ลงไปหนึ่งครั้งก็นับเป็นหนึ่งครั้ง
ตอนกลางวัน เธออยู่ในบ้านทำอาหารกินเอง ฉิงตัวมา เคาะประตูอีกครั้ง
“คุณกู้ เจ้านายไม่กลับมาทานข้าว ดังนั้นผมอาหารที่ผม สั่งเดลิเวอรี่มานั้นอาจจะไม่มีใครทาน จะสามารถขอให้คุณกู้ช่วยทานได้ไหมครับ”
จากนั้น กูชอนก็ได้เห็นสิ่งที่ฉิงฮัวเรียกว่าอาหารเดลิเวอรี่ นั่นคืออาหารอันโอชะ (หมายถึง อาหารชั้นเลิศที่เป็นอาหาร ป่าและอาหารทะเล เป็นอาหารจีนโบราณ) ที่พ่อครัวเป็นผู้ ลงมือทํา!
“ช่วยกินนะหรือ” เธอมองบน แม้ว่าอาหารเหล่านี้จะดึงดูด คนมากจริงๆ แต่ว่าผู้ที่มียศถาบรรดาศักดิ์และความร่ำรวย ไม่ควรทําตัวเหลวไหลเช่นไร พบเจออาหารเลิศรสก็ไม่ยอม สยบให้เช่นนั้น! “ฉิงฮัว กระเพาะอาหารของปุถุชนคน ธรรมดาแบบฉัน กินอาหารทะเลราคาแพง ( ในที่นี้หมายถึง อาหารทะเลคือ เป๋าฮือ ปลิงทะเล หูฉลาม และกระเพาะปลา เหล่านี้อาจจะทำให้ระบบย่อยทำงานได้ไม่ดี! ต้องขอบคุณ ครอบครัวของคุณทั้งหมดจริงๆ”
ฉิงฮัวทำได้เพียงแค่ยกอาหารเดลิเวอรี่นั้นเก็บกลับไป อย่างเศร้าหมอง
กลางคืน เมื่ออาบน้ำเสร็จ ก็แอบอยู่ในห้องคุยโทรศัพท์ กับเจ้าหนูน้อยเป็นเวลานาน ได้รู้ว่าเจ้าหนูน้อยเห็นรูป เทพเจ้าสุขาเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแล้ว ก็ถ่ายอุจจาระได้อย่าง รวดเร็ว! ดังนั้นเจ้าหนูน้อยก็เริ่มเรียกรูปภาพนั้นว่าเจ้าอุ่นเหม็นตั้งแต่ นั้นเป็นต้นมา
ขอนได้ยินแล้วก็จิตใจเบิกบานอย่างมีความสุข
เหม่ง ไม่สามารถเป็นเทพเจ้าแห่งสุขาของเจ้าหนูน้อยได้ ก็ถือว่าเขาสะสมแต้มบุญมาหลายชาติ คนทั่วไปนั้นเจ้าหนู น้อยนั้นล้วนไม่สนใจหรอก
อาลัยอาวรณ์ที่จะเอ่ยพูดบ้ายบายกับเจ้าหนูน้อย เธอปรับ แสงไฟเตรียมตัวที่จะเข้าสู่โหมดการสร้างบทประพันธ์ แต่ ตอนนี้ ประตูก็มีเสียงถูกเคาะดังขึ้นอีก
เธอไม่เปิดประตู ฝั่งตรงข้ามก็ไม่เลิกรา
ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ เห็นจึงตัวยืนอยู่ด้านนอกประตู เค้น รอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าการร้องไห้ออกมา
“มีเรื่องอะไรล่ะ” เธอโกรธแล้วจริงๆ
“เอ่อ……คุณกู้ ไม่มีอะไรครับ แค่อยากจะถามว่าคุณ ต้องการจะทานอาหารมื้อดึกอะไรพวกนี้ไหมครับ” จึงตัวจะ ร้องไห้แล้ว ชายหนุ่มผู้มีความจริงจังและซื่อสัตย์ นอกจากของกิน ก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไร มายืนยันได้ว่าคุณอยู่บ้านและยังอยู่ปลอดภัยไม่ประสบ ปัญหาใดๆหรือไม่
ฮอนชายตามองกล่องข้าวที่อยู่ในมือของฉิงตัว “ไม่ ต้อง
การ!”
ปัง! ครั้งนี้เธอปิดประตูอย่างไม่มีความเกรงใจใดๆ
จากนั้น ฉงฮัวก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรติดต่อ เบอร์โทรศัพท์อันคุ้นเคย “สวัสดีครับ เจ้านาย…. ใช่ครับ คุณอยู่ในบ้านมาโดยตลอด ทุกอย่างปกติดีครับ นอกจาก ตอนเช้าตรู่ เวลาอื่นๆก็ไม่ได้ออกไปอีกเลยครับ……..อา? วันนี้ คุณจะไม่ไปดื่มเหล้าแล้วหรือครับ ครับครับครับ……. เยี่ยม ไปเลย ถ้าหากว่าสองปีนี้เจ้านายมีความเคยชินที่ไม่ดีในการ ดื่มเหล้า ก็ควรจะย้ายมาอยู่บ้านตรงข้ามคุณตั้งนานแล้ว ตอนนี้ เสียงแกรกดังขึ้น
ฮอนเปิดประตูอีกครั้งอย่างกะทันหัน จ้องไปที่จิงตัว ฉิงฮัวที่ถือ โทรศัพท์ตัวแข็งทื่อ
เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยพูดออกมาอีกหนึ่งประโยค “ยังมีอีก จึงฮัว รบกวนครั้งหน้าอย่ายิ้มให้กับฉัน เธอชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยเพิ่ม “รอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่ง กว่าการร้องไห้ นน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ปัง!
ประตูถูกปิดลงอีกครั้งอย่างแน่นหนา
ฉิงฮัวจะร้องไห้ก็ไม่ใช่ หัวเราะก็ไม่ใช่ ใบหน้าของสุภาพ บุรุษชายชาตรีในตอนนั้นสับสนอย่างน่าตลกมาก………
รีบยก โทรศัพท์ขึ้นมา “อา? ไม่ไม่ไม่……..เจ้านายอย่า เข้าใจผิดไป ผมจะไปกล้ายิ้มให้คุณได้อย่างไรกัน…….ไม่ใช่ นะครับ จึงตัวสาบาน อันนั้นไม่ใช่รอยยิ้ม……..เจ้านาย ถ้า อย่างนั้นคุณจะกลับมาเมื่อไรครับ…
ท้ายที่สุดแล้วในค่ำคืนนี้ เป้หมิงไม่ได้กลับมาอาศัยที่บ้าน หรือไม่นั้น ฮอนไม่รู้ และไม่อยากจะรู้ด้วย
เพียงแต่ว่าฤดูหนาวปีนี้ที่เมือง A มักจะหิมะตกหนักมาก
เป็นประจํา
ใกล้จะปลายปีแล้ว
ถ้าหากไม่ใช่ว่าถูกจึงหัวเทพเฝ้าประตูบีบบังคับจนจะเป็น บ้าในเร็วๆนี้ ฮอนก็คงไม่รับปากลัวเฉียวออกมาเดินชอป ปิงชื่อของ
และถ้าหากว่าบนโลกใบนี้มียาแก้รักษาโรคเสียใจภาย หลัง เธอจะไม่พูดอะไรแล้วกรอกเข้าปากกลืนยาแก้รักษาโรค เสียใจภายหลังนั่นลงไปทั้งขวด! เพราะว่าออกมาชอปปิ งกับลั่วเฉียวนั้นเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวยิ่งกว่าการอาศัยอยู่ใน บ้าน!
อาคารซินดู คือสวรรค์แห่งการชอปปิ้งที่มีชื่อเสียง ในเมือง
A
ลั่วเฉียวลากฮอนเข้าออกร้านขายของแบรนด์เนมหรูหรา ร้านใหญ่ โดยพื้นฐานแล้วเป็นลั่วเฉียวที่ชอปปิงอย่างบ้าคลั่ง แต่กู้ฮอนมากที่สุดก็แค่ซื้อสินค้าลดราคา รวมไปถึงสิ่งของ เครื่องใช้สำหรับเด็กๆ ก็ถือโอกาสซื้อไปสองสามชิ้น
“ฮอน เธอคิดว่าฉันใส่ชุดนี้แล้วสวยหรือไม่สวย ช่วงนี้ถ่าย ละครใส่ชุดจีนโบราณใส่จนฉันเบื่อแล้ว ยังคงเป็นเสื้อผ้าใน ปัจจุบันมากกว่าที่เหมาะกับฉัน…….
เพราะว่าสถานภาพของลั่วเฉียวคือดารา ในทุกทีที่เธอไป พนักงานในร้านจะให้บริการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
สำหรับฮอนนั้น เธอเพียงแค่เคยเผยใบหน้าในงานแจก ลายเซ็นขายหนังสือในเทศกาลคริสต์มาส ไม่เหมือนกับ ดารา จึงเป็นเรื่องปกติมากที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้จักเธอ
ลั่วเฉียวเหมือนกับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เมื่อพบเจอเสื้อผ้า สวยๆ นัยน์ตาก็จะทอประกายอย่างมีความสุข จากนั้นก็วิ่งไป อยู่ด้านหน้าเสื้อผ้าชุดนั้นพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง
“ว้าว! เสื้อผ้าชุดนี้จะสวยเกินไปแล้ว ! ฮอน เธอมาลอง หน่อยไหม ฉันว่าจะต้องเหมาะสมกับเธออย่างแน่นอน!
ฮอนกวาดตามองเสื้อผ้าที่อยู่บนร่างของหุ่นโชว์เสื้อผ้า แน่นอนว่าเมื่อได้สวมใส่แล้วจะต้องดูคล้ายกันกับเทพธิดา แห่งดวงจันทร์อย่างไรอย่างนั้น ไข่มุกสีขาวงาช้างสว่างช่วย ขับเน้นให้กระโปรงชุดนี้ดูบริสุทธิ์นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ขนเฟอร์ สีขาวที่ประดับอยู่บริเวณแขนเสื้อให้ความรู้สึกว่าสามารถ มอบความอบอุ่นให้กับร่างกายได้ สรุปได้ว่าเสื้อผ้าทั้งชุดนี้ดูงดงามและสูงส่งอีกด้วย
เทพธิดาแห่งดวงจันทร์………ในสมองของฮอน ปรากฏตัวอักษรไม่กี่ตัวนี้ จึงทำให้คิดถึงแสงจันทร์สีขาว ไป โดยปริยาย
นิ้วมือสั่นเล็กน้อยขณะที่ยื่นออกไปแตะเบาๆที่ชุดเดรสอัน งดงาม หลังจากสัมผัสไปถึงป้ายราคาแล้ว
เธอก็ต้องสูดลมหายใจลึก
รีบหดมือกลับมา เอ่ยกระซิบไปที่ข้างหูลั่วเฉียวเบาๆ “ลั่ว เฉียว เสื้อผ้าชุดนี้ราคาแพงเกินไปแล้ว……
เป็นจํานวนเงินที่เธอไม่สามารถใช้จ่ายได้จริงๆ
“ไอหยา เธอไม่ต้องพูดไร้สาระกับฉันแล้ว! เธอรีบไปลอง เลย ถ้าเงินไม่พอ เดี๋ยวฉันจ่ายให้เอง OK?” ลั่วเฉียวพูดไป พลาง ก็เรียกพนักงานในร้านมาพลาง “รบกวนคุณช่วยพา คุณผู้หญิงคนนี้ไปลองชุดหน่อยค่ะ”
“ได้ค่ะ” พนักงานในร้านหัวเราะอิอิพลางถอดชุดลงมา เดรสชุดนี้เป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งมาถึง คุณผู้หญิงช่างมีแววตาที่ แหลมคมจริงๆ ตอนนี้เมือง A มีเพียงแค่ชุดเดียวเท่านั้นนะ คะ!”
ลั่วเฉียวเร่งฮอนให้รีบเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า
รอถึงกู้ฮอนเปลี่ยนชุดเดรสเสร็จ ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของถั่ว เฉียวแล้ว
“อ่อ เมื่อตะกี้คุณผู้หญิงท่านนั้นออกไปรับโทรศัพท์ข้าง นอก ให้คุณรอเธออยู่ที่นี่ค่ะ” พนักงานในร้านช่วยตอบข้อ สงสัย จากนั้นก็มองไปยังร่างฮอนที่สวมใส่เดรสไข่มุกสีขาว งาช้างชุดนั้น อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชม “คุณผู้หญิง คุณสวมชุด นี้แล้วสวยมากจริงๆค่ะ!
ฮอนยืนมองภาพของตัวเองที่ปรากฏในกระจก
แม้กระทั่งเธอก็ไม่กล้าที่จะเชื่อเลยว่า ที่แท้เดรสชุดนี้เมื่อ ใส่อยู่บนร่างของตัวเองแล้วจะงดงามได้ขนาดนี้……..
เธอมองในคราแรกก็รู้สึกว่าชื่นชอบมาก…….แต่ว่าราคา แพงเกินไปจริงๆ อีกทั้งเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้ลั่วเฉียวจ่ายเงิน ให้เธอด้วย
ยืนลังเลอยู่หน้ากระจกหลายครั้ง ในตอนที่เธอเตรียมใจที่ จะปล่อยมือจากเดรสชุดนี้ไปนั้น
“โอ้โห โม่ คุณดูสิ กระโปรงสวยมากเลยนะ……
น้ำเสียงเล็กนุ่มนวลเจือความแหบแห้งของหญิงสาวลอย มาจากด้านหลังของฮอน
ฮอนเห็นรูปร่างสูงหล่อของชายหนุ่มคนหนึ่งจากใน
กระจก!
เธอตกตะลึง
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดว่า บนโลกใบนี้คนที่มีวาสนาต่อกัน มักจะได้พบกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่าห่างกันพันก็ยังได้
พบกัน
แต่ฮอนกลับคิดว่า เธอกับเป้หมิงไม่นั้นเป็นเวรกรรม
มากกว่า
คิดไม่ถึงเลยว่ามาชอปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า สุดท้ายแล้วก็ ยังต้องพบกับเจ้าหมอนี่อยู่ดี
เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทําให้เธอตกตะลึงก็คือ เด็กสาวที่พูดนั้น สวมใส่หมวกขนสัตว์น่ารักใบหนึ่งจะนั่งอยู่บนเก้าอี้รถ
เปีหมิงไม่เข็นรถเข็นของเด็กสาวคนนั้น ก้าวเดิมอย่างสง่างามเข้ามาในร้านค้
ฮอนจิตใจตึงเครียดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
เห็นได้ชัดว่า เธอเห็นเหมิง ไม่ส่งสายตามาจากในกระจก เขาก็เห็นเธอแล้ว
จนกระทั่งเปามิงโม่เข็นเด็กสาวคนนั้นเข้ามา ยืนอยู่ที่ด้าน หลังของฮอน……
กู้ฮอนเพิ่งจะมองเห็นได้ชัดเจนว่า ใบหน้าของเด็กสาวใน กระจกนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นหลังจากได้รับบาด
เจ็บ……
เพียงแค่เห็นก็รู้ได้ว่า ร่องรอยแผลเป็นของเด็กสาวนั้นเกิด ขึ้นหลังจากบาดแผลไฟไหม้
แต่ทว่ากลับไม่สามารถปิดบังความงดงามบนองคาพยพ ทั้งห้าของเด็กสาวคนนี้ได้ ถ้าหากเป็นก่อนหน้าที่เด็กสาวคน นี้จะได้รับบาดเจ็บ จะต้องสวยมากๆอย่างแน่นอนใช่ไหม
“โม่ คุณดูสิ คุณผู้หญิงคนนี้ใส่แล้วสวยมากเลย…. เด็ก สาวคนนั้นมาที่กู้ฮอนแล้วยิ้ม
เด็กสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทั้งยังยื่นมือกลับไปจับที่แข นของเป้หมิง โม่ คนโง่ก็ยังเอาออกถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา……..
ภาพนี้ กู้ฮอนที่มองอยู่ก็รู้สึกขัดตาเป็นอย่างมาก
เธอมองเข้าไปในกระจก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเป้หมิงไม่ไม่ ได้มองมาที่เธอเลยแม้แต่น้อย
คนตาบอดก็ยังมองออกว่า ผู้ชายคนนี้แกล้งทำเป็นไม่รู้
จัก เธอ!
พนักงานรีบก้าวเข้ามา “อิอิ คุณนายท่านนี้ ชุดเดรสชุดนี้ เป็นชุดที่มีจํานวนจํากัด ตอนนี้ทั้งเมือง A มีเพียงแค่ชุดเดียว
ดังนั้น.………..”
พนักงานในร้านพูดไปพลางมองที่ฮอน
ฮอนรู้สึกโกรธ พนักงานอาศัยอะไรเรียกเธอว่าคุณผู้หญิง แต่เรียกเด็กสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นว่าคุณนายกัน
พอเด็กสาวคนนั้นได้ยิน ใบหน้าก็สลดลงในทันที……..
พนักงานในร้านรีบเอ่ยเสริม “แต่ว่า คุณผู้หญิงท่านนี้ยังไม่ ได้ตัดสินใจแน่ชัดว่าจะเอาหรือไม่เอาเสื้อผ้าชุดนี้ คุณนาย และคุณผู้ชายกรุณารอสักครู่นะคะ…….
“ไม่ต้องแล้ว!” กู้ฮอนหมุนตัวกลับไปในทันที แอบามือ แน่นอย่างเงียบๆ เสื้อผ้าชุดนี้ ฉันจะเอา!”
สิ้นเสียงคําพูด
เสื้อผ้าที่แพงเช่นนี้ เธอทำไปก็เพื่อจะเดิมพันสักครั้งหนึ่ง ฮอนรู้สึกว่ากระเป๋าสตางค์ของตัวเองกำลังหลั่งน้ำตาด้วย ความเงียบงัน……..
สามีภรรยาที่แสนดีคู่หนึ่ง ฮอนมองแววตาเขินอายของ เด็กสาว ไปจนถึงแววตาอ่อนโยนที่ไม่สนสิ่งใดของเป้หมิงไม่ ยิ่งรู้สึกได้ว่าแม้ว่าตัวเองจะต้องกัดฟันก็ต้องซื้อเสื้อผ้าชุดนี้ ให้ได้!
พนักงานในร้านรู้สึกมีความสุขอย่างที่สุด ขอเพียงแค่มี คนซื้อเสื้อผ้า พนักงานล้วนไม่สนใจทั้งนั้นว่าคนที่ซื้อไปนั้น
คือ ใคร
“อ๋อ……น่าเสียดายจัง……” เด็กสาวดึงมือของเป้หมิงโม่ “โม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราไปดูที่ร้านอื่นกันเถอะ”
“คุณชอบกระโปรงชุดนี้มาก?” เป้หมิงโม่เอ่ยถามเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อืม…..” เด็กสาวพยักศีรษะตอบอย่างซื่อสัตย์ แล้วก็ยิ้ม “แต่ช่างน่าเสียดาย…….อย่างไรก็ช่างมันเถอะ……
กลับคาดไม่ถึงว่า เป้หมิงไม่จะเลิกคิ้วแล้วก็หมุนตัวไปเอ่ย กับพนักงานในร้าน
“ผมยินยอมที่จะจ่ายสองเท่าของราคาเดิม เพื่อซื้อเสื้อผ้า
พนักงานในร้านที่ได้ยิน ลูกตาก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า รีบยิ้ม “คุณผู้ชาย…………
กู้ฮอนโกรธจนเกือบจะกระอักเลือด
ช่างเป็นคําพูดที่น่าไม่อาย
“ร้านสินค้าแบรนด์เนมใหญ่โต ราคาก็ชัดเจน ใครแย่งได้ ก่อนคนนั้นก็ชนะ! โยนเงินใส่คนอื่นหลายเท่า นี่เป็นการค้าที่ ไม่มีความยุติธรรม! ถ้าหากว่าทุกคนล้วนทำธุรกิจแบบพวก คุณแล้วล่ะก็ ใครจะกล้ามาซื้อกัน! พนักงานร้าน ถ้าหากคุณ ขายให้กับเขา ฉันจะคอมเพลนคุณ! ” เธอไม่ใช่ตะเกียงไฟที่ ไร้น้ำมัน เธอจะไม่ยอมให้เขา แล้วจะทำไม
“นี่….. เมื่อได้ยินคำว่าคอมเพลน พนักงานก็สับสน รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฮอนหรี่ตาลง กำมือแน่น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ