ตอนที่124ความรู้สึกแห่งความสมบูรณ์ที่สเปน1
หลังจากเกิดปัญหาที่เกี่ยวกับเป้หมิงโม่ขึ้นนั้น แม่ ลูกก็เกิดสงครามขึ้นโดยปริยาย
“เหอะ ๆ แต่หากเปรียบเทียบกันแล้ว ลูกก็เหมือน กับพ่อมาก ๆ เลยนะ คุณพ่อก็ชอบรสชาติที่พอดี และ ยังเลือกอาหารอีก ” กู้ฮอนก็ได้คิดไปถึงเรื่องที่เคยกิน ข้าวกับเป่ยหมิงโม่ “แต่หากเป็นหยางหยาง ชอบกิน รสชาติที่จัดจ้าน และยังกินอย่างมีความสุข”
เฉิงเฉิงนั้นมองไปยังขวดน้ำพริกที่วางอยู่ตรงไหน แล้วก็พูดว่า “งั้นหนูก็จะเป็นเหมือนแม่….ในส่วนลึกของหัวใจของกู้ฮอนก็เกิดความรักขึ้น
มาแล้วพูดว่า “ลูกเอ๋ย เรื่องรสชาตินั้นมันเป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าเราจะเป็นใคร เราก็เหมือนกับหยางหยาง เป็นลูก
รักทั้งสองของแม่นะ” หมีน้ำก็เอามาวางไว้ที่บนโต๊ะ ของกู้ฮอนนั้นมี รสชาติที่เผ็ดร้อน แต่ของเฉิงเฉิงนั้นมีความจืดชืด
แม่ลูกนั่งกินอย่างมีความสุข
โทรศัพท์ของเฉิงเฉิงนั้นดังขึ้นมา
แล้วก็ได้เอามือวางตะเกียบ แล้วรีบรับ
“ฮัลโหล ? หยางหยาง ?”
ปลายสายนั้นก็เงียบไปสักครู่หนึ่ง
กู้ฮอนนั้นก็มีความร้อนแล้วก็รีบวิ่งไปอุ้มเฉิงเฉิง แล้วก็เอาโทรศัพท์มาเปิดเสียง
ทันใดนั้น ก็ได้ยิน “อุ๊แว๊..แม่จ่า. .” เป็น เสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์
ฟังไปแล้วรู้สึกมีความไม่สบายใจ “ลูกที่รัก แม่อยู่ นี่ แม่อยู่ที่นี่
เสียงของหยางหยาง ฟังดูก็รู้ว่าแอบโทรศัพท์มา
หา
“..แม่จำ…รับหนูกลับบ้านได้ไหม ?”
กู้ฮอนนั้นรู้สึกไม่สบายใจ เพราะสองคนนี้ก็เป็นลูก เหมือนกัน ใครคนไหนร้องไห้ก็รู้สึกเจ็บใจไม่แพ้กัน “หยางหยาง อย่าเพิ่งร้องไห้ บอกแม่มาว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ พ่อบอกคุณยายว่าจะจับหนูไปขังเอา ไว้…แล้วจะจ้างคนมาควบคุมดูและหนู….ฮือ ๆ ๆ ๆ คุณ แม่หนูไม่อยากจะอยู่แล้ว ที่นี่น่ากลัวมาก หยางหยาง กลัว”
“ขังเอาไว้” กู้ฮอนรู้สึกตกใจ
เฉิงเฉิงนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “น้องชาย อย่าไป กลัว”
ใครจะไปรู้ เฉิงเฉิงยังพูดไม่เสร็จ หยางหยางก็ได้ พูดออกมาตัดบทว่า “ไปบ้านของน้องชาย คุณนั่น แหละเป็นน้องชาย คุณแม่หนูไม่สนใจแล้ว ไม่อยากจะ
เป็นเป็หมิงซือเฉิงแล้ว จะกลับบ้าน…”
“ชวู่… กู้ฮอนกำลังปลอบลูกตัวเอง “หยางหยาง ที่น่ารัก เบาหน่อย ตอนนี้ก็ปิดบังไว้ก่อนนะ อย่าให้พ่อ ครูว่าแม่และพี่ชายอยู่ที่ไหน ดีไหม ? ช่วงเวลานี้ก็ อดทนไปก่อน แม่จะต้องช่วยอย่างแน่นอน”
หยางหยางก็พูดออกมาด้วยความไม่สนใจอะไรว่า “พ่อเป็นคนที่ชั่วร้ายมาก หนูไม่อยากคุยกับเขา ดีที่สุด ก็คือไม่ต้องให้เขารู้ว่ามีเราสามคนดำรงอยู่ เหอะ ให้ เขาไปเป็นคนโดดเดี่ยวเดียวดายเถอะ ไม่มีลูกแล้วตาย ไปเสียดีกว่า แล้วยังมีอีกเรื่องนะคุณแม่ นอกจากฉันจะ เป็นพี่ชายแล้ว ไม่งั้นฉันจะไม่ตกลงเด็ดขาด”
พอฟังคำนี้แล้วกู้ฮอนก็รู้สึกอยากจะหัวเราะและ เจ็บใจไปพร้อม ๆ กัน
เฉิงเฉิงนั้นก็กลับกลอกตาตัวเอง แล้วก็จัดเรียง เสียงตัวเองใหม่ แล้วก็พูดในโทรศัพท์ว่า “พี่ชาย.”
“หืม มม เรียกฉันว่าอะไรนะ ? ฉันขอล้างหูแป ปนึงนะแล้วจะมาฟัง….” หยางหยางนั้นก็รู้สึกได้ใจ
“กู้หยางหยาง อย่าได้คืบแล้วจะเอาศอกนะ” เฉิง เฉิงกัดฟัน
กู้ฮอนหัวเราะแล้วพูดว่า “พอแล้วพอแล้ว หยาง หยาง อย่าไปแกล้งเฉิงเฉิง เราก็อยู่ของเราดีดีไปก่อน นะ แม่จะต้องหาวิธีได้”
“อิม อึม หยางหยางจะรอนะ”
นี่อาจจะเป็น สงครามการแย่งชิงและช่วยลูกที่แท้จริง
แต่ แย่งลูก ? กู้ฮอนนั้นไม่กล้าจะคิด
เพราะว่าไม่ว่าจะทิ้งคนไหนไป ก็เหมือนกับฉีกเนื้อ ของตัวเองทั้งนั้น
เป่หมิงโม่….
บอกฉันมา ฉันจะต้องทำยังไง ถึงจะได้ลูกทั้งสอง กลับคืนมา ?
ตอนที่กู้ฮอนนั้นกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ทันใดนั้นเป็ห มิงโม่ก็โทรมาหา
น้ำเสียงยังคงเย็นชาเหมือนเดิม แล้วพูดไม่กี่ ประโยคว่า “เตรียมเอกสารพาสปอร์ตให้เรียบร้อย บ่ายหนึ่ง ผมจะไปรับคุณ จำไว้คุณคือของเล่นของผม”
หลังจากนั้น เธอก็ยังไม่ได้ทำอะไร โทรศัพท์ก็ถูก ตัดสายไปเสียแล้ว
กู้ฮอนก็ได้แต่มองโทรศัพท์แล้วก็พูดว่า “ของเล่น น้องถึงสิ”
ผลของการพนันในครั้งนี้ทำให้ตระกูลกู้นั้นมีการ ดำรงชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เธอนั้นเสียความเป็นตัวตน และศักดิ์ศรีไปเสียแล้ว
แต่ เธอนั้นกลับได้ความจริงทั้งหมดของห้าปีที่ ผ่านมา
ด้านหนึ่งคือได้ลูกชายที่พลัดพรากไปเมื่อห้าปีก่อนกลับมา อีกด้านหนึ่งก็ปวดหัวที่รู้สึกเจ็บปวดที่มีพอ ที่ไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ หรือว่าชีวิตของเธอนี้จะ เกี่ยวข้องกันตลอดไป
เธอนั้นก็รีบจัดการ นำเอาเฉิงเฉิงนั้นไปอยู่ที่ โรงเรียนหลายวัน หนึ่งก็คือเพื่อจะได้มีคนดูแลเฉิงเฉิง สองก็คือเธอไม่อยากให้ช่วงที่เธอไม่อยู่นั้น ให้คน ตระกูลกู้ที่โลภมากมาใช้เฉิงเฉิงเป็นตัวผลประโยชน์
ตอนแรกจะโทรหาหยางหยาง แต่พอนึกได้มีคนมา ดูแลหยางหยาง ก็เลยล้มเลิกความคิดไป
กลางวัน รถของเป็หมิงโม่นั้นก็มาจอดรออยู่ข้าง ล่าง
ตอนที่เธอนั้นถือกระเป๋ามายังด้านหน้าของรถนั้น ก็เพิ่งจะนึกได้ว่า ทรงผมของเขานั้นไม่เหมือนกับ ครั้งแรกเลย
คิดไปถึงตอนที่ทรงผมของหยางหยางที่รุงรังเช่น นั้น ไม่คิดเดาผู้ชายคนนี้ได้พาลูกนั้นไปร้านตัดผมเสีย แล้ว แล้วก็ได้ให้ตัวเองนั้นตัดผมไปด้วย
แต่สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ทรงผมนี้เหมาะสมกับเขา มาก
ทำให้ห้าทวารนั้นมีความสดใส ดูไปแล้วมีเสน่ห์ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ทรงผมอะไรก็ทำให้ดูดีมีความ หลงใหลอยู่เสมอ
ในใจเธอนั้น ก็รู้สึกเย็นลงไปหน่อยหนึ่ง
เป็หมิงโม่ก็ได้ใช้สายตานั้นมองไปทั่ว ๆ แล้วก็พูด
ว่า “ขึ้นรถ”
เธอนั้นก็มีสีหน้าที่หงิกงอ แล้วก็อุ้มกระเป๋าแล้วก็ เข้าไปนั่งที่ข้างคนขับ
ปั้ง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ